พาแม่เที่ยวเชียงใหม่ ภาคจบ

มาต่อกันที่เชียงใหม่อีก 3 วันที่เหลือกันนะคะ (เอนทรี่นี้จะเบียดๆ กันหน่อย เพราะเนื้อที่มีจำกัดจ้ะ)

.....................................................

วันอาทิตย์ที่ 23/08/2558

ตื่นมากินมาม่าฟรีรองท้อง ส่วนแม่ลงมาดื่มกาแฟกินขนมปังที่ซื้อตุนไว้ค่อยขึ้นไปอาบน้ำ

ระหว่างรอแม่ เราเลยปั่นจักรยานไปร้านกาแฟสุขสถาน ซื้อชาเขียวกับมากาครงมากิน

มากาครงอร่อย แต่ชาเขียวเฉยๆ (หน้าร้านมีแมวตัวนี้เป็นสัญลักษณ์นะ)

(จักรยานคู่ใจที่เรายืมโรงแรมปั่นไปโน่นไปนี่ตลอด) 

(เพราะมาม่าหนึ่งกระป๋องนั้นไม่มีวันอยู่ท้องข้าพเจ้า)

นั่งรถแดงจากหน้าโรงแรม (ซึ่งมีรถผ่านตลอดเวลา) เพื่อไปต่อรถแดงขึ้นดอยสุเทพ

ต่อรองราคาทั้งไปและกลับ ตกคนละ 140 บาท และต้องรอคนให้เต็มรถก่อน

เราอ่านเจอรีวิวว่าพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ มีบริการรถกอล์ฟ นั่งได้ 3 คน (รวมคนขับเป็น 4)

เราเลยตัดสินใจพาแม่ไปที่นี่ก่อนไปดอยสุเทพค่ะ และคิดถูกจริงๆ

อากาศข้างบนดีมากๆ อยู่ที่ 22 องศา แถมการนั่งรถกอล์ฟทำให้แม่ไม่เดินจนปวดขา ได้ไปจนถึงชั้นบนสุด

ค่านั่งรถกอล์ฟพร้อมคนขับ อยู่ที่ 400 บาทต่อหนึ่งชั่วโมงค่ะ เราว่าแอบแพงนะ (ราคาเพิ่งปรับขึ้น)

แต่ถ้าบ้านไหนมีคนสูงอายุมาด้วย แนะนำว่าให้จ่ายดีกว่า ทั้งสะดวก สบาย และปลอดภัยด้วย

อ้อ พระตำหนักเคร่งครัดเรื่องการแต่งกายมากค่ะ ใส่สายเดี่ยวแขนกุดมาจะใช้ผ้าคลุมไหล่ก็ไม่ผ่านนะคะ

ต้องใส่เสื้อมีแขนเท่านั้น ค่าเช่าเสื้อคลุมอยู่ที่ 15 บาท

(เรือเพาะชำต้นไม้)

(ปกติเราชอบโพสท่าแบบนี้ แต่แม่ถ่ายรูปให้เราไม่ได้ 555 เลยถ่ายแม่แทน)

(ชอบรูปนี้จนเอาไปตั้งเป็นวอลล์เปเปอร์มือถือ)

(ที่ประทับส่วนพระองค์ค่ะ)

ขากลับมาขึ้นรถแดง (อย่าลืมจำป้ายทะเบียน และอย่ามาช้าในกรณีที่มีคนนั่งรถมาด้วยนะคะ)

ลงมาที่ดอยสุเทพ แม่ขอเดินขึ้นเอง เหนื่อยและปวดขาทันตาเห็น (ก่อนหน้านี้แม่เซฟขาเพื่อการนี้สินะ)

กลับมาที่ห้อง แวะกิน Salad Concept หน้าปากซอย เข้าใจแล้วว่าทำไมร้านนี้ถึงคนเยอะ

ราคาไม่แพงมาก รสชาติดี และมีเมนูให้เลือกหลากหลายค่ะ

เช่น เมนูสลัด เลือกเครื่องเคียงได้ 6 อย่าง เนื้อสัตว์เพิ่มตามราคา และเลือกน้ำสลัดได้ 1 รส

และมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายอ่านกันไม่หวาดไม่ไหว ของหวานก็มีเยอะ

แต่วันที่เราไป พนักงานอ่านเมนูผิดๆ ถูกๆ ซุปก็เสิร์ฟผิด สั่งน้ำวีทกราสก็ไม่ได้

จนพนักงานคนที่รับออเดอร์เรายกมือไหว้หลายหน กลัวโดนแหกอก แต่เราไม่ได้วีนอะไร

เพราะมาเที่ยวอ่ะ และไม่ได้เคืองอะไรมาก เข้าใจว่าเมนูมันเยอะ คงตาลายกัน

(เราสั่งเนื้อวัว ไข่ต้ม เห็ด แตงกวา ประมาณนี้ และเลือกน้ำสลัดญี่ปุ่นค่ะ อร่อยมาก)

จากนั้นก็เป็นการเดินเล่นให้ทั่วนิมมานค่ะ เรากับแม่ชอบอ่านหนังสือ เลยเข้าร้าน The Book smith กับร้านเล่า

ได้หนังสือมาคนละเล่มสองเล่ม แวะกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้าน Try Umm

และโบกรถแดงไปเดินเล่นแถวชุมชนวัดเกตุการาม ถนนเจริญราษฎร์

ที่นี่เป็นชุมชนที่ยังอนุรักษ์ตึกรามแบบเก่าเอาไว้ คล้ายๆ เชียงคาน มีร้านอาหารริมน้ำชื่อดังให้เลือก

แต่เรากับแม่อิ่มแล้ว เลยไปนั่งเล่นชมวิวสะพานริมแม่น้ำปิงแทนจนค่ำ

(วัดเกตุการามค่ะ ตอนไปถึงเป็นเวลาทำวัตรเย็น เลยถ่ายรูปจากไกลๆ พอ)

(เราชอบป้ายวัดแบบนี้ ดูขลังโดยที่ไม่ต้องเป็นป้ายใหญ่โต)

(เวียงจูมออนทีเฮาส์ วันนี้อิ่มแล้วเลยไม่ได้เข้าไปกินค่ะ)

ปิดท้ายวันด้วยการไปเดินเซ็นทรัลแอร์พอร์ต 5555555 ซึ่งเล็กกว่าที่คิด แต่แม่ก็ได้ช็อปปิ้งเต็มที่กว่าตอนอยู่บ้าน

.....................................................

วันจันทร์ที่ 24/08/2558

เป็นวันแห่งการหลงทาง

ตื่นเช้ามากินอะไรนิดหน่อย และไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านลุงเชาว์ อยู่ซอย 13 เหมือนกัน

เดินไปไม่เกิน 30 ก้าวค่ะ ร้านเป็นห้องอยู่ตรงข้ามร้าน Mango Tango เลย

(ร้านนี้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเยอะมากกกกกกกกก พอๆ กับไอเบอร์รี่)

ลุงเชาว์ใจดีมากค่ะ เช่ามอไซวันนี้คืนพรุ่งนี้ได้ไม่เกิน 08:30 น.

ซึ่งแปลว่าเราสามารถใช้รถได้ทั้งคืน ถ้าใจอยากไปแว้นๆๆๆๆๆ

แต่วันนี้ เราจะไปวัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ วัดใหญ่วัดเล็กเราไปหมด

1. วัดพระสิงห์ มีชื่อเสียงที่สุดในเชียงใหม่

2. วัดศรีเกิด อยู่ใกล้ๆ กับวัดพระสิงห์ มีพระเจ้าแข้งคม พระพุทธรูปเก่าแก่อีกองค์

3. วัดทุงยู อยู่ใกล้ๆ กับวัดศรีเกิด เพิ่งมารู้ว่าดังเรื่องดูดวงแม่นมาก

4. วัดผ้าขาว ที่มาของวัดคือ กษัตริย์มังรายที่กำลังจะขึ้นครองราชย์ต้องสวมชุดขาวทำพิธีก่อน

5. วัดหมื่นล้าน เจดีย์กับหอระฆังสร้างแบบพม่า (หรือล้านนาไม่แน่ใจ) สวยงามมากค่ะ

6. วัดพันอ้น สันนิษฐานว่าชื่อวัดน่าจะมาจากชื่อบุคคลที่มียศพัน

7. วัดสำเภา เป็นอีกวัดเก่าแก่ และถนนคนเดินวันอาทิตย์ก็มีขายของกินในวัดเต็มไปหมด

8. วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ มีพระพุทธรูปเปลี่ยนหน้าได้ 9 พักตร์ และคนละที่กับวัดอุโมงค์นะ

9. วัดเชียงมั่น ห้าปีที่แล้วเราหาวัดนี้ไม่เจอ มาสำเร็จปีนี้

10. วัดเจดีย์หลวง วัดที่มีเจดีย์พร้อมทางลงน้ำเป็นพญานาค

11. วัดพันเตา อยู่ใกล้กับวัดเจดีย์หลวง วัดนี้เราชอบที่สุด เก่าแก่และสวยงาม

12. อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหงมหาราช

(วัดพระสิงห์)

(วัดเจดีย์หลวง)

เป็นอันจบการเที่ยวในเมือง น้ำมันลดลงไปหลายขีดเพราะหลงทางตอนไปหาวัดเชียงมั่นนี่แหละ

อ้อ เกือบลืมแนะนำอาหาร ร้านเฮือนเพ็ญ สั่งเลยอะไรทุกอย่าง

เราสั่งออเดิร์ฟเมือง เป็นน้ำพริกหนุ่มกับเครื่องเคียง และตำส้มโอน้ำปู๋ อร่อยคนละแบบกับร้านแซ่บอีลี่

ส่วนแม่สั่งลาบแบบเหนือ และน้ำพริกอ่อง (แม่ก็งงตัวเองว่าสั่งน้ำพริกมาอีกทำไม 55)

แต่ใจเราอยากให้ถึงวัดอุโมงค์กับวัดร่ำเปิง เพราะห้าปีที่แล้วไปถึงแค่วัดอุโมงค์แล้วต้องเดินออกมาจากซอย

ปีนี้มีมอเตอร์ไซค์ ต้องไปให้ถึงสิ ขับๆ ไป เอ๊ะ ถนนศิริมังคลาจารย์ เอ๊ะ นิมมานเหมินท์

คือขับยังไงก็วนกลับมานิมมานตลอดอ่ะ โง่จริงๆ

แวะพักที่นิมมานซอย 4 ที่มีเวิ้งขายของ (มีร้าน Chabaa เป็นจุดสังเกต)

แม่เดินเล่น แล้วมาขอเราว่าแวะตัดผมหน่อยได้มั้ย ปรากฏว่า เรามาเจอร้านลุงฮอม ร้านตัดผมชื่อดังโดยบังเอิญ

แล้วเราก็ตัดสินใจตัดผมยาวกลางหลังเหลือประบ่าค่ะ เพราะเหนื่อยจะไว้ผมยาวมากๆ แล้ว

(ทึ่งคนที่ไว้ผมยาวมากๆ ไม่เหนื่อยกันเลยเหรอ เราเป่าผมครึ่งชั่วโมงทุกครั้งที่สระ เหนื่อยมากเลย)

ลุงฮอมพยายามบอกทางไปวัดอุโมงค์ ปรากฏว่า เราก็ไปถึงจนได้

พอถึงวัดอุโมงค์ ก็ต้องไปวัดร่ำเปิงสิ ขับไปถามคนแถวนั้น ในที่สุด!!!

ก็เจอร้าน Yello Mango มาถูกทางแล้ว แวะกินข้าวก่อน

ร้านสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย แต่ของในร้านพังเยอะ ทั้งห้องน้ำ อ่างล้างมือ คือขาดการดูแลอ่ะ

ยิ่งโต๊ะชั้นบนนะ คือคนมานั่งกินเสร็จก็ไป แต่พนักงานไม่ขึ้นมาเก็บ แก้วจานชามวางเต็มทุกโต๊ะเลย

(แมงโก้ แทงโก้ ร้านน่ารักดี แต่ต้องการการดูแลที่ดีกว่านี้นะ)

ข้างๆ กันคือโครงการบ้านข้างวัดที่เราอยากมานักมาหนา ปรากฏว่า วันจันทร์ปิดทุกร้าน!!!

คือเราอ่านรีวิว (อีกแล้ว) รู้แหละว่าวันจันทร์มันปิด แต่สะดวกมาวันนี้วันเดียวไง อยากเช่ามอเตอร์ไซค์แค่วันเดียว

ข้อดีของมันก็คือ ถ่ายรูปได้แบบไม่มีคนมากวนในเฟรมเลย ทั้งโครงการมีเรากับแม่ และคนตัดหญ้าสองคน

ถ่ายรูปเสร็จ ฟินแระ หาทางกลับบ้านกัน

(ป้ายใหญ่ของโครงการแต่อยู่ด้านในสุด)

(อยากได้กล้องใหญ่ที่เก็บวิวนี้ได้หมดอ่ะ)

(ด้านหน้ามีป้ายบอกว่ามีร้านอะไรบ้าง)

มาถึงนิมมานก็ขับรถหาร้านนั่ง ลงเอยที่ร้าน Librarista ร้านโปรดของเรากับแม่เลย

ขนมอร่อย มีที่นั่งอ่านหนังสือ มีเบียร์นำเข้าแปลกๆ ขายด้วย

......................................................

วันอังคาร 25/08/2558

ตื่นเช้าผิดปกติ นั่นคือ เจ็ดโมงนิดๆ ยังมีเวลาไปหาซื้ออะไรกิน ก่อนเอามอไซไปส่งคืนร้าน

วนหาหลายร้านที่เคยอ่านเจอในรีวิว ปรากฏว่า น่าจะปิดตัวไปแล้ว เพราะไม่ปรากฏเลย

สรุป ได้กินหมูปิ้งคุณพ่อ (ร้านดังอีกนั่นแหละ) ท้ายซอยนิมมาน 7

จากนั้นก็วนหาของกินไปเรื่อยเปื่อย ออกนอกพื้นที่จนใกล้เวลาคืนรถ คือ 8:30 น. ดีนะที่ยังกลับมาถูก

ตอนเอารถไปคืน คุณลุงถามว่าขากลับมีแท็กซี่รึยัง ลุงมีบริการรถไปส่งสนามบินนะ 150 บาท

เราตกลงเลยจ้า จะได้ไมต้องพาแม่ลากกระเป๋าตุเลงๆ ไปโบกรถแดง แถมราคาก็พอๆ กันนั่นแหละ

เช็กเอาท์ตอน 11 โมง ฝากกระเป๋าได้ ยืมจักรยานได้ด้วย

(คือโรงแรมโคตะระดีอ่ะ บอกแล้ว เสียตรงไม่เก็บเสียง 555)

เราปั่นจักรยานพาแม่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนแยงซีเจียง บางคนก็เรียกว่าแยกซีเกียงตามชื่อแม่น้ำ

พี่สาวเราแนะนำมา บอกว่าอร่อยเหมือนร้านติ่มซำเทพๆ ที่ฮ่องกงเลย

สั่งไปหลายอย่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้ง ฮะเก๋า ซุปเสฉวน ถั่วแขกผัดซอสเอ็กซ์โอ แต่ลืมถ่ายรูป (-.,-)

ถ้าใครกินไม่ไหว สั่งซาลาเปาลาวากลับบ้านมาเหมือนเราก็ได้นะ

จากนั้นก็ฆ่าเวลารอรถมารับด้วยการไป Librarista อีกรอบ เพราะอยู่ใกล้ๆ กันเลย

จากนั้นก็ปั่นจักรยานไปรอรถจากร้านลุงเชาว์

ปรากฏว่า ลุงเชาว์ขับรถมาเอง และเป็นรถเบนซ์!!!!!

หือออออออออ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตมั้งที่นั่งรถเบนซ์ และเป็นการนั่งเบนซ์ไปสนามบิน

ยังจ้ะ ยังไม่พอ คุณลุงขับรถผ่านเข้ากองบิน เรานึกว่าแกจะขับอ้อม เปล่า มีสติกเกอร์ติดที่รถ รู้สึกวีไอพียิ่งกว่าเดิม

สรุป จากนิมมาน ถึงสนามบินในเวลาไม่ถึง 15 นาที ให้ 10 นาทีด้วยเอ้า

ลุงเป็นใครกันแน่คะ!!! อยากรู้แต่ไม่กล้าถาม

เช็กอิน ถึงเวลาบิน และโบกมืออำลาเชียงใหม่

เมืองที่มากี่ครั้งก็ยังโอเค

Create Date : 10 กันยายน 2558 Last Update : 10 กันยายน 2558 23:52:32 น. Counter : 2472 Pageviews.		0 comments
Share Tweet