จัดกระเป๋าไปเที่ยว 4 วันก็ carry-on ได้



สวัสดีค่า NickyOkawa เองนะคะ

วันนี้จะมารีวิวการจัดกระเป๋าไปเที่ยว สไตล์สาวย้ำคิดย้ำทำ OCD

จริงๆ จะทำตั้งแต่ตอนแรกที่รีวิวกระเป๋าจัดระเบียบตอนก่อนหน้านี้ แต่เนื้อหาเยอะไป 

กระทู้น่าจะยืดเยื้อเป็นร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เลยแบ่งมาเป็นอีกตอนนึง


โดยปกติ เป็นคนบ้าหอบฟางขั้นสุด ชีวิตประจำวันยังต้องใช้เป้ Anello รุ่นใหญ่เล้ยยย

ไม่รู้จะแบกอะไรกันนักกันหนา (พกแม้กระทั่งสเปรย์กันยุงแบบฉีดตัวอ่ะ คิดดู๊วว)

มาทริปนี้ เป็นการไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ 2 วันและอยู่กรุงเทพฯ อีก 2 วัน

ฉะนั้น นิกกี้เลยพยายามเอาของไปให้น้อยที่สุด บังคับตัวเองว่าต้องใช้กระเป๋าเดินทางไซส์เล็ก

ที่เอาขึ้นเครื่องได้ ซึ่งจะเรียกกันว่า Carry-on เพราะขากลับจะได้ไม่ซื้อของอะไรเพิ่มอีก

(แต่ทุกครั้ง ก็ซื้อเพิ่มและต้องโหลดกระเป๋าอยู่ดี นังนิกกี้เอ๊ยยยยยยย ดีที่โหลดฟรี 15 โล)

มาเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ เกริ่นยาวตลอดเว




เลือกเสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าเป็นอันดับแรก

1. จัดเสื้อผ้าที่จะใส่ให้ครบวัน ตามสถานที่และแพลนที่จะทำ

บางคนที่ไม่มีเวลาจัดกระเป๋านานๆ ให้ค่อยๆ ทยอยเลือกวันละชุด อิงตามสีหลักๆ ที่จะใส่

อย่างทริปนี้มีวันหนึ่งที่นิกกี้ตั้งใจจะไปสักการะพระบรมศพ สีหลักๆ จึงเป็นสีดำค่ะ

และไป 4 วัน ชุดเดรสจะกินเนื้อที่น้อยกว่ากางเกงขายาวหรือยีนส์ (เพราะไม่ชอบใส่ยีนส์ซ้ำ)

แต่ถ้าไป 7 วันขึ้นไป มีเวลาซักผ้าหรือเอากางเกงยีนส์ผึ่งแดดผึ่งลม จัดเป็นเสื้อผ้าแยกชิ้นจะดีกว่าค่ะ

วิธีการจัดชุดก็คือ ม้วนๆ แล้วเอาหนังยางหรือยางมัดผมรัดไว้ และเรียงใส่กระเป๋าจัดระเบียบ

ไป 4 วัน นิกกี้จะเตรียมไป 5 ชุดเผื่อไว้ บวกด้วยชุดนอนอีก 1 ค่ะ


สอง เตรียมผ้าเช็ดตัวไปด้วย

เลือกเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ไม่กินเนื้อที่ แห้งไว

เพราะมีสองวันที่ต้องอาศัยนอนคอนโด ไม่ก็บ้านเพื่อน

สนิทกันแค่ไหนก็อย่ายืมกระทั่งผ้าเช็ดตัวเพื่อนเลยค่ะ


สาม เป็นคนชอบเอารองเท้าสำรองไปด้วยอย่างน้อย 1 คู่

ครั้งนี้เอารองเท้าส้นแบนกับรองเท้าแตะรัดส้นไป

เลยใส่ถุงซิปล็อกแทนกระเป๋าใส่รองเท้าค่ะ ถุงเท้าก็ม้วนๆ เอาใส่ในนี้แหละ

ส่วนคู่ที่หนักและกินเนื้อที่ที่สุด เช่น รองเท้าผ้าใบ นิกกี้จะใส่เวลาเดินทาง


สี่ ใช้กระเป๋าจัดระเบียบใส่ชุดชั้นใน 

เห็นใบเล็กๆ แบบนี้จุได้ ชุด รวมชุดว่ายน้ำทูพีซอีก 2 ชุดด้วยนะ

(แต่ปรากฏว่า ไม่มีเวลาว่ายน้ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว)

ย้ำกันอีกครั้ง ชุดชั้นในใส่กระเป๋าแยกเหอะ หรือจะใส่ถุงพลาสติกถุง 7-11 มัดปากก็ยังดี




บอดี้แคร์

ใครใคร่แบกขวดขนาดไม่เกิน 100 ml. ครบทุกชนิดก็แบกไป แต่นิกกี้เตรียมของดังนี้

แชมพู ครีมนวดผม แบบซองของ Yves Rocher ได้แถมมา (ยี่ห้ออื่นๆ ก็มีขายทั่วไปนะ)

ที่เช็ดเครื่องสำอางขวดเล็ก Bifesta (ถ้าไม่มีก็เอาตัวที่ใช้เทใส่ขวดจิ๋วของไดโซะหรือมูจิ)

น้ำมันใส่ผมจากญี่ปุ่น สบู่อาบน้ำกลิ่นน้ำผึ้ง น้ำมันล้างหน้า Three ปั๊มใส่ขวดเล็ก

แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า โรลออน เอาแบบขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเอาไปได้ค่ะ

ขวดสีเขียวคือโลชั่นเมือกหอยทาก ที่ได้แถมมาจากเกาหลีนานมาแล้ว

แต่ไม่กล้าใช้กับหน้าสักที เอามาทาตัวแทนโลชั่นค่ะ ใส่ถุงซิปล็อกที่เป็นถุงบราของยูนิโคล

เพราะมันแข็งแรงและมีก้นถุงด้วย ถ้ามันเลอะหรือขาดก็ทิ้งได้เลยไม่ต้องเสียดาย




สกินแคร์และอื่นๆ

สกินแคร์เอาแบบซองๆ หรือขวดเล็กไปค่ะ ส่วนกลางคืนก็จะมาสค์หน้ามาส์คตาใช้แล้วทิ้งเลย

คอนแทคเลนส์รายวัน น้ำตาเทียม แฮนด์ครีม โลชั่นกันแดดทาตัว ก็ต้องเผื่อไว้

และชอบพกกระจกใหญ่สักหน่อยไปแต่งหน้า เพราะบางครั้งแสงไฟในห้องที่พักไม่เพียงพอค่ะ

ใส่ในกระเป๋าซิปแบบใส (มีรูปรวมอีกทีกับกระเป๋าเมคอัพ)



กระเป๋าเครื่องสำอาง

เน้นไปที่ของใช้ดีแต่ไม่แพงหรือไม่ใช่ของรักของหวงมากนัก

เผื่อทำตกแตกหรือลืมทิ้งไว้จะได้ไม่เสียดาย

1. เซ็ตแปรงแต่งหน้า Cute Press เล็กดีค่ะ คุณภาพแปรงก็พอใช้ได้นะคะ

หลักๆ เอาไว้ปัดแป้งผสมรองพื้น กับอีกด้ามเอาไว้ปัดบลัชออน

ที่ขาดไมได้เลยคือแปรงเขียนคิ้วของ MTI อันนี้พกทุกทริป ใส่ในกระเป๋าเดียวกันได้อยู่ค่ะ

2. ไพรเมอร์ Illamasqua Hydra Veil กับ Benefit ThePorefessional ขนาดจิ๋ว

(พวกหลอดเล็กๆ ใน Sephora ก็มีขายนะ ใครใช้อะไรไปลองหาดูได้)

ส่วนพวกบีบีหรือรองพื้น เอาซองแถมไปค่ะ ประหยัดที่ดี เพราะใช้นิดเดียว

ถ้าสีเข้มไปเราจะผสมครีมกันแดดให้มันสีอ่อนลง ไม่ค่อยเน้นปกปิดอยากสบายๆ บ้าง

3. แป้งเอาไปสองตัว คือแป้งฝุ่นของ Innisfree กับแป้งผสมรองพื้นของ Cute Press

ซึ่งเปลี่ยนรีฟิลรุ่นอื่นมาใส่ (ล่าสุดแป้งข้างในน่าจะเป็นรุ่นตลับม่วง)

คอนซีลเลอร์ใต้ตาเป็นของ Benefit Fake It ซึ่งแพ็คเก็จดีงามมาก

(แอบบ่นนิดนึง เนื้อคอนซีลเลอร์ข้างในให้มาไม่เกิน 0.5 ซม.)

และของจำเป็นระหว่างวันคือ สเปรย์น้ำแร่ กับกันแดดที่เอาไว้ทาซ้ำของ Biore

4. ที่เหลือก็เป็นอายไลเนอร์แบบเมจิกสีดำ มาสคาร่าคิ้ว มาสคาร่ากันน้ำของ Maybelline

และที่ดัดขนตาของ Beauty Buffet ค่ะไม่เอาขนตาปลอมกับกาวไปเพราะยังไงก็ขี้เกียจติดแน่ๆ



อายแชโดว์ บลัชออน บรอนเซอร์ พกไปอันเดียวเบ็ดเสร็จ

Laura Mercier Colour To Go Palette (ราคาแอบแรง 2,200 บาทแน่ะ)

มีอายแชโดว์ 3 สี (สีครีมเนื้อแมตต์ สีน้ำตาลทองแดงเนื้อฟรอสต์ สีน้ำตาลเข้มเนื้อชิมเมอร์ใหญ่เบิ้ม)

ช่องสุดท้ายแบรนด์เค้าบอกว่าเป็นไลเนอร์ แต่นิกกี้ว่าเนื้อแข็งเกิ๊น เอามาใช้เขียนคิ้วก็โอเค

เปิดมาอีกชั้น เป็นบรอนเซอร์กับบลัชออน สีสวยมากกกก (แต่มีชิมเมอร์ทั้งคู่)และลิปกลอส

แต่ทริปนี้เราไม่ใช้เลยเอาออก และใส่ลิปมันสีผึ้งแบบแท่งลงไปแทนพอดี๊พอดี




ปิดท้ายด้วยตัวช่วยเปลี่ยนลุคทุกวันของนิกกี้ ลิปสติกค่า

พกไปเท่านี้แหละ มีสวอชสีให้ดูด้วย (ส่วนทินท์แบบซองไม่มีสวอชนะค้า)

สีนู้ด Golden Rose Liquid Matte Kiss Proof เบอร์ 11

สีชมพู In2It Moisture Intense Lipstick สี 05 Flamingo

สีส้ม Beauty Buffet The Bakery Woon Krob Lip Smootie สี Carrot

สีแดง Tarte Tartiest Creamy Matte Lip Paint สี Bae




เมคอัพทั้งหมดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบและแน่นขนัดในกระเป๋า 1 ใบ

และสกินแคร์ใส่กระเป๋าใสแบบมีซิปค่ะ




ของกระจุกกระจิก

ของกระจุกกระจิก 1

เป็นของที่ใช้ระหว่างเดินทาง เพราะขาไปนั่งรถทัวร์

ผ้าพันคอสีดำ (จริงๆ มีชุดชั้นในชุดใหม่สำหรับเปลี่ยนตอนเช้า แต่หลบอยู่ที่อื่น)

เสื้อแขนกุดสีเทาสำหรับเปลี่ยนใส่ตอนเช้าเช่นกัน

ผ้าปิดตากลิ่นลาเวนเดอร์ และหมอนรองคอแบบเป่า ไม่กินเนื้อที่ แต่ใช้ไปนานๆ อาจมีรอยรั่วได้

ของกระจุกกระจิก 2

ขวดแบ่งน้ำหอมแบบสเปรย์สีแดง สะดวกดี 

เสียตรงที่ขวดคุณภาพไม่ได้ดีมากนัก น้ำหอมอาจจะเลอะซึมได้บ้าง

ตลับเครื่องประดับ (คำว่าตลับโบราณไปมั้ยแก)

ที่คาดผมแบบเส้น (ใช้ตอนอาบน้ำล้างหน้า) กับยางมัดผมสีสุภาพๆ

ของกระจุกกระจิก 3

ข้างในตลับเครื่องประดับ ใส่ยางมัดผมเส้นเล็ก กิ๊บดำ ต่างหูกับเข็มกลัดเลข

ของกระจุกกระจิก 4

เมคอัพบางตัวแบ่งออกมาใส่ถุงซิปล็อกเล็กๆ ไว้ เผื่อแต่งหน้าตอนเช้า

(ใครที่นั่งเครื่องบินข้ามคืน ตื่นเช้ามาเที่ยวต่อเลย ทำแบบนิกกี้ก็สะดวกดีนะคะ)

และของที่ชอบพกยามเดินทางอีกอย่างคือ แปรงสีฟันคอลเกตแบบใช้แล้วทิ้งและไม่ต้องใช้น้ำ

ญาติซื้อมาฝากจากอเมริกา อยากให้มีขายในไทยบ้างจัง




มาเรียงของใส่กระเป๋าเดินทางกัน

กระเป๋าเดินทางไซส์ carry-on ของเราไม่ใช่ของแพงอะไรเลยค่า

มันคือกระเป๋าที่แถมเหล้ามาจากการซื้อในดิวตี้ฟรีเมื่อนานมาแล้ววววว

ซึ่งนิกกี้ชอบมากกกกกกก เพราะมันเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ลื่นปรื๊ดๆ

และข้างในแบ่งเป็นสองฝั่ง แนะนำให้ซื้อกระเป๋าแบบนี้นะคะ

เพราะกระเป๋าฝั่งเดียว ถ้าใส่ของเยอะกระเป๋าจะทรงตัวไม่อยู่ และแบบ ล้อจะลากเหนื่อยมากๆ

ฝั่งขวา เป็นฝั่งที่เป็นสายรัด นิกกี้ใส่กระเป๋าจัดระเบียบซึ่งเป็นเสื้อผ้าทั้งหมด

กระเป๋าชุดชั้นใน เหลือที่ว่างข้างๆ ใส่ที่ม้วนผมแบบแปรง Lesasha EZ Curl 

เพราะตัดผมประบ่ามันต้องจัดทรงค่ะ แต่ถ้าไม่อยากพกหรือขี้เกียจทำผม 

ใส่หมวกปิดเอาก็ได้นะ (เพราะที่เอาไปก็ได้ใช้ครั้งเดียวเอง)

กระเป๋าสีขาวเล็กๆ ที่เห็นคือกระเป๋าใส่การ์ดที่ใช้ในกรุงเทพฯ ทั้งหลายแหล่ค่ะ

เช่น บัตรรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน เมคอัพบางแบรนด์ที่มีเฉพาะในกรุง เป็นต้น

ฝั่งซ้าย จะมีซิปปิด เลยจะใส่ของอื่น ได้แก่ รองเท้า 2 คู่ ถุงของใช้ในห้องน้ำ

มีของเพิ่มเติมคือ แว่นตาว่ายน้ำ (ที่พกไปทำไมไม่รู้ ไม่ได้แตะน้ำเลย)

แว่นตากันแดดของ Rayban ถุงผ้าสีดำเผื่อใส่ของอะไรที่งอกเพิ่ม

กระเป๋าสะพายข้างใบเล็ก (สายกระเป๋าขดอยู่ด้านใน) และของอื่นๆ อีก

ปิดด้านหน้าด้วยถุงผ้าสีดำเพื่อความไม่หลุดธีม เผื่อเอาไว้ใส่อะไรได้

จากนั้นก็ปิดกระเป๋า ล็อกรหัสหรือกุญแจกันโดนขโมยของได้ในระดับหนึ่ง

อย่าลืมว่าถ้ากระเป๋าเป็นสีเรียบๆ แบบนี้ หาป้ายหรือริบบิ้นอะไรมาผูกเป็นสัญลักษณ์ก็ดีนะคะ




นอกจากนี้ นิกกี้เอาถุงใส่เมคอัพที่แบ่งไว้ กระเป๋าที่มีลูกอมยาดม ทิชชู่เปียกและแห้ง

ของกระจุกกระจิกที่เตรียมใช้บนรถ กระเป๋าเงิน มือถือ แบตสำรอง

ร่ม หมวก และเสื้อคาร์ดิแกนใส่กระเป๋าเป้ Anello

เพราะกระเป๋าเดินทางต้องแยกไว้ท้ายรถค่ะ ไม่มีที่ใส่กระเป๋าเหนือศีรษะแบบเครื่องบิน

เสื้อผ้าที่ใส่ก็ต้องสบายตัว เป็นของ Uniqlo ทั้งหมดเลยค่ะ

ทั้งเสื้อแขนยาวลายขวางเนื้อหนา และกางเกงขาบาน แต่หมวกเป็นของตลาดนัดค่ะ




ตื่นเช้ามา ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน แต่งหน้าเล็กน้อย

ใส่คอนแทคเลนส์ เช็ดตัวด้วยทิชชู่เปียก เปลี่ยนชั้นใน เปลี่ยนเสื้อตัวนอก

ก็พร้อมเที่ยวแบบไม่โทรม ดูไม่ออกว่านั่งรถทัวร์ข้ามคืนมาเป็น 10 ชั่วโมง

แถมด้วยตุ๊กตุ๊กฝ่าฝุ่นควันดงดงรถติดมาสมทบกับเพื่อนด้วยค่ะ





Create Date : 27 เมษายน 2560
Last Update : 27 เมษายน 2560 20:17:27 น.
Counter : 2736 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

NickyOkawa
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



นักเขียน นักอ่าน และเจ้าของร้านฝึกหัด
เมษายน 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30