Group Blog |
ความทรงจำ - ก่อนเราจะจากกัน 1 แองจี้... วันนี้ครบเจ็ดแล้วนะ ที่น้องจากแม่ไป แม่คิดถึงน้องมาก เวลากลับไปถึงบ้าน เหงาสุดๆเลยหล่ะ บางวันก็ยังร้องไห้คิดถึงหนู ด้วยความที่บ้านเรามีกันอยู่แค่ ม่าม้า แม่ แล้วก็น้อง พอน้องไม่อยู่บ้านก็ยิ่ง เงียบไปอีก... ตั้งแต่น้องมาอยู่กับเรา น้องเคยไม่สบายมากๆ ครั้งแรก ตอนอายุประมาณขวบหนึ่ง ตอนนั้น น้องเป็นลำไส้อักเสบ ถ่ายเป็นเลือด ซึ่งแม่ก็ แปลกใจมาก ว่ามันเกิดไ้ด้ยังไง เพราะน้องก็ ฉีดยาครบแล้ว แล้วก็ไม่ได้ไปกินอะไรที่สกปรกด้วย ครั้งนั้นแม่ใจไม่ดีเลย เพราะเมื่อสิบปีที่แล้ว หมาที่เป็น ลำไส้อักเสบมักจะเป็นหนัก บางทีก็ไม่รอด แม่กับม่าม้าพาน้องไปโรงพยาบาล ให้หมอฉีดยา และให้น้ำเกลือทุกวัน ไปอยู่เป็นอาทิตย์.... ในที่สุดน้องก็หาย แม่ดีใจเป็นที่สุด ที่เอาหนูกลับมาอยู่ กับเราได้อีก ครั้งที่สอง เกิดขึ้นเมื่อปี 49 นี่เอง น้องไม่สบาย ถ่ายเป็นมูกบ้าง มีเลือดปนบ้าง เราพากันไปหา หมอกันทุกเดือน เดือนละครั้ง สองครั้ง หาหมอ กันอยู่ทั้งปี น้องเป็นๆ หายๆ ไม่หายขาดซะที คุณหมอก็รักษาตามอาการ ตรวจเลือดทุกครั้ง ก็ไม่มีความผิดปกติอะไร แต่ก็ไม่ได้สงสัยปัญหา อะไรเพิ่มเติมเลย จนกระทั่งวันที่ 31 ธันวาคม 49 แม่บอกกับน้องว่า "พรุ่งนี้เป็นวันปีใหม่แล้วนะ หายซะที อย่าเป็นอะไรแล้ว" แต่แล้วกลางดึกนั้นเอง น้องก็มีอาการอีก แล้วเราก็ต้อง ไปโรงพยาบาลกันอีกในวันปีใหม่............ พอมาถึงโรงพยาบาล ระหว่างที่เรานั่งรอหาหมออยู่ เราก็เห็นหมออยู่คนหนึ่ง ท่าทางไม่น่าสนใจเลย หัวฟู แต่งตัว เป็นเด็กแนว กางเกงฟีบ แล้วดูท่าทางขึ้เล่น เราก็คุยกันว่า ขออย่าให้เจอหมอ คนนี้เลย...สาธุ และแล้ว สิ่งที่เราคิด ก็ไม่ได้ดั่งใจ เราต้องเข้าไปตรวจ กับหมอคนนี้ และหมอคนนี้เองทำให้น้องหายจากอาการ ที่เป็นอยู่ เพราะว่าคุณหมอให้ยาถ่ายพยาธิ น้องมากิน หลังจากนั้น น้องก็ไม่มีอาการอีกเลย ต้องขอบคุณคุณหมอมาก มันทำให้เรารู้เลยว่า อะไรที่เรา เห็น มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิด......... หลังจากนั้นแม่ก็ ถามคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณหมอบอกว่า ถึงแม้น้องจะกินอาหารสุก ไม่ได้ไปวิ่ง เดิน ในที่ที่สกปรก แต่น้องก็เป็นพยาธิได้เหมือนกัน หลังจากนั้น แม่ก็ไม่เคย ลืมเลยที่จะให้น้องถ่ายพยาธิทุกสามเดือน การไม่สบายของน้องในครั้งนี้ น้องได้กินยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ แยะมาก กินอยู่ทั้งปี และเหตุนี่เองที่ทำทำให้ แม่คิดว่า มันอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตับน้องมีปัญหา ในเวลาต่อมา หลังจากที่น้องหายจากอาการที่เป็นอยู่แล้ว น้องก็ใช้ชีวิต ตามปกติ สุขภาพแข็งแรง ยังเป็นสาวสวย เสียงดัง ขี้งอน จนกระทั่งประมาณสิ้นปี 51 แม่พบว่า น้องเริ่มมีความผิดปกติ ที่เปลือกตาที่สาม ข้างขวา แม่พาน้องไปน้องไปหาหมอแถวๆ บ้าน คุณหมอบอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะเกิดจากน้องอายุ แยะแล้ว หรือนอนมากไป จนมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ เปลือกตาออกมามากกว่าเดิม เกือบครึ่งตา แม่จึงพาน้องมาหาหมอที่โรงพยาบาล ครั้งแรกที่หมอตรวจ ลูกตาน้องเป็นปกติดี แต่เปลือกตาที่โผล่ออกมา น่าจะเกิดจาก กระดูกอ่อน หรือมีเนื้องอก งอกออกมา คุณหมอบอกว่าจะต้องผ่าออก และการผ่าครั้งนี้อาจจะต้องตัด เปลือกตาที่สามออกด้วย ความกังวลเริ่มเข้ามาทันที เพราะ น้องอายุแยะแล้ว จะต้องวางยาสลบ และการตัดเปลือกตาที่ สามการดูแลค่อยข้างยุ่งยาก เพราะต้องหยอดน้ำตาเทียมอยู่ ตลอด และเมื่อมีการตรวจเลือดเพื่อเตรียมพร้อมก่อนผ่าตัด ความกังวลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีก เพราะผลเลือดมีปัญหา เกร็ดเลือดต่ำ เมื่อผ่านปัญหาเรื่องเลือดแล้ว น้องก็ได้นัดผ่าตัดวันที่ 31 มีนาคม 52 ระหว่างรอ ก่อนจะถึงวันผ่าตัด แม่สวดมนต์ ไหว้พระ ขอพร จากพระทุกองค์ที่ไปไหว้ ขอให้น้องปลอดภัย แต่ความรู้สึกตอนนั้น ในใจกลัวและกังวลอย่างบอกไม่ถูก เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2552 มาถึง แม่สงสารน้องมาก เพราะน้อง ต้องอดน้ำ + อาหาร ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา แล้ววันนั้นทั้งวัน น้องก็คง ไม่ได้กินอะไร เพราะกว่าจะผ่าตัดก็บ่าย เมื่อส่งหนูเข้าห้องผ่าตัด แล้ว แม่บอกหนูว่า ให้หนูตื่นขึ้นมา แม่จะรอหน้าห้อง แล้วจะมารับ หนูนะ แม่รอหนูอยู่หน้าห้อง อย่างไม่ค่อยสบายใจนัก สวดมนต์ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง จนคุณหมอออกมาจากห้อง บอกว่าการผ่าตัด เรียบร้อยแล้ว การผ่าตัดในครั้งนั้น อาจารย์ตัดกระดูกอ่อนออกไป อย่างเดียว โดยหนังตายังอยู่ แม่รีบเข้าไปอุ้มน้องในห้อง ภาพที่เห็น น้องยังไม่ฟื้นดี มีเลือดอยู่เต็มตาข้างที่ผ่าตัด น้ำตาแม่เริ่ม คลออีกครั้ง สงสารน้อง...... วันนั้นแม่พาน้องออกจากโรงพยาบาลประมาณสี่โมงเย็น เรากลับบ้าน ด้วยกัน ฝนก็ตก รถก็ติด แต่ก็เป็นสุขใจที่ได้กลับมาบ้านพร้อมกันน้อง คืนนั้นแม่นั่งเฝ้าน้องทั้งคืน เพราะแม่ถอดคลอร่าออก แม่อยากให้น้อง นอนสบายๆ และที่ต้องนั่งเฝ้าก็เพราะกลัวน้องจะเอามือไปเขี่ยตา น้องรู้สึกตัวเต็มที่ประมาณเที่ยงคืน ลุกขึ้นเดินได้แล้ว แล้วก็เป็นปกติ ในวันรุ่งขึ้น แข็งแรงจริงๆเด็กดำของแม่ หลังจากที่พาน้องไปตัดไหม เราก็พบว่าหนังตาน้องมันไม่ยอมกลับเข้า ไปในที่ของมัน คุณหมอจึงนัดตรวจ จากนั้นทุกๆอย่างก็เปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ตาน้องถูกดันด้วยก้อนเนื้อที่หัวตา ก้อนเนื้อโตอย่าง รวดเร็ว จนดันลูกกะตาขึ้นไปอยู่บนเปลือกตาบน น้องจะต้องถูกผ่าตัดอีกรอบ มันเวรกรรมอะไรกันนี่ ทำไมต้องเจ็บตัว ซ้ำอีก ก่อนผ่าตัดก็มีปัญหาเรื่องเลือดอีก คราวนี้ผลตับมีปัญหา ซึ่งคุณหมอคาดว่า น่าจะเกิดจากยาแก้อักเสบที่กินอยู่หลังผ่าตัดครั้ง ที่ผ่านมา น้องต้องกินยาบำรุงตับเพิ่ม เพื่อที่จะเตรียมตัวผ่าตัดอีกครั้ง ในวันที่ 16 มิถุนายน ก่อนจะถึงวันผ่าตัด แม่จะไหว้พระ สวดมนต์ทุกวันให้น้องปลอดภัย แต่ในใจไม่สบายใจเลย มันสังหรณ์ใจยังไงบอกไม่ถูก ก่อนวันผ่าตัด แม่ให้น้องทำสังฆทาน เรานิมนต์หลวงตามาที่บ้าน ให้น้องได้ทำบุญ ถึงวันผ่าตัด เรื่องร้ายๆก็เริ่มปรากฎขึ้นอีก เต้านมของน้องอักเสบ และบวมมาก คุณหมอนัดผ่าตัดตอนบ่าย แม่จึงรีบพาน้องไปหา หมอแต่เช้า เพื่อดูเรื่องเต้านมก่อน คุณหมอแพลนไว้ว่า ถ้าผ่าตัด ตาเรียบร้อยแล้ว คงจะต้องผ่าตัดเต้านมออกอีก อะไรกันนี่.... วันนั้นแม่เข้าไปส่งน้องในห้อง และแม่ก็รอน้องหน้าห้องผ่าตัด สวดมนต์ให้น้อง วันนัี้นการผ่าตัดใช้เวลานานกว่าครั้งแรก คุณหมอออกมา บอกว่าผ่าตัดเสร็จแล้ว และได้ควักลูกกะตา น้องออกไปด้วย เพราะว่าก้อนเนื้อที่งอกออกมาก้อนใหญ่ มากๆ ประมาณ 3 ซม พอเอาก้อนเนื้ออกแล้ว ลูกกะตาน้อง มันลอย เพราะมันถูกดันมาก และมันอยู่ไม่ได้เมื่อเอาก้อนนั้น ออกไปแล้ว จึงจำเป็นต้องเอาตาออกด้วย และเนื้อที่ตัดออกไป อาจจะมี ปัญหา สักพักหมอก็อุ้มน้องออกมาให้แม่ถึงกับร้องไห้เลยหล่ะ สงสารน้องสุดหัวใจ คงเจ็บมาก เลือดเต็มผ้าที่ห่อตัวเลย เรากลับมาบ้านด้วยกัน น้องนอนนานกว่าเดิม ลุกขึ้นได้ช้ากว่าเดิม แม่ยังนั่งเฝ้าน้องเหมือนเดิม แม่หยุดงานเกือบอาทิตย์ เพราะต้อง พาน้องไปหาหมอทุกวัน คุณหมอนัดตัดไหมอีก 2 อาทิตย์ต่อไป หลังจากตัดไหมแล้ว เรายังต้องรอผลชิ้นเนื้ออีกประมาณ 1 เดือน แม่ภาวนา ขอ ให้ทุกๆอย่างผ่านไปด้วยดี หลังตัดไหมได้ 1 อาทิตย์ แม่สังเกตุเห็นว่า ท้องน้องข้างขวา มันโย้ไปข้างหนึ่ง แล้วเหมือนมันจะโตขึ้นด้วย แม่จึงรีบพาน้อง มาหาหมอ และตรวจเต้านมด้วย วันนั้นเราก็ได้ข่าวร้ายที่สุดข่าวหนึ่งในชีวิต....... แองจี้.... วันนี้เราคุยกันแค่นี้ก่อนนะ แม่เริ่มน้ำตาจะไหลอีกแล้ว แม่รักน้องนะ ..... รูปนี้ถ่าย ก่อนน้องผ่าตัดครั้งที่ 2 - ถ่ายเมื่อ 20/5/52 ลูกแม่ยังสวยอยู่เลย.............. ตอนนี้น้องแองจี้คงหลับสบาย ไม่เจ็บปวดแล้วล่ะค่ะ เอาใจช่วยนะคะ
โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:21:34:31 น.
เพิ่งรู้ว่าแองจี้เสียแล้ว เศร้าจัง ตอนนี้ไปวิ่งเล่นกะมัสแกตแมวกิ๊ฟที่สวรรค์แล้วค่ะ
โดย: grippini วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:4:34:06 น.
|
neung966
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Click here to get more mini-SharkBreak widgets - www.SharkBreak.com Click here to get more mini-SharkBreak widgets - www.SharkBreak.com Link |