Group Blog |
ความทรงจำ - ก่อนเราจะจากกัน 2 แองจี้ เมื่อวานม่าม้าบ่นคิดถึงน้อง คงเหงา ปกติน้องจะอยู่กับม่าม้าตลอดเวลาที่แม่ไปทำงาน มีอะไรก็แบ่งกันกิน คุยกัน... ม่าม้าเค้าคิดถึงหนูนะ หลังจากหมอตัดไหมที่ตาหนูออกไปเรียบร้อยแล้ว แผลที่ตาหนูดี แต่ยังไม่หายสนิท แม่ก็สังเกตุเห็นว่า ท้องน้องมันโย้ไปข้างหนึ่ง แม่จึงรีบพาน้องมาหาหมอ แม่มักจะมีเซ็นท์ เกี่ยวกับการไม่สบายของหนูเกือบทุกครั้ง แม้บางครั้งเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็ตาม อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่ถ้าจะไม่สบายทีไร แม่จะรู้สึกก่อนทุกครั้งที่อาการจะออกมา ก็หนูพูดไม่ได้นะ ความผูกพันของเราอาจทำให้แม่เกิดเซ็นท์นั้น ขึ้นมา ซึ่งแม่ไม่ชอบเลย 11-7-52 วันนั้นแม่พาหนูไปหาหมอสูติ เพื่อดูเรื่องเต้านมของน้อง หมอส่งน้องไปเอ็กซเรย์ ผลเอ็กซเรย์ออกมาว่า ตับโต หมอจึงส่งน้องต่อไปอัลตร้าซาวน์ ในวันเดียวกัน แม่รอพาหนูเข้าห้องอัลตร้าซาวน์ด้วยความไม่สบายใจ กลัว... กลัวอย่างบอกไม่ถูก...... ผลอัลตร้าซาวน์ คุณหมอไม่พูดออกมาตรงๆกับแม่ว่า น้องเป็นอะไร บอกว่าน้องมีก้อนเนื้อกระจายอยู่เต็มท้อง โดยเฉพาะที่ตับ แม้คุณหมอจะไม่บอกมาชัดๆว่าน้องเป็นอะไร แต่แม่ก็รู้แล้วหล่ะ สิ่งที่แม่กลัวที่สุด มันเริ่มมาหาแม่แล้ว ทันทีที่รู้ผล แม่ถึงกับร้องไห้ออกมา แม่สงสารน้อง แล้วก็เหมือนน้องจะรู้ น้ำตาของน้องก็คลอออกมาด้วย แม่ยิ่งเห็น ยิ่งทำให้แม่ยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่ จนหมอ ตกใจเหมือนกัน วันนั้นหลังจากอัลตร้าซาวน์เสร็จแล้ว คุณหมอบอกว่า จะนัดคลีนิคมะเร็งเพื่อรักษาต่อไป แต่เท่าที่ดูว่าผล คิดว่าน้องไม่ต้องทำอะไรแล้ว ไม่ต้องผ่าตัดเต้านมแล้ว ขณะที่คุณหมอบอกว่าจะทำนัดต่อไปคลินิคมะเร็ง ก็ได้ยินเสียงคุณหมอที่รักษามะเร็งอยู่ห้องข้างๆ คุณหมอ จึงเชิญมาคุยด้วย คุณหมอเจาะเอาน้ำในท้องหนูไปตรวจ เท่าที่คุยกัน เราจะไม่คีโมน้อง แต่จะใช้วิธีบำบัดด้วยวิตามีน และอาหารที่เป็นธรรมชาติ วันรุ่งขึ้น แม่กับม่าม้า พาหนูไปทำบุญที่วัดระฆังกัน เป็นครั้งแรก ที่หนูได้ออกมาเีที่ยววัดนี้ ถ้าเป็นตอนดีๆ น้องคงมีความสุข ตอนนี้น้องไม่สบาย แต่ก็น่าจะรู้สึกดีที่แม่พามาทำบุญ เรา มากราบหลวงปู่ด้วยกัน เราไปหาหมอตามนัดตลอด คลีนิคมะเร็งของที่นี่จะเปิดในวันจันทร์ และวันศุกร์ น้องไปให้วิตามินครั้งแรกวันที่ 13-7-52 ในห้องที่ให้วิตามีน มีน้องหมาที่เป็นมะเร็งอยู่หลายตัว คุณหมอได้มาแนะนำวิธีดูแลน้อง แล้วให้แม่คุยกับพี่ข้างๆเตียง น้องหมาเค้าเป็นมะเร็งที่ปอด แพร่แล้ว แต่ยังมีชีวิตอยู่มาได้ เป็นปีแล้ว แม่คุยกับพี่เค้า เค้าแนะนำให้แม่หาหญ้าปักกิ่ง แป๊ะตำปึง มาให้น้องกิน ในขณะที่คุณหมอบอกว่า ให้น้อง งดข้าวที่กินอยู่ ให้น้องกินข้าวกล้ัอง พวกผัก หรือไม่ก็ปลา ของหวานทั้งหมดให้งด แค่ฟังก็ยากแล้ว เพราะน้องเป็นเด็ก ที่กินยาก แต่แม่ก็จะพยายามเพื่อหนูนะ เราเริ่มออกหาหญ้าปักกิ่ง มาให้น้องกิน ซึ่งก็หายากพอสมควร ไปหาซื้อที่เยาวราช กับจตุจักร ก็ไม่เจอ ไม่รู้เป็นเพราะว่าเรา หาไม่ถูกจุดหรือป่าว แต่ในที่สุดม่าม้าก็สามารถไปหาหญ้าปักกิ่ง มาให้น้องได้ วิธีการกิน แม่จะเอาหญ้ามาล้างให้สะอาด แล้วแม่จะเอาฟันหน้า ของแม่ ขบๆให้หญ้านิ่มลง แล้วปั้นเป็นก้อน เพื่อป้อนเข้าไปในปาก น้อง ก็แม่เอาไปปั่นแล้วน้องไม่ยอมกินนี่ แม่เลยต้องใช้วิธีนี้ ซึ่งน้องก็กลืนไม่คายออกมา แม่หาซื้อยาบำรุงตับที่ดีที่สุดมาให้น้องกิน เพื่อจะทำให้ตับน้อง ไม่ทรุดไปเร็วกว่านี้ ป้อนไปก็สงสาร ยาที่น้องจะต้องกินหลาย เม็ดมาก แล้วก็เม็ดใหญ่ๆทั้งนั้น แต่น้องก็ต้องกินนะ ตอนที่ไปโรงพยาบาลในช่วงแรกๆ น้องยังแข็งแรง ยังวิ่งไปไหน มาไหนเองได้ ขึ้นกระไดเองได้ แต่น้องไม่กินข้าวแล้ว แม่ต้องเอาโจ๊กมาปั้นแล้วป้อนน้องทุกวัน แต่น้องก็ไม่ค่อยจะกิน ทำให้น้องผอมลง และต้องไปให้น้ำเกลือเป็นระยะ เราไปโรงพยาบาลกันตลอดอาทิตย์ละครั้ง ถึงสามครั้ง ไปให้วิตามีน 1 วัน ที่เหลือก็ไปให้น้ำเกลือ เราไปที่นั่น บ่อยมาก จนแม้กระทั่งพี่ยามก็จำพวกเรากันได้ น้องถูกเจาะท้องครั้งแรก เพื่อเอาน้ำออกประมาณวันที่ 31 ที่ผ่านมา น้ำที่คุณหมอเจาะออกมาจากท้องน้อง แม่เห็น แล้วมันทำให้แม่ร้องไห้ได้อีกแล้ว เพราะมันเป็นเลือดทั้ง นั้นเลย คุณหมอเจาะออกมาประมาณ 200 CC เพราะไม่ กล้าเอาออกมามากกว่านี้ เพราะจะทำให้น้องซีด แล้วอาจ จะช๊อคได้.... วันนี้คุณหมอพูดกับแม่ว่าให้แม่ "ทำใจ" น้องอาจจะไปเมื่อไหร่ ก็ได้ เพราะมะเร็งตับมันค่อนข้างร้ายแรง น้องอาจจะหลับ แล้วจากไป....... วันรุ่งขึ้นขาน้องขาซ้ายก็บวมขึ้น จนแม่ต้องคอยนวดให้น้อง อาการน้องเริ่มแย่ลงทุกวัน ท้องก็โตเร็วมาก น้องไม่กินอะไร เลย จนวันที่ 7 ขาน้องเริ่มบวมทั้งสองข้าง แม่แทบไม่ได้ นอนเลย กังวลใจอย่างมาก แม่อยากใช้เวลาอยู่กับน้อง ให้นานที่สุด ดูแลน้องให้ดีที่สุด น้องรู้มั๊ย ตั้งแต่วันที่หมอบอกให้แม่ทำใจ แม่ทุกข์ใจมาก รับไม่ได้ที่จะต้องเสียน้องไป มันเร็วเกินไป น้องไม่มีวี่แวว มาก่อนเลยว่าเราจะเจอเรื่องแบบนี้ แต่พอเจอทุกๆอย่างก็ เกิดอย่างรวดเร็วทุกอย่าง แม่ทุกข์ใจจังที่เราจะต้องอยู่ด้วยกัน แบบรอเวลาที่น้องจะจากเราไป หมอบอกว่า ให้เราใช้ชีวิตที่เหลือด้วยกันอย่างมีความสุข แต่มันไม่ได้เลย แม่ร้องไห้ทุกวัน ทำใจไม่ได้ อาทิตย์ที่ แล้ว น้องยังวิ่งได้อยู่เลย น้องก็รู้ แม่มาทำงาน ก็ทำงาน ไม่ค่อยรู้เรื่อง อยากกลับไปอยู่กับน้อง นั่งทำงานไปร้องไห้ ไปอยู่ตลอดเวลา 8-8-52 น้องไม่เดินแล้ว น้องเดินไม่ไหว เพราะท้องหนักมาก แม่ต้องคอยจับน้องฉี่ หรืออึ แต่น้องก็เหมือนจะเกรงใจแม่ ไม่ค่อยจะยอมให้แม่ช่วย พยายามเดินไปฉี่เอง ทั้งๆที่เริ่ม ไม่มีแรงจะเดินแล้ว 10-8-52 แมุุ่อุ้มน้องไปหาหมอตามนัด วันนี้เป็นวันแรกที่หนู ไม่สามารถวิ่งเล่นในโรงพยาบาลเหมือนเคย หนูต้องอยู่ในรถเข็น วันนี้หมอนัดตรวจ แล้วก็ให้วิตามีน วันนี้แม่ลางานไม่ได้ แต่แม่ไปส่งหนูกะม่าม้าตอนเช้า แล้วแม่ก็แวะมาทำงาน ประมาณ 10.30 โมง แม่ก็ออกไปรับหนูกับม่าม้าที่โรงพยาบาล พอไปถึงคุณหมอที่รักษาหนูบอกว่า วันนี้ผลตรวจเลือดน้องออก มาดี แต่หมอจะไม่เจาะท้องระบายน้ำให้น้อง เพราะเจาะบ่อยๆ มันไม่ดี อาจจะทำให้ติดเชื้อได้ แม่ดีใจที่ผลเลือดของน้องออก มาดี แต่รู้สึกแย่ที่คุณหมอไม่ได้เจาะน้ำออก ทำให้หนูลุกขึ้น เดินไม่ได้ วันนั้นตอนแรกกะว่าจะส่งหนูขึ้นรถแล้ว แม่ก็จะไป ทำงานต่อ แต่ไม่รู้ซิ อยากอุ้มหนูไปส่งถึงบ้าน แล้วเราก็กลับบ้าน พร้อมกัน 11-8-52 วันนั้นช่วงบ่ายแม่ทำงานไม่ได้เลย มันกังวลใจแล้วคิดถึง น้องอย่างบอกไม่ถูก แม่ลางานกลับบ้านในช่วงบ่ายนั่นเอง พอกลับไปถึงบ้าน ม่าม้าบอกว่า น้องเป็นอะไรไม่รู้ ร้องหลายครั้ง แล้ว จะไปโรงพยาบาลไม๊ แม่สงสัยว่าน้องจะฉี่ หรืออึไม่ออก ก็เลยร้อง แม่ก็เลยพาน้องไปโรงพยาบาล การไปโรงพยาบาลในวันนั้น คุณหมอบอกว่า น้องไม่ได้อึดอัด เพราะอึไม่ออก เพราะคุณหมอล้วงแล้ว น้องไม่ค่อยมีอึตกค้าง วันนั้น คุณหมอจะให้น้ำเกลือน้อง แทงเข็มอยู่หลายครั้ง แต่ให้ทางเส้นไม่ได้เลย เพราะเส้นน้องลีบหมด จนแม่ต้อง บอกให้คุณหมอหยุดหาเส้น น้องผอมมาก ผอมจนเหลือแต่ หนังติดกระดูก คุณหมอจึงตัดสินใจให้น้ำเกลือน้องทางผิวหนัง หลังจากให้ น้ำเกลือเสร็จแล้วเราก็กลับบ้านด้วยกัน วันนี้แม่รู้สึก ว่าน้องเหนื่อยแล้วก็เจ็บมากด้วย 12-8-52 วันนี้เป็นวันแม่ ปีนี้แปลกมาก ที่ครอบครัวน้องเกมส์ มีธุระที่จะต้องมากรุงเทพ วันนี้จึงเป็นวันที่ทุกคนในครอบครัว เราอยู่รวมกันทั้งหมด..... ตอนเช้าม่าม้าเตรียมของใส่บาตร แล้วเรียกแม่ออกไปใส่บาตร แม่ยกถาดของขึ้นมาอธิษฐาน แล้วก็ไม่ลืมที่จะให้น้องเอามือ มาแตะที่ถาด อธิษฐานให้หนูด้วย ใส่บาตรด้วยกันนะลูก....... วันนี้น้องเริ่มร้องเป็นระยะๆ แม่รู้แล้วว่าน้องคงเจ็บข้างในท้อง วันนี้แม่สังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ เหมือนว่า น้องจะไม่อยู่กับเราแล้ว ก่อนหน้านี้แม่โทรไปบอกจิ๋มว่า วันพุธให้รีบมาหาน้อง เพราะ แม่รู้สึกว่าน้องคอยจิ๋มอยู่ คอยที่จะบอกลากัน จิ๋มมาถึงตอนบ่าย มาถึงจิ๋มก็มาคุยกับน้อง หลังจากนั้นอาการน้อง ก็ทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด น้องร้องมากขึ้น เวลาร้องปากน้องจะขาว ไปหมด ป้อนน้ำ น้ำก็ไม่เข้าปากแล้ว น้องไม่รับอะไรแล้ว แล้วน้องก็อึออกมาอยู่ตลอด สักพักหนึ่ง ถึงจะหยุด แม่เช็ดอึ ให้น้องอยู่นาน แต่น้องก็ยังอึออกมานิดๆ เป็นระยะๆ แม่จะทำยังไงดี...... เวลาที่กลัวที่สุดมันใกล้มาเข้าเรื่อยๆแล้ว บ่ายวันนั้น แม่นั่งอยู่กับน้องตลอดเวลา คอยพลิกตัว ค่อยลูบท้อง ให้น้อง แต่น้องก็ยังร้องอยู่ แม่คิดแล้วว่า น้องคงไม่พ้นคืนนี้ ม่าม้าถามว่าจะพาน้องไปโรงพยาบาลอีกหรือป่าว แม่ตัดสินใจ ว่าไม่พาไปแล้ว เพราะมีความรู้สึกน้องเหนื่อยมาก เวลาที่ต้องไป โรงพยาบาล ถ้าวันนี้พาไปอีกคงไปไม่ถึงโรงพยาบาล..... แม่นั่งเฝ้าอยู่กับน้องตลอดเวลา จนกระทั่งประมาณ 2 ทุ่ม แม่บอก น้องว่า แม่จะไปอาบน้ำนะ ระหว่างที่อาบน้ำอยู่ น้องก็ร้องเรียก อยู่ตลอด แม่รีบอาบน้ำ แล้วออกมานั่งกับน้อง ใกล้สามทุ่ม น้องยังร้องเพราะความเจ็บปวดอยู่ แม่ไม่รู้จะทำยังไง เสียงร้องของน้องแต่ละครั้ง มันแทงเข้าไปในใจแม่มาก อย่าง ที่แม่เคยคุยให้ฟังตอนก่อนนะ ว่าตั้งแต่อยู่ด้วยกันมา น้องไม่เคย มีความเจ็บปวดใดๆเลย แม่อุ้มน้องขึ้นมา ให้หัวน้องสูงขึ้น เพราะคิดว่ามันคงช่วยคลาย เจ็บให้น้องได้บ้าง แม่อุ้มน้องอยู่นานพอสมควร จนน้องมีอึออก มานิดหนึ่ง เลอะที่มือแม่ แล้วน้ำลายน้องก็เหนียวมาก แม่วางน้องลง เพื่อไปล้างมือ ล้างผ้าที่คอยเช็ดให้น้องอยู่ ชั่วเวลาไม่ถึง 2 นาที แม่ออกมาหาน้อง น้องก็จากแม่ไปแล้ว น้องหยุดหายใจ แม่เรียกน้องไปร้องไห้ไป........ แต่น้องไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว...... น้องจากแม่ไปแล้ว.......... หลับให้สบายนะลูกนะ อย่าห่วงอะไรอีก ขอให้หนูได้ไปอยู่ในที่ที่ดี มีความสุข.... หมดเวรหมดกรรม หมดความเจ็บความปวด นะลูกนะ.... ถ้าเรื่องชาติภพมีจริง ขอให้เราได้กลับมาพบกันอีก......... คืนนั้นแม่แต่งตัวให้หนูด้วยเสื้อผ้าตัวใหม่ ที่ซื้อไว้ให้แล้วน้อง ยังไม่ได้ใช้เลย แล้วก็ใส่เสื้อสีแดงตัวโปรดของหนู กับปลอกคอ แสนสวยของหนู ที่แม่เพิ่งถอดออกตอนก่อนน้องจะจากไป 2 วัน เพราะน้องผอมมาก กลัวว่ามันกดคอน้อง แม่ใส่กลับไปให้น้องด้วย คืนนั้นแม่อยู่กับน้องทั้งคืน ร้องไห้ทั้งคืน..... แองจี้ ......เราจะพาน้องไปวัดด้วยกันในวันรุ่งขึ้น.... แม่รักน้องนะ.... แองจี้ โอ้
โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 23 สิงหาคม 2552 เวลา:9:43:39 น.
แองจี้ทำให้ยายเก๋า เสียน้ำตาอีกแล้ว
ความสูญเสียสุนัขที่รักมันเป็นอย่างไร ไม่เกิดกับใครไม่รู้สึกหรอกค่ะ แองจี้ไปเยี่ยมพี่มังกี้ด้วยนะ ชาติหน้าถ้าเขาเกิดเป็นคนเขาคงมาเกิด ใกล้ๆคุณ หรือเกี่ยวข้องกับคุณ เพราะชาตินี้เราผูกพันกับเขา โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:20:15:40 น.
|
neung966
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Click here to get more mini-SharkBreak widgets - www.SharkBreak.com Click here to get more mini-SharkBreak widgets - www.SharkBreak.com Link |