
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
ราชพฤกษ์49 มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ เชียงใหม่
ทริปนี้ไปตั้งแต่คืนวันที่ 1 ธค ถึง 5 ธค ทั้งเที่ยว, ไหว้พระ, หม่ำ, และช็อปปิ้ง วันที่ 3 ธค เป็นวันที่เที่ยวชมงานราชพฤกษ์ เลยต้องคัดรูปออกมาแยกต่างหากจากรูปทริปไม่งั้นจะเยอะเหลือเกิน กล้องที่ใช้ก็ยืมเขามา Olympus E-300 เลนส์ Zuiko 14-45 mm f3.5-5.6 สวมฟิลเตอร์ C-PL กล้องตัวนี้ทำให้ยุ่งยากในเรื่อง White balance จริงๆ เฮ้อ... รูปที่เอามาลงไม่ได้ทำการตกแต่งสีสันอะไรเลย แค่ใส่กรอบและย่อรูปเท่านั้นเอง

หลังจากทานข้าวชาวเสร็จเรียบร้อย ก็ตรวจอุปกรณ์ต่างๆและบัตรให้พร้อม แล้วก็กระโดดขึ้นรถไปงานกันเลย รถติดพอประมาณ รถสามารถเข้าไปจอดส่งคนได้ถึงเนินราชพฤกษ์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยบริการโบกและส่งเสียง ใครเอารถมาเองก็ต้องจอดตามสถานที่ที่เขากำหนดให้แล้วนั่งรถสาธารณะต่อเข้ามา ลงจากรถตู้ก็เกือบๆ 11 โมงเช้า

ฟ้าใสสว่าง มีลมหนาวพัดผ่านเข้ามาช่วงนี้พอดี ลดความร้อนจากแดดได้เยอะเลย ด้านหน้างานก็ต้องพบกับกลุ่มปาล์มขวดอายุ 300 ปีจากออสเตรเลีย 5 ต้น ต้นละ 500,000 บาท ยืนต้อนรับผู้คนอยู่

ร่มยักษ์หน้างาน แต่ดูท่าจะกันแดดไม่ได้นะเจ้า

บัตรสีแดงวันเดียวเข้าช่อง 6-10 จ้า เขาจะฉีกเอาตรงปลายที่เป็นบาร์โค๊ดออกไป

สวนแรกก่อนเลย สวนพลังแผ่นดิน ขึ้นไปนั่งทำเท่ห์บนรถไบโอดีเซล

สวนฉลองราชราชากรุงเทพธาราพฤกษาเมืองสวย ของกรุงเทพมหานคร เด่นด้วยเสาชิงช้าจำลอง พื้นตรงหน้าก็ทำเป็นแผนที่เขตต่างๆใน กทม ภายในมีบ่อน้ำแล้วก็สิ่งตกแต่งน่ารักๆ

อ่างดอกไม้ กทม

สวนลมหายใจแห่งสยาม ของ บ. ปราณ เดอ สยาม

สวนภูมิพลมหาราช ของการท่าเรือ ภายในจัดทำการจำลองเกษตรทฤษฎีใหม่

สวนของชาวกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา เป็นเรือนไทยภาคกลาง มีเรือให้พาย มีดาบอรัญญิกให้ลองตี

สวนเฉลิมพระเกียรติ ของโตโยต้า มีงานวิจัยสบู่ดำและป่าชายเลน แถมยังโชว์เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลอีกด้วย

ดิน น้ำ ป่า คน พลังสร้างความยั่งยืน ของ ปตท ทางเข้ามีสาวน้อยอู้คำเมืองเจื้อยแจ้วเชิญชวนผู้คน

ภายในต้องถอดรองเท้าเดิน ได้สัมผัสพื้นป่าชายเลนจำลองและชมกำแพงมีชีวิตด้วยรากของหญ้าแฝก

ขึ้นไปชมวิวมุมสูง แดดเริ่มแรงแล้วสิ ลงมาดื่มน้ำตะไคร้ดีกว่า ชื่นใจหลายแก้ว ฮิฮิ

ทางออกมีดอกทานตะวันแดงชูช่อท้านสายตาประชาชนด้วยแน่ะ

สวนโครงการเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ ของ ซีพี รวบรวม 7 อาชีพมาให้ได้ทัศนากัน

ซีพีแสดงเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อการเกษตรและน้ำ

สวนใต้ร่มบารมี บ. ทีโอที เราได้เขียนคำถวายพระพรลงลนใบโพธิ์กระดาษ แล้วก็นำเอาข้าวเหนียวไก่ย่างหมูปิ้งออกมาปิคนิคกันที่สวนนี้แหละ ร่มเย็นสบาย แถมมีอินเตอร์เนทให้เล่นอีกด้วย

สวนน้ำพระทัย ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ได้ฟังกังหันน้ำเล่นจังหวะดนตรี

ใครเดินไม่ไหวก็มีรถไฟฟ้าไว้บริการ แล้วยังมีรถกอล์ฟคันเล็กไว้ให้ด้วย ขับวนตามเส้นทาง ขึ้นลงตามสถานีได้เลยแต่อาจจะต้องรอคิวสักนิด

สวนจาวเจียงใหม่เจ้า

สวนบุญรอดมาแนวไร้แอลกอฮอล์ ในเรื่อง การเปลี่ยนแปลงในโลกของชา

แสดงเรื่องราวและประโยชน์ของชา

จิบชาชมวิว เคล้าสายลม....ร้อน

อาคารกล้วยไม้ ประกวดประชันการตกแต่งสวนสวยด้วยกล้วยไม้

กล้วยไม้งามๆทั้งนั้น มีกล้วยไม้จากทั่วทุกมุมโลกมาให้ดูกัน

รองเท้านารี ราชินีแห่งกล้วยไม้ไทย

สวนโมร็อคโค คนไทยตรึมเลย เจ้าหน้าที่ประเทศนี้น่ารักมากๆ

ชิมชาโมร็อคโคและเลือกหาของใช้ประเทศของเขาได้

สวนประเทศแอฟริกาใต้

เดินวนไปวนมา เจออาคารไม้ผล ได้ชิมผลไม้ไทยๆ และยังแสดงการแปรรูปผลไม้ มีกระป๋องผลไม้เรียงให้เอาไว้เข้าไปถ่ายรูป แต่กลัวล้มจัง

โลกแมลง มีทั้งแบบสต๊าฟไว้และแบบมีชีวิต สาวๆอาจจะกรี๊ดกร๊าดกันได้

สวนประเทศลาว บ้านพี่เมืองน้อง สร้างแบบวัดเชียงทองในหลวงพระบาง แล้วยังมีกาแฟสีมุกอันมีชื่อเสียงมาให้คอกาแฟชาวไทยได้ลิ้มรสกัน

สวนสเปน แต่งด้วยสนไซปรัส พื้นปูด้วยหินภูเขาไฟ เดินเท้าเปล่าก็เป็นการนวดเท้าดีมากๆ

สวนมอริตาเนีย นำเอากระบอกเพชรและพืชทะเลทรายมาประดับ

สวนเมืองภารตะ อินเดีย สไตล์วังมหาราชาอิฐสีแดง

สวนเนปาล มีสวนหินและจำลองเหมือนยอดเขาเอเวอร์เรสต์

สวนเบลเยี่ยม เรียบๆแต่งดงาม จำลองกรวยยักษ์ประดับด้วยดอไม้นานาชนิด วางบนพื้นหญ้าเทียม

แถวอะไรเนี่ย ยาวจัง ต่อแถวกับเขาบ้างดีกว่า แล้วก็ถึงบางอ้อ สวนประเทศภูฏาน อันประทับใจคนไทยนี่เอง

สวนไม่ใหญ่ แต่กลมกลืนกันระหว่างธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม

ขอเป็นข้าทาสบริวารของเจ้าชาย

สวนกัมพูชา แน่นอนสัญญลักษณ์ของเขาก็คือนครวัด มีฉากหลังใหญ่ๆให้ยืนถ่ายรูปนครวัดกันอย่างเต็มตา แล้วยังมีนครวัดจำลองให้ชมกันอีกด้วย

สวนซูดาน ตุ๊กตาผอมแห้ง ชนเผ่ามาไซหรือเปล่า แต่ก็มีแรงดึงดูดให้คนเข้าไปถ่ายรูปคู่ด้วย

สวนจีน มีเก๋งจีนสองชั้น และ เจดีย์กลางสวนแบบจีน

สวนเนเธอร์แลนด์ กะว่าจะเจอกับดอกทิวลิปซักหน่อย กลายเป็นดอกแพงพวย ฮ่าๆๆ ส่วนในตัวอาคารเจอแต่เบียร์อะไรน้อเขียวไปหมด

สวนญี่ปุ่น มีสองสวน แต่ชอบสวนที่ได้รางวัลประกวดที่ 1 มีภูเขาไฟฟูจิ น้ำตกและบัวโอกะฮาสุที่เพาะจากเมล็ดสองพันปี สวนญี่ปุ่นอีกสวนนึง จะเป็นสวนหินสไตล์คันไซ

เพื่อนบ้านทางใต้เราเอง สวนมาเลเซีย บ้านเรือนสไตล์บัมบัง มีสวนไม้ประดับ สวนสมุนไพรอยู่ภายใน

บึงน้ำประดับดอกแพงพวย

ราชพฤกษ์ ชื่อนี้ประทับใจนัก

ไฮไลท์ที่สุดของงาน หอคำหลวงที่มีฉากหลังเป็นวัดพระธาตุดอยคำ

ขึ้นบันไดมาจะพบกับ ยักษ์ตื่นไว้เฝ้าหอกะกลางวันและยักษ์หลับเฝ้าหอกะกลางคืน ไม่ต้องนั่งเบิ่งตาทั้งวัน

หอคำหลวง จำลองมาจากหอคำหลวงของเจ้าเมืองเชียงใหม่โบราณ ด้านหน้าทำเป็นหลังคาเล่นระดับสามชั้น ด้านหลังเล่นระดับสองชั้น ออกแบบโดยช่างรุ่ง จันตาบุญ ยอดช่างฝีมือแห่งล้านนา

ภายในมีต้นบรมโพธิสมภาร ใบไม้ สองหมื่นกว่าใบเท่าจำนวนวันที่ครองราชย์ 60 ปี มีอักษรบาลีนูนต่ำเกี่ยวกับทศพิธราชธรรม

ผนังทั้ง 3 ด้านตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังของ อ. ปรีชา เถาว์ทอง ศิลปินแห่งชาติ ภาพจะเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง

ช่างสบายใจดีแท้ อากาศหายร้อนไปเยอะแล้ว มีแต่ความอิ่มเอม

ชั้นล่างของหอคำหลวงแสดงนิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติและสื่อวีดีทัศน์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ 9 โซน

แสงสีทองสาดส่องเพิ่มความงดงามให้แก่หอคำหลวง

เวทีวัฒนธรรม มีการแสดงผลัดเปลี่ยนไปกันตามช่วงเวลา แต่จะเริ่มตั้งแต่ 15.30 น. ขณะที่ไป มีการแสดงดนตรีและการต่อสู้ระหว่างทหารไทยโบราณกับข้าศึก

อารคารเรือนร่มไม้ ไม่รู้ว่าติดใจอะไรกันนักกับมะพร้าวแฝดลูกนี้ล่ะนี่

สัปปะรดสี พระเอกของอาคารนี้

ภายในอาคารเรือนร่มไม้ มีทางเดินลอยฟ้า Skywalk จะได้ชมต้นไม้อย่างใกล้ชิดทั้งลำต้นและยอด

ออกจากอาคารก็เดินขึ้น skywalk ดูวิวหลากหลายมุมมอง ที่ทางขึ้นก็จะผ่านหอเกียรติยศพืชสวนไทย

อีกมุมมองไปทางสวนพรมบุปผาและบึงราชพฤกษ์ จาก Skywalk

ลงจาก skywalk เราจะเจอกับหลายๆอาคารติดๆกัน เช่น สวนองุ่น อาคารไบโอเทคโนโลยี สวนสวรส สวนไม้ด่าง อาคารแสดงพืชไร้ดิน แล้วก็มาถึง อาคารพืชทะเลทราย มีแต่กระบองเพชรหลากหลายชนิด

อาคารพืชเมืองหนาวก็คนแน่นไม่เบาต้องต่อคิวกันเลย แต่คิวก็เคลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ติดขัดอะไร อากาศภายในก็เย็นสบาย สีสันต้นไม้ใบไม้ก็สดใส

คนต่อคิวเพื่อมาดูดอกนี้แหละ ดอกทิวลิป มีอยู่สามกอ เห็นแต่ละคนพยายามชะเง้อหน้าเพื่อให้หน้าเข้าไปใกล้ดอกมากที่สุดแล้วให้คนถ่ายรูปให้ น่ารักดีกับความพยายาม สงสัยคงจะผิดหวังจากสวนเนเธอร์แลนด์แหงมๆ

เสียงประกาศยั่วกิเลสให้เข้ามาชมโดมพืชเขตร้อนชื้น พระเอกอาคารนี้คือสนดึกดำบรรพ์วอลีเบีย เพาะจากซากฟอสซิล 250 ล้านปี แล้วยังมีปาล์มบังสูรย์ ปาล์มหลังขาว ปาล์มศรีสยาม เฟิร์นมหาสะดำ และอีกมากมาย บรรยายไม่หมด

โดมควบคุมสภาพแวดล้อม 28-30 องศา ความชื้นสัมพัทธ์ 80-90 % ทำให้รู้สึกจมูกชื้นตลอดเวลาเลย กล้องจะชื้นด้วยมั๊ยเนี่ย

พอใกล้เวลา หนึ่งทุ่มก็รีบมาหาที่นั่งดูการแสดงม่านน้ำที่ริมบึงราชพฤกษ์ โชคดีที่มีเพื่อนในกลุ่มมานั่งล่วงหน้าแล้ว

โหมโรงด้วยน้ำพุเต้นระบำก่อน มีชื่อเรียกแต่จำไม่ได้แล้วล่ะ

ไอ้เราก็ต้องปรับกล้อง แต่ไม่ต้องการยืนบังคนข้างหลังเลยใช้การผุดลุกผุดนั่งเป็นระยะ เหมือนสก็อตจั๊มเลย ปวดขาไปหมด

การแสดงม่านน้ำได้เริ่มแล้ว เปิดตัวด้วยมาสคอทของงาน ชอบน้องมังคุดจริงๆ น่ารักซะ

การแสดงม่านน้ำที่ตระการตา ในหัวข้อ "ลูกของแม่ พ่อของแผ่นดิน" เริ่มตั้งแต่องค์พระบิดาและพระมารดา พระองค์ในวัยเยาว์ จนถึง พระราชกรณียกิจเพื่อคนไทย

แล้วเราก็เดินย่ำต๊อกมาที่ถนนหน้าหอคำหลวง เพื่อรอดูขบวนพาเหรดแสงสีแห่งรัตติกาล ประมาณ หนึ่งทุ่มสี่สิบก็เริ่มแล้ว มีเจ้าหน้าที่คอยเตือนผู้คนที่สองฝั่งถนนให้ถอยห่างหน่อย

ขบวนโยธวาทิต ตามมาติดๆ

มีเทวดานางไม้ด้วย

นางฟ้าในเทพนิยาย

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ธงไตรรงค์โบกสะบัด

น้องก้านกล้วยหรือเปล่า

ศิลปภาคต่างๆ คันนี้ก็มีผีตาโขน คันถัดมาเป็นพระธาตุดอยสุเทพและพระปรางค์วัดอรุณ บอกถึงความผูกพันของคนไทยทุกภาค

มาเป็นกลองยาวเชียว

แมลงเต่าทอง หนอน ผึ้ง ต่างก็มาร่วมขบวนเถิดเทิงกะเขาด้วย

ปิดท้ายขบวนด้วยตัวมาสคอทต่างๆ มีแต่คนรุมถ่ายรูปน้องมังคุดกันทั้งนั้นเลย

แก๊งนี้ 9 คน ขอชักภาพเป็นที่ระลึกก่อนออกจากงาน

ขณะเดินออก ผ่านสวนถวายพระพร ที่ตั้งต้นโพธิ์ ใต้ร่มพระบารมี ให้ประชาชนได้ร่วมกันเขียนชื่อที่ใบโพธิ์ทองเหลืองและนำไปติดยังต้น เพื่อนำไปหล่อเป็นพระพุทธรูปหลังจากงานจบ แต่เรามาพบเมื่อขาออก เลยหมดโอกาส ได้แต่ดูเจ้าหน้าที่กำลังเก็บใบโพธิ์กันอยู่

ประติมากรรมเหรียญพระบรมสาทิสลักษณ์

ทางออกมีส่วนขายต้นไม้และของที่ระลึกต่างๆ คนแน่นซื้อเหมือนกับแจกฟรีแน่ะ โดยเฉพาะบูธขายมาสคอท เข้าไม่ได้เลย ตรงทางออกที่จอดรถก็มีบูธขายของแต่ละท้องถิ่นอำเภอและบางประเทศก็มีขาย อย่างอินเดีย แต่...หาเครื่องดื่มแทบไม่ได้เลย หิวน้ำจัง

เกือบสามทุ่มเดินมาขึ้นรถตู้ที่นัดมารอยังจุดที่มาส่งเมื่อเช้า รถตู้โตโยต้ารุ่นใหม่เหมือนกันทั้งนั้น
รวมเวลาอยู่ในงาน 11 โมงเช้า ถึง เกือบสามทุ่ม ก็ราวๆ 10 ชม. โฮะๆๆๆ เพลียก็เพลีย แต่ก็ต้องไปกินไปช็อปกันต่อที่ถนนคนเดินอีก
ทริปนี้ในวันอื่นๆ เชิญไปชมกันที่ Group Blog Northern Thailand # 1 นะครับ บล็อคนี้ขอลงเฉพาะส่วนของงานราชพฤกษ์เท่านั้น ขอบคุณครับ
Create Date : 07 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2549 8:48:28 น. |
|
20 comments
|
Counter : 4896 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: I am SeRaPh วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:14:09:58 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:16:53:09 น. |
|
โดย: ตงเหลงฉ่า วันที่: 10 ธันวาคม 2549 เวลา:21:46:31 น. |
|
โดย: numainew วันที่: 11 ธันวาคม 2549 เวลา:14:10:21 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:18:21:42 น. |
|
โดย: nissan4848 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:7:05:20 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:20:11:22 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:2:01:52 น. |
|
โดย: Commencer วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:10:36:03 น. |
|
โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:18:47:49 น. |
|
โดย: ป้าหู้เองค่ะ (fifty-four ) วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:2:50:07 น. |
|
โดย: nissan4848 วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:19:23:21 น. |
|
โดย: Firesky วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:16:21:48 น. |
|
โดย: นิติรันต์ IP: 192.168.1.228, 180.183.68.80 วันที่: 26 มกราคม 2555 เวลา:22:35:45 น. |
|
โดย: ละอ่อน วุ่น วาย IP: 118.172.41.247 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:28:22 น. |
|
| |
|
น้องหอมแดง |
 |
|
 |
|
ไม่เป็งไรมาตามไปกะบล๊อกน้องหอมแดงก็ได้เนอะ