4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
จอห์น เอริค อาร์มสตรอง : นักฆ่าโสเภณีเจ็ดย่านน้ำ

การค้าประเวณี คือการขายบริการทางเพศ รวมทั้งการร่วมเพศหรือการทำออรัลเซ็กส์เพื่อแลกกับเงิน การค้าประเวณีมักจะถูกเรียกว่า เป็นอาชีพหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เชื่อว่าการค้าประเวณีเกิดขึ้นหลังจากระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือเงินกำเนิดขึ้น ที่มาหนึ่งของการกำเนิดโสเภณีเชื่อว่าเกิดจากเหตุผลทางความเชื่อของชาวสุเมเรียนและชาวบาบิโลน โดยให้ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น (นอกจากคู่สมรส) เพื่อเหตุผลทางศาสนา รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์กับชาวต่างแดนแสดงถึงการมีจิตใจโอบอ้อมต้อนรับผู้มาเยือน แสดงถึงคุณค่าของการเป็นเจ้าเมือง

สำหรับการค้าประเวณีในประเทศไทยถือกำเนิดขึ้นมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 โดยไม่ได้ถูกนำเข้ามาจากชาติตะวันตกตามเรื่องเล่ากัน การค้าประเวณีในไทยเริ่มเป็นที่แพร่หลายกับชาวตะวันตก ในช่วงที่มีการติดต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับชาวตะวันตก มีหลักฐานเป็นศัพท์ในสมัย สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เรียกว่า รับจ้างทำชำเราแก่บุรุษ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ใน ประมวลกฎหมายตรา 3 ดวง – บทพระไอยการลักษณะผัวเมีย มีการบัญญัติผู้ค้าประเวณีว่า หญิงนครโสเภณี และสมัยสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีสถานประกอบการเรียกว่า โรงหญิงนครโสเภณี โดยทั่วไปมีโคมสีเขียวตั้งข้างหน้า จึงเรียกกันว่า สำนักโคมเขียว ทั้งนี้ก่อนปี พ.ศ. 2499 การค้าประเวณีไม่ถือว่า ผิดกฎหมาย แต่เริ่ม พระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 กำหนดว่าการค้าประเวณีเป็นความผิดอย่างชัดเจน แต่ในสังคมยุคใหม่เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในช่วงสงครามเวียดนาม โดยในช่วงนั้นการค้าประเวณีจะเป็นการลักลอบค้าประเวณี และปัจจุบันธุรกิจค้าประเวณีในประเทศไทยเป็นธุรกิจแอบแฝง นอกจากนั้นโสเภณียังเป็นอาชีพที่ต้องระวังตัวและอันตรายมากที่สุดอีกด้วย เนื่องจากโสเภณีนั้นง่ายต่อการเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องมากที่สุด ดังที่เห็นจากตัวอย่างจากแจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ โดยทั่วไป เรามักโยนความผิดให้แก่ฆาตกร แต่ความเป็นจริงเราก็ควรยอมรับด้วยว่าเหยื่อก็มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรม เราเรียกเหยื่อพวกนี้ว่า Provocative Victims เหยื่อประเภทนี้จะทำอะไรบางสิ่งบางอย่างที่จะยั่วยุ ขัดใจ กระตุ้น ให้ฆาตกรลงมือกระทำก่อน เช่น โกง หลอกลวง หนีไปหาคนรักใหม่ กลั่นแกล้ง เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเหยื่อบางประเภทที่ไม่ได้กระตุ้นให้เกิดการก่ออาชญากรรม แต่จูงใจให้เกิดอาชญากรรม พวกนี้เรียกว่า Precipitative Victims เหยื่อไม่ได้ทำอะไรพิเศษต่อตัวฆาตกร แต่พฤติกรรมของเหยื่ออาจล่อให้ฆาตกรมาฆ่าโดยไม่รู้ตัว เช่น แต่งตัวยั่วยวน หน้าเหมือนแฟนฆาตกร เป็นต้น เหยื่ออีกประเทศหนึ่งคือเหยื่อที่มีความอ่อนแอทางชีวภาพ หรือ Biologically Weak Victims หมายถึงเหยื่อมีความด้วยทางร่างกายและจิตใจ เช่น คนแก่ ผู้หญิง คนขาดความสามารถ และเด็ก ซึ่งง่ายต่อการฆ่าของฆาตกรต่อเนื่องมาก ถ้าเราจะเปรียบเทียบโสเภณีกับประเภทของเหยื่อจะพบว่าโสเภณีนั้นมีครบทุกประเภทของเหยื่อที่กล่าวมาทั้งหมด


จอห์น เอริค อาร์มสตรอง 
เกิด 23 พฤศจิกายน 1973 
ฉายา The model Sailer ฆ่าเหยื่อ 5 ราย (แต่เขาบอกมากกว่า 16+ ราย) สถานที่ออกอาละวาดสหรัฐอเมริกา และสถานที่อื่น ๆ ที่เป็นไปได้รอบโลก 
ช่วงออกอาละวาด 1992 – 2000 (คาดว่า)

เมื่อปี 2000 ไม่นานมานี้เอง ทางการสหรัฐฯ ได้จับกุมตัว จอห์น เอริค อาร์มสตรอง วัย 26 ปี (ขณะก่อเหตุ) อาชีพทหารเรือ เขาเป็นชายร่างสูงหนา น้ำหนักกว่า 300 ปอนด์ ราวกับหมียักษ์ ฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ถูกตำรวจจับกุมเพราะเขาทำพลาดเองโดยเหยื่อที่รอดมาได้ในขณะที่เขากำลังลงมือ และเหยื่อรายนี้ได้ให้รูปพรรณสัณฐานและรถยนต์พาหนะของเขากับตำรวจเมืองดีทรอยส์ จนสามารถตามตัวจับกุมจอห์นมาได้ในที่สุด

จากการสอบสวนอย่างหนักของตำรวจ ทำให้จอห์นสารภาพในที่สุด แต่สิ่งที่ตำรวจเมืองดีทรอยด์รัฐมิชิแกนกับตกตะลึงคือ เขาสารภาพว่าเขาฆ่าคนมาแล้วทั่วโลก!! จอห์นอ้างว่าเขาฆ่าผู้หญิงมาแล้วทั่วโลก ครบ 7 ทวีป จะมีแต่สาวประเภทสองรายเดียวเท่านั้นที่เป็นชาย (ไม่แท้) ที่ตกเป็นเหยื่อของเขา สาเหตุที่ฆ่าก็เพราะความผิดหวังจากสาวคนรักขณะเรียนหนังสืออยู่ในช่วงมัธยมปลาย ซึ่งเขาคบกับเธอมานาน แต่เธอกลับเลิกกับเขาเพื่อไปคบกับแฟนใหม่ที่รวยกว่าหล่อกว่า มันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาอาฆาตแค้นสาว ๆ ใจง่ายพวกนั้น เมื่อจอห์นคิดอย่างนั้นแล้ว จอห์นจึงจัดการแก้แค้นสาว ๆ ใจง่ายเหล่านั้นด้วยการลงมือฆ่าโสเภณีทุกคนที่ร่วมรักหลับนอนกับเขาอย่างเลือดเย็น จนกระทั่งเป็นนิสัยสันดานส่วนตัวของเขาไปในที่สุด


จากประวัติจอห์นเกิดที่เมืองนิวเบิร์น ในมลรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า ในขณะที่เขา 5 ขวบ พ่อแม่ก็แยกทางกัน ทิ้งเขากับมารดาและน้องชายต้องผจญชีวิตด้วยความลำบากเพียงลำพัง ต่อมาจอห์นก็สูญเสียน้องวัยทารกด้วยโรคปัจจุบันทันด่วนที่ไม่อาจเยียวยาได้ทัน และด้วยความรัดทดใจรุนแรงของจอห์นทำให้เขาตัดสินใจขี่รถจักรยานคันเล็ก ๆ ไปกลางถนนท่ามกลางจราจรคับคั่งโดยหวังว่าจะมีรถคนใดคันหนึ่งวิ่งมาทับให้เขาตายเพื่อพ้นจากโลก ครั้นแม่ถามจอห์นว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนี้ จอห์นตอบว่า เขาต้องการตายเพื่อจะได้ไปอยู่กับน้องชาย และเมื่อเติบโตขึ้นมาเขาเข้าเรียนที่ไฮสคูล และมีความรักกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนสาวสวย ก่อนที่จะโดนหักมุมในตอนสุดท้ายจนกระทั่งเป็นชนวนสำคัญที่ทำให้จอห์นเป็นฆาตกรต่อเนื่องในที่สุดโดยสมบูรณ์ในเวลาต่อมา

ด้วยความที่จอห์นทำงานอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินรบ “ยูเอสเอสนิมัทช์” เป็นเรือรบราชนาวีแห่งสหรัฐอเมริกานิมิทซ์ ทำให้จอห์นมีโอกาสเดินทางไปรอบโลก และทุกครั้งที่เรือจอดเทียบท่าลูกเรือจะได้ผ่อนคลายกัน จอห์นเลือกกิจกรรม “หาความสำราญทางเพศ” กับพวกโสเภณีของประเทศนั้น ๆ และเมื่อมีเซ็กส์ก็ฆ่าทิ้งเป็นแบบนี้เรื่อยมา จอห์นสารภาพว่า เขาฆ่าสาว ๆ ที่มาขายบริการทางเพศตามท่าเรือต่าง ๆ ทั่วโลก ประมาณ 17 ราย แต่นอกเหนือจากนั้นยังต้องมีเหยื่ออีกหลายคนแน่ ๆ แต่ตำรวจไม่มีหลักฐานพอที่จะเอาผิดกับจอห์น โสเภณีที่ตกเป็นเหยื่อของจอห์นนั้นมีกระจัดกระจายไปทั่วโลก ไล่ตั้งแต่ ท่าเรือเวอร์จีเนีย นอร์ธแคโรไลน่า วอชิงตัน ฮาวาย ประเทศไทย (?!!) สิงคโปร์ จากการสอบสวนของ FBI และหน่วยสอบสวนราชนาวีเชื่อว่ายังมีเหยื่อที่จอห์นฆ่าอีกที่ท่าเรือญี่ปุ่น เกาหลี และอิสราเอลอีกด้วย


แม้จอห์นจะเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่ด้านชีวิตส่วนตัวนั้นไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาเป็นพ่อบ้านที่ดีคนหนึ่งที่ให้ความอบอุ่นแก่ครอบครัว ไม่มีเศษเสี้ยวความโหดร้ายของฆาตกรโรคจิตแต่อย่างใด ในช่วงที่จอห์นอยู่กับบ้านเขาจะเป็นเพื่อนเล่นกับลูกชายวัย 14 เดือน และใช้เวลาว่างพาสุนัขที่เลี้ยงไว้ไปเดินเล่น หลายฝ่ายต่างสงสัยว่าในเมื่อเขาชอบสังหารผู้หญิงแต่ทำไมเขาไม่ฆ่าเมียตนเองบ้างล่ะ คำตอบก็ง่าย ๆ จอห์นบอกว่า "ภรรยาของเขาไม่ได้หลับนอนหรือมีเซ็กส์กับเขาเพราะ “ขอเงินค่าตัว” แบบโสเภณีนี่นา ก่อนที่จอห์นจะโดนตำรวจจับกุม จอห์นได้รับการอนุมัติให้พักผ่อนได้เป็นเวลาหลายเดือน ที่ท่าเรือยูเอเอ นิมิตซ์ ที่เขาเทียบท่านั่นเอง ในช่วง 3 เดือนที่เขาพักผ่อนนั้น จอห์นฆ่าสาว ๆ ไปถึง 4 คนด้วยกัน โดยใช้วิธีเชิญสาว ๆ นั่งรถจิ๊ปเล่นเซ็กส์ก่อนที่เขาจะรัดคอสาว ๆ เหล่านั้นจนขาดใจตาย โดยเหยื่อ 4 คนประกอบด้วย เคลลี่ ฮู๊ด อายุ 34 ปี ร็อบบิ้น บราวน์ อายุ 20 ปี โรส เฟลท์ อายุ 32 ปี และโมนิก้า จอห์นสัน อายุ 31 ปี ศพทั้งหมดถูกค้นพบในป่าเช้าของวันที่ 10 มกราคม ปี 2000 ในสภาพเน่าเปื่อย ตำรวจไม่สามารถรวบรวมและประกอบร่างเหล่านี้ได้หมด จากการสอบสวนพบว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับจอห์น เอริค อาร์มสตรอง ต่อมาจอห์นพลาดท่าเมื่อ 12 เมษายน 2000 เขารับโสเภณีประจำถิ่นคนหนึ่งและกระเทยอีกคนมาหลับนอนด้วยและเขายังไม่ทันได้ลงมือฆ่าเหยื่อ ทั้งสองกลับหนีรอดมาได้ และแจ้งตำรวจจนมีการจับกุมตัวจอห์นในที่สุด จากการสอบสวนตำรวจสามารถเอาผิดจอห์นได้ในคดีของ เวนดี้ จอร์แดน ซึ่งพบศพเมื่อวันที่ 2 มกราคม ปี 2000 ตำรวจได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่งว่าพบค้นพบศพลอยอยู่ในแม่น้ำรูจ มันเป็นศพของผู้หญิงที่ถูกรัดคอและขึ้นอืดมาแล้วหลายวัน หลังจากตรวจสอบหลักฐานตำรวจสามารถระบุได้ว่านี่คือศพของ เวนดี้ จอร์แดน หญิงติดยาและโสเภณี ซึ่งมีหลักฐานแน่นหนาคือ DNA และเส้นใยในรถของเขา ซึ่งตรงกับศพเหยื่อ


มีนาคม 2001 จอห์น เอริค อาร์มสตรอง ถูกดำเนินคดีในคดีฆ่าเวนดี้ จอร์แดน ทนายของเขาใช้เหตุผลความบกพร่องทางจิตเข้าสู้ แต่คณะลูกขุนไม่เชื่อ ผลคือจอห์นถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต เรื่องราวการฆาตกรรมของจอห์นยังมีออกมาเรื่อย ๆ ตราบใดที่การสอบสวนไม่จบสิ้น ตำรวจเชื่อว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานับจากที่เขาโดนหญิงหักอกนั้น เขาน่าจะลงมือสังหารสตรีอีกหลายคนนอกเหนือจากนั้น และปัจจุบันเขายังมีชีวิตอยู่......








Create Date : 16 กรกฎาคม 2558
Last Update : 16 กรกฎาคม 2558 14:27:54 น. 0 comments
Counter : 1138 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.