4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 
คดีฆาตกรรมแชนด้า แชร์เรอร์ กับการแก้แค้นของสาวเลสเบี้ยน



วันที่ 11 มกราคม 1992 สองพี่น้องพลเมืองดีคู่หนึ่งได้เข้าไปป่าในเพื่อล่านกกระสา ในบริเวณใกล้เคียงกับเมืองเจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้ แมดิสัน รัฐอินเดียน่า ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้เห็นวัตถุที่แปลกประหลาด ในทุ่งถั่วเหลืองที่รกร้าง ในทางเปลี่ยวแห่งหนึ่งที่รกร้างไร้ผู้คน ความคิดแรกที่สองพี่น้องคิดก็คือมันน่าจะเป็นตุ๊กตายางขนาดเท่ากับคนที่ถูกเผาไหม้ ซึ่งคงมีคนเอามาทิ้งและเผาเอาไว้ หากแต่เมื่อสองพี่น้องทำการตรวจสอบละเอียดก็พบความจริงที่น่ากลัว วัตถุดังกล่าวไม่ใช่ตุ๊กตา หากแต่เป็นร่างกายมนุษย์ที่ถูกย่างสด สภาพศพบ่งบอกถึงการกระทำที่โหดร้าย ร่างกายอันเปลือยเปล่า กางเกงถูกถลกลงมาร่างนั้นถูกเผาจนเกือบไหม้เกรียม โดยใช้วัตถุไวไฟเพื่อทำลายหลักฐาน ที่หน้าอกมีร่องรอยถูกแทง เห็นได้ชัดว่าเป็นคดีฆาตกรรม และฆาตกรที่ลงมือสังหารเหยื่อรายนี้จะต้องมีจิตใจที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์มนา


สองพี่น้องตกใจกับสภาพศพที่พบจึงรีบแจ้งตำรวจ ในเวลานั้นเป็นเวลา 10:55 และเมื่อมีการชันสูตรแบบละเอียดถี่ถ้วนแล้วก็พบว่าศพดังกล่าวเป็นผู้หญิง มีร่องรอยการทรมานทางทวารหนักและอวัยวะเพศอย่างรุนแรง ตอนแรกตำรวจเชื่อว่าเหยื่อน่าจะเป็นพวกที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และไม่เชื่อว่าคนในท้องถิ่นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สำหรับเมืองเจฟเฟอร์สัน เคาน์ตี้ที่เป็นเมืองชนบทแล้ว คดีฆาตกรรมเกิดขึ้นไม่บ่อยมากนัก อีกทั้งจากสภาพศพที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ตำรวจคิดว่าน่าจะเป็นคนนอกมากกว่า


อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาตำรวจจึงได้รู้ว่าพวกเขาคิดผิด เมื่อมีเด็กสาวคนหนึ่งพร้อมกับพ่อกับแม่ มาที่สำนักงานตำรวจเจฟเฟอร์สัน เธอแนะนำตัวเองว่า ชื่อ "โทนี ลอว์เรนซ์" เธอบอกตำรวจว่ามีเบาะแสข้อมูลเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนี้อย่างละเอียดยิบ โดยตอนแรกเธอบอกชื่อเหยื่อว่าเธอชื่อ แชนต้า ซึ่งชื่อดังกล่าวสอดคล้องกับ แชนต้า แชร์เรอร์ เด็กสาวอายุ 12 ปี ที่พ่อของเธอแจ้งหายไปในช่วงต้นเดือนมกราคมก่อน และเมื่อโทนีพูดไปพูดมาเธอก็รับสารภาพว่าเธอกับเพื่อน 3 คน ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวการใหญ่มาลินด้า เลิฟเลส, ลอรี่ แทคเก็ต และโฮป ริบเปย์ ที่ร่วมมือกันลักพาตัวและฆ่าแชนด้าอย่างโหดเหี้ยม และที่น่าตกใจคือมูลเหตุการฆ่านั้นเพียงแค่ทะเลาะกันในด้านความรักเท่านั้น โดยผู้ตายแชนต้าพยายามที่จะแย่งแฟน (เลสเบี้ยน) ของมาลินด้า ทำให้มาลินด้าผูกใจเจ็บ และร่วมมือกับเพื่อนของเธอซึ่งเรียกว่า "แก๊งแม่มด" ลักพาตัวเธอไปทรมานและฆ่าอย่างโหดเหี้ยม และนี่คือคดีฆาตกรรมที่สะเทือนขวัญที่สุดในรัฐอินเดียน่า




# แชนด้า แชร์เรอร์ 

แชนด้า แชร์เรอร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1979 ในโรงพยาบาลชุมชนของเมืองไพน์เคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์เรื่องกีฬา สมัยเรียนเกรดห้าและเกรดหกเธอทำกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเชียร์ลีดเดอร์ วอลเลย์บอล และร่วมทีมซอฟต์บอลของโรงเรียน หลังจากพ่อแม่หย่าร้างกัน แม่ของเธอได้แต่งงานใหม่และครอบครัวก็ย้ายไปลุยวิลล์ เมื่อแม่ของเธอหย่าร้างอีกครั้ง พวกเขาก็ย้ายไปยังเมืองนิวอัลบานี รัฐอินเดียน่า ในเดือนมิถุนายน 1991 เธอก็ลงทะเบียนเรียนโรงเรียนแห่งใหม่คือโรงเรียนมัธยมเฮเซลวูด ต่อมาเธอก็ไปศึกษาต่อที่โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิง และเธอก็สมัครเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล ในช่วงต้นปีที่แชนด้าย้ายโรงเรียนมา เธอก็ได้พบเด็กสาวคนหนึ่งอายุ 14 ปีชื่อ อแมนด้า เฮฟริท และไม่รู้เพราะเหตุใดทั้งคู่จึงทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ หากแต่เมื่อทั้งคู่ถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองลงโทษด้วยการกักบริเวณ ทั้งคู่ก็เกิดความสนิทสนมและจากความที่ไม่ชอบหน้ากันในตอนแรก กลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ซึ่งตอนนั้นแชนด้าไม่รู้เลยว่าอแมนด้านั้นมีเจ้าของคือ เมลินด้า เลิฟเลสเด็กสาวเจ้าอารมณ์ที่ชอบความรุนแรง และนี้คือจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญในเวลาต่อมา


# เมลินด้า เลิฟเลส 
เมลินด้า เลิฟเลส เด็กสาวนักเลงคนนี้เกิดในเมืองนิวอัลบานี รัฐอินเดียน่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1975 เป็นลูกสาวสุดท้องของพี่น้องสองคน แลร์รี่ พ่อของเธอเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ เคยร่วมสงครามเวียดนาม และได้เป็นวีรบุรุษหลังจากกลับจากสงคราม หากแต่ในช่วงหลังเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติคือชอบสวมใส่ชุดชั้นในของลูกสาวและชอบแต่งหน้า ส่วนอาชีพการงานก็ไม่แน่นอน ในปี 1972 เคยเป็นตำรวจแต่ก็ถูกไล่ออกเพราะทำร้ายคนบาดเจ็บหลังจากนั้นชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวตกต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นการล้มละลาย และความยากจนจนถึงขั้นแม่ของเธอเกือบฆ่าตัวตาย และทำอาชีพอะไรก็ล้มเหลวหมด ด้วยความกดดันแลร์รี่ก็หันมาทำร้ายเด็กๆในบ้าน เรื่องรุนแรงถึงขั้นแม่ของเธอตอบโต้เขาด้วยมีด และพยายามฆ่าตัวตายอีกครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ สุดท้ายเรื่องจบด้วยการฟ้องหย่ากัน ทำให้เมลินด้าคับแค้นใจอย่างมาก และยิ่งแค้นใจอีกเมื่อพ่อของเธอแต่งงานใหม่ จนถึงขั้นตัดขาดการติดต่อไปในที่สุด ด้วยมรสุมของชีวิต ทำให้เมลินด้ากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และมักหาเรื่องตบตีกับเพื่อนในชั้นเรียนอยู่เสมอ ด้วยประสบการณ์ชีวิตทำให้เธอกลายเป็นทอมบอยชอบผู้หญิงด้วยกัน และเมื่อเธออายุ 16 ปีเธอก็พบกับเพื่อนคือลอรี่ แทคเก็ต, โทนี ลอว์เรนซ์ และโฮป ริบเปย์ ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กมีปัญหาครอบครัวเหมือนกัน


# ลอรี่ แทคเก็ต 
ลอรี่ แทคเก็ต เด็กสาวที่เปรียบเสมือนคู่หูของเมลินด้า เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1974 ในเมืองเมดิสัน รัฐอินเดียน่า แม่เป็นพวกเคร่งศาสนาอย่างร้ายกาจ เคยบีบคอเธอเมื่อพบว่าเธอแอบเปลี่ยนกางเกงยีนส์ไปโรงเรียน ส่งผลทำให้เธอกับแม่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนั้นเธอก็ยังอ้างว่าเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศในขณะอายุ 5 ขวบและ 12 ขวบ ลอรี่เป็นเด็กสาวที่มักพยายามสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนของเธอ โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่างโฮปและโทนี่ โดยเฉพาะโฮปนั้นเธอว่าเป็นเพื่อนรักสนิทกันจนเกินเพื่อนเลยทีเดียว เธอชอบเรื่องไสยศาสตร์ โดยอ้างว่าเธอมีวิญญาณแวมไพร์ดีนน่าสิงอยู่ เคยเรียกร้องความสนใจด้วยการทำร้ายตนเอง หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกตนเองว่าเป็นทอมบอยชอบเพศเดียวกัน ในปี 1991 เธอเริ่มออกเดทกับผู้หญิง เมื่อพ่อแม่ทราบเรื่องก็พาเธอเข้าโรงพยาบาลเพราะเชื่อว่ามีทางจิตอารมณ์แปรปรวน มีอารมณ์ไม่คงที่ ชอบมีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง เคยพยายามฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาโฮปและโทนี่มาแล้ว เคยมีประสาทหลอนตั้งแต่ยังเด็ก หากแต่ไม่นานก็ถูกปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากเชื่อว่าเธอหายดีแล้ว


# โฮป ริบเปย์ 
โฮป ริบเปย์เป็นเด็กที่เกิดพื้นที่เดียวกับลอรี่คือเมืองเมดิสัน รัฐอินเดียน่า เมื่อเดือนมิถุนายน 1976 พ่อของเธอเป็นวิศวกรที่โรงไฟฟ้า ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเธอ, ลอรี่ และโทนีนั้น ทั้งสามเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเด็กอยู่แล้ว ต่อมาพ่อแม่ของเธอหย่าร้างกันในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1984 และเธอได้ย้ายไปควินซี รัฐมิชิแกนกับแม่และพี่น้องของเธอเป็นเวลา 2 ปี เธออ้างว่าในช่วงเวลานั้นเธอมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยมีความสุขมากนัก ต่อมาพ่อแม่กลับมาคืนดีกันในปี 1987 ทำให้เธอกลับมาที่เมดิสันและได้พบกับเพื่อนเก่าอีกครั้ง หากแต่ผู้เป็นพ่อเห็นว่าลอรีเป็นเด็กนิสัยไม่ดีและเป็นตัวอันตราย เลยบอกให้โฮปเลิกคบ หากแต่เธอไม่ฟัง และเช่นเดียวกับเมลินด้า เธอเองก็มีพฤติกรรมชอบทำร้ายตนเองเมื่อเธออายุ 15 ปี


# โทนี ลอว์เรนซ์ 
โทนี ลอว์เรนซ์ เกิดในเมืองเมดิสัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 1976 พ่อของเธอเป็นช่างเชื่อม อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับโฮป เช่นเดียวกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มของเธอ เธอมีสภาพจิตไม่ดีนัก เคยถูกทำร้ายโดยญาติเมื่ออายุ 9 ขวบและถูกข่มขืนโดยเด็กวัยรุ่นอายุ 14 ปี ถึงแม้ว่าตำรวจจะดำเนินคดีโดยออกคำสั่งให้เด็กชายคนดังกล่าวอยู่ห่างจากตัวเธอ แต่เธอมักแอบไปหาเขา ขอคำปรึกษาเรื่องต่าง ๆ บ่อยครั้ง เธอกลายเป็นเด็กรักสนุก และมีพฤติกรรมอารมณ์รุนแรง เคยทำร้ายตนเองด้วยการพยายามฆ่าตัวตายมาแล้ว


เรื่องราวโศกนาฏกรรมได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1990 เมลินด้าได้พบและออกเดทกับอแมนด้า หลังจากพ่อและแม่ของเธอแต่งงานใหม่ ในช่วงเวลาดังกล่าวเมลินด้ามีอารมณ์รุนแรงมากและหดหู่อย่างน่ากลัว ในเดือนมีนาคม 1991 เธอได้สารภาพกับแม่ว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน ทำให้แม่ของเธอโกรธมาก หากแต่ต่อมาแม่ของเธอก็ทำใจได้ แต่กระนั้นในเวลานั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอแมนด้าก็ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากอแมนด้าไม่ได้รักเมลินด้า อีกทั้งในตอนนั้นแชนด้าเข้ามาแทนที่ ส่งผลทำให้เมลินด้าไม่พอใจที่อแมนต้ารักแชนด้า (และมีความสัมพันธ์แบบเลสเบี้ยน) มากกว่าตน เธอเป็นคนขี้อิจฉาและยอมไม่ได้ที่อแมนด้าควงแขนแชนด้ามางานสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานโรงเรียนหรืองานเทศกาลแทนที่จะเป็นเธอ เมลินด้าตามงอนง้อขอคืนดี แต่อแมนด้าหมดรักกับเธอแล้วจึงปฏิเสธกลับมา ทำให้เมลินด้าเริ่มริษยาเคียดแค้นแชนด้าจนกลายเป็นศัตรู แชนด้าถูกขู่ฆ่าในที่สาธารณะ และเมื่อถึงจุดที่สิ้นสุดความอดทน มิลินด้าเรียกเพื่อนทั้ง 3 มาประชุมวางแผนแก้แค้นแชนด้า



คืนวันที่ 10 มกราคม 1992 ลอรี่, โฮป และโทนีขับรถไปที่บ้านของเมลินด้าเพื่อรับตัวเธอ เมลินด้าพกมีดครัวขนาดใหญ่ใส่ในกระเป๋าเสื้อไปด้วย โดยเธออธิบายแผนการแก้แค้นแบบเด็ก ๆ ว่าจะลักพาตัวแชนด้าน และทำการใช้มีดขู่ให้แชนด้ากลัว เพื่อไม่ให้มายุ่งกับอแมนด้าอีก ทั้งสี่คนบอกกับทางบ้านว่าจะไปนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน และพากันขับรถมาที่บ้านแชนด้า โดยบอกให้โฮปและโทนีไปหลอกแชนด้ามาที่รถ โดยหลอกว่าอแมนด้าส่งพวกเธอให้มารับแชนด้าไปพบที่ปราสาทแม่มด บ้านร้างที่อยู่ห่างไปไม่ไกล เนื่องจากแชนด้าไม่รู้จักโฮปและโทนี อีกทั้งพวกเธอก็อยู่ในวัยเดียวกับอแมนด้า ทำให้เธอหลงเชื่อง่าย ๆ โดยเธอบอกว่าเธอออกไปไหนไม่ได้เพราะพ่อแม่ยังไม่นอน ขอให้โฮปและโทนีกลับมารับเธออีกครั้งหลังเที่ยงคืน เมื่อสองสาวรายงานเรื่องนี้แก่เมลินด้า เธอโกรธมากในตอนแรก แต่กระนั้นเธอและพวกก็ตัดสินใจที่จะกลับมาเพื่อรับตัวแชนด้าในตอนหลัง จากนั้น 4 สาวได้เดินไปดูงานคอนเสิร์ตพังก์ร็อค และเมื่อหมดความสนใจ พวกเธอก็กลับไปที่จอดรถด้านนอกในสวนสาธารณะ เมลินด้าและลอรี่ก็มั่วจับเด็กผู้ชายสองคนเข้าร่วมกิจกรรมทางเพศกันฆ่าเวลา จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่นัดเอาไว้ พวกเธอก็ไปที่บ้านของแชนด้า โฮปและลอรี่เดินไปรับ แชนด้า ขณะที่เมลินด้าซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มที่เบาะหลัง เมื่อแชนด้าเข้ามานั่งในรถ เมลินด้าก็ออกจากใต้ผ้าห้มเอามีดจี้ที่คอของแชนด้า และบอกเธอว่าสาว ๆ ทั้ง 3 คน คือพวกของเธอเอง จากนั้นทั้งหมดก็พาแชนด้าไปที่ปราสาทแม่มด ซึ่งเป็นบ้านร้างตั้งอยู่เนินบนเขา ซึ่งวัยรุ่นในพื้นที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ในตำนานที่ครั้งหนึ่งมีเจ้าของเป็นแม่มด 9 คน และชาวบ้านจับพวกเธอไปเผา เมื่อถึงปราสาทแม่มด พวกเธอจับแชนด้ามัดแขนขา แชนด้าตกใจกลัวและเริ่มร้องไห้ ในขณะที่โฮปและโทนีรู้สึกใจคอไม่ดีเพราะสถานที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ซึ่งกลัวจะมีคนผ่านมาเห็น พวกเธอจึงเปลี่ยนสถานที่ใหม่ ลอรี่จึงลากตัวแชนด้าขึ้นรถอีกครั้งและขับพาไปยังถนนเปลี่ยวในเมืองเมดิสัน ใกล้กับบ้านพ่อที่เธอมาอาศัยอยู่ด้วยหลังจากออกจากโรงพยาบาลบำบัดจิต


เมื่อถึงที่หมายเมลินด้าและลอรี่ช่วยกันลากตัวแชนด้าลงจากรถ เมลินด้าสั่งให้แชนด้าถอดเสื้อผ้าออกจนล่อนจ้อน มันเป็นคืนที่อากาศหนาวเย็น โฮปและโทนี่ขอตัวไปหลบลมหนาวในรถ ขณะที่เมลินด้าและลอรี่สนุกสนานกับการทรมานแชนด้า ลอรี่ทำหน้าที่จับตัวแชนด้าให้อยู่นิ่ง ๆ ขณะที่เมลินด้าทำการตบสั่งสอน แชนด้าร้องด้วยความกลัวและเจ็บปวด เธอรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอแมนด้าอีก เมลินด้ารวบรวมกำลังและปล่อยหมัดฮุคเข้าที่ท้องแชนด้าสุดกำลังจนเธอทรุดลงไปกองกับพื้น เมลินด้าจิกหัวแชนด้าขึ้นมาตีเข่าหลายต่อหลายครั้งจนเลือดกลบปาก และไม่รู้เพราะอะไร จู่ ๆ เมลินด้าก็คว้ามีดที่นำมาด้วยเชือดคอแชนด้า แต่มีดทื่อมากจนฉือนไม่เข้าเนื้อ โฮปกระโดดลงมาจากรถเพื่อช่วยจับตัวแชนด้า เมลินด้าใช้เท้าช่วยกดสันมีดแต่มันก็ทื่อเกินกว่าจะทำให้เกิดบาดแผล เมลินด้าโมโหแเปลี่ยนมาใช้มีดแทงเข้าที่หน้าอกแชนด้าแทน บาดแผลไม่รุนแรงพอที่จะทำให้แชนด้าเสียชีวิต ลอรี่วิ่งกลับไปเอาเชือกที่รถมารัดคอแชนด้า เมลินด้าจับขาไม่ให้เธอดิ้นขณะที่ลอรี่นั่งทับหน้าอกเอาเชือกรัดคอแชนด้าจนกระทั่งเธอไม่กระดุกกระดิก จากนั้นพวกเธอก็ช่วยกันนำร่างแชนด้าใส่ท้ายรถ ขับตรงมายังบ้านลอรี่


ลอรี่พาเพื่อน ๆ ขึ้นไปบนห้องนอน ดื่มโซดา และทำความสะอาดตัวเอง จนกระทั่งพวกเขาก็รู้สึกถึงกรีดร้องของแชนด้าที่ร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากท้ายรถ จนลอรี่ทนไม่ไหวรีบวิ่งลงไปที่ครัวหยิบมีดทำครัวเล่มใหญ่และตรงไปที่รถ ลอรี่เปิดกระโปรงท้ายรถแล้วใช้มีดเล่มนั้นแทงแชนด้าหลายครั้ง จนตัวเธอโชกไปด้วยเลือด หลังจากนั้นเธอก็บอกกับเพื่อน ๆ ว่า เราต้องกำจัดมัน แต่คราวนี้โฮปและโทนีปฏิเสธที่จะร่วมมือ ลอรี่จึงขับรถออกไปพร้อมกับเมลินด้าเพียง 2 คน ระหว่างเดินทางแชนด้ายังคงมีชีวิตและร้องไห้เสียงดัง จนลอรี่หยุดรถทันทีที่เปิดกระโปรงท้ายรถ แชนด้าก็ลุกพรวดขึ้นนั่งเลือดท่วมตัว ตาเธอกลอกไปมาเหมือนไม่ได้สติ พูดจาไม่เป็นภาษา ลอรี่จึงตีเธอด้วยเหล็กถอดล้อ ตีจนกระทั่งเธอเงียบลง ลอรี่ ขับรถไปจนถึงถนนสายเปลี่ยว พลันเธอก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากท้ายรถ ลอรี่หยุดรถและลงไปเปิดกระโปรงท้ายอีกครั้ง แชนด้านอนแน่นิ่งเลือดท่วมตัว เธอพยายามพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่มีเสียงใดหลุดรอดออกมาจากปาก ลอรี่คว้าเหล็กถอดล้อมากระหน่ำตีซานต้าจนกะโหลกร้าว มันเป็นเวลาใกล้รุ่งสาง ลอรี่เปลี่ยนใจขับรถกลับบ้านโดยวางแผนจะเผาร่างของแชนด้าตรงบริเวณที่เปลี่ยวข้างทาง

ลอรี่และเมลินด้ากลับมารับโฮปและโทนีก่อนจะพากันไปซื้อน้ำมันเบนซินใส่ขวดเป๊ปซี 2 ขวดที่สถานีบริการน้ำมันใกล้โรงเรียนแมนดิสัน จากนั้นลอรี่ขับรถไปทางทิศเหนือไปยังถนนสายเปลี่ยว บริเวณเส้นทางสาย 421 พวกเธอลากแชนด้าที่ถูกคลุมด้วยผ้าห่มลงจากรถ ตอนนั้นเธอยังอยู่มีชีวิตอยู่ จากนั้นก็เทน้ำมันราดตัว ก่อนที่ลอรี่จะเป็นคนจุดไฟเผาร่างแชนด้าก่อนที่ทั้งหมดจะออกจากที่เกิดเหตุในไม่กี่นาทีต่อมา โดยทิ้งศพของแชนด้าไว้เบื้องหลัง หลังจากนั้นทั้ง 4 สาวก็แวะกินอาหารเช้า ที่ร้านแม็กโดนัลด์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซ้ำยังหัวเราะพลางเล่าเรื่องของแชนด้ากันอย่างสนุกสนาน ลอรี่กลับบ้านเพื่อทำความสะอาดรถ เพื่อทำลายหลักฐาน จนต่อมาในตอนเช้าวันที่ 11 มกราคม สองพี่น้องที่กำลังล่าสัตว์ก็ได้พบบางสิ่งบางอย่างอยู่ในฝั่งของถนน พวกเขาแจ้งตำรวจในเวลาสิบโมงและเมื่อตำรวจเข้ามา ก็เริ่มหาหลักฐานทางนิติเวชในสถานที่เกิดเหตุ ตอนแรกตำรวจสงสัยว่าเหยื่ออาจจะเป็นเด็กสาวที่มีเรื่องขัดแย้งกันในเรื่องยาเสพติดจนถูกฆ่า มากกว่าจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของคนในพื้นที่ ต่อมาพ่อของแชนด้าสังเกตว่าลูกสาวของเขาหายไป เขาจึงเรียกเพื่อนบ้านและเพื่อนของเขาออกตามหา หากแต่ไม่พบ จึงแจ้งคนหายต่อนายอำเภอ ในคืนเดียวกันโฮปเกิดสติแตกจากการได้เห็นแชนด้าตาย ส่วนโทนี่ได้พาพ่อแม่ไปที่สำนักงานตำรวจเพื่อสารภาพว่าเธอและ 3 สาวฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ แชนด้า ซึ่งนายอำเภอสังเกตว่าชื่อของเธอตรงกับรายงานแจ้งคนหายตัวไป


หลังจากนั้นนักสืบก็มาบ้านแชนด้า เพื่อขอรายงานทันตกรรม ก็พบว่าเธอคือเหยื่อที่ถูกไฟเผาตายนั้นเอง โดยมีสาเหตุมาจากขัดแย้งเรื่องความรัก ส่งผลทำให้ลอรี่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 มกราคม และสมาชิกคนอื่นก็ถูกจับในเวลาต่อมา คดีดงกล่าวได้กลายเป็นคดีโด่งดังประจำเมือง และทางการได้สั่งให้ทนายจำเลยและอัยการห้ามออกสื่อ ทั้งหมด 4 สาวได้รับการพิจารณาคดีแบบผู้ใหญ่ ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงโทษการประหารชีวิต ทั้งหมดเลยใช้วิธีเจรจาต่อรองขอรับสารภาพเพื่อขอลดโทษ เมลินด้า ลอรี่ และโฮป ถูกตัดสินจำคุก 60 ปี ในเรือนจำผู้หญิงในอินเดียน่าซึ่งทั้งสองคนจะไม่ได้รับสิทธิพิจารณาการลดหย่อนโทษจนกว่าจะถึงปี 2020 โทนีถูกตัดสินจำคุก 20 ปี เธอได้รับการลดหย่อนโทษเพราะความประพฤติดี ถูกปล่อยตัวในปี 2000 และโฮปได้รับการปล่อยตัวในปี 2006 แม้ว่าหลายคนไม่พอใจกับโทษดังกล่าวมากนักเพราะมันเบาเกินไป อย่างไรก็ตามทนายความของจำเลยพยายามที่จะขอลดหย่อนโทษเนื่องจากการต่อรองของพวกเธอทั้ง 4 คน ปราศจากความยินยอมของผู้ปกครอง และผู้ปกครองไม่ยอมรับ ขณะเดียวกันทนายของเมลินด้ากำลังดำเนินเรื่องเพื่อขอให้ศาลลดหย่อนโทษ ชาวบ้านที่ทราบข่าวได้รวมตัวกันล่ารายชื่อได้มากเกือบหมื่นรายชื่อเพื่อเรียกร้องให้ศาลไม่รับพิจารณาคำร้องของทนายจำเลย สุดท้ายคำอุทธรณ์ดังกล่าวได้ตกไป


ในปี 1995 ลอรี่ และเมลินด้าได้ออกข่าวอีกครั้ง เมื่อทั้งคู่พยายามฟ้องร้องเรือนจำที่พวกเธออ้างว่าได้รับการปฏิบัติโหดร้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากถูกละเมิดสิทธิมนุษย์ชน ซึ่งพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้นอนบนเตียงในช่วงกลางวัน และไม่อนุญาตให้อ่านหนังสือพิมพ์








Create Date : 16 ตุลาคม 2557
Last Update : 16 ตุลาคม 2557 16:19:04 น. 1 comments
Counter : 2586 Pageviews.

 
นางโหดจัง


โดย: แอดมินนุ เพจตำนานอาถรรพ์ IP: 180.183.18.248 วันที่: 4 เมษายน 2558 เวลา:15:43:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.