Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
พักก่อน...บล็อคเน่าอย่างรุนแรง


ช่วงนี้ยุ่งมากค่ะ ของดอัพบล็อคชั่วคราวค่ะ


Create Date : 04 กันยายน 2550
Last Update : 4 กันยายน 2550 22:46:39 น. 156 comments
Counter : 673 Pageviews.

 
เย้เข้าคนที่ 1 เป็นครั้งที่ 2


โดย: ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม 6/1 IP: 125.27.174.224 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:16:22:36 น.  

 
ถึงคนที่2ก็ไม่เป็รไร


โดย: null IP: 222.123.101.111 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:44:54 น.  

 
ครูเบญไม่ตั้งคำถามประจำสัปดาห์
แล้วหรือคะ ว้า


โดย: กานต์ IP: 125.27.172.198 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:46:04 น.  

 
เดี๋ยวจะเอารูปเอมม่า มาให้ดุเป็นระยะๆนะ..ไม่ต้องห่วง

ป.ล.จดหมายนี้มาจากชานชาลาที่9เศษ3ส่วน4
ง่วงแล้ว บาย


โดย: null IP: 222.123.101.111 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:47:05 น.  

 
เย้ๆๆๆๆ!!!!!เมื่อวานวันเกิดหนูนะค่ะ

อยากได้คำว่า สุขสันวันเกิดจากครูเบญจัง




สา-หวัด-ดี-ค่ะ



มาคนที่ 3 บาย



โดย: พรหมสร IP: 125.27.171.134 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:48:17 น.  

 
3 ในใจครู


โดย: พรหมสร IP: 125.27.171.134 วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:20:49:19 น.  

 


สุขสันต์วันเกิดนะคะ หนูพรหมสร
ขอให้หนูเป็นเด็กดี..เป็นที่รักของทุกๆคน..
และเป็นศิษย์ที่น่ารักของครูเบญตลอดไป...


โดย: ครู'..เบญ IP: 61.19.153.195 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:9:57:09 น.  

 
อยากเห็นระบบ chat บน blog ครูเบญเร็วๆจัง


โดย: ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม 6/1 IP: 125.27.172.183 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:16:59:13 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะสำหรับคำอวยพร

แล้วก็สหวัดดีค่ะคุณครูเบญ


นู๋ยีนส์รักครูเบญที่สู้ด....เลยค่า

เดี๋ยวนี้ครูเบญอยู่ไหนค่ะ นู๋ไม่ได้เจอครูเบญนานมากๆๆๆๆๆๆเลย

จริงๆนะค่ะ ไม่เจอเลยคะ





แต่ไม่เป็นไรคะ มาหาครูที่เว็บนี้ท้กวานได้เนี่ย
.....................หนูก็พอจายแล้วคะ


ขอให้ครูเบญมีความสุขนะค่ะ


บาย

g src=https://www.bloggang.com/emo/emo3.gif>


โดย: พรหมสร IP: 125.27.175.131 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:17:43:55 น.  

 
ครูเบญขา...
วันนี้เรียนพิเศษสนุกมากเลยค่ะ
ได้แต่งคำคล้องจองแต่น่าสงสารคนที่อยู่หลังๆนะคะ


โดย: เด็กหญิงนิรนาม IP: 125.25.156.249 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:18:32:45 น.  

 
มาเยี่ยมคะ
ไม่ค่อยว่างเลย
..ว่างวันไหนจะส่งรูปมานะคะ


ป.ล.ระวังนกฮูกกัด


โดย: null IP: 58.147.115.157 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:20:22:13 น.  

 
ไม่รู้ทำไมพิมพ์ชื่อแล้วขึ้นคำว่าnullแทน........
...........แงๆๆๆ


โดย: null IP: 58.147.115.157 วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:20:23:27 น.  

 
harry-emma


โดย: null IP: 222.123.149.238 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:19:52:11 น.  

 
-


โดย: null IP: 222.123.149.238 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:19:52:49 น.  

 
luna กลับมาแล้ว


โดย: ilovehellokitty IP: 124.157.181.240 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:20:48:50 น.  

 
เฉลยจ้า nullก็คือเอมม่า วัตสันนั่นเอง
วันนี้มีอะไรจะมาแฉ(ผู้ชาย)คือเราเรียกพวกผู้ชายด้วยชื่อแบบนี้
1.เวฟ-บาร์บี้
2.นิว(ผู้ชาย)-บอนนี่
3.บอล-เจเนวีฟ
4.เลขา-พริตตี้
5.ฮิวโก้-คิตตี้
6.เจมส์-สเตฟานี่
7.อาร์ม-ฮันนี่
8.เต้-ออเรนจี้
9.น็อต-แนนซี่
10.ดาฟ-เดซี่
11.บัส-พอลลี่
12.คอฟ-ซาร่า
13.แม็ก-ซาลาฟีนาร์


โดย: null IP: 58.147.113.32 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:9:15:53 น.  

 
ใครอยากรู้บ้างว่า ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม 6/1 คือใคร


โดย: ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม 6/1 IP: 125.27.175.249 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:11:08:58 น.  

 
อยากรู้เหมือนกันว่าใคร


โดย: ไม่ประสงค์ออกนามเหมือนกัน6/1 IP: 124.157.245.234 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:24:27 น.  

 
นี้คือ blog ของครูของหลานหนิงเหรอจะทำสวยดีนะคะหลานหนิงบอกให้อาลองเข้าดู


โดย: อาของหนิงเอง ( อาแอน ) IP: 125.27.174.174 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:36:49 น.  

 
ใครคืออาของเราหว่า เพราะเรามีอา 2 คนเอง ชื่อาแป๋วกะอาปู อาแอนไม่มีนี่หว่า
(ถ้าลุงแอนน่ะ มี)งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง


โดย: หนุงหนิง(หมีควายน้อยๆ) IP: 125.25.223.180 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:57:43 น.  

 
ครูเบญคะช่วยหนูที ครูช่วยเป็นโคนัน สืบให้ทีว่าใครคืออาแอนผู้ต้องสงสัย (เค้าส่งเมล์ไปด้วย เป็นเมล์ของ ธนพร ผลพานิช แต่เจ้าตัวปฏิเสธเสียงแข็งโป๊ก แล้วก็ของคนอีกคนที่ชอบณัฐพิชาอะไรนี่แหละค่ะ) นะค้า ครูเบญที่สวยที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดในโกหาใดไม่เปรีบเทียบ ดุจหยาดฟ้าแต่กระยาหงานนนนนนนฯลฯ


โดย: หนุงหนิงรอบ2 IP: 125.25.223.180 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:14:03:30 น.  

 
เอมม่า วัตสันก็มีชื่อน้า เจอขี้ แล้วก็ พอลเล่อร์ เทแกลบงั้ย


โดย: เด็กไม่มีปัญหาและปัญญา555 IP: 125.25.223.180 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:14:06:30 น.  

 
เอมม่า วัตสันก็มีชื่อน้า เจอขี้ แล้วก็ พอลเล่อร์ เทแกลบงั้ย


โดย: not6/1 IP: 124.157.245.234 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:16:19:05 น.  

 
เฉลยจ้า nullก็คือเอมม่า วัตสันนั่นเอง
วันนี้มีอะไรจะมาแฉ(ผู้ชาย)คือเราเรียกพวกผู้ชายด้วยชื่อแบบนี้
1.เวฟ-บาร์บี้
2.นิว(ผู้ชาย)-บอนนี่
3.บอล-เจเนวีฟ
4.เลขา-พริตตี้(ชนันท์)
5.ฮิวโก้-คิตตี้
6.เจมส์-สเตฟานี่
7.อาร์ม-ฮันนี่
8.เต้-ออเรนจี้(ส้มorange)
9.น็อต-ไม่มี
10.ดาฟ-เดซี่
11.บัส-พอลลี่
12.คอฟ-ซาร่า(ปิ๊)
13.แม็ก-ซาลาฟีนาร์


โดย: not6/1 IP: 124.157.245.234 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:16:22:22 น.  

 
ไม่ได้มาวานเดียว โห





สา-หวัด-ดี

ครูเบญค่า I LOVE KU BEN VERY MUCH

ไม่มีอารายมากมายค่ะ

บาย




โดย: พรหมสร IP: 125.27.170.216 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:18:35:19 น.  

 
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม6/1คือใคร


โดย: poohsun IP: 58.147.118.52 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:19:07:04 น.  

 
อยากบอกว่าชอบอุ้ยมากๆๆๆ


โดย: ห้อง5 IP: 61.19.65.168 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:21:26:42 น.  

 
ไรเนี่ย ด่าเพื่อนชื่อ บาร์บี้ เราชื่อแฮรร์รี่ ต่างหาก


โดย: เวฟโคตรหล่อ IP: 61.19.65.248 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:23:12:17 น.  

 
เชื่อตาย ว่าเวฟเป็นแฮร์รี่ เพราะถ้าเป็นสงสารอันมากกว่าเพราะ อันเป็นจินนี่ ลูน่าจะเป็นลม เอามาฝาก



โดย: ออกนามว่าluna IP: 58.147.115.31 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:10:17:48 น.  

 
emmaคุณควรระวังตัว โรงเรียน H ไม่ปลอดภัยแล้ว

จากคุณที่ไม่ควรเอ่ยนาม

ปล.อ่านแล้วโยนเข้าเตาผิงประจำบ้านเราเวนคลอ

เจ้าแห่งศาสตร์มืดกลับมาแว้ว




โดย: ออกนามว่าluna IP: 58.147.115.31 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:10:25:16 น.  

 
ใครรู้บ้างว่า ครูเบญเกิดวัน ที่เท่าไหร่ เรารู้ 3 เม.ย 2527 เมลล์ของครูก็ คือ cunconlek_ben@hotmail.com

เราคือ คนคน 1 ในแก๊งค์ ฮิฮิ


โดย: ผู้ประสงค์ไม่ออกนาม 6/1 IP: 125.27.173.68 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:12:17:17 น.  

 
โย่สวีดัส(สวัสดี)เจ้าข้าเอ๋ย
พวกนี้ชอบใช้ชื่อขิขุจังแถม
ยังไม่เข้ากับหน้าตาอีกโห
ทำไปได้เพื่อนเรารีบๆๆ
เปลี่ยนโดยด่วนเลยน่ะ
เฟ้ย


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.10 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:08:39 น.  

 
ฉันขอโทษ
สายฝนที่โปรยปราย
เธอกำลังร้องไห้อยู่ใช่ไหม
ฉันขอโทษที่ทำให้เสียใจ
และฉันเองก็คงรู้สึกไม่ต่างไป.. จากเธอ
แค่รู้สึกเมื่อรัก

แค่รู้สึกเมื่อรัก
เมื่อรู้จักได้ฝากผัน
ได้พบเจอเธอทุกวัน
แค่เท่านั้นก็สุขใจ

ฉันขอโทษ
ฉัน...ขอโทษ..
ไม่ว่าเธอจะโกรธกันสาเหตุไหน..
ฉันก็คงไม่มีคำพูดใดๆ.
อยากบอกให้เข้าใจ..
แต่พูดอะไรออกไปก็คงเป็นแค่..." คำแก้ตัว "


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:26:20 น.  

 
กลอนน่ารักๆ *สำหรับคนปากแข็ง*
ก็คำว่ารักมันพูดยาก

เสียงหัวใจมันดังตึกตัก...
เวลาเธอเข้ามาทักหรือส่งยิ้มให้
...ใจหนออย่าบอกซิว่าฉันรักใคร
เดี๋ยวเค้าก็ได้รู้กันพอดี...
ก็ปากน่ะมันแข็งขยับทีแสนลำบาก
แล้วจะให้พูดคำยากยากแบบนั้นได้เหรอ?
เอาเหอะ...เพื่อความรัก ฉันต้องทำได้เพื่อเธอ
แล้วโอกาสหน้าจะบอกว่า"รักเธอ"เสมอ...สุดหัวใจ


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:30:19 น.  

 
คนปากเเข็ง

ใจจริงน ะชอบแต่ปากบอกว่าไม่
ใจจริงนะห่วงใย แต่ปากบอกว่าป่าว
ใจจริงนะเป็นห่วง แต่ปากบอกไม่เลย
ใจจริงนะ อยากเป็นคนคุ้นเคย
แต่ปากไม่ตรงกับใจ

ผู้ชายไม่ใช่อากาศ ขาดนายไปก็ไม่ตาย

ดูผู้หญิง

ดูผู้หญิงอย่าดูที่ภูมิศาสตร์
ต้องดูที่ประวัติศาสตร์
ว่าเธอเสียเอกราชมาแล้วกี่ครั้ง

คนรักเพื่อน
เพื่อนคนที่ปลดทุกข์ให้เรา
เราควรปลดทุกข์เพื่อน
แต่คงไม่ทนแล้ว
เพราะจากกันไปแล้ว
อย่างบอกคนที่ยังไม่ขาดเพี่อนว่า
ควรดูแลเพื่อน
ควรรับฟังเพื่อน
ก่อนที่เพื่อนจะไม่ได้อยู่กับเรา


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:32:50 น.  

 
ฉันเองที่มันโง่ไปรักเธอ
พอกันทีกับความฝันที่มันไม่มีทางเป็นจริง
"ไม่รักทำไมไม่บอกปล่อยให้ฉันคิด
ไปเองทำไม พอฉันรู้ตัวว่าที่จริงแล้ว
เธอไม่ได้รักเธอรู้ไหมว่าฉันเสียใจ
มากขนาดไหน ไม่รักก็ควรจะบอก
ตั้งแต่ทีแลกจะมาหรอกกันทำไม
เสียแรงที่ฉันรักคนอย่างเธอ
(ฉันจะใช่เวลาที่เหลือทำใจเพื่อจะ
ตัดใจจากเธอ มันต้องมีสักวันที่
ฉันทำได้ ฉันจะลืมเธอให้ได้
จะไม่ให้เหลือแม้แต่ความทรงจำ)"

เพราะว่ารัก แต่ได้กลับมาแค่คำ ว่า เพื่อน
เพราะรักคนบางคน
แต่เค้าคนนั้นไม่รับความรักจากผมไป
คำว่า เพื่อน คือ คำ ที่ เค้าบอกกับ ผม
ทำไงดีล่ะ
เพื่อนผมบอกว่าถ้าเอ๋งกล้าก็ได้
ถ้าอายเอ๋งก็อด จำไว้
คำว่า เพื่อน นี่แหละ
คือจุดเริ่มของความรัก

แค่คน...
ฉันอาจเป็นแค่...คนเคยรัก
ฉันอาจเป็นแค่...คนรักหาย
ฉันอาจเป็นแค่...คนสุดท้าย
ฉันอาจเป็นแค่...เพื่อนของเธอ...
ถึง ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรักมาก...
บีเรารักเธอนะแต่เราไม่อาจจะรัก
คนที่มีแฟนแล้วอย่างเธอได้
เราจะขอหยุด"รัก"ของเราไว้
ที่"เพื่อน"นะ เจ็บแต่จำต้องหยุด...
รักแต่ไม่อาจเกินกว่านี้ได้

จากคนส่งถึงคนอ่าน
คนส่งขอสาบาน
ว่าจะรักคนอ่านตลอดไป(ไม่จริงหรอกอย่าคิดมาก)


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:36:34 น.  

 
อ ย า ก จ ะ เ ป็ น ห ม อ น ข้ า ง ใ ห้ เ ธ อ ก อ ด
อ ย า ก จ ะ เ ป็ น ท า ม ม า ก๊ อ ต ใ ห้ เ ธ อ เ ลี้ ย ง
อ ย า ก จ ะ เ ป็ น ตุ๊ ก ต า อ ยู่ บ น เ ตี ย ง
จ ะ ไ ด้ เ คี ย ง ข้ า ง เ ธ อ ต ล อ ด ไ ป

ไ ม่ มี ถ้ อ ย คำ ม า เ รี ย ง ร้ อ ย เป็ น อั ก ษ ร
ไ ม่ มี บ ท ก ล อ น ห ว า น ซึ้ ง ม า เ ส น อ
มี เ พี ย ง ห นึ่ ง หั ว ใ จ ที่ ใ ห้ เ ธ อ
รั ก แ ล ะ ภั ก ดี เ ส ม อ ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง

เ ป็ น อ ย่ า ง ไ ร บ้ า ง
ส บ า ย ดี ไ ห ม
คำ ถ า ม จ า ก ค น ห่ า ง ไ ก ล
ที่ ส่ ง ไ ป ไ ม่ ถึ ง เ ธ อ

..อันสตรีมีรูกูไม่ยุ่ง
..กุจะมุ่งภาคเพียรเรียนศึกษา
..หากวันใดกุติด0ทุกวิชา
..กุจะมุ่งหาสตรีที่มีรู

อยากขอบคุณเธอในความรักที่มีให้
ขอบคุณในความไว้ใจที่มีให้กันมาเสมอ
ขอบคุณที่วันนี้เปิดโอกาสให้ฉันได้รัก
เธอ ขอบคุณในทุกสิ่งที่เธอทำให้
ฉันมาเสมอ...ไม่เปลี่ยนแปลง

ไม่รู้จะเปรียบคำขอบคุณเป็นคำไหน
ที่จะสามารถใช้พูดแทนความรู้สึกใน
ใจฉัน เพราะว่าสิ่งที่เธอให้มานั้น
มันยิ่งกว่าร้อยพันคำที่ฉันจะบอกไป

คงไม่อาจหาคำใดมาบอกเธอ
เพราะสิ่งที่พบเจอมันไม่ได้หากันง่ายๆ
แต่มีคำหนึ่งที่อยากบอก...มาจากใจ
คือคำว่า "รักเธอ" ไง ที่อยากบอก
ตลอดมา...

เวลาที่รู้สึกเหงา
เธอคอยปลอบใจเฝ้าดูแล
เวลารู้สึกท้อแท้
เธอคอยแคร์และห่วงใย
เวลาที่ฉันอกหัก
มีใครล่ะ ซับน้ำตาให้
ก็มีแต่เธอที่คอยปลอบขวัญให้กำลังใจ
ไม่คอยตอกย้ำให้เจ็บไปกว่าเดิม


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:14:38:51 น.  

 
null-emma

ใครว่างๆก็เข้าไปที่
creamsun.exteen.com ได้24ชั่วโมงเด้อ

ป.ล.ต้องขอโทษที่ที่ไม่ค่อยได้ส่งรูปมาบ่อยใครอยากดูเยอะๆก็เข้าไปที่creamsun.exteen.comเองละกัน

ป.ล.(อีกหน) จดหมายนี้ถูกส่งมาจาก
บาย


โดย: null IP: 222.123.101.151 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:15:04:20 น.  

 
null-emma
พอดีใจมันอยากจะลงรูป(อล่าลืม...ถ้าอยากดูมากกว่านี้ไปดูที่creamsun.exteen.comi.....ที่บล็อกจะมีลิงค์ไปเว็บต่างๆของเอมม่า วัตสันด้วย......ยิ่งตอนนี้เอมม่ากำลังเล่นหนังเรื่องใหม่ด้วย)














บาย..................................


โดย: null IP: 222.123.101.151 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:15:35:31 น.  

 


โดย: wave IP: 125.27.172.128 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:18:10:53 น.  

 
น่ารักจัง มีเขี้ยวด้วย


โดย: รัก s เสมอ IP: 125.27.172.128 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:18:12:38 น.  

 


โดย: YOW IP: 125.27.172.128 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:18:54:48 น.  

 
โห ไม่เข้ามาประมาณ 2 วัน
เพื่อนเข้ามากันเพียบ
แล้วคนที่ตั้งชื่อให้คนอื่นนี่
คิดได้ยังไง ทำไปได้
อยากบอกคนทำว่า.......
....................................
เธอเก่งจริงๆ ขอยกย่อง
(แทนที่จะด่า ดันชมซะนี่)
ไปละน้า บาย....



โดย: กานต์ เองแหละหนา IP: 125.27.171.127 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:17:49:20 น.  

 
โดนแต่ครูว่า


นู๋ทามไรไม่ดีนักหนาน้า แค่ไม่เชื่อฟังครู

ไร่สาระ ชอบแกล้งเพื่อน ทามไรแผลงๆ

อยู่ไม่นิ่ง พูดมาก แก่รนเกินตัว แก่แดด

ซน ดื้อ ชอบพูดเสียงดัง ฯลฯ (ตั้งใจเรียนนะ)


แค่นี้เองอะครู


เอ่อ สา-หวัด-ดี-ค่ะ-ครูเบญ



อืมที่กล่าวไปทั้งหมด แค่ 0.1% เต็ม 100.0%

แต่ทว่าไป ไม่ใช่มีอะไรมากมายอะครู

เรื่องเล็กๆเอง ชิมิ

ครูนู๋มาเพื่อบอกแค่นี้แหละครู ชิมิ อ่าวไปนะ

อืม ไม่ค่อยได้พบครูเลย บางครั้งเจอแต่ก็ไม่ได้ทัก

นู๋รู้คะครูว่าครูไม่มีเวลา

แต่ทว่าไป นู๋อยากย้อนเวลามาเรียนวิชาภาษาไทยกะครูอีกอะ

คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครูที่ สู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเลยคะ





เฮ้ย นู๋ขึ้น ป.6 ปีหน้าครูอย่าหนีนู๋อีกนะค่ะ

ครูต้องสอนนู๋ให้ได้เลยนะค่ะ

. นะครูนะ






สุดท้ายนี้


ขอให้ครูเบญแข็งแรง มีความสุข

สุขทั้งกายทั้งใจ สมหวังเรื่องความรักและเงินทอง

อิอิ......เสริมหน่อย ขอให้ครูเบญลดวามอ้วนได้ดังที่หวังด้วยนะค่ะ


. ขอโทษค่ะครู นู๋ล้อเล่นนะค่ะอย่าโกรธนะค่ะ


ขอโทษจริงๆค่ะ เอาเป็นว่า บาย



โดย: พรหมสร IP: 125.27.172.248 วันที่: 10 กันยายน 2550 เวลา:21:06:19 น.  

 
หือๆๆๆๆๆ


สาหวัดดีค่ะครูเบญ
เดี๋ยวนู๋ค่อยเอารูปน่าร๊ากๆมาฝากนะค่ะครู


เอาละนู๋คงพิมพ์อีกนานมะมาก

ครูเบญค่า.....................................นู๋คิดถึงครูที่สู้ดเลยค่ะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้เจอกับครูอีก

เพลงนี้นู๋ขอมอบให้ครูนะค่ะ

-----ก็ใจมันคิดถึงเธอ
-----มันเฝ้า อิน เลิฟ ถึงเธอ-------------

อิอิ ร้องได้แค่นี้อะ

. จำเนื้อบ่ได๋

ฮาฮาฮา+ 555+ ฮี่ฮี่ฮี่+ โฮโฮโฮ+

สุดยอดเลยเนอะ นู๋ไปแล้ว


อ้าวว่าตัวเองซะงั้น งง...นะเนี่ย

งง. อย่ารุนแรงเลยครู อยู่ๆก็ว่าตัวเอง ชีวิตหนอชีวิต





เอาเป็นว่า

.............................................................................................................................................................................................................................................................................. ก็แล้วกานเนอะ


อิอิ....

ถ้าอยากทำบุญหรือตรวจสอบว่าตัวเองมีบุญหรือป่าวให้โทรมาเบอร์นี้

1900-1900-555-โฮโฮโฮ-ฮี่ฮี่ฮี่-ฮุฮุฮุ-บ๊องบ๊องบ๊อง

เฮ้ยเอาอีกแล้ว


ครูเบญช่วยจำนู๋ส่งสาที่อะครู

-----สาธัญยี------- ศรีธัญยา

ครูเขียนงี้เปล่าอะ ชั่งเหอะให้พออ่านออกก็ได้ อุอุ

ครู นู๋อยากให้ครูพักผ่อนมะมาก นะค่ะ

เป็นห่วงมาก ปล. รักครูที่สู้ดดดดด

ค่ะ ถ้างั้นนุ๋บายก่อนนะค่ะ





โดย: พรหมสร IP: 125.27.171.79 วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:17:48:50 น.  

 
โอ้วเก่งกังจริงๆๆ


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.10 วันที่: 11 กันยายน 2550 เวลา:18:20:18 น.  

 
เย้ๆระบบแชทเปิดแล้วแต่ไม่มีคนคุยเลย


โดย: เด็กหญิงนิรนาม IP: 125.25.182.48 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:17:36:34 น.  

 
ไม่มีใครเข้าแชทเลย


โดย: null IP: 222.123.247.241 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:18:11:41 น.  

 
null-emma
วันนี้จะมาแฉผู้หยิงบ้างละ(บางคนยังไม่ได้คิด)
1.หวาย-เซลซีร์
2.ตั๊ว-แองจี้
3.สุ่ย-แจสซิก้า
4.ครีม-เอมม่า
5.หนิง-ลูซี่
6.พลอยใหญ่-จีจี้
7.นกใหญ่-แจสซี่
8.เจนนี่-เจนนิเฟอร์
9.การ์ตูน-แกร์ลี่
10.ฝน-แฟร์ลี่
11.สอง-วากุระ

แค่นี้ก่อนนะ..บาย


โดย: null IP: 222.123.247.241 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:18:18:13 น.  

 


โดย: เด็กหญิงนิรนาม IP: 125.25.182.48 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:18:45:45 น.  

 
อ๊ากกกกกก-------


ระบบแชทอยู่ไหนอ่า



โดย: พรหมสร IP: 125.27.181.20 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:20:17:20 น.  

 
ไม่ค่อยมีใครเข้าห้อง chat room เลยอ่ะ
เหงาเนอะ ถ้าใครยังหาห้อง
chat roomไม่เจอ ก็ลองไปที่ ข้างบนขวามือ
แถวๆนั้นแหละ อยู่ไม่เกินความคิดเห็นที่ 11 น่ะ
(ในเครื่องของเรานะ ของคนอื่นมันอยู่ตรงนั้นรึเปล่าเราก็ไม่อาจทราบได้) เป็นอันว่า ok นะ
อย่าลืมเข้านะ เงียบๆพิลึก ไม่ค่อยมีคน


โดย: กานต์จ้ะ IP: 125.27.175.110 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:18:12:33 น.  

 
ครูเบญไม่มีไอเดียนำเพลงมาเปิดในบล็อกบ้างหรอคะ
เพลินหูดีนะคะ
คำถามเมื่อไรจะมาคะ รอนานแล้วหนา


โดย: กานต์จ้ะ IP: 125.27.175.110 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:20:58:30 น.  

 
เราได้เล่นกับกานต์แล้วกานต์จาได้ไม่เหงา นีร อะเราพิมพ์ผิด จริงๆแล้วเราชื่ออารายก็ลองคอดดูนะ



เพียงง่ายๆ เปลี่ยนภาษาท่านก็จาได้พบกับชื่อที่แท้จริงของเรา


โดย: นีร IP: 125.27.171.237 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:21:23:57 น.  

 

อุ้ยเรากะว่าจะเข้ามาแช็ตบ้างอ่ะนะอุ้ยจะแช็ตตอนไหนบอกเราด้วยนะจ๊ะ บาย................จ๊ะ


โดย: ไม่ต้องการที่จะบอกให้ใครทราบ(ไอซ์) IP: 125.27.170.216 วันที่: 13 กันยายน 2550 เวลา:23:01:28 น.  

 
เมื่อปลายเดือนพฤษจิกายน(2541) ผมได้ดูรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเป็นการแสดงของเด็กที่มีชื่อกลุ่มว่าสมัชชาเด็ก เด็กเหล่านี้ได้แสดงละคร แสดงหุ่นกระบอก หนังตะลุง และแสดงสิ่งต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดเห็นและความรู้สึกของพวกเขาเกี่ยวกับปัญหาการเรียนการสอนที่พวกเขาได้พบ เมื่อดูแล้วมีความรู้สึกว่าเด็กๆสะท้อนภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเรียนการสอนได้อย่างดี ปัญหาการเรียนการสอนที่ทำให้เด็กไม่มีความสุขในการเรียนถูกถ่ายทอดออกมาหลายเรื่อง เช่น สภาพการเรียนการสอนที่น่าเบื่อหน่าย คุณครูใจร้ายที่ไม่เข้าใจเด็กเฆี่ยนตีและดุเด็ก คุณครูที่ไม่ค่อยมาสอน คุณครูที่สั่งการบ้านมากเกินไปจนเด็กต้องทำงานดึก หรือคุณครูขี้เมาที่มีกลิ่นสุราติดตัวเข้ามาสอน ในทางกลับกันเด็กๆอยากให้คุณครูรักและเข้าใจพวกเขามากขึ้นไม่ดุพวกเขาและไม่ทำโทษพวกเขา(Jจากสาเหตุที่เขายังเด็กเขายังไม่รู้) อยากให้คุณครูใจดีกับพวกเขา มีเทคนิคการสอนที่สนุกและอยากมีสภาพห้องเรียนที่พวกเขาเรียกว่าห้องเรียนในฝันเป็นห้องเรียนที่มีแต่ความสุขJในการเรียนรู้

การเสนอปัญหาต่างๆเหล่านี้จากมุมมองของเด็ก ทำให้คนที่ดูหลายๆคนมีความเห็นพ้องกับเด็กๆเนื่องจากสมัยที่ตนเองเรียนก็เคยสัมผัสกับบรรยากาศเหล่านี้มาแล้ว จากสิ่งที่เด็กๆเสนอมาครูอาจารย์บางท่านอาจมีความรู้สึกคาดไม่ถึงว่าเด็กๆจะสังเกตการสอนของครูโดยมองเห็นปัญหาและสะท้อนปัญหาเหล่านี้ออกมาได้ สิ่งที่เด็กๆเสนอออกมาทำให้ครูหลายๆคนเข้าใจความรู้สึกของเด็กๆมากขึ้น มีความรู้สึกว่าในการเรียนการสอนที่ผ่านมาคุณครูมักจะละเลยความรู้สึกของเด็กๆเหล่านี้ และจากการได้เห็นสิ่งที่เด็กๆเสนอออกมาทำให้ครูบางท่านเริ่มปรับเปลี่ยนการสอนรวมทั้งหาวิธีการสอนที่เหมาะสมมาใช้กับวิชาที่ตนเองสอน เพื่อพยายามให้เกิดห้องเรียนในฝันอย่างที่เด็กๆต้องการ

พวกเราหลายคนอาจจะเคยสัมผัสกับปัญหาที่เด็กๆนำเสนอมาบ้าง ทั้งในบทบาทของครูเอง หรือบทบาทซึ่งครั้งหนึ่งตนเองก็เคยเป็นนักเรียน สิ่งที่พบบ่อยในสมัยที่เราเป็นผู้เรียน คือ ความเบื่อหน่ายต่อการเรียน , ง่วงและหลับในห้องเรียน , ลองนึกดูว่าในสมัยที่เราเป็นนักเรียนก็คงมีบางวิชาที่เราไม่ชอบและเปรียบวิชานั้นเสมือน "ยาขม" สำหรับเรา เมื่อเราไม่ชอบเราก็ไม่อยากเข้าเรียน ถ้าเข้าไปเรียนก็รู้สึกเบื่อเพราะเรียนไม่รู้เรื่อง , ไม่มีความสุขกับการเรียนวิชานั้น หรือถ้าเลือกได้เราก็คงไม่เรียนวิชาที่เปรียบเสมือน"ยาขมL" สำหรับเรา แต่ในทางกลับกันมีบางวิชาที่เรารู้สึกว่าเราชอบ "J"เราอยากเรียน เรามีความสุขกับการเรียนวิชานั้นมาก เมื่อถึงวันที่มีวิชานี้เราจะรู้สึกดีใจ (Jแต่ถ้าวันไหนมีวิชาที่เราชอบอยู่ร่วมกับวิชาที่เป็นยาขมเราก็จะดีใจเพียงครึ่งเดียว) จากประสบการณ์ตอนเป็นผู้เรียน เราเคยสังเกตหรือไม่ว่าทำไมเราชอบวิชานี้หรือไม่ชอบวิชานี้ รวมทั้งบางวิชาที่เราชอบแต่เพื่อนๆกลับไม่ชอบ หรือบางวิชาที่เราไม่ชอบเพื่อนๆกลับชอบเรียน เป็นเพราะอะไร? คำตอบหนึ่งที่สามารถอธิบายได้ คือ คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ในด้านต่างๆเช่น ความสนใจ ความสามารถ ความพร้อมและความต้องการ และสิ่งที่สำคัญคือคนเราแต่ละคนเรียนรู้ไม่เหมือนกันบางคนเรียนรู้ได้รวดเร็วในเรื่องหนึ่งแต่เรียนรู้ได้ช้าในอีกเรื่องหนึ่ง

นอกจากนั้นในเรื่องของความสนใจและความต้องการของผู้เรียนนั้นมีความสำคัญมากกับการเรียนรู้ของแต่ละคน โดยอาจจะมองย้อนกลับไปในอดีตของเรา เราเองจะพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เราเรียนรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีคนสอนหรือต้องมานั่งเรียนในห้องเรียน นั่นคือเราเรียนรู้ได้เองจากความสนใจส่วนตัวหรือเรียนรู้ได้จากความต้องการของเราเพราะเรารักและสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งนั้นโดยไม่ต้องมีใครมาบอกหรือมาสั่งให้เรียน ถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีปัญหาเกิดขึ้นเราก็จะแสวงหาวิธีการแก้ปัญหานั้นด้วยตัวเราเองจากแหล่งความรู้ต่างๆ จะเห็นว่าถ้าครูจัดบรรยากาศการเรียนการสอนที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลและทำให้ผู้เรียนเห็นความสำคัญและเกิดความสนใจในเนื้อหาที่สอนจะทำให้ผู้เรียนมีความชอบ(J) และสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง , แสวงหาความรู้ด้วยตนเองนอกเหนือจากการสอนในห้องเรียน

ในความเป็นจริงบรรยากาศการเรียนการสอนที่เราเคยสัมผัสหรือเคยเรียนนั้นไม่ได้จัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับ หลักความแตกต่างระหว่างบุคคลมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ามีจำนวนนักเรียนมากขึ้น (หนึ่งห้องมีนักเรียนประมาณ 30 - 50 คน แถมในบางวิชามีการรวมห้อง จำนวนนักศึกษาก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 70 - 100 คน)โอกาสที่ครูเองจะเข้าไปสัมผัสกับผู้เรียนเพื่อตอบสนองความต้องการรายบุคคลมีน้อยลง อีกทั้งการเรียนการสอนโดยมีครูเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เป็นวิธีที่ง่ายต่อการสอนจึงเป็นเทคนิคที่นิยมนำมาใช้สอน ถ้าเรามองการสอนที่เราเคยพบสมัยที่เราเป็นผู้เรียน เทคนิคการสอนที่เราพบมากที่สุดคือการสอนแบบบรรยายโดยมีครูเป็นศูนย์กลาง กล่าวคือ ครูจะยืนอยู่หน้าชั้นเรียนสอนเนื้อหาสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันต่อนักเรียนจำนวนมาก และครูส่วนใหญ่ก็จะตั้งความหวังไว้ว่านักเรียนทุกคนจะต้องเรียนได้เท่าๆกัน ซึ่งขัดกับหลักจิตวิทยาว่าด้วยความแตกต่างระหว่างบุคคล ที่คนแต่ละคนมีความสนใจ ความสามารถ ความถนัด และมีวิธีเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าผู้เรียนแต่ละคนจะรับความรู้ที่ถ่ายทอดได้ไม่เท่ากัน การสอนโดยยึดครูเป็นศูนย์กลางเพียงอย่างเดียวจะไม่ตอบสนองความแตกต่างรายบุคคลได้ครบทั้งหมด จึงทำให้ผู้เรียนบางส่วนเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากเรียน และเกิดพฤติกรรมต่างๆที่ครูคิดว่าเป็นปัญหา

สภาพการศึกษาของไทยและปัญหาผลิตผลทางการศึกษา

ถ้าเรามองการเรียนการสอนจากอดีตก่อนที่จะมีระบบโรงเรียน สมัยก่อนนั้นพ่อแม่จะเป็น "ครู" ผู้สั่งสอนลูก โดยมุ่งสอนให้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง พ่อแม่มีอาชีพอย่างไรก็มักสั่งสอนอาชีพนั้นแก่ลูกของตนเอง เช่น พ่อแม่มีอาชีพเกษตรกรก็สอนอาชีพนั้นแก่ลูกๆ เพื่อที่ลูกๆจะได้มีทักษะอาชีพติดตัวไปทำมาหากินในอนาคต ในการสอนอาชีพก็คอยแนะนำทักษะต่างๆให้กับลูกโดยใกล้ชิด ส่วนลูกก็ได้ลงมือปฏิบัติงานจริง ภายใต้สภาพแวดล้อมจริงที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และเมื่อมีปัญหาก็จะให้คำแนะนำกับลูกเป็นรายบุคคล หรือนำลูกไปฝากไว้ที่วัดหรือสำนักต่างๆ ซึ่งนอกจากจะได้เรียนสรรพวิชาต่างๆแล้วก็ยังมีการปลูกฝังคุณธรรมไปในตัวด้วย

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยเริ่มมีระบบโรงเรียน โดยทรงจัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเพื่อเตรียมคนเป็นข้าราชการ ตั้งแต่นั้นมาชาวไทยก็ถือว่าการศึกษาเป็นวิถีทางหนึ่งที่จะยกฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมของตนเองหรือบุตรธิดาให้สูงขึ้น ชาวไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษามาก พ่อแม่พยายามที่จะส่งลูกๆให้เข้าในระบบโรงเรียนและส่งเสียให้ได้เรียนสูงๆ เมื่อเริ่มมีระบบโรงเรียนนักการศึกษาในสมัยนั้นก็รับแนวคิดการจัดหลักสูตรตะวันตกเข้ามามีอิทธิพลต่อการศึกษาของไทย การสอนได้เปลี่ยนจากการสอนแบบเดิมที่มุ่งสอนให้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง จากเดิมมีครูสอนลูกศิษย์เพียง 2 - 3 คน เปลี่ยนมาเป็นการสอนที่มีครูยืนอยู่หน้าชั้นเรียนให้นักเรียน 30 - 50 คนนั่งฟังภายในห้องเรียนสี่เหลี่ยมและคอยจดตามคำสอน กลายเป็นภาพที่ติดแน่นมาจนถึงปัจจุบันอย่างยากที่จะลบเลือน

จากการที่บรรยากาศการเรียนการสอนโดยยึดครูเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้มานานนับร้อยปี ส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเรียนการสอนขึ้น กล่าวคือ ผลผลิตทางการศึกษาของเราขาดคุณลักษณะที่สำคัญ 6 ประการ คือ 1) กล้าและรู้จักแสดงความคิดเห็นต่อชุมชน 2) สามารถตัดสินใจด้วยตนเอง 3) รู้จักทำงานร่วมกันเป็นหมู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) รู้จักแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 5) มีความคิดในการพัฒนาและความคิดสร้างสรรค์ 6) มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ปัญหาต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? และเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนอย่างไร ? ขออธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

ในบรรยากาศการเรียนการสอนที่เน้นให้ครูเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ด้วยความเชื่อที่มีมาแต่โบราณว่าครูจะต้องมีความรู้ดีกว่านักเรียน การเรียนการสอนส่วนใหญ่จึงเป็นลักษณะครูถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน ส่วนผู้เรียนเป็นฝ่ายรับความรู้จากครู ในขณะที่ครูส่วนใหญ่มีความคิดที่ว่าจะต้องถ่ายทอดเนื้อหาให้กับผู้เรียนให้มากที่สุดเพราะเนื้อหาที่สอนนั้นมีประโยชน์กับตัวผู้เรียน ดังนั้นบรรยากาศการเรียนการสอนที่เราพบส่วนใหญ่ ครูจึงเป็นผู้มีบทบาทอยู่ตลอดเวลา(เป็นพระเอกหรือนางเอก) นักเรียนไม่มีโอกาสได้พูดและแสดงความคิดเห็นเท่าใดนัก(เป็นตัวประกอบ) ผลจึงปรากฏว่า เมื่อนักเรียนเติบใหญ่ขึ้น จึงไม่กล้าแสดงความคิดเห็นต่อชุมชน บางคนกล้าแต่ไม่รู้จักแสดงความคิดเห็น ซึ่งการแสดงความคิดเห็นนั้นเป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ต้องมีการฝึกฝน และควรจะมีการปลูกฝังตั้งแต่เยาว์วัย ไม่ใช่เติบใหญ่ขึ้นมาแล้วจะกล้าแสดงความคิดเห็นโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นการเรียนการสอนแบบครูเป็นศูนย์กลางที่ถ่ายทอดเนื้อหาให้นักเรียนแต่เพียงฝ่ายเดียว ยังทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการตัดสินใจด้วยตนเอง เพราะผู้เรียนมีโอกาสได้ปฏิบัติกิจกรรมที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเองน้อยมาก เรื่องนี้ครูหลายท่านอาจจะมีประสบการณ์คล้ายๆกัน คือ พบว่านักศึกษาที่เรียนถึงระดับอุดมศึกษา แต่ตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยตนเองไม่ได้

บรรยากาศการเรียนการสอนในห้องเรียนที่ครูต้องสอนเนื้อหาให้ทันตามหลักสูตรซึ่งเต็มไปด้วยเนื้อหามากมาย เนื้อหาบางส่วนเปรียบเสมือน"ขยะ" คือ เนื้อหาที่ไม่มีความจำเป็นต่อหรือสัมพันธ์ต่อชีวิตของนักเรียน แต่ด้วยหน้าที่ ทำให้ครูหลายๆท่านต้องพยายามสอนเนื้อหาให้ทัน เปรียบเสมือนการ"กรอก"ความรู้ให้กับนักเรียนโดยไม่ตั้งใจ จากปัญหานี้ ทำให้ครูต้องรีบเร่งจนไม่มีเวลาที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม(กิจกรรมในห้องเรียน) เมื่อไม่มีการทำงานเป็นกลุ่มทำให้ขาดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และยังขาดความเคารพตนเองและคนอื่น ผลจึงปรากฏว่า คนไทยส่วนใหญ่ทำงานร่วมกันไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ขอยกตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ มีหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการประสานงานกัน แต่ปรากฏว่าหน่วยงานต่างๆกลับแยกกันทำอย่างอิสระ ดังจะเห็นได้จากงานบางอย่างเกิดความซ้ำซ้อนในขณะที่งานบางอย่างไม่มีผู้ดูแล ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขงานของหน่วยงานหนึ่งและงานนั้นจะต้องสัมพันธ์กับหน่วยงานอื่นด้วยกลับไม่มีการประสานงานกันเท่าที่ควร

การสอนความรู้ที่ครูเป็นผู้ให้ด้วยความหวังดี แต่ผู้เรียนไม่เห็นความสำคัญของสิ่งที่ครูให้แต่จำเป็นต้องรับความรู้นั้น ลักษณะนี้เปรียบเสมือนการกรอกความรู้ให้ผู้เรียน การสอนแบบนี้ผู้เรียนจะนั่งฟังครูหรือฟังและจดตามครูอย่างเดียว เมื่อผู้เรียนไม่เห็นความสำคัญรู้แต่ว่าจะต้องเรียน เป็นอย่างนี้นานเข้าๆจึงเคยชินกับการรอรับความรู้จากครู (มองว่าครูคือผู้สอนหรือผู้นำความรู้มาให้ส่วนตัวผู้เรียนเองคือผู้รอรับการสอน) เมื่อผู้เรียนคิดเช่นนั้นจึงขาดการฝึกแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง สังเกตได้จากครูสอนแค่ไหนผู้เรียนก็รู้แค่นั้นความรู้ไม่มีการต่อยอดเพราะสิ้นสุดแค่ในชั้นเรียน ผลจึงปรากฏว่ามีผู้เรียนหลายคนจบการศึกษาออกไปทำงานและได้เผชิญกับปัญหาจริง(โดยเฉพาะปัญหาที่จะต้องมีการแสวงหาแนวทางแก้ไข)แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะปรับตัวไม่ทัน เคยแต่เป็นผู้รับอย่างเดียวไม่เคยแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทำให้มองไม่เห็นปัญหาหรือถ้าเห็นปัญหาก็ละเลยต่อปัญหานั้น เพราะไม่เคยฝึกคิดหาทางแก้ปัญหามาก่อน นอกจากนั้นการเรียนการสอนที่เน้นทฤษฎีมากๆโดยไม่เน้นการปฏิบัติ(เน้นแต่ทฤษฎีที่ครูเป็นผู้ให้อย่างเดียว)ทำให้นักเรียนขาดโอกาสในการปฏิบัติงานขาดการลงมือทำด้วยตนเอง เมื่อผู้เรียนไม่ได้สัมผัสบรรยากาศในการเรียนรู้ด้วยตนเองทำให้ขาดการเผชิญปัญหา(ไม่รู้ว่าอะไรคือปัญหา) ส่งผลทำให้ขาดการพิจารณาสาเหตุแห่งปัญหา(ไม่รู้ว่าสิ่งใดคือสาเหตุของปัญหานั้น) ขาดการคิดหาแนวทางการแก้ปัญหา และขาดการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหานั้น เมื่อจบออกไปจึงไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงานและปัญหาชีวิตได้เท่าใดนัก

นอกจากนี้จะเห็นว่าผลผลิตทางการศึกษาของเราส่วนใหญ่ขาดความคิดในการพัฒนาและขาดความคิดสร้างสรรค์ เพราะการเรียนการสอนที่ครูเป็นผู้ป้อนความรู้อย่างเดียวแถมยังตีกรอบให้ปฏิบัติตาม ทำให้ผู้เรียนขาดโอกาสในการคิดแสวงหาแนวทางอื่นๆนอกเหนือจากที่ครูป้อนให้ เช่น ครูสั่งให้ผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมอะไรสักอย่างหนึ่งก็มักจะมีตัวอย่างหรือมีกรอบเพื่อให้ปฏิบัติตาม(การปฏิบัติงานดังกล่าวขอยกเว้นงานที่เสี่ยงต่ออันตรายหรือการเสียหายทางทรัพย์สินหรือกรณีอื่นๆตามที่ท่านเห็นควร) ถ้านักเรียนทำนอกเหนือจากที่ครูบอกถือว่าผิด เช่น การเรียนวิชาศิลปะในสมัยเด็ก ครูก็มักจะวาดรูปให้นักเรียนดูบนกระดานสมมุติว่าครูวาดรูปนก งานที่ครูสั่งให้ทำก็คือวาดรูปนกตามที่ครูสอน ผู้เรียนส่วนใหญ่ก็จะวาดรูปนกตามครู ถ้าสมมุติว่าเด็กชายปรีชานำหลักที่ครูสอนเรื่องการวาดรูปนกมาวาดเป็นรูปกระต่าย เมื่อนำมาส่งก็อาจโดนครูตำหนิได้ การสอนลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้เรียนขาดโอกาส"คิด"ในการออกแบบหรือพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพราะยึดติดกับกรอบที่ครูวางไว้จนเคยชิน มีผลทำให้ผู้เรียนไม่สามารถประยุกต์ความรู้ที่เรียนมากับการแก้ปัญหาในการทำงานหรือปัญหาชีวิตได้เพราะถูกตีกรอบทางความคิดจนเคยชิน ยิ่งไปกว่านั้นผลจากการถูกตีกรอบทางความคิดจนเคยชิน ส่งผลทำให้ความคิดต่างๆของผู้เรียนถูกตีกรอบโดยไม่รู้ตัว เมื่อคิดจะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเขาก็มักจะตีกรอบทางความคิดขึ้นมาด้วยความเคยชินว่าห้ามทำอย่างโน้น ไม่ควรทำอย่างนี้ ทำให้ขาดความคิดสิ่งใหม่ๆขาดการมองด้วยมุมมองที่หลากหลาย หรือเรียกว่าขาดความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง

ในด้านหน้าที่ของพลเมือง การเป็นสมาชิกที่ดีนั้นควรจะมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคมด้วย การเรียนการสอนหน้าที่ของพลเมืองส่วนใหญ่มักจะสอนเนื้อหาเกี่ยวกับการเป็นพลเมืองที่ดี แต่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึก เป็นผลให้ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่มักดูดายต่อปัญหา ขาดความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ปัญหานี้ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการสอนในชั้นเรียนที่มักจะมีบรรยากาศการเรียนการสอนที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ร่วมกัน ส่วนใหญ่จะมีบรรยากาศการเรียนการสอนที่เป็นวิชาการสูงเน้นทฤษฎีมากผู้เรียนต้องนั่งเรียนอย่างมีระเบียบ ทำให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันน้อยมาก ในทางกลับกันมีการแข่งขันกันเรียนมากขึ้น ส่งผลทำให้ผู้เรียนขาดความเอื้ออาทรต่อเพื่อน ขาดบรรยากาศที่เป็นกันเอง ทำให้เป็นแหล่งบ่มเพาะบุคลากรที่มี "ความใจแคบ" ออกมาสู่สังคม ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและยากที่จะแก้ไขได้

จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น เป็นการเสนอเพื่อให้เห็นปัญหาที่เกิดจากการเรียนการสอนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งปัญหาบางส่วนนั้นเกิดจากระบบการศึกษา ความเชื่อและค่านิยมทางการศึกษาของคนไทยที่มีมาแต่อดีต รวมทั้งบางส่วนมาจากวิธีการสอนที่ถ่ายทอดกันมาเป็นรุ่นๆ โดยครูมีบทบาทที่เป็นผู้ให้มากเกินไป(ด้วยความหวังดีหรือความเคยชิน) จนผู้เรียนขาดโอกาสในการเรียนรู้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามผมมิได้มีเจตนาที่จะชี้ให้เห็นว่าการสอนที่มีครูเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้นั้นไม่ดี หรือควรจะยกเลิกการสอนแบบเดิมทั้งหมด จริงๆแล้วการสอนแบบครูเป็นศูนย์กลางมีประโยชน์ และเหมาะสมกับการสอนเนื้อหาหลายๆอย่าง แต่ผมมองว่าการเรียนการสอนควรจะมีทางเลือกอื่นๆที่น่าสนใจและก่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีเช่นเดียวกันหรืออาจจะดีกว่า มีการใช้เทคนิคการสอนที่เน้นกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งทักษะการสอนแบบครูเป็นศูนย์กลางและผู้เรียนเป็นศูนย์กลางผสมผสานกันไป โดยเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมมากขึ้น ให้เขาได้ใช้ความสามารถของเขาตามทางที่เขาถนัด

จากปัญหาและสาเหตุเหล่านี้ เราอาจจะตั้งคำถามถามตัวเองว่าควรให้โอกาสเหล่านี้กับนักเรียนของเราหรือไม่ และถึงเวลาหรือยังที่เราจะหาวิธีการสอนวิธีอื่นๆเข้ามาเสริมการเรียนการสอน เพื่อตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนเรียนอย่างมีชีวิตชีวาและมีความสุขในการเรียน มีบรรยากาศการเรียนรู้ที่ดี ผู้เรียนได้ฝึกคิด ฝึก

ปฏิบัติ ฝึกเผชิญปัญหาและหาทางแก้ไขด้วยตนเองมากขึ้น เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาก็

จะเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายจิตใจและสติปัญญา นอกจากนั้นยังฝึกให้เขาพร้อมที่จะไปอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปอย่างใดก็ตาม เขาจะรู้จักแก้ปัญหาได้ด้วยตัวของเขาเอง

ทฤษฎี Constructionism เป็นทฤษฎีหนึ่งที่ผมขอเสนอให้เป็นทางเลือกอีกทาง (อาจจะนำมาใช้ประยุกต์กับการเรียนการสอนของท่านหรือไม่ก็ได้ เพราะเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น) ในการนำมาใช้พัฒนาการเรียนการสอน



โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:36:14 น.  

 
คิดว่าเป็นเพราะระบบการเรียนการสอนที่เมืองไทยมากกว่าค่ะ ทั้งวิทย์ ทั้งอังกฤษเรายังไม่ดีพอ มีข้อบกพร่อง
หลายๆๆ อย่างที่ต้องแก้ไข เราสอนเน้นจำมากกว่าคิดและเข้าใจ แม้บางที่จะสอนให้คิด แต่มันก็ยังไม่ค่อยได้ผลนัก
เราควรมีภาคทำ หาแป้นพิมพ์ไม่ถูกDo and pratice มากข฿฿ึ้นค่ะ สอนจากหนัง
สืออย่างเดียวโดยเด็กไม่เห็นประกอบก็ยากที่จะปรับปรุงการสอนของบ้านเรา

เด็กที่เค้าเก่งคอมก็คือ เด็กที่ค่อนข้างพร้อมตรงบ้านเค้ามีคอมให้เค้าใช้ตั้งแต่เด็กๆๆ เด็กอเมริกันเก่งคอม
มาตั้งแต่เด็ก เพราะเค้าต้องใช้มันคนบางคนพอสนใจก็หาอ่านเพิ่มเอง

แถมเรียนคอมจบมารวยค่ะ หางานทำง่ายกว่าอาชีพอื่นหลายอาชีพ เป็นงานไม่หนักเท่าหมอ เอ้าพูดจริงๆๆค่ะ แล้วคนที่ชอบมันมากๆก็บอกว่าสนุก

เราควรมีข้อสอบข้อเขียนให้เด็กมปลายทำกันมากๆๆ ค่ะไม่ใช่ แค่กาตอบไป แต่ข้อสอบกา
บางครั้งล฿ูกเล่นก็เยอะ ยอมรับเหมือนกัน

ประกอบกับเด็กเรา
คนไทย ก็นิสัยก็รู้ๆๆ กัน ทำได้ตามใจคือไทยแท้ ถ้าไม่บังคับก็คงไม่มีใครอยากเอาดี นอกจากเด็กบางคน
ที่เค้าตั้งใจเรียนเป็นทุน แต่ว่า เด็กเรียนมีน้อยกว่า เด็กไม่ค่อยเรียนนักนะสิคะ พูดง่ายๆๆ เรายังไม่มีวินัยดีพอ

เรายังไม่มีค่านิยมที่ได้รับการปลูกฝังมาให้ดีพอ อย่างญี่ปุ่นที่เค้าเจริญขนาดนี้
ก็คนเค้ามีวินัยจะตาย ความรักชาติหลังจากสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำให้เค้าก้าวไปมากๆๆๆๆ จนเศรษฐกิจ
ญี่ปุ่นเพื่อนบอกค่าครองชีพแพงกว่าอเมริกาอีก นี่ขนาดที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยเก่งอังกฤษนะ คนส่วนมากถ้าอยู่ญี่ปุ่น เรียนน่ะ จะพูดอังกฤษไม่เป็นเลยก็ว่าได้นอกจาก
เด็กที่เรียนเมืองนอกค่ะ

ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้ระบบการสอนเมืองไทยดีข฿ึ้น คงไม่อยาก
ให้เราล่มไปมากกว่านี้แล้วคนไทยจ฿ึงคิดกันได้ หรอกค่ะ


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:41:38 น.  

 
ลองย้อนกลับมาดูว่าวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ความเชื่อ ทัศนคติและชีวิตของคนสังคมไทยเป็นอย่างไร เราเป็นชาวตะวันออก ใช้ชีวิตอย่างสงบ เรียนรู้จากการถ่ายทอดในครอบครัวมาเป็นพื้นฐานตั้งแต่อดีต ให้ความเคารพผู้ใหญ่ นับถือฐานะทางสังคมและการเงิน สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อการศึกษาในปัจจุบันหรือไม่
ประการแรก เงิน จะได้มาต้องอาศัยอาชีพที่สามารถทำรายได้สูง ๆ ในขณะที่ต่างประเทศก็มีบ้าง แต่โดยเฉลี่ยมีความยุติธรรม แค่เด็กล้างจานก็ได้คุ้มค่า ในขณะที่เด็กล้างจานในไทยค่าแรงต่ำเพราะว่าถือว่าไม่ต้องใช้การศึกษา ทำให้ต้องแย่งกันเรียนในสาขาที่ทำเงินได้ดี และเปิดรับน้อย ๆซะด้วย
ประการที่สอง ฐานะทางสังคม ยกย่องคนมีเงิน เลยทำให้ยิ่งไปสนับสนุนประการที่หนึ่ง
ประการที่สาม สังคมอุปถัมภ์ ช่วยเหลือเกื้อกูลในหมู่พวกพ้อง งานเลยหายากยิ่งขึ้น
ประการที่สี่ หลงใหลในเทคโนโลยี และความพุ่มเฟื่อย ทำให้ยิ่งต้องหาเงินมากยิ่งขึ้น
ประการที่ห้า ไม่มีเวลาสื่อสารระหว่างกันทั้งครู ผู้ปกครอง เด็ก
อีกหลายประการครับ แต่หากจะพูดถึงการศึกษาละก็ ควรพิจารณาในองค์ประกอบและปัจจัยที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น ปรัญชาการศึกษาไทยในปัจจุบันเหมาะสมหรือไม่ในเวลานี้ คนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้บริหาร คนสอน ผู้ปกครอง เด็ก เป็นอย่างไร การจัดระบบการเรียนการสอนเหมาะสมหรือไม่ และควรปรับอย่างไร อเมริกา อังกฤษ มีวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และชีวิตในสังคมอีกอย่างหนึ่ง ไม่ผิดที่เห็นว่าเข้าดี แต่หากจะเอามาใช้กับบ้านเราต้องปรับปรุงให้เหมาะสมกับความเป็นไทย ปัญหาใหญ่จริง ๆน่าจะเป็นที่การพยายามเอาการศึกษาที่ใช้ได้ดีในเมืองนอกมาใช้กับประเทศไทย แต่ในความเป็นจริงเด็กฝรั่งเองแม้ว่าจะเรียนในระดับ City College แล้วก็ยังเขียนผิดเขียนถูก จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่เป็นเรื่องจริง เรามักหลงดีใจกับความสำเร็จเพียง 1 ใน 1000 หรือ อาจเป็นล้านก็ได้


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:43:08 น.  

 
เป็นเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ขอเสนอความเห็นได้ไหมคะ

มีการสอบแข่งขันมากเสียจนทำให้ความคิดของเด็กเป็นไปเพื่อตัวเอง เรียนเพื่อตัวเอง สักวันหนึ่งจะประกอบอาชีพดีๆเพื่อตัวเอง และเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เราจะต้องพัฒนาตนเอง กีดกันคนอื่น ความรู้ที่มีไม่สามารถแบ่งปันให้ใคร เพราะอาจทำให้เค้าเก่งกว่าเรา แล้วเราจะพลาดโอกาสได้ดี

เด็กส่วนน้อยยินดีเลือกทำอะไรที่ใจรัก เด็กอีกส่วนถูกผู้ใหญ่บังคับให้เลือกอาชีพที่มีเงิน มีหน้ามีตา มีเกียรติ เด็กส่วนใหญ่เลือกทำตามกระแสนิยมของสังคม คณะแพทย์/วิศวะ คือคณะของคนเก่ง นอกนั้นเป็นคนไม่มีความสามารถ และมีค่าน้อยกว่าคนเก่งที่เรียนคณะแพทย์

ถ้าคุณเก่งคุณต้องสอบเข้าสองคณะนี้ ต้องทำชื่อเสียงให้โรงเรียน ตราบใดที่คุณเป็นคนเรียนดี กิจกรรมเด่น ถึงจะเป็นคนแล้งน้ำใจ ไร้คุณธรรม สังคมส่วนใหญ่ก็ยังชื่นชมในตัวคุณ คุณยังคงเป็นคนมีคุณค่า

เห็นเพื่อนอ่านหนังสือต้องเข้าไปประชดให้รู้สึกไม่ดี ว่าเพื่อนแอบซุ่มแต่ตัวเองไปแอบอ่านในห้องสมุด เพื่อนชอบตอบคำถาม/แสดงความเห็นกับครูจะถูกเขม่น เด็กบางคนเลยไม่ค่อยกล้าแสดงออก จะเห็นว่าเด็กเก่งๆมักจะเป็นเด็กที่มีความเป็นตัวเองสูง หรือไม่ได้ใส่ใจต่อความเห็นหรือความรู้สึกของคนอื่นมาก แต่ถ้าเป็นเด็กที่ใส่ใจใจความรู้สึกของคนรอบข้าง ก็จะลำบากในการพัฒนาตัวเอง

งานมีสาระน้อยเยอะ เด็กในเมืองนั่งลอกการบ้านตั้งแต่เช้า และด้วยความเคยชิน พอได้รับงานที่มีสาระมากๆมาทำ ก็มานั่งลอก หรือไม่ก็ก๊อบจากอินเทอร์เน็ต เด็กชนบทคิดการณ์ใกล้ ไม่ห่วงอนาคต เด็กในเมืองติดนิสัยฟุ่มเฟือย เอาแต่ได้ บางส่วนไม่พัฒนาตัวเอง จะเอาแต่เกรดอย่างเดียว

โรงเรียนมุ่งสร้างภาพลักษณ์ ลืมปัญหาที่แท้จริงที่ควรแก้ไข เด็กก็ติดนิสัยสร้างภาพด้วย ชอบทำงานให้ดูดี แต่ลืมสาระของงาน

อาจารย์ชอบเห็ฯเหมือนนักเรียนเรียนวิชาเดียว ต้องการให้งานทุกอย่างออกมาดีที่สุด และต้องการให้วิชานี้เรียนละเอียด ลึกซึ้ง ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจต่อการจัดการเวลา จึงสั่งงานเด็กนอกเวลาเรียนมาก เห็นการพักผ่อนของเด็กเป็นสิ่งไม่สำคัญ และให้ความสำคัญกับผลในตำราเรียน จนลืมว่าประสบการณ์ข้างนอกมีความสำคัญที่จะสร้างจิตใจหรือสามัญสำนึกที่ดีของเด็กขึ้นมา

ครูลืมความสำคัญของการทำให้เด็กศรัทธา ความเถรตรงของครูเหมือนรั้วปิดกั้นให้เด็กเข้ามาสู่บริเวณที่พัฒนาแล้วได้น้อยลง ถ้าครูโอนอ่อน สร้างความน่าเคารพรัก ก็เหมือนเอารั้วออก มีเด็กหลายคนได้รับโอกาสเข้าสู่บริเวณที่พัฒนาแล้วมากขึ้น


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:44:21 น.  

 
ปัญหาการศึกษาไทย...
การที่การศึกษาไทยมันดูเหมือนจะล้มเหลว (หรือที่ใครหลายคนบอกว่า ล้มเหลวไปแล้ว) อาจเกิดจากหลายๆปัจจัย

หากจะบอกกันให้ครอบคลุมหน่อย
ก็จะบอกว่าเป็นปัญหาที่ "ระบบการศึกษาของไทย"
ระบบการศึกษาของไทย รวมทั้งตำราต่างๆ เรานำมาจากการเอาระบบการศึกษาของต่างชาติมายำรวมกัน
มันเลยไม่เกิดระบบการศึกษาของไทย ที่เหมาะสมกับเด็กไทยอย่างแท้จริง
...การที่ทุกคนพยายามจะเปลี่ยนแปลงให้ได้ดั่งใจ มันเป็นการอาจเป็นการคิดเข้าข้างตนเองกันหมด แต่อย่างหนึ่งที่สำคัญ คือ การนำความคิดทุกๆคนมารวบรวมเข้ากัน ประยุกต์ ดัดแปลง ปรับปรุง เราอาจได้ระบบการศึกษาที่เหมาะสมกับคนไทยที่สุด เด็กเรียนแล้วมีความสุข
แต่....มันไม่ง่ายเลย
สำหรับใครก็ตามที่มีอำนาจปรับปรับระบบการศึกษา
อาจคิดว่า เอาแบบของต่างประเทศมาใช้ดีกว่า...สำเร็จรูป...ง่ายดีกว่า...คนไทยหลายคนคิดว่าของต่างประเทศมันดีอยู่แล้วทั้งนั้นแหละ


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:13:45:36 น.  

 
4 ป1 ส กับ การศึกษาไทย

ผู้ใหญ่หลายท่านเคยให้ความเห็นไว้ว่า “ปัญหาการศึกษาไทย แก้ไม่ยาก แต่แก้ไม่ได้” ฟังดูแล้วอาจรู้สึกกวนใจพิกลเหมือนเล่นคำกับปัญหาระดับชาติ ฟังดูแล้วไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่ ในท้ายที่สุดท่านก็ขยายความเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า ที่ว่าแก้ไม่ยากนั้น ก็คือ ทำการศึกษาในระดับปลายทางก่อนสู่ตลาดแรงงานให้มีความเท่าเทียมกันในทุกสถาบันและในทุกด้าน เสมือนเป็นหลักประกันว่า ผู้ใดจบจากที่ใดก็ได้งานทำที่เหมาะสมกับความสามารถและความต้องการของผู้เรียน



ทำเช่นนี้แล้ว ปัญหาการแข่งขันในระดับรากหญ้า หรือระดับอนุบาลที่มีปัญหาแป๊ะเจี๊ยะบ้าง ปัญหาเด็กฝากบ้าง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายจะลดน้อยถอยลงไป เพราะก็ไม่รู้จะแข่งขันกันไปไยในเมื่อทุกสถาบันนั้นมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน จบจากที่ใดก็มีงานทำทั่วทุกคน แต่ตรงนี้แก้ไม่ได้หรอก เพราะทรัพยากรของเราจำกัด จำกัดทั้งงบประมาณ จำกัดทั้งตำแหน่งงาน จำกัดทั้งจำนวนโรงเรียน และอื่น ๆ ปัญหาจึงทิ้งค้างอยู่นับแรมปีแรมเดือนอยู่อย่างนี้



กล่าวไปทำไมมีให้มากความกับเรื่องราวที่แก้ไม่ได้ข้างต้น ก็ในเมื่ออยู่ในวังวนของการขาดแคลนทรัพยากร หรืออีกนัยหนึ่ง ทรัพยากรจำกัดนั่นเอง ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า จะทำอย่างไรให้การพัฒนาทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของประเทศเป็นไปอย่างมีคุณภาพท่ามกลางสภาพการณ์เยี่ยงนี้เล่า



เพราะเชื่อว่า การกระทำทุกอย่างล้วนสะท้อนจากทัศนคติ ดังนั้นการที่ต้องการให้การกระทำแต่ละจังหวะชีวิตดำเนินไปอย่างมีคุณค่า ล้วนต้องสร้างทัศนคติที่ถูกต้องเสียก่อน การกระทำอย่างสร้างสรรค์จึงจะคลอดออกมาได้



เปลี่ยนการเรียน



เริ่มจากเป้าหมายการศึกษา เป็นที่ทราบกันดีว่า ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน เรียนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐให้ได้ หรือเรียนเพื่อให้ได้เกียรติบัตร หรือเรียนเพื่อความภูมิใจของพ่อแม่และวงศ์ตระกูล เหล่านี้ดูเหมือนงดงาม แต่ทว่าขาดแรงผลักดันที่ยั่งยืน กล่าวคือ เมื่อบรรลุซึ่งสิ่งดังกล่าว พฤติกรรมการเรียนรู้ก็หยุดชะงักลง เช่น สอบเข้ามหาลัยได้แล้วก็หยุดค้นคว้า หยุดอ่านหนังสือ หยุดต่อยอดความรับรู้เดิม เราพบว่าเป้าหมายเหล่านี้ควรถูกลดเป็นเป้าหมายรองน่าจะดีกว่า แล้วควรพัฒนาเป้าหมายหลักในการเพิ่มพูนความรู้ พัฒนาตนเองให้มีสติและปัญญาที่จะสามารถครองชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข และดำรงตนเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อย่างดี



ในเรื่องของการเรียนรู้ก็ต้องเน้นที่จะพึ่งพาผู้อื่นให้น้อยที่สุดในทุกด้าน นับเรื่อยจากระดับรากหญ้าหรือระดับอนุบาลที่ต้องพยายามฝึกฝนเครื่องมือที่แม่ให้มาอย่างเชี่ยวชาญ เช่น เท้า มือ ปาก และอวัยวะอื่น ๆ เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน ในเรื่องของการทานข้าว อาบน้ำ แต่งตัว และอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ควรได้รับการฝึกฝนลักษณะนิสัยที่สร้างคนให้สมบูรณ์ทั้งด้านจิตวิญญาณ และจิตวิทยาด้วย เนื่องจากเป็นระดับรากฐานที่สำคัญ อีกทั้งเป็นวัยที่ฝึกฝนได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ ต่อมา ในระดับประถมปลายจึงค่อยเน้นด้านความรู้วิชาการ เพื่อสร้างรอยหยักในสมองให้รู้จักคิดเอง ทำเอง



การเน้นการแข่งขันทางการเรียนตั้งแต่วัยประถมเท่ากับเป็นการสั่งสมประสบการณ์ความเห็นแก่ตัวให้กับเด็ก และความแพ้ไม่เป็นให้ฝังแน่นในจิตวิญญาณวัยเยาว์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งก่อตัวและเติบใหญ่ต่อไปในอนาคตเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่ ในตอนท้ายระดับมัธยมหรืออุดมศึกษา การผสมกลมกลืนในด้านวิชาชีพ กับด้านจิตวิญญาณอย่างเหมาะสมจะก่อให้เกิดยุวชนที่มีคุณภาพต่อสังคมสืบไป



นอกเหนือจากเป้าหมายการศึกษาแล้ว สถานที่ศึกษา ไม่ควรจำกัดเพียงในห้องสี่เหลี่ยม ทุกที่ ทุกคนที่แวดล้อมตัวเด็กสามารถเป็นครูให้เรียนรู้ได้เสมอ แม้แต่ธรรมชาติ จากตรงนี้จะทำให้เด็กเคารพต่อทุกอย่างที่ให้ความรู้ เขาจะเคารพธรรมชาติ ไม่ให้ร้าย เขาจะเคารพเพื่อนฝูง ไม่ทำร้าย เขาจะเคารพข้าวของชาวนา ไม่ดูถูก และไม่กินทิ้งกินขว้าง เขาจะเคารพพ่อแม่ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้ความรู้เขาเป็นอันดับแรก



ต่อมาในเรื่องของวิธีเรียน ควรลดการท่องจำให้น้อยลง แม้ว่า การท่องจำจะเป็นวิธีการเรียนที่ง่ายที่สุดที่แม้คุณไม่เข้าใจในเนื้อหาเลย แต่สามารถท่องจำได้อย่างแม่นยำ คุณก็สามารถเอาตัวรอดได้ วิธีการท่องจำส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ในระยะยาว เพราะขาดการนำความคิดของผู้สอนมาประสานสอดคล้องกับผู้เรียน แต่เป็นการประทับคำพูดของผู้สอนอย่างขาดวิจารณญาณเลยทีเดียว โดยขาดกระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากงานวิจัยเราพบว่า คนเราสามารถเรียนรู้และจดจำได้ดี 10%จากการอ่าน 20%จากการได้ยิน 30% จากการได้เห็น 50%จากการได้ยินและได้เห็น 70%จากการได้พูด และ 90%จากการได้พูดและได้ทำ



เราถูกสอนให้คิดตาม มาตลอด ไม่เคยได้รับอนุญาตให้คิดเอง หรือ คิดต่าง และทุกครั้งที่คิดต่างมักถูกโยงไปในเรื่องของความแตกแยก ไม่สามัคคี ไม่รักชาติ หรือ แม้แต่เรื่องของการลบหลู่ผู้สอน ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง ผลของการคิดตามที่ผ่านมาคือ ความชื่นชมผิด ๆ ว่าเป็นคนว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง และสุดท้ายคือการเลียนแบบ แต่ทว่า ผลของคิดต่างหรือคิดเอง เราจะได้สิ่งใหม่เสมอ



ปรับการสอน



แน่นอนย่อมเกี่ยวข้องกับบุคลากรอีกกลุ่ม คือ ครู เป้าหมายของการสอนหนังสือของครูในปัจจุบันถูกแปรเปลี่ยนมากตามสภาพเศรษฐกิจและสังคม หลายคนสอนเพื่อเงินเดือน หลายคนสอนเพื่อค่ากวดวิชา หลายคนทำเพื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน การเลื่อนซี หาใช่เพื่อการเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับลูกศิษย์ไม่ จะเป็นเรื่องที่ท้าทายหรือเรื่องที่น่าตื่นเต้นหรือไม่ที่ครูจะได้พบลูกศิษย์ที่หลากหลายทุกปี จะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีหรือไม่ที่จะพยายามปรับการสอนให้สอดคล้องกับยุคสมัยตลอดเวลา การเฆี่ยน ตี ดุ ด่า หรือ กระทบเทียบไม่ควรเป็นคุณสมบัติของครูที่มีจิตวิญญาณอันงดงามเลย การแลกเปลี่ยนเพื่อกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก และการโน้มน้าวให้เด็กที่มีพัฒนาการที่ดีสามารถต่อยอดในสิ่งที่ยากยิ่งกว่าได้ น่าจะเป็นคุณสมบัติของครูที่ดีมิใช่หรือ



เช่นเดียวกับการปรับการเรียนที่ได้กล่าวแล้วเบื้องต้น การสอนแบบท่องจำดูเหมือนง่ายและได้ผลในระยะสั้น แต่ส่งผลระยะยาวเสมือนยาพิษที่เกาะกินลูกศิษย์ต่อไป การเปิดเวทีในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นที่แตกต่างจะช่วยรังสรรค์สิ่งงดงามของการศึกษาได้มากมายอย่างน้อยก็มุมมองที่รอบด้านขึ้น


ปฏิรูปการสอบ


การสอบคือ เครื่องมือในการประเมินผลการเรียนรู้หรือการสอนของทั้งผู้เรียนและผู้สอน มิใช่คำพิพากษาที่จะระบุความเป็นคนโง่หรือฉลาดให้กับเด็ก ไม่ใช่เครื่องมือในการตัดสินชะตาชีวิตของทั้งชีวิตของลูกศิษย์



ลูกศิษย์ที่ทำข้อสอบไม่ได้ตรงตามที่ผู้สอนต้องการ ควรได้รับการเยียวยาเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้มากขึ้นจากผู้สอนโดยไม่คิดมูลค่า ส่วนเกียรติรางวัลสำหรับผู้เข้าใจหรือทำข้อสอบได้ ไม่ควรต้องใส่ใจเป็นพิเศษแต่อย่างใด เพราะถือว่าเขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างดีแล้ว ตรงข้ามหากมีการส่งเสริมจนเกินเหตุอาจส่งผลให้เกิดความโอหังทางวิชาการหรือเหยียดหยามผู้ได้คะแนนต่ำกว่าโดยใช่เหตุ สังคมควรสอนให้มีการเกื้อกูลผู้ที่ด้อยกว่าเสมอ



ข้อสอบที่สมควรส่งเสริมให้มีมากขึ้นคือ ข้อสอบแบบเขียนตอบ หรืออัตนัย เพราะเป็นการส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกฝนการเรียบเรียงความคิดในการสื่อสารกับผู้อื่น อีกทั้งเป็นการเปิดมุมมองทางวิชาการให้กว้างขวาง ส่วนข้อสอบปรนัย ควรมีเท่าที่จำเป็นเพื่อไว้ใช้หลอกล่อให้ผู้สอบมึนงงหรือไว้ตรวจสอบความแม่นยำอีกทอดหนึ่งหรือการสอบที่ต้องการความรวดเร็วในการรู้ผล เพราะเหตุว่าข้อสอบแนวนี้เป็นข้อสอบในการจำกัดกรอบความคิดให้กับเด็ก อีกทั้งส่งเสริมวิชามารในการสอบ เช่น สามารถนำคำตอบมาแทนค่าคำถามได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการคิด



ปฏิวัติการเลือกเรียน



เด็กวัยรุ่นหลายคนในปัจจุบันมักอ้างการเลือกเรียนว่า ทำเพื่อพ่อแม่บ้าง ทำเพื่อครอบครัวบ้าง ซึ่งเมื่อจบการศึกษาขั้นสูงไปแล้วมักไม่ได้ใช้วิชาชีพที่ตนร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม นับเป็นความสูญเสียของการศึกษาอีกเช่นกัน เพราะเขาเหล่านั้นไม่ได้เลือกเรียนตามความสนใจ ความสามารถหรือศักยภาพที่ตนเองมีเป็นหลักในการเลือก อีกมุมหนึ่งของผู้เลือกเรียนก็มักเลือกเรียนในสายอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการทางการตลาดแรงงานเป็นสำคัญ เช่น อาชีพที่ให้ผลตอบแทนสูง อาชีพที่มีเกียรติยศ ชื่อเสียงเป็นที่เชิดหน้าชูตาในสังคม


สร้างหลักสูตรให้สอดคล้องกับตลาดแรงงาน หรือ สร้างงานให้สอดคล้องกับหลักสูตร


นอกเหนือจากทัศนคติหรือค่านิยมการเลือกเรียนดังกล่าวแล้ว ยังพบว่า หลักสูตรในระดับวิชาชีพล้วนไม่สอดคล้องกับกาลสมัยอีกด้วย ส่งผลให้นิสิตนักศึกษาที่จบใหม่ ไม่สามารถสร้างงานได้เอง ไม่สามารถประยุกต์นำเนื้อหาที่เรียนไปใช้ในการทำงานได้อย่างทันท่วงที ต้องเข้าฝึกอบรมหลังจบอีก ประมาณกว่า 6 เดือนเพื่อจะสามารถทำงานได้ เป็นต้น



หรืออีกนัยหนึ่ง อาชีพที่มีในตลาดแรงงานที่เป็นจริงไม่สอดคล้องกับหลักสูตรการเรียน ยกตัวอย่างให้เห็นได้คือ อาชีพนักวิทยาศาสตร์ หรือนักวิจัยในประเทศ ไม่สามารถทำให้เป็นจริงได้เมื่อเทียบกับนานาประเทศ หรืออาชีพวิศวกรที่เน้นการออกแบบต่าง ๆ เช่น วิศวกรเครื่องบิน วิศวกรคอมพิวเตอร์ ที่ควรจะสามารถออกแบบเครื่องบิน หรือคอมพิวเตอร์ที่เป็นฮาร์ดแวร์ได้ แต่ประเทศไม่มีอุตสาหกรรมเหล่านี้รองรับ การศึกษาที่เล่าเรียนมาก็ดูจะไร้ค่าไป



เปลี่ยนการเรียน ปรับการสอน ปฏิรูปการสอบ ปฏิวัติการเลือกวิชาชีพ สร้างงานให้สอดคล้องหลักสูตร หรือ สร้างหลักสูตรให้สอดคล้องกับงาน เหล่านี้คือข้อสังเกตที่ผู้เขียนต้องการแสดงให้ผู้อ่านเห็นและตระหนักในภาระหน้าที่อันพึงมีต่อสังคม อย่างน้อยที่ผ่านมา เราล้วนมีส่วนที่ทำให้ระบบการศึกษาที่เป็นอยู่บิดเบี้ยวไป ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ฉะนั้นเราท่านจึงควรมีส่วนร่วมผลักดันให้ระบบการศึกษามันดีขึ้นได้ตามหน้าที่หรือสถานภาพทางสังคม



ผู้ใดเป็นครู ก็ควรปรับเปลี่ยน ผู้ใดเป็นผู้ปกครองก็ควรต้องมีมุมมองใหม่ในการสนับสนุนบุตรหลาน อย่ามัวฝันรออัศวินม้าขาวที่จะมากอบกู้วิกฤตการณ์การศึกษาดีขึ้นอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเลย มันเป็นไปไม่ได้เลย แค่คิดก็ผิดเสียแล้วละท่าน


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:14:28:34 น.  

 
อยากรู้จังว่าครูรัตนาคนไหน


โดย: นีร IP: 125.27.174.89 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:16:48:59 น.  

 
เขารู้แล้วหล่ะ นีร คือ ouiใช่มั้ยจ้ะ (อุ้ย)
แหม ไอ้เรารึก็งงว่าคำว่า "อุ้ย" กับ "นีร" มันคนละเรื่องเลย
ตอนนี้รู้แจ้งแดงแจ๋และ ไปหละ


โดย: กานต์ IP: 125.27.174.109 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:17:47:18 น.  

 

เราก็อยากรู้เหมือนกานว่าครูรัตนาคือใครอ่ะนะ


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.171.96 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:19:48:19 น.  

 
ใครยังไม่รู้บ้างว่าห้อง chat room อยู่ตรงไหน


โดย: กานต์ IP: 125.27.174.109 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:21:44:50 น.  

 

เรารู้แล้วอ่ะนะ เมื่อตอนกลางวันก็พึ่งบอก มุก กับ มะนาวว่า
ห้องแช็ตรูมอยู่ที่ไหนอะ


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.174.247 วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:22:51:58 น.  

 
ว่างคะ......ไม่มีอะไรทำคะ..............
...เอารูปมาฝากตะ..........รูปภาพนี้พ่อของเราถ่ายแล้วเอาไปแต่งด้วยphoto(นิดหน่อย).....ดูแล้วมาบอกด้วยนะว่าเราถ่ายรูปสวยมั๊ย










โดย: emma watson IP: 222.123.145.250 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:8:45:07 น.  

 
ดูอีกรูปแล้วกันนะ
(ดูแล้ว...อย่าตกหลุมรักเราละ)




โดย: emma watson IP: 222.123.145.250 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:8:48:57 น.  

 
วันนี้มีกลอนขำๆ มาให้อ่านกันด้วยล่ะ
บทแรกเนี่ย มนัสวีเอามา
ส่วนบท2เราเอามาเอง ไปอ่านกัน
ยามเธอยิ้ม ดั่งนกแร้ง แฝงหมาเน่า
ยิ้มเธอเศร้า ดูไป คล้ายกับผี
ยิ้มเธอสวย สดใส กวนตีนดี
ยิ้มอีกที เตะคอพับ หลับคาตีน
กลอนบทแรกผ่านไป มาดูบท2กันมั่ง
ลองอ่านแบบทำนองเสนาะดูสิ
สักวาหน้าหนาว สาวนอนตด
เหม็นไปหมดทั้งมุ้ง ยุงบินหนี
ตดของเธอร้ายกว่า ดีดีที
ยุงบินหนีไปหมด เพราะตดเธอ
เป็นไงมั่งคะ ทุกบทล้วยมาจากอินเตอร์เน็ต
เพราะถ้าให้แต่งเองคงแต่งไม่ถูก ....บาย.....


โดย: กานต์ อีกนั่นแหละ IP: 125.27.172.215 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:9:39:09 น.  

 


โดย: new IP: 125.27.172.5 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:9:41:24 น.  

 
ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต
เพื่อซื้อของขวัญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่นๆ
เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น
ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง
ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า
คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัดและน่ารำคาญขึ้นทุกๆปีจริงๆ
สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือเอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไปและตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆ
แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น
และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมันและแปลกใจว่า
เด็กๆเนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ
ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น
ฉันสังเกตเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง
อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก
เขาค่อยๆลูบผมของตุ๊กตานั้นและมองดูอย่างเศร้าสร้อย
ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน
เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาหญิงชราที่อยู่ข้างๆ
คุณย่าแน่ใจหรือฮะว่าเงินของผมมีไม่พอ "
หญิงชราตอบว่า
หลานก็รู้นี่ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอก"
หลังจากนั้นหญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5
นาทีระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบๆ
แล้วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว
เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ
ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา
ฉันถามเค้าว่าเค้าจะเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปให้ใคร
มันเป็นตุ๊กตาที่น้องสาวของผมชอบที่สุดฮะ
และเธอก็อยากจะได้มันมากเป็นของขวัญวันคริสต์มาส
เธอมั่นใจมากว่าซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตาตัวนี้แก่เธอ"
ฉันบอกเค้าว่า
ซานตาคลอสจะให้ตุ๊กตานี้แก่น้องสาวของเขาแน่ๆ
และก็ไม่ต้องกังวลหรอก
มาถึงตรงนี้ นึกหละสิครับว่า เรื่องนี้
จะเหมือนกับเรื่องปกติทั่วๆไปที่คุณเคยอ่าน เดาผิดแล้วหละครับ ลองอ่านต่อสิครับ...)
แต่เขาตอบฉันด้วยท่าทางเศร้าสลดว่า
ไม่หรอกฮะ
ซานตาคลอสไม่สามารถเอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอในที่ๆเธออยู่ตอนนี้ได้
ผมจะเอาตุ๊กตาตัวนี้ไปให้แม่
แม่จะได้เอาตุ๊กตานี้ไปให้เธอเมื่อแม่ไปที่นั่น"
ดวงตาของเขาเศร้ามากขณะที่เขาพูดต่อไป
"น้องสาวของผมไปอยู่บนสวรรค์
พ่อบอกว่าแม่ก็จะไปเหมือนกันในเร็วๆนี้
ผมก็เลยคิดว่าแม่น่าจะเอามันไปให้น้องสาวของผมได้ "
หัวใจของฉันเกือบจะหยุดเต้น
เด็กชายเงยหน้ามองฉันแล้วพูดว่า
ผมบอกพ่อให้บอกแม่ว่าอย่าพึ่งไปให้รอผมจนกว่าผมจะกลับจากซุปเปอร์มาร์เก็ตฮะ
แล้วเขาก็หยิบรูปที่น่ารักมากของเขาซึ่งกำลังหัวเราะให้ฉันดู
แล้วก็บอกว่า
ผมอยากให้แม่เอารูปนี้ไปด้วยฮะเธอจะได้ไม่ลืมผม
ผมรักแม่ฮะและผมก็หวังว่าเธอจะไม่ต้องจากผมไป
แต่พ่อบอกว่าเธอต้องไปอยู่กับน้องสาวของผม"
แล้วเขาก็จ้องมองตุ๊กตาอีกครั้งอย่าอาลัย
ฉันรีบคว้ากระเป๋าตังออกมาอย่างรวดเร็ว
หยิบธนบัตรออกมา 2-3ใบ แล้วพูดว่า
ทำไมเราไม่ลองตรวจดูอีกที เผื่อว่าเราจะมีเงินพอ "
"ตกลงฮะ" เขาพูด
"ผมหวังว่าผมจะมีเงินพอนะฮะ"
ฉันแอบใส่เงินของฉันลงในกระเป๋าตังของเขาโดยไม่ให้เขาเห็นแล้วเขาก็เริ่มนับมัน
มันไม่ได้มีเงินแค่พอซื้อตุ๊กตาเท่านั้น
แต่ยังเหลืออีกด้วย เด็กชายพูด
ขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเงินให้ผมฮะ" เขามองฉัน
แล้วพูดเสริมว่า
ผมอธิษฐานกับพระเจ้าก่อนนอนเมื่อวานฮะ
ว่าขอให้ผมมีเงินพอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้เพื่อแม่จะได้เอาไปให้น้องสาวของผมฮะ
แล้วพระองค์ก็ได้ยิน
ความจริงผมอยากได้เงินที่จะซื้อกุหลาบสีขาวให้แม่ด้วยฮะ
แต่ผมไม่กล้าขอมากเกินไป
แต่พระองค์ก็ให้เงินผมมากพอที่จะซื้อทั้งตุ๊กตาและกุหลาบ
แม่ของผมชอบกุหลาบขาวฮะ"
2-3 นาทีต่อมา หญิงชราก็กลับมา
ฉันเดินออกมากับรถเข็นของฉัน(รถเข็นที่ใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตอะ)
ฉันซื้อของจนเสร็จด้วยความรู้สึกที่ต่างจากตอนมาโดยสิ้นเชิง
ฉันไม่สามารถเอาภาพของเด็กชายคนนั้นออกจากจิตใจฉันได้
หลังจากนั้นฉันก็จำข่าวที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เมื่อ 2
วันก่อนได้
มันบอกว่าคนขับรถบรรทุกที่เมาเหล้าคนหนึ่งขับรถชนรถอีกคันหนึ่งที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกับเด็กหญิงตัวเล็กๆในรถ
เด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตทันที
แต่แม่ของเธออยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัส
ครอบครัวของพวกเขาต้องตัดสินใจว่าจะดึงปลั๊กเครื่องช่วยหายใจดีหรือไม่
เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่สามารถดีขึ้นไปกว่าขั้นโคม่าได้
ครอบครัวนี้จะเป็นของเด็กชายคนนั้นรึเปล่านะ
วันหลังจากได้พบกับเด็กชายคนนั้น
ฉันอ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า หญิงสาวคนนั้นได้เสียชีวิตแล้ว
ฉันไม่สามารถหยุดตัวเองไว้ได้ที่จะไปซื้อกุหลาบช่อหนึ่ง แล้วไปที่
Mortuary
ซึ่งร่างของหญิงคนนั้นได้ถูกเปิดให้คนได้ดูและอธิษฐานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝัง
เธออยู่ในนั้น
ในโลงศพของเธอในมือมีดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่งกับรูปถ่ายของเด็กชายคนนั้น และมีตุ๊กตาวางอยู่บนหน้าอก
ฉันออกไปข้างนอกทั้งน้ำตารู้สึกว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปตลอดกาล
ความรักที่เด็กผู้ชายคนนี้มีให้แม่และน้องสาวของเขานั้นจะยังคงอยู่ยืนยาวสุดแก่การจินตนาการ
แต่เพียงแค่เศษเสี้ยววินาทีเท่านั้น
คนดื่มเหล้าคนหนึ่งก็ได้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเค้า
ตอนนี้คุณมี 2
ตัวเลือก
1.ส่งข้อความนี้ให้แก่ทุกคนที่คุณรู้จัก
2.ลบข้อความนี้ทิ้งราวกับว่ามันไม่เคยทำให้คุณรู้สึกซาบซึ้ง
ถ้าคุณส่งข้อความนี้ บางที...
คุณอาจได้ช่วยป้องกันไม่ให้บางคนที่เมาแล้วขับก็ได้
เพื่อนเหมือนกับนางฟ้าที่ช่วยเราบินในยามที่ปีกของเราหลงลืมวิธีแห่งการบิน
"ทีม คือกลุ่มคนที่อาจจะมี ประสบการณ์ พรสวรรค์
หรือระดับการศึกษาที่ไม่เท่ากัน แต่อยู่ในหน้าที่เดียวกัน"
เมาไม่ขับเด็ดขาด ทุกครั้งที่เมาแล้วต้องขับรถ
คิดถึงเรื่องนี้เอาไว้ แล้วนั่งรถแท๊กซี่กลับบ้าน ช่วยๆกัน forward
ต่อด้วยนะ อย่างน้อย น่าจะช่วยใครได้สักคน หวังเอาไว้อย่างงั๊น


โดย: คนดีๆในป.6/1 IP: 125.27.172.5 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:9:51:39 น.  

 
น่ารักจัง มีเขี้ยวด้วย ฮิฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: คนที่ชอบส้ม ป.6/......... IP: 203.156.71.65 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:11:36:29 น.  

 
ทำไมเด็กห้อง1 ถึงชอบแฮร์รี่กันจัง
เป็นหนังหลอกเด็กไม่ใช่หรอ
มันสนุกตรงไหนอ่ะ เราอยากรู้ .+.,!....
เรามีความรู้สึกว่า มันเป็นหนังที่ไร้สาระ เนอะ
ใครรู้เสน่ห์ ของหนังเรื่องช่วยบอกให้ฟังหน่อย
ไม่เข้าจึย


โดย: กานต์คุง (บ้า) IP: 125.27.174.206 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:16:12:36 น.  

 
อิอิอิ

มาแว้ววววววก๊าบบบบ




มาแว้ววววจากที่หายไปนานมาก

เออว่าแต่ นู๋หาระบบแชทไม่เจอเลยอ่า

ครูๆๆๆๆๆๆบอกหน่อยดิ





อยู่ไหนไม่เข้าใจ


ครูค่าต่อไปนี้นู๋มีรายมาฝากด้วยนะค่ะ


น่าร๊ากมาก

เลยละครู


โดย: พรหมสร(ตัววุ่นของครู) IP: 125.27.175.211 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:18:31:53 น.  

 


เอามาฝากค่ะ


โดย: พรหมสร IP: 125.27.175.211 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:18:40:22 น.  

 
อิอิ



ครูนู๋ปลื้มพี่เค้ามะมากเลยครูเอาอีกรูปนะครู





บายค่ะ


โดย: พรหมสร IP: 125.27.175.211 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:18:48:14 น.  

 
พรหมสรยังไม่รู้หรอว่า
ห้องแชท รูมอยู่ไหน
บอกให้นะ อยู่ มุมบนขวามือ
ไม่ได้อยู่บนสุดนะ
อยู่รองสุดท้าย เขียนว่า chat room
ลองเลื่อนขึ้นไปดูตรง ความคิดเห็นที่ 11สิ
(ไม่เกินนั่นหละ) พอเลื่อนเมาส์ไปถึงความคิดเห็นที่11แล้ว
ให้เลื่อน เมาส์ ไปด้านขวา
อยู่ประมาณนั้นแหละนะ


โดย: กานต์ IP: 125.27.174.206 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:19:02:13 น.  

 
รูปที่เอ็มม่า วัตสัน(ครีม) เอามาให้ดูในชุดชมพูเนี่ย
แสดงเรื่องแฮร์รี่รึเปล่า ถ้าใช่ละก็ส้วยสวย...


โดย: กานต์ IP: 125.27.174.206 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:20:27:47 น.  

 
ค่า

ขอบคุณค่ะเอ่อจะเรียกว่าไงดีน้า

เอาเป็นขอบคุณพี่กานต์นะค่ะ

เห็นแล้วจากที่สงสัยมานาน ขอบคุณค่ะ





ค่ะถ้าอย่างงั้น

บายนะครู

ดีค่ะ



โดย: พรหมสร IP: 125.27.175.211 วันที่: 15 กันยายน 2550 เวลา:21:27:53 น.  

 
มีรูปมาฝากด้วย



ค่ะ


โดย: พรหมสร(ตัววุ่นของครู) IP: 125.27.174.81 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:34:49 น.  

 




เห็นว่าชอบแฮร์รี่เลยแอบเอามาฝากค่ะ


โดย: พรหมสรมีรูปมาฝากด้วยค่า IP: 125.27.174.81 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:38:26 น.  

 
ขอมอบอีกรูปและกันนะค่ะ








พอก่อนดีกว่าค่ะ

บายค่ะ


โดย: พรหมสร IP: 125.27.174.81 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:11:43:15 น.  

 
งดทำไมอ่ะครูเบญ


โดย: Emma Roberts(ป.6/3 IP: 125.27.174.83 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:12:01:11 น.  

 
ขอโทษที่พวกพี่ๆ

แต่น้องคงไม่เข้าไปแล้วละ



โดย: พรหมสร IP: 125.27.174.81 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:13:53:48 น.  

 
เซ็งเลยในแชตมีคนอำ อ้างเป็นครูเบญด้วย
แลวอ้างเป็นแม่หนูด้วย เนอะกานต์ ฝน น็อต


โดย: หนิง IP: 125.24.111.231 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:14:09:31 น.  

 
ช่าย มีคนแอบอ้างเป็นครูเบญตั้ง3-4รอบ
ถ้าหนิงเป็นผู้ชายคงกลัวเมียน่าดู


โดย: กานต์ IP: 125.27.175.228 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:17:19:06 น.  

 
ว่ะ555+เรากลับมาแล้วมีใครคิดถึงบ้างเปล่าเนี่ย
ว่ะ555+


โดย: คนๆหนึ่งที่ไร้ค่า IP: 203.113.70.11 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:17:20:27 น.  

 
วีรึเปล่านั้น


โดย: กานต์ IP: 125.27.175.228 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:19:42:31 น.  

 
ครูเบญค่า

สวัสดีค่ะ




นู๋มีเรื่องไม่สบายใจแทนพี่คนนึงที่นู๋เพิ่งรู้จักอะค่ะ

นู๋ไม่รู้จะเอาไปเล่าให้ใครฟังดี

เพราะนู๋สัญญากับพี่ เฮ้ย ตัวเอง ว่า นู๋จะไม่บอกใครเพราะนู๋ไม่อยากทำให้พี่เค้าเดือดร้อนอะครู




นู๋ก็ไม่รู้จะทามไงแล้ว

ก็เลยมาเขียนเล่นๆแบบนี้แหละ

เอาเป็นว่า ช่วงนี้นู๋ก็คงไม่ได้มาเบครูบ่อยนักหรอกค่ะ

เพราะนู๋ขอเวลาไปอ่านหนังสือนะค่ะ



นู๋มึนมะมากเลยค่ะ ปีนี้



ครูค่าครู

ช่วยเอา.....เออ

ตัวอย่างข้อสอบหรือ

มาติวบนหน้าเว็บให้หน่อยได้มั้ยอะ

นะนะนะนะนะนะนะครูนะค่ะ


ถือว่าช่วยนู๋เพื่อนๆและพี่ๆอะนะครูนะ


อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

เครียดมะมากเลยอะครู

แต่ก็ชั่งเหอะค่ะ นู๋บายนะค่ะ

การบ้านทามเสร็จแล้วเหลือแต่ อ่านๆๆๆๆๆๆๆและอ่านค่








บายค่ะครู


โดย: พรหมสร IP: 125.27.171.61 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:20:14:58 น.  

 
คนที่ 87 มนัสวีใช่มั้ย
เรารู้นะ บังอาจว่าเราเป็นหมูขี้เรื้อยรึ
อย่างน้องเราก็มีน้ำใจ
ไม่เหมือนใครบางคน
เชอะ



ไม่เหมือนใครบางคน เห็นแก่กินลูกเดียว
(ด่าแหลกล่ะครับ พี่น้องครับ)
ไปและ
อ้อ สุขสันต์วันเกิดอีกรอบนะ มนัสวี
ไปและ

บาย


โดย: กานต์คุง (บ้า) IP: 125.27.170.30 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:19:56:26 น.  

 

มาเยี่ยมบ็อคครูเบ็ญค่ะ

บายค่ะ


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.170.25 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:21:11:20 น.  

 
แง้มากล่าวหาเราได้ไงไม่มีหลักฐาน
แน่นอนอย่ามาว่าเราเด่ะ


โดย: วีคุง(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.11 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:21:13:44 น.  

 
น่าสงสารตรงไหนเนี่ย
คุณ มนัสเพิล มีหลักฐานมิใช่รึ
ว่าคุณว่าฉัน
ว่าพรือ ฮึ คุณ มนัสเพิล





บาย.....................................................................................................................................................


โดย: กานต์คุง (บ้า) IP: 125.27.175.116 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:21:45:40 น.  

 
หนูเข้ามาเยี่ยมปล็อกครูเบญไม่ค่อยบ่อยคะแต่เข้ามาแช็ทบ่อยอยากให้เห็นตรงชื่ออะสวยปะ


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.171.198 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:21:49:30 น.  

 
ง่ะไม่เห้นเห็นหลักฐานเลย


โดย: วีคุง(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.75 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:18:11:10 น.  

 
เอาเอมม่ามาลงท่ายไมรู้อยู่ว่า
ครูเบญสวยกว่าเอมม่าตั้งเยอะ
ยังเอามาเทียบอีกยังไงยังไงครู
เบญก็สวยกว่าอยู่ดี



โดย: วีคุง(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.75 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:18:28:16 น.  

 
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมซะไม่นาน

ป.ล.ใครต้องการให้เราเขียนเฟรนชิปรีบบอก....รูปมีจำนวนจำกัด


โดย: null IP: 222.123.47.70 วันที่: 18 กันยายน 2550 เวลา:18:50:42 น.  

 
โห คุณยีนส์(พรหมสร) ไม่เข้ามาเลยนะ
เพิ่งเห็นตัวจริงเอง
ไม่นึกว่าจะน่ารักปานนี้
น่ารักนะ ยีนส์ของพี่น่ารักเสมอ


โดย: กานต์จ้ะ IP: 125.27.172.239 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:17:53:26 น.  

 
หวาดดีเราคือเจ้าแห่งศาสตร์มืด

ปล.ไปซะกริฟฟินสีทอง เอ๊ย กริฟฟินดอร์
นี่คือตู้นิรภัยของข้าเอง



โดย: คนที่คุณรู้ว่าใคร IP: 222.123.99.18 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:32:40 น.  

 
วันนี้มีกลอนมาเสนออีกแล้ว
พ่อเราแต่งเอง
ไม่ตลกมั้ง
คนไม่ตาย ก็ไม่วาย ชีวาวาส
ถึงพิคาด เข่นฆ่า ให้อาสัน
คนจะตาย ก็ต้องวาย ชีวาวัน
ไม้จิ้มฟัน แทงเหงือก ยังเสือกตาย
ไม่ตลกหรอก เอามาฝากเล่นๆ
บาย...


โดย: กานต์อีกน่ะแหละ IP: 125.27.172.239 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:38:46 น.  

 
เรารู้นะ เจ้าแห่งศาสตร์มืดคือเจนนี่


โดย: กานต์คุง (บ้า) IP: 125.27.172.239 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:44:24 น.  

 
อะฮ่า ขอบคุณค่ะ พี่กานต์สำหรับคำชม

อิอิ


อืม
แล้วก็ อิอิ เดี๋ยวนี้ไม่ได้มาบ่อยๆหรอกค่ะ

เดี๋ยวต้องไปอ่านหนังสือและ

. บาย

แล้วเจอกันนะค่ะ



โดย: พรหมสร IP: 125.27.181.50 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:46:38 น.  

 
เอ๋อคือว่า
คนลงรูปเอมม่า เป็นหลงตัวเองชัว ว่าเป็นเอมม่า
หุหุ น่าสงสาร สวยไม่ถึงครึ่ง หุหุ ฮะฮะ หิหิ งิงิ 555555555555+ 555+ กร๊ากๆๆ


โดย: กระจกสีขาว IP: 125.25.175.109 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:20:31:41 น.  

 
ไหนครูบอกว่าถ้าใครเข้า blog ครูเย็นนี้แล้วครูจาบอกว่าครูรัตนาคือใครครูไม่เห็นบอกเลย


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.172.10 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:20:33:40 น.  

 
เห็นด้วยกับ เล็ปบน งิงิเพราะอยุ่ห้องเดียวกันกับคนลงรูป(ไม่แน่ใจอ่าน่ะ ว่าช่ายไม๊) หลงตัวเองสุดสุด ให้คนอื่นเรยีกว่าเอ็มม่าอยุ่ได้เป็นอาไร..........? คิดเอง


โดย: Emotion_Boy IP: 125.25.175.109 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:20:34:45 น.  

 
เราคิดว่าเรารู้นะว่า Emotion_Boy คือใคร อันจังแน่เลยแต่เราขอบอกว่าเรามี Emotion มากกว่าแล้วอันก็ขโมย Emotion ของเราไปทั้งที่เราทำเองแล้วขโมยมาจากคนอื่น


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.172.10 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:21:00:42 น.  

 
เจนน้อยมางอะ
(ข้าวฟ่าง)


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:17:16 น.  

 
เจนน้อย


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:46:59 น.  

 
เจนน้อยไหนบอก5ครึ่งไง


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:50:00 น.  

 
ใครมาแล้วยกมือขึ้น


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:53:24 น.  

 
เรารอแกเป็นช.ม.แล้วนะเจนน้อย


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:56:43 น.  

 
ไอ้เจน


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:00:42 น.  

 
ไอ้เจนนี้มัน6กว่าแล้วนะ


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:07:44 น.  

 
แงแงแงแงไม่มีใครมาเลยอุตส่าได้เล่นตั้งนานอะ เจน วี กานต์ น้อย คุง จัง ทามไมไม่มางะโดยเฉพาะเจนน้อยไหนบอกจะเข้ามาคุยด้วยไง ฮือ ฮือ ทามไปได้


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:22:35 น.  

 
เราไม่รู้ว่าใครคือ
" ชอบส้ม6/1 "
ที่แชทกับเราหรอก
จงแสดงตัวทีไม่
อยากสืบเอง


โดย: วีคุง(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.11 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:27:57 น.  

 
ไปดีกว่าไม่เล่นแล้วเสียรม


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:36:42 น.  

 
เราเองคือเจ้าแห่งศาสตร์มืดไม่ใช่เจนนงเจนนี่

ปล.คนที่รู้ว่าใครมีนามกุลว่า .............

จะลงรูปให้ดู


คุณคิดว่าสวยไหม

พอก่อน


โดย: คนที่คุณรู้ว่าใคร IP: 222.123.246.45 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:28:59 น.  

 
ใครคือเห่งศสตร์มืดอะ


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:39:06 น.  

 
แล้วไอ้เค้านี้เค้าไหนอะ


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:40:51 น.  

 
บอกชื่อมาดิ


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.171.58 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:42:02 น.  

 
มนัสวีชอบแม็คๆๆๆ


โดย: คนที่รู้ IP: 125.27.173.119 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:20:18:13 น.  

 
ใครอยากได้ตัวอักษรสวยๆแบบนี้มั๊ย


♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ


ยังมีอีกเยอะนะแต่ขี้เกรียจลง



55+ก็คนมันเทพอานะ



ไปหาเอาเองแล้วกันถ้าอยากได้


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.171.3 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:22:02:09 น.  

 
คนที่คุณก็รู้ว่าใครมิทราบว่าคุณไหนหรอเพราะเรายังไม่รู้เลย


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.174.198 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:23:21:16 น.  

 
อุ้ยจ๋าเราอยากได้อ่ะสอนหน่อยนะ


โดย: ไอซ์ IP: 125.27.174.198 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:23:22:45 น.  

 
ไม่เห็นมีใครมาเลย อุตส่าได้เลนตั้ง2วัน2208


โดย: ข้าวฟ่าง IP: 125.27.173.123 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:17:48:58 น.  

 
เฮ้อ รับมิดั้ย ทำไมมีแต่คนลงรูปเราในบล็อกครูเบญนะ
..............ขอกันดีๆก็ได้ว่าขอลงรูปนะ



ป.ล.ไม่มี


โดย: null IP: 124.157.182.61 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:18:43:12 น.  

 
เรารู้แล้วว่าคนที่รู้ว่าคุณคือใครคือใคร ไอซ์ ( ฉ ) นั่นเอง


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.172.37 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:19:30:19 น.  

 
หนูมีเรื่องระบาย วันนี้คนเข้าแช็ทน้อยมากคะ หนูนั่งเฝ้าห้องแช็ทกับกานต์อยู่เบื่อมาก คะ


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.172.37 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:20:59:23 น.  

 
มีคนนิสัยไม่ดีในแช็ทด้วยคะบอกว่าเป็น กิตติกร มนัสวี
กิรภัส และ อีก หลายๆคนด้วย


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.172.37 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:22:18:51 น.  

 
ใช่ค่ะ แม็กนั่นแหละ ปลอมเป็นคนนั้นที คนนี้ที
สงสารวี


โดย: กานต์ IP: 125.27.170.14 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:23:14:27 น.  

 
ครีมหลงตัวเองมากไปรึเปล่า
เอ้อ เมื่อวานก็
รู้สึกว่าครีมมึนหัว เมา รึบ้านี่แหละ
เขียนว่ารักใครก็ไม่รู้
เดี๋ยวรักเดี๋ยวรัก


โดย: กานต์คุง(บ้า) IP: 125.27.171.97 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:8:55:25 น.  

 
วันนี้เราเข้าตอนบ่ายมีคนบอกว่าง่วงนอนด้วย


เราว่าแปลกๆ


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.170.50 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:14:30:40 น.  

 
รักทุกคน..........จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: null IP: 124.157.182.32 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:17:24:46 น.  

 
โอว้จอร์ดเราไม่ได้เข้ามานานทาม
ม่ายโพสกันน้อยนิดเหลือหลายม่าย
เข้าจาย
อ้อป.ล.ถ้าเข้ามาแช็ดกรุนาใช้ชื่อของท่านเองเด้อ
.................จบ


โดย: วี(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.11 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:18:30:24 น.  

 
เข้ามาแช็ดกันบ้างเด่อ
พี่น้องคราบห้อง
เงียบเชียบ
มากเลย
เข้ามา
กัน
บ้างนี่มีเรานั่งเฝ้าห้อง
อยู่นะเนื่ย


โดย: วี(ผู้น่าสงสาร) IP: 203.113.70.11 วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:19:56:47 น.  

 
วันนี้เราจะทิ้งเว็บสำหรับแฟนคลับgolf-mikeนะ
//www.monkiez.com/


โดย: เด็กหญิงนิรนาม IP: 125.24.103.97 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:18:08:15 น.  

 
ตัวอักษรแบบอุ้ยเราก้อมีมีเยอะด้วย555+
คนมันเทพ
แต่ลงให้ไม่ได้เพราะแม่ให้เราเล่นคอมเครื่องเก่ามันไม่มีโปรแกรม


โดย: เด็กหญิงนิรนาม IP: 125.24.103.97 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:18:24:39 น.  

 
•÷±‡± !!J!!Js.s.จาปิด!!ล้วo:ทามงาeด้าe!ด๋วก้oจะม้าeด้าe!@o!พื่ou!!ล้วอีก!!ค่วัuครึ่ง!o!ฮoไม่มี!พื่ou!!ล้ว!xมืouติด!กาะร้างคu!ดีeว±‡±÷•
555+เราก้อมี


โดย: minieก้อมีแบบอุ้ย IP: 125.24.103.97 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:20:00:28 น.  

 
°º¤ø,¸¸,ø¤º°`°º¤øไม่!คeคิดuoกจัe::!!ต่ที่ทำไป!wราะจัeมัuร้ากกกกø¤º°`°º¤ø,¸¸,ø¤º°


โดย: minieก้อมีแบบอุ้ย2 IP: 125.24.103.97 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:20:02:28 น.  

 
แบบทดสอบก่อนเรียน

๑. ข้อใดเป็น การสื่อสารโดยวัจนภาษา
ก. ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม
ข. พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด
ค. หน้าบึ้งแผดเสียงเยี่ยงกุมภัณฑ์
ง. ชุลีตื่นเพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก

๒.ข้อใดมีความหมายเชิงอุปมาได้อย่างเดียว
ก.ฉันเกลียดแมงดา
ข.อย่าไปเอาเรื่องกับตาสีตาสาเลย
ค.ในกรงมีทั้งนกแก้วนกขุนทองอย่างละ ๑ ตัว
ง.เรื่องมันจบไปแล้ว... อย่ามากวนให้น้ำขุ่นอีกได้ไหม
๓. ข้อใดมีโครงสร้างของพยางค์ดังนี้
พยัญชนะต้น+ สระ+เสียงวรรณยุกต์
ก. พร
ข. พิณ
ค. แพร่
ง. เพลง
๔.ข้อใดเป็นลักษณะของประโยคในภาษาไทย
ก. เขาสวมเสื้อสีแดงสด
ข. สองโจรบุกปล้นธนาคาร
ค. หล่อนมาในชุดราตรีสีแดง
ง. เธอควรจับรถไฟตามเขาไป

๕. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกันทุกคำ
ก. คั่ว คว่ำ ไขว้ แขวน
ข. พลั้ง เผลอ แผล ไพล
ค. อยาก อยู่ แหย่ แหน
ง. แหนม หนอน โหน ไหน
๖.คำในข้อใดมีเสียงสระประสมทุกคำ
ก. เสียตัวกลัวเสียใจ
ข. เขียนเสือให้วัวกลัว
ค. เขาเชื่อเมียเหลือเกิน
ง. ควรเปลี่ยนเสื้อเหลือง
๗. ข้อใดมีจำนวนเสียงวรรณยุกต์เท่ากับ “บุพเพสันนิวาส”
ก. เริ่มคิดก็ปวดหัว
ข. แต่เขาไม่ท้อถอย
ค. นักร้องแต่งตัวสวย
ง. ไม่ชอบดื่มโค้กหรือ
๘. คำในข้อใดเป็นพยางค์ปิด
ก. เจ็บช้ำน้ำใจ
ข. สิบเบี้ยใกล้มือ
ค. วัวหายล้อมคอก
ง. ติเรือทั้งโกลน
๙.ข้อใดไม่มีคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ
ก. อย่าไปกังวลเรื่องอื่น
ข. คุณจะได้รับผลตอบแทนสูง
ค. ข้าวเป็นสินค้าออกสำคัญของไทย
ง. พี่ต้องได้ฝึกฝนงานนี้มาแล้วเป็นอย่างดี


๑๐.คำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศในข้อใดควรใช้มากที่สุด
ก. เขานั่งรอที่โซฟา
ข. ดิฉันเพิ่งจะไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้านมา
ค. ผมได้รับการ์ดอวยพรวันปีใหม่จากน้องโบด้วย
ง. ฉันไม่ต้องการให้ใครก๊อปปี้งานของคนอื่นมาส่ง
๑๑. ประโยคใดเป็นประโยคที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาต่างประเทศ
ก. เขาเรียนดีแต่ยากจน
ข.ฉันชอบกินส้มตำไทย
ค.ฉันพยายามทำงานด้วยความตั้งใจ
ง. ฉันพบตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง
๑๒. ข้อใดเป็นคำมูลทุกคำ
ก. คำนึง กรณี กำหนด
ข. จิตใจ วงรี ขรุขระ
ค. คู่มือ นิดหน่อย เข้มข้น
ง.แบบฟอร์ม ดูแล หม่นหมอง
๑๓. คำทุกคำในข้อใดมีวิธีการสร้างคำเหมือนคำว่า “ เชือดเฉือน”
ก. แก้เก้อ ขัดคอ
ข. ข้าทาส ค่าจ้าง
ค. ปากคอ คอหอย
ง. รอคอย แบ่งปัน
๑๔. ข้อใดมีคำประสมที่ประกอบด้วยคำนาม กับคำกริยา
ก. ใจดำ น้ำใช้ ไก่ตอน
ข. ลูกเลี้ยง ตีนผี หน้าม้า
ค. กันชน นักเขียน ใบพัด
ง. เครื่องมือ น้ำหวาน บ้านพัก
๑๕ . ข้อใดมีทั้งคำสมาสแลคำสมาสแบบสนธิ
ก. วิทยากร วิทยาลัย
ข. พุทธบูชา พุทธางกูร
ค. มหัศจรรย์ มหรรณพ
ง. สรรพสิ่ง สรรพากร
๑๖. “เด็กที่กำลังเตะฟุตบอลเรียนเก่งมาก”
ข้อความนี้ไม่ปรากฏคำชนิดใด
ก. คำสรรพนาม
ข. คำบุพบท
ค. คำกริยา
ง. คำวิเศษณ์
๑๗. ข้อใดไม่ใช่กลุ่มคำ
ก. ใครอยู่ในห้อง
ข. เก้าอี้สีขาวในห้องรับแขก
ค. พิจิตราที่เป็นรองผู้จัดการฝ่ายขาย
ง. ผู้จัดการโรงงานผลิตปลากระป๋อง
๑๘. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
ก. ปู่ชมว่าฉันเก่ง
ข. ฉันหิวจนเป็นลม
ค. นุและนีไปดูหนัง
ง. พ่อหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโต
๑๙. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ก. ชูชกกินจนท้องแตก
ข. ฉันเห็นน้องอ่านหนังสือ
ค. ฉันทำงานจนกระทั่งเช้า
ง. น้องนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง
๒๐. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
ก. ต้นกล้วยที่ริมรั้วออกเครือแล้ว
ข. เขาอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งหลายปีแล้ว
ค. เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันนั่งอยู่โต๊ะนู้น
ง. เด็กๆเล่นฟุตบอลที่สนามหน้าโรงเรียน




แบบทดสอบหลังเรียน

๑. ข้อใดเป็น การสื่อสารโดยวัจนภาษา
ก. ชุลีตื่นเพราะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก
ข. หน้าบึ้งแผดเสียงเยี่ยงกุมภัณฑ์
ค. พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด
ง. ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุม

๒.ข้อใดมีความหมายเชิงอุปมาได้อย่างเดียว
ก.เรื่องมันจบไปแล้ว... อย่ามากวนให้น้ำขุ่นอีกได้ไหม
ข.ในกรงมีทั้งนกแก้วนกขุนทองอย่างละ ๑ ตัว
ค.อย่าไปเอาเรื่องกับตาสีตาสาเลย
ง.ฉันเกลียดแมงดา
๓. ข้อใดมีโครงสร้างของพยางค์ดังนี้
พยัญชนะต้น+ สระ+เสียงวรรณยุกต์
ก. พร
ง. พิณ
จ. แพร่
ง. เพลง
๔.ข้อใดเป็นลักษณะของประโยคในภาษาไทย
ก. เธอควรจับรถไฟตามเขาไป
ข. หล่อนมาในชุดราตรีสีแดง
ค. สองโจรบุกปล้นธนาคาร
ง. เขาสวมเสื้อสีแดงสด

๕. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกันทุกคำ
ก. แหนม หนอน โหน ไหน
ข. อยาก อยู่ แหย่ แหน
ค. พลั้ง เผลอ แผล ไพล
ง. คั่ว คว่ำ ไขว้ แขวน
๖.คำในข้อใดมีเสียงสระประสมทุกคำ
ก. ควรเปลี่ยนเสื้อเหลือง
ข. เขาเชื่อเมียเหลือเกิน
ค. เขียนเสือให้วัวกลัว
ง. เสียตัวกลัวเสียใจ
๗. ข้อใดมีจำนวนเสียงวรรณยุกต์เท่ากับ “บุพเพสันนิวาส”
ก. ไม่ชอบดื่มโค้กหรือ
ข. นักร้องแต่งตัวสวย
ค. แต่เขาไม่ท้อถอย
ง. เริ่มคิดก็ปวดหัว
๘. คำในข้อใดเป็นพยางค์ปิด
ก. วัวหายล้อมคอก
ข. สิบเบี้ยใกล้มือ
ค. ติเรือทั้งโกลน
ง. เจ็บช้ำน้ำใจ
๙.ข้อใดไม่มีคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ
ก. พี่ต้องได้ฝึกฝนงานนี้มาแล้วเป็นอย่างดี
ข. ข้าวเป็นสินค้าออกสำคัญของไทย
ค. คุณจะได้รับผลตอบแทนสูง
ง. อย่าไปกังวลเรื่องอื่น


๑๐.คำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศในข้อใดควรใช้มากที่สุด
ก. ฉันไม่ต้องการให้ใครก๊อปปี้งานของคนอื่นมาส่ง
ข. ผมได้รับการ์ดอวยพรวันปีใหม่จากน้องโบด้วย
ค. ดิฉันเพิ่งจะไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้านมา
ง. เขานั่งรอที่โซฟา
๑๑. ประโยคใดเป็นประโยคที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาต่างประเทศ
ก. ฉันพบตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง
ข.ฉันพยายามทำงานด้วยความตั้งใจ
ค.ฉันชอบกินส้มตำไทย
ง. เขาเรียนดีแต่ยากจน
๑๒. ข้อใดเป็นคำมูลทุกคำ
ก. แบบฟอร์ม ดูแล หม่นหมอง
ข. คู่มือ นิดหน่อย เข้มข้น
ค. คำนึง กรณี กำหนด
ง. จิตใจ วงรี ขรุขระ
๑๓. คำทุกคำในข้อใดมีวิธีการสร้างคำเหมือนคำว่า “ เชือดเฉือน”
ก. ปากคอ คอหอย
ข. ข้าทาส ค่าจ้าง
ค. แก้เก้อ ขัดคอ
ง. รอคอย แบ่งปัน
๑๔. ข้อใดมีคำประสมที่ประกอบด้วยคำนาม กับคำกริยา
ก. เครื่องมือ น้ำหวาน บ้านพัก
ข. กันชน นักเขียน ใบพัด
ค. ลูกเลี้ยง ตีนผี หน้าม้า
ง. ใจดำ น้ำใช้ ไก่ตอน
๑๕ . ข้อใดมีทั้งคำสมาสแลคำสมาสแบบสนธิ
ก. มหัศจรรย์ มหรรณพ
ข. สรรพสิ่ง สรรพากร
ค. พุทธบูชา พุทธางกูร
ง. วิทยากร วิทยาลัย
๑๖. “เด็กที่กำลังเตะฟุตบอลเรียนเก่งมาก”
ข้อความนี้ไม่ปรากฏคำชนิดใด
ก. คำสรรพนาม
ข. คำวิเศษณ์
ค. คำบุพบท
ง. คำกริยา
๑๗. ข้อใดไม่ใช่กลุ่มคำ
ก. ผู้จัดการโรงงานผลิตปลากระป๋อง
ข. พิจิตราที่เป็นรองผู้จัดการฝ่ายขาย
ค. เก้าอี้สีขาวในห้องรับแขก
ง. ใครอยู่ในห้อง
๑๘. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
ก. พ่อหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโต
ข. นุและนีไปดูหนัง
ค. ฉันหิวจนเป็นลม
ง. ปู่ชมว่าฉันเก่ง
๑๙. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ก. น้องนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง
ข. ฉันเห็นน้องอ่านหนังสือ
ค. ฉันทำงานจนกระทั่งเช้า
ง. ชูชกกินจนท้องแตก
๒๐. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
ก. เด็กๆเล่นฟุตบอลที่สนามหน้าโรงเรียน
ข. เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันนั่งอยู่โต๊ะนู้น
ค. เขาอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งหลายปีแล้ว
ง. ต้นกล้วยที่ริมรั้วออกเครือแล้ว









โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:12:03:21 น.  

 
แบบทดสอบก่อนเรียน

๑. ข้อใดเป็น การสื่อสารโดยวัจนภาษา
ข. พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด
๒.ข้อใดมีความหมายเชิงอุปมาได้อย่างเดียว
ง.เรื่องมันจบไปแล้ว... อย่ามากวนให้น้ำขุ่นอีกได้ไหม
๓. ข้อใดมีโครงสร้างของพยางค์ดังนี้
พยัญชนะต้น+ สระ+เสียงวรรณยุกต์
ค. แพร่
๔.ข้อใดเป็นลักษณะของประโยคในภาษาไทย
ก. เขาสวมเสื้อสีแดงสด
๕. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะต้นเหมือนกันทุกคำ
ข. พลั้ง เผลอ แผล ไพล

๖.คำในข้อใดมีเสียงสระประสมทุกคำ
ง. ควรเปลี่ยนเสื้อเหลือง
๗. ข้อใดมีจำนวนเสียงวรรณยุกต์เท่ากับ “บุพเพสันนิวาส”
ข. แต่เขาไม่ท้อถอย
๘. คำในข้อใดเป็นพยางค์ปิด
ก. เจ็บช้ำน้ำใจ
๙.ข้อใดไม่มีคำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ
ง. พี่ต้องได้ฝึกฝนงานนี้มาแล้วเป็นอย่างดี
๑๐.คำทับศัพท์ภาษาต่างประเทศในข้อใดควรใช้มากที่สุด
ข. ดิฉันเพิ่งจะไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้านมา
๑๑. ประโยคใดเป็นประโยคที่ได้รับอิทธิพลจากภาษาต่างประเทศ
ง. ฉันพบตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง
๑๒. ข้อใดเป็นคำมูลทุกคำ
ก. คำนึง กรณี กำหนด
๑๓. คำทุกคำในข้อใดมีวิธีการสร้างคำเหมือนคำว่า “ เชือดเฉือน”
ง. รอคอย แบ่งปัน

๑๔. ข้อใดมีคำประสมที่ประกอบด้วยคำนาม กับคำกริยา
ก. ใจดำ น้ำใช้ ไก่ตอน
ข. กันชน ตีนผี หน้าม้า
ค. นักเขียน ลูกเลี้ยง ใบพัด
ง. เครื่องมือ น้ำหวาน บ้านพัก
(แก้ไขคำตอบข้อ ๑๔ -๑๕ให้ด้วย นะคะ)
๑๕ . ข้อใดมีทั้งคำสมาสแลคำสมาสแบบสนธิ
ก. วิทยากร วิทยาศาสตร์
ข. พุทธบูชา พุทธางกูร
ค. มหัศจรรย์ มหรรณพ
ง. สรรพสิ่ง สรรพมงคล
๑๖. “เด็กที่กำลังเตะฟุตบอลเรียนเก่งมาก”
ข้อความนี้ไม่ปรากฏคำชนิดใด
ข. คำบุพบท
๑๗. ข้อใดไม่ใช่กลุ่มคำ
ก. ใครอยู่ในห้อง
๑๘. ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
ง. พ่อหิ้วกระเป๋าเดินทางใบโต
๑๙. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ง. น้องนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่ง
๒๐. ข้อใดเป็นประโยคความซ้อน
ค. เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันนั่งอยู่โต๊ะนู้น


โดย: ครูรัตนา IP: 61.19.153.195 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:13:59:57 น.  

 
ตอนนี้เราเปลี่ยนชื่อชนันท์จาก............พริตตี้..เป็น..เซ็กซี่อย่างเป็นทางการแล้ว





โดย: null IP: 222.123.42.55 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:14:18:27 น.  

 
เรามีเยอะกว่านี้นะแต่ขี้เกรียจลง


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.171.75 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:19:26:57 น.  

 
เฮ้ย ทำไมห้องแชทไปอยู่ความคิดเห็นที่6ล่ะ
แปลกๆนะ ไม่ได้มาคอมเม้นต์ซะนาน
ไม่มีไรเขียนและ บาย


โดย: กานต์จัง IP: 125.27.172.37 วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:21:57:48 น.  

 
วันนี้ในแช็ทมีคนอยากเล่นกับน้องเราด้วยจาจีบเหรอครีม


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.171.32 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:9:03:35 น.  

 
เกือบมีเรื่องแล้วเราหาเรื่องใส่ตัวจริง ( ในแช็ท )


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.171.32 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:9:50:16 น.  

 
มาแว้ววววว


โดย: พรหมสร IP: 125.27.174.190 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:13:18:05 น.  

 
โรงเรียนปิดเทอมเเล้วใครดีจัยบ้าง


โดย: แรฟพี IP: 61.7.160.172 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:13:28:22 น.  

 
มาจากไหนละพรหมสร


โดย: คนดี IP: 61.7.160.172 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:13:30:20 น.  

 
อ ย า ก c h a t จั ง อ ย่ ใ น w e p อ ะ ไ ร


โดย: คน IP: 61.7.160.172 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:13:36:25 น.  

 
รู้แล้วววววววววววววว

เด็กหญิงนิรนาม คือ อันจังแห่ง ป.6/1นี่เอง 555
ส่วนผู้หวังดี 6/1 ก้อต้องรอดูปายเรื่อยๆ


โดย: คนที่คุณไม่รู้ว่าใคร IP: 125.25.233.104 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:14:36:23 น.  

 
คนที่คุณไม่รู้ว่าใคร คือ หนิง ( หมีควายของอาแอน )


โดย: ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ ก็คนมันเทพต้องเข้าใจกันหน่อย ♥♡..·.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ IP: 125.27.174.47 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:15:00:17 น.  

 
พรหมสรบ้าที่สุด


โดย: null IP: 203.172.199.254 วันที่: 4 ตุลาคม 2550 เวลา:8:42:50 น.  

 
ครูเบญวัสดีค่ะครูเบญsrc=https://www.bloggang.com/emo/emo36.gif>


โดย: แพร IP: 58.9.49.223 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:16:29:56 น.  

 
0875233376


โดย: สุดหล่อ IP: 118.172.135.204 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:01:11 น.  

 
ไม่มีแล้วคนนั่งกินข้าวตรงหน้า
ไม่มีแล้ววาจาอันสดใส
ไม่มีแล้วคำปลอบโยนด้วยหัวใจ
ไม่มีแล้วไม่มีคัยไม่มีเทอ
ไม่มีคนร่วมตากแดดร่วมตากฝน
ไม่มีคนคอยเคียงข้างอยู่เสมอ
ไม่มีคนทุกวันเห็นทุกวันเจอ
ไม่มีเทอฉันจะสุขใด้อย่างไร
ลาแล้วเพื่อนวันวานอันหวานฉ่ำ
ลาแล้วจำไมตรีอันดีใว้
พวกเราเป็นเพื่อนกันตลอดไป
ลาแล้วใจ ลาแล้วจาก ไม่อยากลา



เพื่อนของฉัน....
อยู่ตรงนั้นสบายดีไหม...
เมื่อขอบฟ้ากว้างเราห่างไกล...
เธอจะเป็นอย่างไรบ้างคนดี...

ก็ได้แต่ส่งใจให้...
มันลอยไปหาเธอทุกที่...
เชื่อเถอะนะว่าทุกทุกวินาที...
เธอยังคนมีฉัน..
คนนี้อยู่ในใจ...



วันเวลาดีดีที่เธอเคยมอบให้
ฉันจะเก็บไว้ในใจ.. เสมอ
แม้วันนี้จะต้องไกล .. ไปจากเธอ
แต่ซักวันก็จะเจอ.. กันอีกครา
ภาพที่เธอเล่นหัว โกรธงอนฉัน
ภาพวันนั้นที่ฉันมีปัญหา
ภาพที่เธอช่วยเหลือ..กันเรื่อยมา
จะจดจำทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด



คิดถึงเธออยู่เสมอ...
แม้ไม่ได้เจอนานแค่ไหน...
ความผูกพันธ์..ความหวังดี..
ความห่วงใย...
ยิ่งทวีขึ้นใจไม่จืดจาง


"miss U"
"Never Forget my friends"
"That they have friends like you."
"With each other forever."
"Love each other forever."
"Friends together forever."

"We will not leave each other."

"I love U"



โดย: GarnZ IP: 118.173.14.182 วันที่: 16 ตุลาคม 2552 เวลา:14:38:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แฟนสาวของ Dr Reid
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]














font>
Friends' blogs
[Add แฟนสาวของ Dr Reid's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.