กรกฏาคม 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
 
REVIEW : Cleansing Sheet 2 ยี่ห้อ Biore vs Bifesta
นอกจากการบำรุงผิวหน้าจะทำให้ผิวหน้าของเราสวย สดใสแล้ว ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่างนึงก็คือ ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า เพราะในแต่ละวัน เราต้องแต่งหน้าหลายขั้นตอน ทากันแแดด เผชิญกับฝุ่น มลพิษต่างๆ ดังนั้น การทำความสะอาดผิว เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางมีมากมาย ทั้งแบบ Oil, Cream, Lotion, Water ฯลฯ แต่วันนี้ จะขอลองการล้างเครื่องสำอางอีกแบบนึง ก็คือ Cleansing Sheet ที่อยากลองก็เพราะช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่จะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ มีไปต่างประเทศบ้าง ดังนั้น จึงต้องหาผลิตภัณฑ์ที่พกพาได้สะดวก ตอนนี้ในตลาดก็มีมากมายหลายยี่ห้อ แต่วันนี้จะมาลอง 2 ยี่ห้อ ที่ถือได้ว่าชื่อติดตลาดที่สุด

Biore Perfect Cleansing Cotton VS Bifesta Tightening Cleansing Sheet




Biore Perfect Cleansing Cotton
มี 3 package
1. แบบซอง 10 แผ่น ราคา 75 บาท
2. แบบ refill 44 แผ่น ราคา 270 บาท ไม่มีกล่องพลาสติก
3. แบบ full pack 44 แผ่น ราคา 380 บาท มีกล่องพลาสติก ** อันนี้คือแบบที่เราเอามาลองนะคะ
ข้อมูลทั่วไป
- เส้นใยธรรมชาติ 100% เนื้อนุ่ม ไร้แอลกอฮอล์ ปราศจากสี อ่อนโยนต่อผิว
- ทำความสะอาดเครื่องสำอางหมดจด แม้มาสคาร่ากันน้ำ
- Moisturizing Serum บำรุงผิวนุ่ม ชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงหลังเช็ด

Bifesta Tightening Cleansing Sheet

มีขนาดเดียว คือ 48 แผ่น ราคา 380 บาท

ข้อมูลทั่วไป
- เพียงแค่เช็ดเบาๆ เมคอัพ ครีมกันแดดและสิ่งสกปรกบนผิวก็หลุดออกอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องล้างน้ำออก หรือ ล้างซ้ำด้วยโฟมหรือเจลใดๆ
- สูตรน้ำ (Water – Based) ให้ความรู้สึกสดชื่นเบาสบาย  ไม่เหนอะหนะผิว
ช่วยผลัดเชลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ พร้อมกระชับรูขุมขน ด้วยสารจากพืชธรรมชาติ ฮามาเมลิส (Hamamelis) 

Testing
เรามาลองดูกัน ไล่ตั้งแต่ package ตัวกระดาษ และการลองเช็ดจริง


Package
Bifesta เป็นแพ๊คแบบใช้แล้วทิ้ง มีส่วนบนที่เป็นโครงพลาสติกสำหรับเปิดปิด ส่วนซองเป็นเหมือนถุงพลาสติกฟอยด์ 
Biore มีซองอยู่ชั้นใน ส่วนเปิดปิดเป็นกระดาษกาว แต่สำหรับแพ๊คแบบที่เลือกมานี้ จะมีกล่องพลาสติกขนาดพอดีกับห่อข้างใน เอาไว้ใส่ด้วย ถ้าเป็นแบบ refill จะได้แค่ซองผลิตภัณฑ์ข้างใน ไม่มีกล่อง



ตัวกระดาษเช็ดหน้า
เมื่อเทียบกันแล้ว Bifesta มีขนาดใหญ่กว่า Biore เกินครึ่งเลยแฮะ





เทียบเนื้อกระดาษ Biore จะดูหนานุ่มกว่า มีความยืดหยุ่นมากกว่า แล้วก็ดูชุ่มกว่าเล็กน้อย สังเกตุจากรูปจะเห็นว่าอาจจะดูหนานุ่มกว่า แต่หากเช็ดแบบสมบุกสมบัน ก็มีโอกาสเป็นขุยง่ายมากกว่าเช่นกัน


ลองจับกระดาษมาดึงดูความยืดหยุ่น ของ Biore ยืดออกเยอะเลย แต่ Bifesta กระดาษไม่ค่อยยืดออก

มาลองเช็ดเครื่องสำอางกัน อันแรกคือ majolica eyeliner , etude pencil eyeliner, Estee Lauder BB cream และ Bobbie brown cream blush


การเช็ดครั้งที่ 1 ลองเอากระดาษเช็ดแบบเบาๆ ไม่ลงน้ำหนัก
ผลปรากฎว่า Biore เช็ดออกได้มากกว่า



เช็ดครั้งที่ 2 ลงน้ำหนักในการเช็ดเพิ่มขึ้น จะเห็นว่า Biore เช็ดออกเกือบหมด



เพิ่มเติม
กลิ่น ของ Biore จะมีกลิ่นหอมที่แรงกว่า อ่านจากฉลากของแต่ละอัน Biore จะชุบด้วย Cleansing Oil ส่วนของ Bifesta ก็จะชุบด้วย Cleansing lotion ก็เป็นตัวเดียวกับที่วางขายเป็นขวดนั่นล่ะ 

My Insight View : สรุปจากการลองใช้แล้ว ทั้ง 2 ตัวมีส่วนที่ชอบ ส่วนที่เด่นต่างกัน 
Biore ชื่นชอบในเรื่องของ package ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เหมาะกับทุกสถานการณ์ ถ้าเดินทาง แล้วไม่อยากพกอะไรมากก็ซื้อแบบห่อเล็ก 10 แผ่นพอ หรืออย่างเรามีกล่องจากการซื้อครั้งแรกอยู่แล้ว เราก็ซื้อแบบ refill ที่จะประหยัดเงินไปได้มากอยู่ แต่จะติดอยู่ก็เรื่องขนาดแผ่นที่เล็ก ถ้าแต่งหน้าแบบจัดเต็ม อาจต้องใช้ 2 แผ่น ดูแล้วมีส่วนผสมของน้ำหอม บางคนอาจจะแพ้ได้

Bifesta ชอบกับขนาดแผ่นที่ใหญ่ แผ่นเดียวเอาอยู่หมด แต่ package ถ้าจะพกไปไหนแบบสมบุกสมบัน หรือใช้แบบนานๆ มีโอกาสฉีกขาดได้ อย่างตอนนี้พกใส่กระเป๋าไปต่างจังหวัดตลอด มันค่อนข้างใหญ่ และหนักไปหน่อย พกไปพกมา ตรงมุมๆซองเริ่มจะเปื่อยแล้ว ถ้าเกิดเป็นรูขึ้นมา cleansing คงระเหยไปหมด 

ในเรื่องประสิทธิภาพการเช็ด ทั้ง 2 ตัวไม่ต่างกันมาก เช็ดเครื่องสำอางออกได้หมดทั้งคู่ เช็ดแล้วไม่บาดผิวหน้า แต่สำหรับดวงตา ส่วนตัวยังต้องใช้ eye remover อยู่ดี เพราะจะสะอาดมากกว่า

สำหรับบางคนที่บอกว่า เราต้องล้างหน้าซ้ำอีกมั้ย เพราะมีการเคลมว่าไม่ต้องล้างหน้าซ้ำ ขอแอบบอกว่าตอนแรกที่ซื้อ นอกจากจะเรื่องพกเวลาเดินทางแล้ว ยังแอบคิดว่า ถ้าวันไหนขี้เกียจจะใช้อันนี้เช็ดหน้าอย่างเดียว ว้าว...เริ่ด แต่พอลองใช้จริง ยังไงก็ต้องล้างหน้าอยู่ดี เพราะยังคงรู้สึกเหนอะหน้า มันไม่สะอาดสดชื่นอ่ะ แต่ลองเทียบกัน Biore หนึบน้อยกว่านิดนึง

สรุปแล้ว ส่วนตัวชอบใช้เวลาเดินทางไปไหนต่อไหน เหมาะ และสะดวกมาก ไม่ต้องพกขวดใหญ่ๆ เป็นทางเลือกที่ดี ใช้งานได้ดีเลย แต่ถ้าคิดราคาต่อแผ่น 8 - 9 บาทก็แพงอยู่ แถมถ้าทิ้งไว้นาน อาจจะระเหยจนแห้งไปได้ ดังนั้น เมื่อเรามีโจทย์แบบนี้ การที่มี package size เล็กก็ถือเป็นข้อได้เปรียบ สำหรับคนที่ขี้เกียจพกห่อใหญ่ๆ และขาจรแบบเราที่พอจะเดินทางก็ค่อยซื้อ เราเลยใช้เรื่อง package มาเป็นข้อฟันธงสำหรับเรา แต่ถ้าจะใช้ประจำ และใช้ต่อครั้งแบบคุ้มๆ ใช้แผ่นใหญ่ก็คุ้มดี เพราะแผ่นเดียวจบ

ใครชอบ ใครเชียร์ตัวไหน หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ Smiley



Create Date : 20 กรกฎาคม 2558
Last Update : 21 กรกฎาคม 2558 0:10:05 น.
Counter : 3161 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Jeegy
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อจี เป็นสาวออฟฟิศธรรมดาที่ชอบการ shopping เป็นชีวิตจิตใจ Blog นี้ จะเป็นการแบ่งปัน และแชร์ประสบการณ์การ shopping รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากความรู้สึกผู้ใช้จริงๆ ไม่อิงวิชาการ ขอเรียกว่า "บันทึกสาวนักช๊อปฯ" ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านกันค่ะ