เกาะช้างหน้าฝน กะ คนกันเอง
เที่ยวเกาะช้างหน้าฝน (รึเปล่า) จริง ๆ แล้วอ่ะ ปกติหลังออกพรรษาฝนจะหยุดตกแล้ว แต่ปีนี้ไหงเป็นงี้ก็ไม่รู้ ไปเที่ยวเกาะทั้ง ๆ ที่ฝนตก พายุเข้ารอบ ๆ ประเทศไทย ลุ้นกันตัวโก่งตั้งแต่ขับรถออกจาก กทม. ตลอดทางมีฝนบ้างประปราย แต่ไม่มากนักใช้เวลาเดินทางจาก กท.-ตราด ประมาณ 5 ชม. ถึงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง และนั่งเรือต่อไปยังเกาะช้างใช้เวลาประมาณ 20 นาที (ค่าตั๋วไปกลับคนละ 120 รถคันละ 200)
บรรยากาศบนเรือออกจะขมุกขมัวเล็กน้อย ฝนพรำบ้างนิดหน่อย ลงเรือเฟอร์รี่ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะมีแค่เม็ดฝนแต่ไม่มีลมแรง
ภาพทางเข้า "บ้านแสนสบาย รีสอร์ท" ที่เราไปพักกันคราวนี้ รีสอร์ทอยู่ติดถนนเลย (เกาะช้างใช้ถนนเส้นเดียวรอบเกาะ ขับยังไงก็วนมาถึงกันได้)
ภาพในห้องน้ำที่ใช้ไฟสีสวย ๆ สะอาดและค่อนข้างกว้าง
จริง ๆ แล้ว ทริปวันแรกบนเกาะช้างของเราจะเป็นไปเที่ยวน้ำตกคลองพลู แต่วันที่เราไป ช่วงบ่ายก่อนเราไปถึงฝนดันตกมาเยอะทำให้น้ำขึ้น ที่น้ำตกเลยปิด ช่วงบ่ายวันแรกเราเลยได้ไปพายเรือแคนนู (เมื่อยมาก+พายไกลมาก) ที่ล่มแล้วล่มอีก แต่ก็สนุกดี และปิดท้ายคืนแรกบนเกาะช้างที่ร้านอาหาร (จำชื่อไม่ได้) ที่รีสอร์ทพาไป และนั่งเรือชมหิ่งห้อย (เยอะมาก)
อาหารมื้อแรกบนเกาะช้างของพวกเรา สีสัน หน้าตา และรสชาติดีทีเดียว
แสงไฟในร้าน สร้างบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ
ช่วงเช้าวันที่ 2 บนเกาะช้าง ตื่นมางัวเงีย ก็ลุกมากินอาหารเช้าที่รีสอร์ทจัดไว้เป็น american breakfast อิ่มแปร้
อาหารมื้อเช้า จัดเองกะมือ น่ารักป่ะหล่ะ
ภาพนี้เป็นบ้านพักฝั่งตรงข้ามกับบ้านเราอ่ะ หุหุ แอบถ่ายมา
ถึงเวลาลงเรือ (ไป) ดำน้ำ รีบถ่ายรูปตอนที่ยังไม่ได้ลงน้ำก่อนที่จะมีสภาพเป็นลูกหมาตกน้ำ แล้วจะไม่มีภาพงาม ๆ
ท่าเรือที่เราไปลงเรือ เพื่อไปดำน้ำเป็นคล้าย ๆ กับตลาดบนเกาะทั่วไป มีบังกะโล กลางทะเล ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร รอบ ๆ บริเวณท่าเรือบรรยากาศค่อนข้างดีทีเดียว
น้องหัวหน้าทัวร์บอกว่า ทุก ๆ ท่าเรือของที่เกาะช้างเค้าจะมีประภาคารแบบที่เห็นในภาพอ่ะ ตอนแรกเห็นรูปถ่ายที่ร้านอาหารยังแอบแซวกะเพื่อนเลย ว่านี่มันหอคอยบรรหาร-แจ่มใส ที่เราไปกันป่าวหว่า ฮิฮิ
วันที่ 2 บนเกาะช้าง ก็ยังไม่เห็นพระอาทิตย์ แต่ก็ยังดีที่ฝนไม่ตก
บ้านกลางทะเล คล้าย ๆ กับบังกะโลกลางทะเล แถว ๆ ริมหาดที่ท่าเรือเลย สวยดีเนอะ
วันที่ 2 นี้ เรามีแพลนดำน้ำ 3 เกาะ และเที่ยวชม 1 หาดทราย เริ่มต้นที่เกาะยักษ์เล็ก และเกาะยักษ์ใหญ่ แล้วก็ไปชมหาดที่เกาะรัง ปิดท้ายที่เกาะหวาย โดยที่หมู่เกาะยักษ์ 2 เกาะนี้ปะการังสมบูรณ์มากเลยอ่ะ เราว่าสวยกว่าตอนที่เราไปดำน้ำทริปกระบี่ พังงา ภูเก็ต เมื่อ 3 ปีที่แล้วอีกนะ
เสียดายไม่มีกล้องที่ถ่ายในน้ำได้ (อยากได้อยู่เหมือนกัน) แต่ก็ได้เก็บความทรงจำดี ๆ ที่ไปดำน้ำไว้แทนหล่ะ เพราะว่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ทีม staff ดูแลค่อนข้างทั่วถึง พาไปดำน้ำรอบเกาะ แถมด้วยดำลึกลงไป เพื่อหยิบปลาดาว ลงไปจิ้ม ๆ ดอกไม้ทะเล ให้ดูว่ามันสามารถหุบลงได้จริง ๆ เมื่อโดนกระทบ พาว่ายผ่านฝูงปลาเยอะ ๆ ปะการังสีสวย ๆ หอยเม่นหน้าตาน่ารัก (แต่ร้ายกาจ) ทริปดำน้ำทริปนี้เจ๋งจริง ๆ ขอบอก
ภาพบนเกาะรัง หาดทรายค่อนข้างละเอียด น้ำใสมาก เสียดายมีกรุ๊ปทัวร์จีน คนเยอะเล็กน้อย
ดูภาพแล้วนึกถึงเพลงพี่เบิร์ด มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลม กับเราหลายคน (หุหุ) หาดทรายที่เกาะรัง เราถ่ายภาพกันมาได้ค่อนข้างเยอะ เพราะว่ามีเรือเล็กขับมาส่งที่หาดเลย ส่วนเกาะอื่นๆ อ่ะ ลงไปก็เจอน้ำเลย ภาพถ่ายแทบจะไม่มีเลย
พักกินกลางวันบนเรือ กับข้าวบ้าน ๆ แต่ก็รสชาติจัดจ้านสมกับเป็นกับข้าวชาวเล
ที่เกาะรังน้ำใสมาก ๆเลย ดูจากสีภาพก็ยังคงพอมองเห็นความใสของทะเลที่หาดเกาะรัง
ภาพนี้เป็นสะพานไม้ของเกาะหวาย เกาะสุดท้ายที่เราไปดำน้ำกันของทริปวันที่ 2 เจอปลานีโม่ด้วย มีตัวเดียวจริงๆ (สงสารมันคงเหงาไม่มีเพื่อน) ที่เกาะหวายเค้าเลี้ยงเต่าทะเลด้วย ดำน้ำเสร็จก็เดินขึ้นไปดูเต่ากัน
น้ำทะเลที่เกาะช้าง และเกาะเล็กเกาะน้อยที่เราไปดำน้ำวันที่ 2 ใสและสีสวยมากเลยอ่ะ นี่ขนาดมีฝนตกลงมาตลอด ยังใสขนาดนี้ ถ้าเราไปตอนฝนไม่ตก และเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวที่น้ำทะเลเปลี่ยนสี จะสวยขนาดไหน... รวม ๆ แล้วเราไปดำน้ำตั้งแต่ประมาณ 9 โมง กว่าจะกลับก็ปาเข้าไป 4-5 โมงเย็น เด๋วขึ้นเรือ เด๋วลงเรือ สนุกสนานกันตลอดทั้งวันทีเดียว
เสร็จจากดำน้ำก็อาบน้ำอาบท่า หาข้าวเย็นกินกัน ในวันที่ 2 นี้เราหากินกันเองตามอัธยาศัย เลยเดินไปหาหมูกระทะเกาะช้างกินกัน อาหารทะเลหร่อย ๆ สด ๆ ของอื่นก็พองาม อิ่มแปร้ไปตาม ๆ กันอีก 1 มื้อ
ภาพในห้องหลังจากที่อยู่มาได้ 1 คืน ถ่ายตอนกลับจากกินข้าวมื้อเย็น สภาพออกจะรกไปหน่อยเพราะต้องทยอยเอาของเปียกมาผึ่งแอร์ไม่ให้มันอับ
เช้าวันที่ 3 ก่อนการเดินทางไปเที่ยวน้ำตกคลองพลู ตามแพลนที่เลื่อนไปจากวันแรก ภาพนี้ถ่ายตอนกินอาหารเช้าเสร็จเตรียมพร้อมเดินทางและเราก็ได้เห็นแสงแดดแรกของเกาะช้างเช้าวันนี้เอง
แต่ว่าเห็นแดดไม่ทันไร พอเริ่มเดินขึ้นน้ำตกฝนก็ตกอีกรอบ กางร่มถ่ายรูปกันให้วุ่นวาย ทางเดินขึ้นน้ำตกประมาณ 300 เมตรเห็นจะได้ ทางเดินขึ้นลื่นนิดหน่อย มีฝนตกพรำๆ ตลอดทาง
ตลอดทางเดินขึ้นน้ำตกคลองพลู จะมีจุดแวะให้ชมวิว ถ่ายภาพน้ำตกเล็กน้ำตกน้อยที่เกิดขึ้นเวลาที่ฝนตกค่อนข้างเยอะ ก็สวยไปอีกแบบ
อันนี้ถ่ายตอนฝนตกหนักแล้วเดินต่อไม่ได้กลัวกล้องพัง เพราะฝนสาด เที่ยวเกาะช้างหน้าฝน มันสนุกก็ตรงนี้เอง ห่วงตัวเองและเพื่อนร่วมทางยังไม่พอ ยังห่วงกล้องด้วยอ่ะนะ
ฝนตกน้ำที่ไหลลงมาจากน้ำตกค่อนข้างแรง ถ่ายภาพออกมาก็น้ำเยอะอย่างที่เห็น ที่ถ่ายมาสวยรึเปล่าไม่รู้ แต่ตอนไปเห็นด้วยตามันสวยจริงๆ น้ำตกด้านบนสุดก็ค่อนข้างใหญ่ แต่เข้าไปใกล้มากไม่ได้ เพราะหินค่อนข้างชัน แต่ก็ใหญ่โตสมราคาค่าเหนื่อยที่เดินตากฝนขึ้นไปดู
เดินไปได้อีกหน่อยก็เจอกับเห็ดสีสวย ๆ ไม่เคยเห็นอ่ะ เลยเก็บภาพเอาไว้เป็นที่รำลึก (กางร่มถ่ายรูป ตอนฝนพรำ)
มองผ่านๆ ภาพนี้เหมือนจะเป็นน้ำตกใหญ่ แต่ของจริงอ่ะเล็กจิ๊ดเดียว เป็นแบบคล้าย ๆ ทางน้ำไหลผ่านไหล่เขาหล่ะ
ขึ้นไปชื่นชมบรรยากาศน้ำตกคลองพลูได้ซักพัก ก็เดินลงมาที่จุดพักด้านล่างของน้ำตก เตรียมกลับรีสอร์ทเก็บของกลับ กทม.
เรา check out จากรีสอร์ทประมาณเที่ยง ก็แวะถ่ายรูปหาดทรายขาวแถว ๆ ที่พักเรามาด้วย เสียดายที่ตอนไปน้ำขึ้นพอดีทำให้ไม่ค่อยเห็นหาดทราย ซึ่งเคยดูในเว็บที่ถ่ายหาดทรายขาวมา หาดเค้าขาวสมชื่อจริงๆ
bye bye เกาะช้าง
ภาพท่าเรือที่เกาะช้าง ระหว่างรอขึ้นเรือกลับฝั่งตราด
ทั้งคนทั้งรถ เตรียมรอขึ้นเรือกันเป็นแถว ๆ
ภาพนี้บนเรือขากลับจากเกาะช้างแล้วหล่ะ มีแดดนิดหน่อยพอให้รู้ว่าฝนไม่ตก
จบทริปเกาะช้างด้วยการขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเฟอร์รี่ สรุปทริปนี้ก็สนุกสนานเช่นเคย ทุลักทุเลด้วยฝนบ้างแต่ก็ได้อีกอารมณ์นึง 3 วัน 2 คืน ตระเวนเที่ยวทั้งพายเรือ ดำน้ำ ชมหิ่งห้อย ไปน้ำตก เหมือนกับไปเที่ยวหัวหิน กระบี่ อัมพวา นครนายกภายในคราวเดียวได้ทำทุกอย่าง กับราคาแพคเกจ 2,790 ต่อคน ถูกตามเคย (ของดีและถูกมีที่งานท่องเที่ยวที่ศูนย์ประชุมฯ ปีละ 2 ครั้ง)
~The End~
Create Date : 27 ตุลาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 13:53:11 น. |
Counter : 2465 Pageviews. |
|
|
|