chapter2::รูปแบบของระบบเครือข่าย::
รูปแบบของระบบเครือข่าย
รูปแบบของระบบเครือข่ายที่เราได้เผชิญอยู่ทุกวันนี้มีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ ระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer และระบบเครือข่ายแบบ Client Server
ระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer
รูปแบบของเครือข่ายลักษณะนี้ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกันบนเครือข่ายไม่มีเครื่องใดที่ทำหน้าที่บริหารจัดการเครือข่าย กล่าวคือ คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องมีหน้าที่แบ่งปันการใช้งานแฟ้มข้อมูลให้แก่กันและกันรวมทั้งเครื่องพิมพ์อาจถูกติดตั้งไว้ที่คอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งก็ได้ ส่วนคอมพิวเตอร์ที่เหลือสามารถเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อต่อกับเครื่องพิมพ์ และอาศัยเป็นทางผ่านเพื่อการใช้งานเครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
รูปแบบ Peer to Peer นี้ไม่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ (Server) ไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งทำหน้าที่บริหารข้อมูลอย่างเจาะจงแต่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องสามารถเข้าหากันและแบ่งใช้งานแฟ้มข้อมูลของกันและกันได้ ตัวอย่างของระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer ได้แก่ การเชื่อมต่อแบบเวิร์กกรุ๊ป (Workgroup) ที่เราใช้กันอยู่บน Windows 98/Me หรือ XP เป็นต้น
ส่วนประกอบของเครือข่าย
การเชื่อมต่อแบบ Peer to Peer เป็นรูปแบบการเชื่อมต่อที่เรียบง่าย ประกอบด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่าย อย่างเช่น Hub Repeater หรือ Switches Hub พร้อมด้วยสายประเภท Unshielded Twisted Pair จำนวน 1 เส้นเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง เนื่องจากเครือข่ายประเภทนี้ไม่ต้องการเซิร์ฟเวอร์ ดังนั้น คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนเครือข่ายจะมีคุณสมบัติการทำงานที่เหมือนกัน
จุดดีจุดด้อยของระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer
ข้อดีของระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer มีดังนี้
· คอมพิวเตอร์หรือโฮสต์ (Host) แต่ละตัวบนเครือข่ายต่างทำหน้าที่เป็นทั้งเซิร์ฟเวอร์และไคลเอนต์ (Client) ในตัว
· ไม่ต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ต่างหากเป็นการเฉพาะ
· ไม่ต้องมีการวางแผนหรือบริหารจัดการที่ยุ่งยาก เมื่อเทียบกับระบบเครือข่ายที่ใช้เซิร์ฟเวอร์เป็นคอมพิวเตอร์หลัก
· ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์แต่ละคนทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยกันเอง
· ผู้ใช้งานประจำเครื่องทำหน้าที่เป็นผู้ใช้งานและบริหารจัดการคอมพิวเตอร์เอง
· ทำงานได้ดีและมีความรวดเร็วหากเป็นเครือข่ายที่มีขนาดเล็ก โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายไม่เกิน 10 เครื่อง
ข้อด้อยของระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer มีดังนี้
· มีข้อจำกัดที่จำนวนของผู้ใช้งาน
· เมื่อจำนวนของผู้ใช้งานมีเพิ่มขึ้นก็จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น
· ปัญหาของการรักษาความปลอดภัยเกิดขึ้นเมื่อปริมาณของผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น
· การขยายขนาดเครือข่ายทำได้อย่างจำกัด รวมทั้งไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของเครือข่ายได้ดี
ระบบเครือข่ายแบบ Client Server
ระบบเครือข่ายประเภทนี้มีการใช้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเป็นตัวหลัก ทำหน้าที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งจัดแบ่งปันแฟ้มข้อมูลแก่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ที่ตนเป็นลูกข่าย ส่วนคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์เครื่องหลักจะถูกเรียกว่าไคลเอนต์ ซึ่งทำหน้าที่ร้องขอได้หลาย ๆ อย่างนับตั้งแต่การร้องขออนุญาตให้มีสิทธิ์เข้าสู่การใช้งานเครือข่าย จนถึงการร้องขอสิทธิ์ในการใช้งานทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล แฟ้มข้อมูล หรือเครื่องพิมพ์ที่ติดตั้งบนเครือข่าย เป็นต้น
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นตัวหลักจะต้องได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการเครือข่าย (NOS หรือ Network Operating System) เป็นการเฉพาะเจาะจงเพื่อให้สามารถบริการแบ่งปันข้อมูลและทรัพยากรแก่ไคลเอนต์ทุกเครื่องบนเครือข่าย อีกทั้งยังสามารถดูแลระบบรักษาความปลอดภัยและบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ ได้
อย่างไรก็ดีระบบเครือข่ายประเภทนี้จะต้องมีผู้ดูแลคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะทำหน้าที่บริหารจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล รวมทั้งการกำหนดสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้งาน (User) ที่มีต่อคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เราเรียกคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นแฟ้มข้อมูล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หรือเครื่องพิมพ์ว่าเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไปหลายชื่อ เช่น คอมพิวเตอร์เครื่องหลักที่ให้บริการบ่งปันการใช้งานไฟล์เพียงอย่างเดียวเราเรียกว่า File Server ส่วนคอมพิวเตอร์เครื่องหลักที่ให้บริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับฐานข้อมูลเราเรียกว่า Database Server และเรียกคอมพิวเตอร์หลักที่ให้บริการเกี่ยวกับข้อมูลของเว็บว่า Web Server เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการแบ่งปันแฟ้มข้อมูลหรือข่าวสาร สามารถทำหน้าที่ 2 แบบ ได้แก่ การให้บริการข้อมูลหรือเปิดแฟ้มข้อมูล รวมทั้งควบคุมการให้บริการของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหรือเครื่องพิมพ์ และให้บริการจัดเก็บข้อมูลตามที่ลูกข่ายส่งเข้ามาที่เซิร์ฟเวอร์ ลักษณะนี้รูปแบบของการสัญจรไปมา (Traffic) ของข่าวสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์กับคอมพิวเตอร์ลูกข่ายหรือไคลเอนต์จึงมีอยู่ 2 แบบ ดังนี้
· Traffic ที่มาจากเซิร์ฟเวอร์เป็นส่วนใหญ่ : หมายถึงการร้องขอข้อมูลของไคลเอนต์ที่มีต่อเซิร์ฟเวอร์โดยมีลักษณะเช่นนี้ Traffic ที่ประกอบด้วยคำขอบริการจากเซิร์ฟเวอร์จึงมีเพียงนิดเดียว แต่ได้ข้อมูลลับมาจากเซิร์ฟเวอร์ในปริมาณมากกว่า ลักษณะแบบนี้ฝรั่งเรียกว่า Server to Client Traffic
· Traffic ที่มาจากไคลเอนต์เป็นส่วนใหญ่ : หมายถึงการป้อนข้อมูลจากไคลเอนต์มายังเซิร์ฟเวอร์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันหลายจุด ดังนั้น Traffic ส่วนใหญ่จะมาจากไคลเอนต์เป็นหลัก
ส่วนประกอบของเครือข่าย
การเชื่อมต่อแบบ Client Server มีการใช้อุปกรณ์เครือข่ายที่เหมือนกัน จะต่างกันตรงที่ระบบเครือข่ายนี้มีอุปกรณ์พิเศษเพิ่มขึ้นหลายรายการ ได้แก่ เซิร์ฟเวอร์ซึ่งอาจมีหลายประเภท นอกจากนี้ยังอาจต้องมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นพิเศษ เช่น RAID เป็นต้น
ประเภทของเซิร์ฟเวอร์
บนระบบเครือข่ายในรูปแบบ Client Server สามารถมีเซิร์ฟเวอร์ได้หลายประเภท ซึ่งเราสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดังนี้
· File Server หรือ Department Server
· Enterprise Server
· Super Server
· Network Server
· Web Server หรือ Internet Server
ความแตกต่างระหว่างเครือข่ายแบบ Peer to Peer กับระบบเครือข่ายแบบ Client Server ไม่ได้อยู่ที่ว่าระบบ Peer to Peer ไม่มีการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เท่านั้น แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอีกประการหนึ่งคือการไหลของข้อมูลข่าวสารที่แตกต่างกัน
รูปที่ 1-1 จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่ายแบบ Peer to Peer มีการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารไปมาระหว่างกันโดยวิ่งเข้าหากัน จุดประสงค์เพื่อขอแบ่งปันแฟ้มข้อมูลข่าวสารระหว่างกันในขณะที่รูปที่ 1-2 จะเห็นได้ว่าการไหลของข้อมูลข่าวสารต่างก็ออกมาจากไคลเอนต์และมุ่งตรงไปที่เซิร์ฟเวอร์เพียงจุดเดียว

รูปที่ 1-1 ลักษณะการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารบนระบบเครือข่าย Peer to Peer

รูปที่ 1-2 ลักษณะการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสารบนระบบเครือข่าย Client Server
จุดดีจุดด้อยสำหรับเครือข่าย Client Server
ข้อดีของการใช้ Client Server มีดังนี้
· ให้ประสิทธิภาพในการแบ่งปันการใช้งานทรัพยากรแก่ไคลเอนต์ได้ดีกว่า เนื่องจากว่าคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์นั้นมักเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง มีหน่วยความจำมาเป็นพิเศษ (512 MB ขึ้นไป) มีชิปที่เป็นหน่วยประมวลกลางหรือซีพียู (CPU) ที่ทรงประสิทธิภาพ อีกทั้งมีอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอย่างเช่น ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ จึงสามารถรองรับการขอรับบริการจากไคลเอนต์ได้พร้อม ๆ กันหลาย ๆ คน
· การรักษาความปลอดภัยสามารถทำได้ดีกว่า เนื่องจากการดูแลความปลอดภัยเป็นไปในรูปแบบรวมศูนย์ (Centralized) หมายความว่าเป็นการดูแลจัดการจากส่วนกลาง แทนที่จะกระจัดกระจายไปตามเครื่องต่าง ๆ ซึ่งยากแก่การควบคุม ผู้ใช้งานที่จะเข้ามาสู่เครือข่ายเพื่อใช้งานเซิร์ฟเวอร์จะต้องได้รับการอนุญาตเสียก่อน ด้วยเหตุนี้การรักษาความปลอดภัยจึงทำได้ดีกว่า
· ง่ายต่อการบริหารจัดการหากเครือข่ายถูกขยายขนาด รวมทั้งมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น
· สามารถติดตั้งแอพพลิเคชัน (Application) ไว้ที่เซิร์ฟเวอร์เพียงชุดเดียว และแบ่งใช้งานแก่ผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องซอฟต์แวร์ได้ดี
· สามารถทำสำรองหรือทำสำเนาข้อมูลที่ศูนย์กลาง หมายความว่าไม่ต้องทำสำรองหรือสำเนาข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง แต่ทำที่เซิร์ฟเวอร์เพียงที่เดียวเท่านั้น ทำให้สะดวกรวดเร็ว
ข้อด้อยของระบบเครือข่าย Client Server มีดังนี้
· ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งเซิร์ฟเวอร์ 1 ตัวสูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป อีกทั้งผู้ดูแลจะต้องมีความรู้พอสมควร
· จะต้องมีผู้ดูแลและจัดการเซิร์ฟเวอร์เป็นการเฉพาะ
รูปแบบลักษณะการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย (Network Topology)
เราสามารถนิยามคำว่า Network Topology ว่าคือรูปแบบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพและทางตรรกะของเครือข่าย
การเชื่อมต่อทางกายภาพ (Physical Topology) หมายถึง การเชื่อมต่อที่มีรูปลักษณะที่มองเห็นได้จากภายนอก เช่น การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องกับฮับ (Hub) จะทำให้เรามองเห็นลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเป็นแบบ Star
ส่วนการเชื่อมต่อทางตรรกะ (Logical Topology) หมายถึง การเชื่อมต่อที่มีรูปลักษณะภายนอก (ทางกายภาพ) เป็นแบบหนึ่ง แต่ข้างใน (อุปกรณ์เชื่อมต่อ เช่น ฮับ) กลับมีรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนกับลักษณะการเชื่อมต่อที่เห็นภายนอก ตัวอย่างเช่น ระบบเครือข่าย Ethernet 10Base-T ที่มีรูปลักษณะภายนอกเป็นแบบ Star แต่ภายในฮับมีการเชื่อมต่อแบบ Bus และมีการรับส่งข้อมูลในรูปแบบ Bus เช่นกัน หรือระบบเครือข่าย Token Ring ที่มีรูปแบบภายนอกเป็นแบบ Star ขณะที่ภายในฮับมีการเชื่อมต่อกับแบบวงแหวน สัญญาณที่วิ่งภายในฮับจะวิ่งวนเป็นวงแหวน โดยที่ภายในฮับมีการเชื่อมต่อพอร์ตต่าง ๆ เข้าด้วยกันแบบวงแหวน สำหรับ Token Ring นั้นเมื่อใดที่มีการเชื่อมต่อฮับเข้าด้วยกันมากกว่า 1 ฮับขึ้นไป ก็จะเห็นเป็นรูปร่างแบบวงแหวนได้อย่างชัดเจน
Create Date : 11 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 11 ตุลาคม 2550 12:28:40 น. |
|
5 comments
|
Counter : 4799 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เธเธตเน IP: 222.123.21.158 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:30:49 น. |
|
|
|
โดย: tag IP: 203.144.165.130 วันที่: 6 ธันวาคม 2550 เวลา:15:00:31 น. |
|
|
|
โดย: ประจักษ์ IP: 203.113.17.165 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:21:59 น. |
|
|
|
โดย: ลุงเท่ง IP: 58.147.107.20 วันที่: 9 ตุลาคม 2551 เวลา:18:07:41 น. |
|
|
|
โดย: pook IP: 115.67.231.174 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:07:42 น. |
|
|
|
|
|
|
หนูเดินบนเส้นทางอันโดดเดี่ยว
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|