|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
สาระจาก"รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ": ทำไมมาม่าต้องต้ม 3 นาที?(เอามาเก็บไว้ใน blog)
กระทู้แนะนำครั้งแรกในชีวิต และ Gift อีกเกือบ 2,000 กว่า(ขอบคุณนะคับ) กลายเป็น fwd mail และถูกก็อปไปโพสท์ตามที่ต่างๆ อีก เลยเอามาเก็บไว้ ไว้อ่านเล่นกันคับ Original อยู่นี่นะ 55 ^^"
ไม่มีโอกาสขอบคุณสำหรับคำชม และ Gift ที่ให้มา หรือตอบกระทู้ตัวเองเพราะกระทู้ด๋อยไปก่อน ยังไงก็ขอขอบคุณตรงนี้ หากใครอยากจะพูดคุยกันก็ยินดีนะคับ(แม้มันจะนานมาแล้ว --")
modjo! ---
//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8447739/A8447739.html (แต่มันหายไปแล้ว)
ตามประสาคนดูหนังแล้วคิดเยอะ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือเปล่าครับ พอดีว่าไปดูหนังเรื่องนี้มา แล้วตั้งข้อสังเกตขึ้นมาได้ 1 ข้อ เรื่องเกี่ยวกับ "มาม่า" ในเรื่อง รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ
ทำไมมาม่าต้องต้ม 3 นาที?
สังเกตว่าภายในเรื่องตัวละครจะมีความสัมพันธ์กับมาม่า 2 ครั้ง คือ ตอนที่พระเอกจะต้มมาม่าให้นางเอกกินรองท้องก่อนขึ้นรถแท็กซี่ และตอนที่นางเอกผิดหวังเรื่องพระเอกต้องไปเรียนต่อเมืองนอก จึงกลับมาต้มมาม่าที่บ้านคนเดียว
หนังกำลังจะบอกอะไรเราหรือเปล่า? ผมว่าเขากำลังจะบอกเรื่องสาระของ การรอคอย และ "ความอดทน"
ครั้งแรกในรถแท็กซี่ นางเอกเปิดกินในขณะที่เพิ่งใส่น้ำร้อนไปแค่ 1 นาที พระเอกก็บอกว่า ก็ข้างถ้วยเขาเขียนให้รอ 3 นาที นางเอกก็เถียงว่าชอบกินแบบนี้ เส้นกรอบๆแบบนี้
ถ้าเรามองแบบเปรียบเทียบ ม่าม่ากับความรัก .. เหมือนหนังกำลังบอกว่า ทั่วไปตามสากลโลก ความรักมันมีเวลาของมัน การบ่มเพาะเส้นของความรักให้นุ่มพอดี พอเหมาะเข้าปากนั้น ต้องใช้เวลา แม้นางเอกอาจจะชอบเส้นกรอบๆ ที่ใช้เวลาน้อย แต่ความรักเป็นเรื่องของคน 2 คน จะตัดสินด้วยความชอบเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ และเวลาอีก 2 ปีที่พระเอกจะไม่อยู่ ก็คือช่วงเวลาที่จะบ่มเพาะความรัก ให้สามารถกินได้ทั้ง 2 ฝ่ายนั่นเอง
มาม่ามักถูกใช้เป็นตัวช่วยของคนที่ ไม่มีเวลา ไม่มีเวลาทำกับข้าว ไม่มีเวลาไปหาอาหารกินข้างนอก เหมือนในเรื่องนี้ นางเอกคิดว่าตนเองไม่มีเวลาจะรอพระเอกแล้ว เพราะอายุก็มาก เหงาก็เหงา กินข้าวคนเดียว แต่จะให้ทำอย่างไร แม้แต่มาม่ายังมีเวลา 3 นาทีของมัน แล้วความรักล่ะ?
จึงมาสู่ตอนที่นางเอกเครียดในการต้มมาม่าคนเดียวที่บ้าน อยากกินเร็วๆแต่อะไรก็ขัดใจไปหมด น้ำก็ไม่ได้ต้มไว้ ฉีกซองเครื่องปรุงก็ลำบาก เนื่องจากความใจร้อน มองแต่เป้าหมาย แต่ลืมมองระหว่างทาง การจะกินมาม่า ต้องต้มน้ำ ต้องค่อยๆเตรียมเครื่องปรุง เหมือนความรัก หากจะมองแต่เป้าหมายว่าฉันกับเขาจะต้องรักกัน แต่ลืมใส่ใจระหว่างทาง ภาพนั้นคงไม่เกิด
มาม่า ก็เป็นตัวแทนหนึ่งของคนในสมัยนี้ ที่ต้องใช้ชีวิตเร่งรีบ ทุกๆอย่างต้องแข่งกับเวลา จนลืมไปว่า เรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างความรัก มันเร่งรีบไม่ได้หรอก
สรุปคือ ผมคิดว่า หนังใช้มาม่าสอนเราในเรื่องความรัก ถ้าคิดจะรัก ก็ต้องเรียนรู้ที่จะรอ ต้องอดทน คนสมัยนี้มักขาดความอดทนครับ แลกเบอร์กันไม่กี่วัน ก็อยากให้อีกฝ่ายเรียกเราว่าแฟนแล้ว น่าจะมองดูว่า แม้สิ่งที่จะช่วยเราประหยัดเวลามากแค่ไหน อย่างมาม่า มันก็ยังมีเวลาของมัน แล้วกับความรัก ก็เช่นกัน ---
ซึ้ง
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 2:13:06 น. |
Counter : 1955 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ดนตรีไม่มีเสียง IP: 202.149.25.234 26 กุมภาพันธ์ 2553 12:02:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.28.189 26 กุมภาพันธ์ 2553 12:28:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: phuriwat IP: 124.157.162.131 20 มีนาคม 2553 22:14:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พอดูแล้วคิดถึงกระทู้นี้ของคุณอยู่เหมือนกัน
ตอนที่เป็นกระทู้แนะนำไม่ได้เปิดเข้าไปดู เพราะยังไม่ได้ดูหนัง
พอดูหนังจบก็นึกอยากอ่าน แต่หาไม่เจอ
ขอบคุณที่เอามาลงให้ได้อ่านค่ะ