Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
26 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

เที่ยวเมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวงแพร่องค์สุดท้าย

สัปดาห์ก่อนมีโอกาสกลับแพร่ เลยไปเที่ยวคุ้มเจ้าหลวง ซึ่งเป็นของเจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย คือ เจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อราว พศ. 2435...


ด้านหน้าคุ้มจะมีอนุสาวรีย์เจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ ตั้งอยู่ มีข้อความจารึกไว้ว่า “เจ้าหลวงพิริยเทพวงศ์ (พระยาพิริยวิไชย) เจ้าหลวงองค์สุดท้ายผู้ครองเมืองแพร่ ระหว่าง พ.ศ 2432-2445”



เจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ สืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลคือเจ้าเทพวงศ์ฯ เจ้าชายจากเมืองเชียงตุง กับเจ้าสุชาดา ซึ่งเป็นธิดาของพญามังไชยผู้ครองเมืองแพร่ในช่วงเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ต่อกับช่วงต้นกรุงธนบุรี (ภาพเจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ และเจ้าบัวไหล ชายา)





เมื่อปี พ.ศ. 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงประกาศยกเลิกระบบหัวเมืองประเทศราช งดประเพณีการถวายดอกไม้เงินดอกไม้ทอง มีการส่งข้าหลวงจากส่วนกลางมากำกับดูแลการปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด เป็นการลดอำนาจของเจ้าหลวงลง
โดยข้าหลวงที่ส่งมาประจำเมืองแพร่คนแรก คือพระยาสุรราชฤธานนท์ (โชค) ต่อมาก็ได้ให้พระยาไชยบูรณ์ (ทองอยู่ สุวรรณบาตร) มาเป็นข้าหลวงปกครองเมืองแพร่แทน ซึ่งเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นก็คือ “เงี้ยวปล้นเมืองแพร่” ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2445 พอดี (ภาพพระยาไชยบูรณ์)



หลังเหตุการณ์นี้เจ้าหลวงแพร่ ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกกบฎเงี้ยว ท่านจึงจำต้องลี้ภัยไปอยู่ที่หลวงพระบาง และไม่ได้กลับมาที่แพร่อีกเลย จนสิ้นชีวิต..



คุ้มเจ้าหลวงกลายเป็นที่ตั้งของกองทหารม้าจากกรุงเทพฯที่ส่งมารักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองแพร่อยู่ระยะหนึ่ง บริเวณใกล้ ๆ คุ้มเจ้าหลวงเคยมีคอกม้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และสมัยรัชกาลที่ 6 มีการดัดแปลงเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชายคือ “โรงเรียนพิริยาลัย” เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าหลวงแพร่องค์สุดท้าย เมื่อปี พศ. 2455 ต่อมาโรงเรียนนี้ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ถนนยันตรกิจโกศล


จากนั้นคุ้มเจ้าหลวงก็ใช้เป็นจวนหรือบ้านพักของผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่มาเป็นเวลานาน จนเมื่อ 5 ธันวาคม 2547 ได้มอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ดูแล มีการจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นจนถึงปัจจุบัน



คุ้มเจ้าพิริยะเทพวงศ์ฯ ที่สร้างขึ้นนั้น เป็นอาคารแบบกึ่งตะวันตกที่นิยมสร้างในสมัยนั้น ตัวอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น



หลังคาคุ้มเป็นแบบทรงปั้นหยา มีลวดลายขนมปังขิงประดับที่หน้าจั่ว ช่องลม ประตู



มีหน้าต่างทั้งหมด 72 บาน ไม่มีการฝังเสาเข็ม แต่ใช้ไม้ซุงที่เป็นไม้เนื้อแข็งรองรับฐานเสาทั้งหลัง ด้านหน้ามีมุขและทางขึ้นทั้งสองด้าน



ด้านในถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ บริเวณห้องโถงทางเข้าด้านล่างมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนกันไป



ห้องชั้นล่างทางด้านซ้ายมือ มีการจัดโต๊ะเป็นห้องประชุม



บันไดขึ้นไปชั้นบน



บนชั้นสองของตัวอาคาร ตรงหน้ามุข มีการจัดเป็นห้องรับแขก



ระเบียงด้านหน้าบนชั้นสอง สามารถมองออกไปเห็นโรงเรียนนารีรัตน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดหญิง ที่อยู่บนฟากถนนฝั่งตรงกันข้ามกันได้



ด้านบนนี้ยังมีห้องที่ใช้เป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมราษฎร์เมืองแพร่ เมื่อ พศ. 2501



นอกจากห้องต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว อาคารแห่งนี้ยังมีห้องใต้ถุน ซึ่งใช้เป็นที่คุมขังนักโทษในสมัยก่อน มีความสูงไม่น่าจะเกิน 160 ซม. ทำให้เวลาเข้าไปเยี่ยมชม ต้องก้มตัวตลอดเวลา มีเสียงร่ำลือกันว่า “ผีดุ” ทำให้ต้องมีการย้ายจวนผู้ว่าราชการจังหวัดไปสร้างไหม่ ทางด้านหลังของคุ้มหลวงแห่งนี้...



เวลาเข้าไปอยู่ในห้องใต้ถุนนี้แล้ว ทำให้ความรู้สึกถึงความทุกข์ทรมาณของบรรดานักโทษ ที่ต้องอยู่ในที่คับแคบ อึดอัด ได้มองเห็นโลกภายนอก ผ่านทางช่องหน้าต่างเล็ก ๆ เท่านั้น รอความหวังว่าเมื่อไหร่ประตูจะเปิดออก ให้ได้ออกไปสู่อิสรภาพภายนอกเสียที



ออกมาสู่ภายนอกกันดีกว่า.. คุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบันและสาธารณ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ในปี พ.ศ. 2536 ด้วยนะครับ.. ขอจบการเที่ยวด้วยภาพนี้นะครับ สวัสดีครับ..




 

Create Date : 26 กันยายน 2553
7 comments
Last Update : 26 กันยายน 2553 9:37:54 น.
Counter : 4380 Pageviews.

 

สวยปนน่ากลัวนิดๆนะคะ...

 

โดย: noinanai 26 กันยายน 2553 13:15:09 น.  

 

สวยจังคับ เดือนหน้าจะไปลำปาง ไม่รู้จะได้ผ่านไปหรือเปล่า

 

โดย: พระจันทร์สัญจร 26 กันยายน 2553 14:48:55 น.  

 

ชอบจังเลยค่ะ...อาคารแบบกึ่งตะวันตกอย่างนี้
เป็นคุ้มที่สวยงามจริง ๆ เลยค่ะ

 

โดย: nokkatua 26 กันยายน 2553 20:16:37 น.  

 

เคยไปมาแล้ว สวยมากๆ ค่ะ ชอบมากเลย อาคารเก่าแก่แบบนี้ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ชมกันค่ะ

คุณ old technician ค่ะ สกุลลันได้เขียนบล็อกเกี่ยวกับคุ้มเจ้าหลวงแพร่แห่งนี้ด้วยค่ะ ลองเข้าไปอ่านดูนะค่ะ สกุลลันฝันถึงที่แห่งนี้ก่อนจะได้ไปจริงๆ ค่ะ แอบยืมรูปคุณบางรูปมาลงด้วยหวังว่าคงไม่โกรธนะค่ะ

 

โดย: สกุลลัน 27 กันยายน 2553 1:15:57 น.  

 

อ้าว....เพิ่งเห็นว่าอยู่เชียงใหม่เหมือนกันซะอีก...สกุลลันอยู่ที่หางดงค่ะ ตรงเส้นคันคลองชลฯ จ้า แนะนำตัวซะเลย อิ อิ

 

โดย: สกุลลัน 27 กันยายน 2553 1:17:12 น.  

 

ยังไม่เคยไปเลยค่ะ เคยไปแต่เชียงใหม่ ที่ได้ไปนี่เพราะว่า พี่ชายได้คูปองลดราคาที่พักมา ยังไงถ้ามีโอกาศก็จะไปชมค่ะ ถ้าเพื่อนๆจะไปเที่ยว ลองเข้าไปดูส่วนลด ได้ที่นี่นะ
//www.thailandhappinessdeals.com/
มีส่วนลดทุกที่เลย ทั้งประเทศ ส่วนลดก็เยอะอยู่นะ เพราะตอนเราไปเราก็ไปพี่เรา download คูปองที่นี่แหละ อ่อ ต้องอ่านเงื่อนไขการใช้ด้วยนะ

 

โดย: minnymayka 27 กันยายน 2553 17:37:44 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ

 

โดย: นู๋ที 30 กันยายน 2553 13:52:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


old technician
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add old technician's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.