บทความ “ตุ๊เจ้า” บทบาทนี้เต็มใจหรือถูกสั่งการ บทความ “ตุ๊เจ้า” บทบาทนี้เต็มใจหรือถูกสั่งการ “ตุ๊เจ้า” หรือพระสงฆ์ ในความหมายของชาวพม่า ซึ่งขณะจิตนี้ประสบกับความโหดร้ายทารุณของกลุ่มทหารบ้าอำนาจ ที่ปกครองประเทศพม่ามาเป็นเวลานาน ช่วงก่อนหน้าการลงประชามติ พระสงฆ์ไทยได้มีบทบาททางการเมืองคล้ายกัน แต่มีประเด็นต่างกัน พระไทยต้องการให้รัฐธรรมปี 50 ระบุให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่ด้วยปัจจัยทั้งหลายทั้งปวง การออกมาเรียกร้องของพระไทยได้จบลง พร้อมกับความไม่เห็นด้วยของหลายฝ่าย แม้กระทั่งชาวไทยพุทธเองก็ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของพระสงฆ์ในเรื่องนี้ ตรงกันข้าม “ ตุ๊เจ้า” ของชาวพม่ากับการแสดงออกทางการเมือง ด้วยเหตุแห่งการเอารัดเอาเปรียบประชาชนของรัฐบาลพม่า ทำให้ประชาชนผู้ถูกกระทำทั้งหลายต่างลุกขึ้นมาต่อสู้เคียงข้างพระสงฆ์ หรือ ตุ๊เจ้าของพวกเขาเหล่านั้น การขึ้นราคาน้ำมันรวดเดียว 100% และปรับราคาก๊าซธรรมชาติขึ้นถึง 500% รวมถึงปัญหารัฐธรรมนูญและการสืบทอดอำนาจ สร้างความเจ็บปวดให้กับประชาชนชาวพม่าอย่างสาหัส เหตุการณ์เริ่มขึ้นวันที่ 25 กันยายน ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นำมาซึ่งความสูญเสียของหลายชีวิตรวมถึงการมรณภาพของพระสงฆ์ การเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ในประเทศพม่าแท้จริงมีจุดประสงค์อะไร ? และมีใครคอยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ? ผู้มีบทบาทสำคัญในพม่าที่เคยพานพบกับการชุมนุมประท้วงบ่อยครั้งต่างมีความเห็นแตกออกเป็น 2 แนวทางใหญ่ ๆ ดังนี้ 1. ความเต็มใจที่จะร่วมประท้วง เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมจากการขึ้นราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ทำให้ค่าครองชีพของชาวพม่าสูงขึ้น ชาวพม่าต้องซื้อของในราคาที่แพงขึ้นเท่าตัว ซึ่งปกติประชาชนส่วนใหญ่ยากจนอยู่มากพอแล้ว พระสงฆ์เหล่านี้จึงเป็นผู้เสียสละ การออกมาเรียกร้องจึงเป็นเพราะต้องการให้รัฐบาลทหารพม่าเลิกทำร้ายประชาชนของตัวเองเสียที 2. ถูกสั่งการ เป็นแผนการของกลุ่มนักศึกษาพม่ารุ่นปี 1988 ที่ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ อยากเห็นความวุ่นวายในประเทศเพื่อประโยชน์ส่วนตน โดยใช้พระเป็นเครื่องมือ เพราะเชื่อว่าทหารพม่าคงจะไม่กล้ายิง แต่รัฐบาลพม่าศีลธรรมมีเพียงน้อยนิด ฉะนั้นการที่รัฐบาลจะสั่งให้ทหารทำร้ายหรือยิงพระจึงเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา บทบาทของ “ ตุ๊เจ้า” หรือพระสงฆ์ในพม่า ณ เวลานี้ก่อให้เกิดพลังมวลชนที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน และด้วยปริมาณที่มากนี่เอง มันคือความแยบยลของรัฐบาลซาตานชุดนี้ เพราะทั้งการชุมนุม ปี ค.ศ. 1974 และครั้งใหญ่ล่าสุดปี ค.ศ. 1988 รัฐบาลจะใช้วิธีสลายผู้ชุมนุมโดยจะปล่อยให้การชุมนุมดำเนินไปสักระยะ ( เหมือนกับครั้งนี้ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม หลังการประกาศขึ้นราคา 4 วัน ) จากนั้นรัฐบาลก็จะเข้าสลายการชุมนุมด้วยวิธีรุนแรงเพื่อจับตัวแกนนำ เป้าหมายหลักของรัฐบาลเพื่อลงโทษจนถึงที่สุด มันทั้งแยบยลและถอนรากถอนโคนเสียจริง ! ประเทศพม่าอาจจะไม่กล้าทำรุนแรงกับประชาชนโดยไม่ใส่ใจการคว่ำบาตรของนานาประเทศที่จับตาดูอยู่ หากขาดซึ่งการถือหาง จากจีน อินเดีย และรัสเซีย ประเทศที่กำลังกอบโกยผลประโยชน์จากพม่า แล้วพม่าเล่าใยไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกพ้อง หรือคิดว่าข้าใหญ่ถึงหลอกก็ไม่กลัวเกรงใครทั้งสิ้น ไม่กลัวแม้กระทั่งสิ่งที่เรียกว่า ความเลวทราม ขอบคุณข้อมูลจาก เนชั่น สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 800 วันที่ 28 กันยายน 2550   Create Date : 30 กันยายน 2550 4 comments Last Update : 30 กันยายน 2550 21:30:36 น. Counter : 562 Pageviews. Share Tweet

พม่าเป็นประเทศที่ปกครองแบบรัฐบาลทหารมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังกีดกันพลเรือนอย่างมากด้วย การที่คนที่อยุ่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้เกิดความกดดันภายในประเทศ จนถึงกับรัฐบาลพม่าต้องย้ายเมืองหลวงอันเนื่องจากความปลอดภัยของผู้นำประเทศเป็นหลัก อองซานซูจี ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่ทางรัฐบาลพม่า สื่อให้เห็นถึงการใช้กฎหมายที่เขียนขึ้นเพื่อสนับสนุนพลังของรัฐบาล และ เป็นตัวประกันทางการเมืองที่ใช้ได้ผลทีเดียว และเมื่อการขึ้นราคานั้น ไม่ได้มองถึงเศรษฐกิจ และ ความต้องการของประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความไม่พึงพอใจ ประกอบกับความกดดันที่เคยมีมา ทำให้ประชาชนรวมตัวกัน แต่เนื่องจากพม่านั้น โดยปกติจะเชื่อมั่น พระสงฆ์ ซึ่งโดยปกติจะมีพระสงฆ์เป็นคนห้ามปรามประชาชน แต่เนื่องจากภาวะที่รัฐบาลทหารของพม่า บีบคั้น และ ออกกฎมาควบคุม ทำให้พระก็ไม่พอใจในการกระทำ เรื่องเหล่านี้จึงเป็นเหตุที่ส่งผลให้เกิดการนองเลือดในครั้งนี้ขึ้น รัฐบาลพม่าไม่สนใจประชาชน ซึ่งเดินหมากผิด เพราะ ประชาชนเป็นรากฐานของสังคม แต่รัฐบาลพม่ากลับเกรงใจชาวต่างชาติ เพราะได้รับความช่วยเหลือต่างๆจากนานาประเทศ ซึ่งพม่าอาจจะใช้วิธีการ ข้างนอกดี ข้างในโหด ก็เป็นไปได้ ซึ่งจากภาพคิดว่า เขาไม่สนใจประชาชนเท่าที่ควร (ความคิดเห็นส่วนตัวครับ)   โดย: wbj 30 กันยายน 2550 21:45:23 น.

โลกใบกลมกลม ดูจะแบนลงทุกทุกวัน หัวใจคนเราก็ยิ่งนับวันดูยิ่งดำ แคบลงทุกที และโลกที่เคยดีกลับเหมือนช่างโหดร้าย น้ำใจของเราทิ้งลืมกันไปจนหมด ช่วยหน่อย ช่วยหน่อย..... ...เฮ้อ...เศร้าใจโลกปัจจุบัน..   โดย: s-munvimol (ส.มั่นวิมล ) 30 กันยายน 2550 23:18:16 น.

กิเลสของมหาอำนาจตะวันตกที่อยากสูบเลือดและทรัพยากรของชาวพม่า......เพราอิจฉามหาอำนาจตะวันออกที่กำลังสูบเลือและทรัพยากรของชาวพม่าอยู่ขณะนี้ ลงเอยแล้วชาวพม่าซวยอยู่ดี......ปลดแอกรัฐบาลทหารและมหาอำนาจตะวันออกได้.....ก็เจอแอกอันใหม่จากมหาอำนาจตะวันตกอยู่ดี ขออวยพรให้ชาวพม่าที่รักความเป็นธรรมและรักประชาธิปไตยจงพ้นจากแอกทั้งปวงและได้เป็นไทเสียที (ไม่ได้หมายว่าเอาแอกไทยไปใส่นะ....พับแผ่ซิ่)   โดย: cm-2500 1 ตุลาคม 2550 0:56:35 น.

ลายตา ... อ่านเเล้วปวดหัวค่ะ   โดย: superss IP: 118.172.1.142 19 กุมภาพันธ์ 2551 2:31:04 น.