|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เครื่องมือที่เรียกว่า...อุดมการณ์
เครื่องมือที่เรียกว่า...อุดมการณ์
ประเทศที่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย ถือหลักการปกครองที่สำคัญคือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในประเทศ การไร้ซึ่งการมีส่วนร่วมของประชาชน ย่อถือว่าประเทศนั้นๆหาได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงไม่
องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่ง ในการมีส่วนร่วมของประชาชนคือ การชุมนุมโดยสงบใช้เหตุผลเป็นหลักในการต่อรองเมื่อพบว่าสิ่งที่รัฐกระทำอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และการชุมนุมจะยืดเยื้อต่อไปจนกว่าข้อตกลงนั้นๆจะได้รับการไตร่ตรองจากรัฐ และมีผลอันใดอันหนึ่งอย่างแท้จริง
ประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2516 , พ.ศ. 2519 , พ.ศ. 2535 จนถึงปี พ.ศ. 2550 ก็เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวข้างต้นอยู่เรื่อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุและผลอันใดก็ตาม แต่ทุกครั้งการออกมาเรียกร้องดังกล่าวมักเกินเลยกว่าสิ่งที่ความเป็นประชาธิปไตยจะกำหนดไว้ได้
เพราะทุกครั้งของการชุมนุม มักมีความซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่คนที่ปลุกระดม อยู่เบื้องหลัง ได้ประโยชน์จากการชุมนุมโดยไม่ต้องเข้าร่วม และกลุ่มคนที่หวังผลเพียงปราบปรามเพื่อไม่ให้อำนาจของตนต้องสั่นคลอนเพราะการชุมนุมไปมากกว่านี้
ทั้งๆที่การชุมนุมดำเนินไปเพราะอยู่บนความเป็นประชาธิปไตย แต่ด้วยความซ่อนเร้นต่างๆนาๆนี่เอง ทำให้ผู้ชุมนุม เหล่านี้กลายเป็น ม็อบ หรือเรียกอีกแบบว่า ฝูงชนบ้าเลือด
ม็อบ หรือ ฝูงชนบ้าคลั่ง คือกลุ่มคนที่แปรสภาพการกระทำแบบหนึ่งไปสู่อีกแบบหนึ่ง เป็นต้นว่าคนเหล่านี้แรกเริ่มทีเดียว เป็นการออกมาใช้สิทธิ์ตามแบบฉบับของความเป็นประชาธิปไตย แต่ด้วยระยะเวลาหรือเพราะสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป พวกเขาเหล่านั้นใช้สิ่งที่ประชาธิปไตยมีให้จนเกินขอบเขต กลายเป็นความวุ่นวายจนนำไปสู่การปราบปรามในท้ายที่สุด
คงไม่ดีนักหากเกิดพฤติกรรมแห่งความผิดแปลกออกไปแบบนี้หลายครั้ง แต่นี้คือสิ่งที่พบได้บ่อยครั้งในประเทศไทย ทั้งการชุมนุมครั้งใหญ่และเล็ก สุดท้ายกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ควรจดจำ เพื่อระแวดระวังว่า มันจะไม่เกิดขึ้นอีกในสมัยของพวกเรา
เมื่อ 34 ปีที่แล้ว 14 ตุาลาคม 2516 หรือวันมหาวิปโยค คือวันที่นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านการยึดอำนาจตัวเองของจอมพลถนอม กิตติขจร มีเหตุการณ์การประทะเกิดขึ้น ตำรวจ ทหาร เข้าสลายม็อบที่มีสถานภาพเป็นนักศึกษา แต่สิ่งที่เรียกว่า ความถูกต้อง ทำให้ชัยชนะเป็นของนักศึกษา จนก่อกำเนิดวลีที่ว่า "ฟ้าสีทองผ่องอำไพ"
3 ปีต่อมา 6 ตุลาคม 2519 สถานการณ์เปลี่ยนไป การเรียกร้องห้ามกลับเข้าประเทศของจอมพลถนอม ที่กลายสภาพเป็นสามเณร ความมั่นใจในชัยชนะของนักศึกษากลายเป็นความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับด้วยข้อหา "คอมมิวนิสต์" ความสูญเสียคือคำตอบสุดท้ายของเหตุการณ์นี้อย่างแท้จริง
อีกครั้งในปี 2535 เดือนพฤษภาคม คณะรสช. ทำการยึดอำนาจจาก พลเอกเชาวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่ด้วยความไม่ตั้งใจ(หรือไม่) ส่งผลต่อมากับวลีเด็ดที่ว่า "เสียสัตย์เพื่อชาติ" ของพลเอกสุจินดา คราประยูร หนึ่งในคณะรสช. ที่ถูกเชิญให้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เพราะนายกรัฐมนตีไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การลุกฮือต่อต้านของประชาชน จากผู้นำ พลตรีจำลอง ศรีเมือง นำมาซึ่งความวุ่นวาย จนท้ายที่สุดด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงมาไกล่เกลี่ยเรื่องราวต่างๆด้วยพระองค์เอง เรื่องราวต่างๆจึงยุติลง
แต่การชุมนุมที่กลายเป็นความวุ่นวายก็ปรากฏอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะกับครั้งล่าสุดที่เด่นชัดในอุดมการณ์การต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจของตัวเองคืนมา พวกเขาถูกสังคมเรียกว่า "กลุ่มอำนาจเก่า" แกนนำไม่ว่าจะเป็น วีระ มุสิกพงษ์ ,จักรภพ เพ็ญแข และอื่นๆ เริ่มแรกของการชุมนุมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การชุมนุมจะดำเนินไปด้วยความสงบ แต่แล้วเหตุการณ์ต่างๆ กลับบานปลายไปเรื่อย แม้ นพ.เหวง โตจิราการ จะพยายามปฏิเสธอยู่ตลอดว่าการชุมนุมไล่เผด็จการต่างๆนาๆของกลุ่มตัวเองนั้น ไม่ใช่ม็อบ แต่ถึงยังไงพฤติกรรมที่ทำมันคือคำตอบที่ตัดสินข้อกล่าวหาตอนท้ายที่สุดได้ดีอยู่แล้ว
อีกทั้งเหตุการณ์นี้ดูท่าจะจบและสงบลงยาก เห็นได้จากเหตุการณ์การพยายามเดินขบวนไปบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี จนนำมาสู่ความวุ่นวาย การฟ้องร้องดำเนินคดีแกนนำทั้ง 9 รวมถึงแผนตลบหลังจับกุมแกนนำทั้ง 9 คนด้วย
ความคิดทางการเมืองสมัยกรีกตอนปลายและโรมัน มีสำนักศึกษาที่มีชื่อเสียงและได้กล่าวเกี่ยวกับ Mobe Rule ไว้ได้อย่างน่าสนใจคือ สำนักโพลีเบียส โดยโพลีเบียสได้กล่าวว่า "รูปแบบการปกครองแต่ละแบบได้สร้างสิ่งชั่วร้ายขึ้นมาทำลายตัวของมันเองโดยธรรมชาติ การปกครองระบอบประชาธิปไตยจะเปลี่ยนไปสู่การปกครองโดยฝูงชนบ้าคลั่ง ( Mobe Rule ) เพราะประชาชนจะถูกชักจูงโดยนักฉวยโอกาสทางการเมืองใช้โวหารปลุกระดมให้ใช้พลังเพื่อประโยชน์ของเขา สุดท้ายก็จะกลับไปสู่ระบบราชาธิปไตยอีก เมื่อมีผู้ที่มีความสามารถใช้จิตวิทยาครองใจประชาชนได้
มันคือความคิดทางการเมืองที่เราสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศได้ แม้มันจะไม่รุนแรงและมีพลังมากพอเหมือนในความคิดดังกล่าวก็ตาม แต่การเคลื่อนไหวในรูปแบบนี้ย่อมส่งผลต่อกงล้อทางการเมืองไทยอย่างแน่นอน
การชุมนุมอย่างถูกต้อง ใช้อุดมการณ์ เป็นเครื่องมือหลักในการเรียกร้องเพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรม ขณะเดียวกัน การก่อม็อบกลับอาศัยอุดมการณ์ เป็นเครื่องมือหลักในการเรียกร้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งความไม่ชอบธรรม
Create Date : 13 สิงหาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 13 สิงหาคม 2550 20:58:34 น. |
Counter : 1299 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|