|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เนื้อวัวกับหัวคน
อาหงเป็นพ่อค้าที่ขายสินค้าทั้งปลีกและส่ง
เดือนหนึ่งจะต้องเดินทางไปภาคอีสานและภาคกลางอย่างน้อย 1 ครั้ง
ทุกครั้งที่เดินทางมาภาคกลางที่จังหวัดสุรินทร์
ในตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจแล้ว จะนั่งดื่มชาจีน
กับเถ้าแก่คนหนึ่งในร้านขายเหล็กเพื่อพูดคุยกันและเป็นการรอรถ
เพื่อจะกลับจังหวัดตนอยู่
มีอยู่ครั้งหนึ่งอาหงก็นั่งดื่มน้ำชากับเถ้าแก่เฉินตามปกติและเสวนาเรื่องการค้า
จู่ ๆ ก็เห็นหนุ่มใหญ่คนหนึ่งท่าทางเป็นคนแข็งแรงร่างกายบึกบึน
ชายคนนั้นได้จูงวัวตัวหนึ่งเดินผ่านหน้าร้านที่เถ้าแก่ทั้งสองกำลังดื่มน้ำชาอยู่
เป็นเรื่องแปลกมาก เมื่อวัวตัวนั้นเดินผ่านร้านขายเหล็กที่เถ้าแก่ทั้งสองคน
กำลังดื่มน้ำชากันอยู่ก็ไม่ยอมเดินต่อไป ถึงแม้หนุ่มใหญ่คนนั้นจะลาก
จะจูงอย่างไรวัวตัวนั้นก็ดื้อไม่ยอมเดินท่าเดียว หนุ่มใหญ่คนนั้นจึงโกรธมาก
ได้เอาเชือกหยาบ ๆ เส้นหนึ่งเฆี่ยนตีลงไปที่หลังของวัวแต่วัวตัวนั้นก็ยังไม่เดิน
อาหงและเถ้าแก่เฉินเมื่อเห็นเหตุการณ์นั้นจึงหยุดดื่มน้ำชา
แล้วรีบเดินมาดูที่หน้าบ้านว่ามีอะไรเกิดขึ้น เป็นเรื่องแปลกจริง ๆ
เมื่อวัวตัวนั้นเห็นเถ้าแก่ทั้งสองเดินออกมาดู วัวตัวนั้นจึงรีบคุกเข่าลงทันที
น้ำตาไหลพราก เหมือนกับจะวิงวอนขอให้เถ้าแก่ทั้งสองช่วยชีวิตมันด้วย
อาหงได้มองหน้าเถ้าแก่เฉินแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
เถ้าแก่เฉินรู้จักหนุ่มใหญ่คนนี้ดี จึงถามหนุ่มใหญ่คนนี้ว่า
"วัวตัวนี้จะเอาไปโรงฆ่าสัตว์หรือจะขายเท่าไหร่"
ที่เถ้าแก่เฉินถามนั้นก็เพราะตั้งใจไว้ว่าจะร่วมกับอาหงซื้อวัวตัวนั้น
เพื่อเอาบุญ หนุ่มใหญ่จึงตอบว่า
"ตั้งใจจะขายให้โรงฆ่าสัตว์สัก 6,000 บาท
แต่ว่าไอ้วัวตัวนี้มันช่างร้ายกาจและดื้อนักต้องใช้กำลังมากจึงลาก
และจูงมันมาด้วยความลำบาก
ดังนั้นต่อให้เป็นเงิน 10,000 บาท ก็จะไม่ขาย อยากจะทารุนมัน
ด้วยสองมือของตัวเองจึงจะหายแค้น"
เถ้าแก่เฉินและอาหงก็ถามอีกว่า
"วัวตัวนั้นไปทำอะไรให้คุณถึงได้แค้นนักหนา"
หนุ่มใหญ่ไม่ตอบ
ต่อมาเถ้าแก่จึงได้รู้ความจริงว่า แท้จริงวัวตัวนี้มันแก่แล้วไถนาไม่ได้
เจ้าของวัวจึงได้ขายวัวตัวนี้ให้กับหนุ่มใหญ่ด้วยราคา 4,000 บาท
หนุ่มใหญ่ตั้งใจจะขายต่อให้โรงฆ่าสัตว์
วัวตัวนั้นมันรู้ชะตากรรมของมันดีมันจึงไม่ยอมเดินตามหนุ่มใหญ่ไป
จึงเป็นเหตุให้หนุ่มใหญ่โกรธแค้นวัวตัวนี้
อยากจะฆ่าวัวตัวนี้ด้วยน้ำมือของตนเอง เถ้าแก่ทั้งสองสงสารวัวตัวนั้นจับใจ
อยากจะช่วยซื้อ แต่หนุ่มใหญ่ไม่ยอมขาย
เถ้าแก่ทั้งสองจึงได้มองตากันปริบ ๆ เพราะช่วยเหลือวัวตัวนั้นไม่ได้
ได้แต่มองดูหนุ่มใหญ่ทั้งลากทั้งจูงวัวไปพ้นจากสายตา
วันเวลาผ่านไป 1 เดือนอาหงเดินทางไปเก็บเงินและซื้อสินค้าเพิ่มเช่นเคย
อาหงไปหาเถ้าแก่เฉิน
เถ้าแก่เฉินเล่าให้ฟังว่า จำได้ไหมเมื่อเดือนก่อนที่เราตั้งใจจะซื้อวัวตัวนั้น
แต่หนุ่มใหญ่ไม่ยอมขายให้ เรื่องของวัวตัวนั้นอันที่จริงแล้วเมื่อพวกเขา
ซื้อวัวมาจากเจ้าของเดิมก็อยากฆ่าด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านโรงฆ่าสัตว์
พวกเขาอยู่ด้วยกัน 3 คน บ้านอยู่ในชนบทวันหนึ่งได้แต่ซื้อวัวแก่ที่ไถนา
ไม่ได้แล้วนำมาฆ่าเองหรือส่งไปที่โรงฆ่าสัตว์ วัวตัวหนึ่งจะขายได้กำไร
ประมาณ 2,000 - 3,000 บาท บางครั้งพวกเขาก็ช่วยกันฆ่าโดยจูงวัว
เข้าไปในป่าแล้วลงมือฆ่าเมื่อวัวตาย เนื้อวัวจะถูกส่งไปขายให้พ่อค้าเนื้อ
ที่ตลาดโดยค่าส่งจะถูกกว่าโรงฆ่าสัตว์เสียอีก
การแอบฆ่าวัวเพื่อจะได้กำไรมากโดยไม่ต้องผ่านโรงฆ่าสัตว์
กำไรอีกทอดหนึ่งแต่การแอบฆ่าสัตว์ก็ผิดกฎหมายเหมือนกัน
ดังนั้นพวกเขานาน ๆ จึงจะฆ่าสักตัวหนึ่ง เหมือนครั้งนี้เจ้าวัวแก่ตัวนี้มันดื้อ
ไม่ยอมเดินตามหนุ่มใหญ่ไปที่โรงฆ่าสัตว์ มันจึงถูกพวกทั้ง 3 คน
คิดจะลงมือฆ่าเอง 2 ใน 3 คนมีนาย ก และนาย ข
นาย ก บอกให้นาย ข ไปที่ตลาดบอกกับพ่อค้าว่า
"พรุ่งนี้จะมีเนื้อวัวที่ฆ่าเองมาส่งให้"
พร้อมกับให้นาย ข ขากลับแวะไปที่ตลาดซื้อเหล้ามาด้วย
ยังไม่ทันไปซื้อเหล้า นาย ข ได้เข้าไปร้านเหล้าดื่มเหล้าไปแล้ว 30 จอก
หลังจากนั้นก็มีอาการเมามายเดินโซเซอยู่กลางถนน
ต่อมามีมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งแล่นผ่านมา
แล้วเบียดนาย ข ตกริมทาง
มีพลเมืองดีผ่านมาเห็นเข้าจึงได้นำนาย ข ส่งโรงพยาบาล
พอไปถึงโรงพยาบาลแล้ว นาย ข ยังไม่หายเมาไม่มีสติ
ส่วนนาย ก ยืนรอนาย ข อยู่ในป่านานแล้ว นาย ข ก็ยังไม่กลับมาสักที
จึงคิดว่าสงสัยเราจะต้องลงมือฆ่าวัวด้วยตัวเองเสียแล้วเพราะนี้ก็บ่ายมากแล้ว
เดี๋ยวค่ำมืดจะไม่สะดวก นาย ก มีความชำนาญในการฆ่ามากพอ
คว้ามีดที่เสียบไว้ในเอวได้แล้ว จึงใช้มืออีกข้างหนึ่งคลำบริเวณลำคอของวัว
ตัวนั้นแล้วใช้มีดแทงลงไป บริเวณที่วัวถูกแทงห่างจากลูกคอประมาณ 7 นิ้ว
ไม่มีเสียงร้องจากวัว เมื่อถูกแทงก็ล้มลงขาดใจตายทันที
นาย ก เรียนรู้การฆ่าวัวจากบรรพบุรุษของตัวเอง เพราะรู้วิธีการดีโดยแทงวัว
ให้ถูกจุดชั่วประเดี๋ยววัวตัวนั้นก็มีเลือดไหลออกมาจากลำคอ
นาย ก ปล่อยให้เลือดของวัวไหลจนหมด
หลังจากนั้น นาย ก ก็เอา กาละมังที่เตรียมไว้ไปใส่น้ำในลำธารแล้ววางอยู่
บนโขดหิน จากนั้นก็จัดการก่อไฟขึ้น นาย ก ใช้มีดปลายแหลมกรีดเข้าไป
ในท้องของวัว แล้วล้วงเอาลำไส้ให้ออกมา จากนั้นจึงฟันหัววัว
หลังจากนั้นได้เอาไปต้มในกาละมังที่เตรียมไว้
ต่อจากนั้น นาย ก ก็หาต้นไม้ที่ร่มรื่นเอนหลังโดยใช้ไม้หยาบ ๆ หนุนแทน
หมอนแล้วก็หลับไปเพื่อเป็นการรอคอย
นาย ข ซื้อเหล้ามาจะได้แกล้มกับหัววัว
วันนั้นนาย ก เหนื่อยมากพอล้มตัวลงก็หลับไม่รู้เรื่อง
สะดุ้งตกใจตื่นกลัวว่าเมื่อกี้ที่ต้มหัววัวอยู่น้ำจะแห้งไป
จึงรีบ ๆ ลุกขึ้นไปดูด้วยอาการครึ่งหลับ ครึ่งตื่น
นาย ก ไม่ทันระวังตัวเท้าไปสะดุดกับไม้หยาบที่ตัวเองใช้หนุนแทนหมอน
นาย ก หกล้มหน้าจึงทิ่มไปในกาละมังที่กำลังต้มหัววัวอยู่พอดี
ไม่มีเสียงร้องใด ๆ จากนาย ก ทั้งเนื้อทั้งตัวจึงถูกต้มจนเปื่อยอยู่ในกาละมัง รุ่งเช้าชาวบ้านเดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า
"ผลกรรมตามสนอง"
เพราะว่าเอาหัววัวไปต้ม หน้าก็ถูกทิ่มลงไปในกาละมังด้วย
ดังนั้นทุกคนจึงได้รู้ว่าทำกรรมไว้กับผู้ใดกรรมนั้นจะตอบสนองเหมือนเงาตามตัว
Create Date : 24 ตุลาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 24 ตุลาคม 2551 9:52:00 น. |
Counter : 491 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
แค่ก็เชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง
ขอให้มีความสุขมากมากนะคะ
ป.ล. ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมบล็อกด้วยค่ะ