Group Blog
All Blog
|
ห้วงพันธนาการ บทที่ 24 Chapter 24 ความเงียบคืบคลานยึดพื้นที่ภายในบ้านร่วมสองชั่วโมงแล้วที่หม่อนไหมไม่แสดงตัว ยังคงนิ่งเงียบ ทำให้ไตรภาคินร้อนใจพยายามรื้อค้นหากุญแจไขประตูห้องแทบพลิกแผ่นดินผู้เป็นยายได้แต่ส่งเสียงเรียกชื่อหม่อนไหมเป็นระยะจนเหนื่อยใจ ไม่รู้เลยว่าเวลานี้หลานสาวจะเศร้าโศกเพียงใดวิภานีกระวนกระวายเดินวนเวียนมองนาฬิกาข้อมือสลับกับประตูทางเข้า เกือบได้เวลาเพื่อนสนิทของเธอจะเดินทางมาถึงเสียทีและการรอคอยก็สิ้นสุด เมื่อหญิงสาวเดินผ่านประตูบ้านเข้ามา ไม่รอช้ากระเป๋าเดินทางถูกวางแอบไว้ข้างกำแพงก่อนก้าวขึ้นชั้นสองอย่างเร่งด่วนสีหน้าหม่นหมองของทุกคนเบื้องหน้าทำให้เธอใจคอไม่ดีเอาเสียเลย นิลนราก้าวเดินยังหน้าประตูห้องนอนลูกสาวพลางหันมองสามีคล้ายต้องการขอเวลาแก้ไขปัญหาของหม่อนไหมให้เสร็จสิ้นเสียก่อนคงได้คุยกันไตรภาคินเบือนหน้าหนีไม่อยากมองเห็นบุคคลที่ทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างสาหัส น้องไหมคะแม่นิลกลับมาหาน้องไหมแล้วค่ะ เปิดประตูให้แม่นิลได้ไหมคะ มือยกเคาะเป็นจังหวะส่งสัญญาณขอร้องให้เด็กหญิงตัวน้อยใจอ่อนและยอมเปิดประตูที่ปิดกั้นตนเองเอาไว้ภายในนิลนราเรียกลูกสาวอยู่อย่างนั้นสองสามครั้งและทุกอย่างก็เป็นผลสำเร็จ ประตูห้องค่อยๆเปิดออกพร้อมเด็กหญิงโผเข้ากอดมารดา ส่งเสียงร้องไห้โฮแทบขาดใจ นิลนราย่อกายโอบอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอกรู้สึกสะเทือนใจหนักหนาวงหน้าหวานหันกลับมามองทุกคนที่คอยดูเหตุการณ์อย่างห่วงใย ก่อนก้าวเข้าในห้องและปิดประตูลงเพื่อพูดจาเป็นการส่วนตัวต้องการอธิบายบางอย่างให้เด็กหญิงเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดขึ้น แม้รู้ดีว่าหม่อนไหมยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจก็ตาม น้องไหมคะบอกแม่นิลได้ไหมคะว่าใครทำให้น้องไหมเป็นแบบนี้ เสียงสะอึกสะอื้นพยายามกลืนก้อนจุกลงคอมือน้อยปาดน้ำใสที่ไหลออกจากดวงตา พลางขยับกายห่างอ้อมกอดนั่งลงยังพื้นเตียงนอนนุ่มนิลนรายกมือเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าลูกสาวและลูบไล้ศีรษะอย่างเอ็นดูคงปวดใจและโดดเดี่ยวไม่น้อยภายในห้องสี่เหลี่ยมโดยไร้ใครปลอบใจ จริงๆ แล้วเธอเองไม่อยากซักถามเรื่องราวที่อาจสะกิดบาดแผลกัดกินจิตใจของหม่อนไหมให้เจ็บปวดมากกว่าเดิมแต่มันจำเป็นต้องหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้เด็กน้อยคนหนึ่งได้เรียนรู้ชีวิตหากต้องเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความเป็นจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ พ่อไตรกับน้าวิอึกๆ หม่อนไหมไม่รัก.. ทั้งสองคนแล้วค่ะ ฮือๆ ทำไมล่ะคะเมื่อก่อนทั้งพ่อไตรกับน้าวิเป็นคนที่น้องไหมเคยรักมากนี่คะ ทำไมถึงเปลี่ยนใจไม่รักแล้วล่ะคะ เพราะน้าวิจะแย่งพ่อไตรไปอึกๆ หม่อนไหมอยากให้พ่อไตรอยู่กับแม่นิลค่ะ ฮือๆ น้องไหมฟังแม่นิลนะคะตอนนี้น้องไหมยังเด็กคงไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้ใหญ่ว่าเขาคิดอะไรกัน หากน้องไหมโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะเข้าใจพ่อไตรกับน้าวินะคะไม่ดีใจเหรอคะที่จะมีน้าวิคอยมาดูแลและอยู่กับน้องไหมเพิ่มอีกคน นิลนราพยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อให้หม่อนไหมหยุดร้องไห้เสียใจหรือหากไม่ตะล่อมให้เข้าใจเรื่องราวไว้บ้าง อนาคตข้างหน้าทุกคนคงเจอศึกหนักไม่แพ้กันเมื่อถึงวันที่ชีวิตครอบครัวไม่ลงตัวนิลนรายกมือขึ้นลูบไล้ผมยาวของหม่อนไหมก่อนคว้าร่างเล็กเข้ามาโอบกอดอีกครั้งต้องการปลอบขวัญและให้กำลังใจ เวลาผ่านนานเป็นชั่วโมงเด็กหญิงตัวน้อยสะอื้นไห้จนเผลอหลับในอ้อมอกมารดานิลนราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เธอพยายามสื่อสารให้หม่อนไหมเข้าใจจะมีผลสำเร็จมากน้อยเพียงใดหากแต่หวังไว้สักวันเด็กหญิงคงเข้าใจชีวิตขึ้นมาบ้าง ร่างเล็กถูกประคองวางลงบนเตียงกว้างพร้อมผ้าห่มถูกคลุมกายเพิ่มความอบอุ่นนิลนรานั่งมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่ยังคงหลงสะอื้นอยู่บ้างเป็นบางที
โซฟาห้องรับแขกหลงเหลือเพียงไตรภาคินและวิภานีนั่งทอดถอนใจรอฟังข่าวคราวเกี่ยวกับสภาวะทางจิตใจของหม่อนไหมว่าดีขึ้นหรือย่ำแย่หนักกว่าเดิมดวงตาสองคู่หันเหทิศทางเมื่อเห็นร่างบอบบางเคลื่อนย้ายตัวเองลงจากชั้นบนของบ้านนิลนราก้าวเดินยังส่วนของห้องรับแขก ถอนใจเบาๆเมื่อเห็นชายหนุ่มที่มองเธอด้วยสายตาเย็นชาจนจับสัมผัสได้ คุณแม่กลับไปแล้วเหรอคะ ไตรภาคินพยักหน้าตอบคำถามก่อนหลุบตาลงต่ำยังรู้สึกขุ่นเคืองในใจวิภานีมองตามเพื่อนสนิทไม่วางตา อยากรับรู้เรื่องราวของหม่อนไหมใจแทบขาด ส่งคำถามให้หายคับข้องใจ น้องไหมเป็นไงบ้างนิล ร้องไห้จนหลับไป สงสัยน้ำตาคงหมดตัวเลยล่ะ เพราะฉันเองแกฉันนี่มันเลวจริงๆ ทำร้ายน้องไหมได้ลงคอ อย่าโทษตัวเองเลยวิเราว่าอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ นั่นสินะอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ไตรภาคินทวนประโยคของภรรยาด้วยน้ำเสียงประชดประชันพาหญิงสาวที่ถูกกระแทกกระทั้นหันขวับหาเขาทันที คงสมควรแก่เวลาคลี่คลายปัญหาเพื่อจบเรื่องราวยืดเยื้อเสียที คุณอยากต่อว่าหรือด่าทออะไรก็เชิญเลยค่ะฉันพร้อมแล้ว ไตรภาคินปรายสายตามองหญิงสาวทั้งสองก่อนลุกยืนเต็มความสูงและเดินออกจากประตูบ้านไปปล่อยให้สองสาวมองตามอย่างประหลาดใจ รู้สึกผิดความคาดหมายว่าเขาคงโกรธเคืองและโมโหใส่จนแตกหักกันวันนี้อย่างแน่นอนแต่ทุกอย่างกลับตาลปัตร ทั้งเปลี่ยนท่าทีและลุกหนีไปเสียเฉยๆ แก..ฉันไม่สบายใจเลย หม่อนไหมคงเกลียดฉันน่าดู ไม่หรอกวิเมื่อกี้เราพูดกับน้องไหมจนแกสงบลง และดูเหมือนแกจะฟังในสิ่งที่เราพูดอยู่บ้างไว้รออีกสักพักวิคงต้องหาทางปรับความเข้าใจกันอีกที อย่าเพิ่งท้อแท้นะ ฉันจะพยายามนะแก คุณไตรคงเครียดมากไหนจะเรื่องเรา ไหนจะเรื่องลูกสาว คงต้องให้เวลาเขาปรับตัวปรับใจเหมือนกันนะแก เราเข้าใจพรุ่งนี้จะเป็นไงค่อยว่ากัน มันคงลงตัวสักทาง นิลนราไม่อยากใส่ใจกับสิ่งใดอีกแล้วในเมื่อเวลานี้เธอได้กำลังใจจากมารดามาเก็บสะสมไว้เพื่อสู้ปัญหา และยังมีใครบางคนพร้อมอยู่เคียงข้างเธอตลอดไปคำพูดของภายุวรรตยังคงดังวนเวียนในใจ ไม่จำเป็นที่เธอจะเกรงกลัวต่อโชคชะตาอีกแล้วหลังจากนี้
วันทำงานไม่ปกติเนื่องจากทั่วทั้งอาคารเงียบกริบราวป่าช้าพนักงานทั้งหลายยังคงรื่นเริงและเพลิดเพลินอยู่กับการท่องเที่ยวเมื่อเจ้าของบริษัทเปิดโอกาสให้ไปพักผ่อนหย่อนใจภายุวรรตนั่งประจำตำแหน่งภายในห้องทำงานคล้ายจะขยันขันแข็ง แต่เปล่าเลยเขายังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับคนรักเมื่อต้องกลับไปเผชิญหน้าปีศาจร้ายในคราบสามีตั้งแต่คืนวานหลังจากส่งนิลนราลงยังหน้าบ้าน เขาจอดรถรอส่งจนเธอหายลับจากสายตาและอยู่รอดูสถานการณ์นิ่งๆหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นเขาคงวิ่งลงไปช่วยเธอได้อย่างทันท่วงที ทว่าเฝ้าคอยอยู่จนค่อนคืนไม่มีแววการทะเลาะเบาะแว้งเขาจึงยอมล่าถอยเดินทางกลับที่พักอาศัย จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้หลับตานอนเต็มตื่นเป็นห่วงเป็นใยบุคคลอันเป็นที่รัก เสียงเปิดประตูทำลายความคิดภายุวรรตเลื่อนเก้าอี้หันกลับ มองยังหญิงสาวที่เดินตรงมาหาเขา สายตาเฉยชาไม่แสดงท่าทางใดๆนอกจากมองเธอนิ่งๆ คุณคงส่งคนสะกดรอยตามผมอีกสินะถึงได้รู้ว่าผมเข้าทำงานวันนี้ มีอะไรกับผมงั้นเหรอตรีชาดา ตรีแค่อยากมาคุยกับบอสเรื่องนังนิล ...เขาไม่แปลกใจสักนิดที่ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากอดีตเลขาตั้งแต่เห็นเธอเดินเข้ามาก็คาดเดาได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเสียเวลาคิดภายุวรรตยังคงแสดงท่าทางนิ่งเฉย รอฟังในสิ่งที่ตรีชาดาต้องการเจรจา ทำไมบอสถึงต้องไปอยู่เชียงใหม่กับนังนิลมันด้วยล่ะคะหรือมันหลอกลวงบอสไปที่นั่น มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณผมเพิ่งรู้ว่าลูกผู้ดีอย่างคุณเรียกจิกคนอื่นว่านังทุกคำ ภายุวรรตแค่นยิ้มมองตรีชาดาที่แสดงสีหน้าตกใจ เผลอลืมตัวไปชั่วขณะเธอคงต้องเปลี่ยนสรรพนามเสียใหม่เพื่อไม่ให้เสียภาพพจน์ที่พยายามทำให้เจ้านายหนุ่มเห็นว่าดีมาโดยตลอดอย่างน้อยเขาก็ยังเข้าใจว่าเธอเป็นคุณหนูลูกผู้ดี คือ..ตรีลืมตัวไปหน่อยค่ะ ว่าแต่บอสทำไม่ถูกนะคะ รู้ทั้งรู้ว่านิลนรามีสามีเป็นตัวเป็นตนไหนจะลูกสาวอีกล่ะ ยังคิดจะคบชู้กัน บอสคงไม่อยากตกกระทะทองแดง หรือปีนต้นงิ้วใช่ไหมคะ ถ้าเพียงแค่ผมเดินทางไปต่างจังหวัดกับพี่สะใภ้คุณแล้วผมต้องตกนรกหลายขุม ผมว่ายังดีกว่าต้องมานั่งคุยกับคุณแบบนี้ บอสว่าตรีเลวร้ายยิ่งกว่าตกนรกอีกหรือคะ ครับคุณคงเข้าใจไม่ผิด ตรีชาดาได้แต่กรีดร้องในใจกำมือแน่นสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้พยายามควบคุมสถานการณ์ว่าเธอไม่เป็นอะไรและฝืนยิ้มต่อไปถึงแม้เธอจะไม่เคยยอมใครต่อใครแต่สำหรับภายุวรรตคงต้องยกเว้นเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีข้างหน้าตรีชาดายังหวังว่าเขาอาจยอมรับและเห็นความดีของเธอบ้าง แต่ด้วยนิสัยเจ้าอารมณ์คงทนได้อีกไม่นานถึงแม้ภายุวรรตจะใกล้ชิดกับตรีชาดามาเพียงไม่กี่เดือนแต่เขาก็รู้จักธาตุแท้ของเธอดีว่าเป็นอย่างไร ตรีชาดาจะเกลียดมากกับคนที่ทำเมินและมองไม่เห็นเธออยู่ในสายตาคงไม่มีวิธีไหนแก้นิสัยเอาแต่ใจของเธอได้ นอกเสียจากรอคอยว่าสักวันเธอคงสำนึกตัวได้เองแต่คงไม่ใช่วันนี้ ตรีขอถามบอสตรงๆนะคะ บอสรักนัง.. รักนิลนราหรือไงคะ อย่าคิดว่าตรีดูไม่ออกนะคะ หากผมรักเธอคุณจะทำอะไรงั้นเหรอตรี หรือคิดหาทางเล่นงานนิลไม่หยุดอย่าลืมนะว่าตอนนี้คุณไม่ได้เป็นพนักงานบริษัทผมอีกแล้ว เอาล่ะ.. ผมขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายคุณเข้าใจไม่ผิดหรอกตรีชาดา ผมรักเธอ รักที่ตัวตนแท้จริง รักที่จิตใจของเธอและที่สำคัญเธอเป็นคนดี ไม่เคยริษยาหรือทำร้ายใครต่อให้ใครจะมองผมกับเธอในแง่ร้ายยังไง ผมก็ไม่แคร์ผมถือว่าเราสองคนเข้าใจกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ และหลังจากนี้เป็นต้นไป หากคุณคิดทำร้ายเธออีกไม่ว่ารูปแบบไหนก็ตามคุณได้เห็นดีกับผมแน่ หากนิลนราต้องเจ็บปวดเพราะคุณผมจะทำให้คุณเจ็บปวดยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ไม่เชื่อก็ลองดู น้ำเสียงจริงจังบวกกับสายตาดุดันจ้องมองหญิงสาวเบื้องหน้าไม่มีกะพริบเขาส่งสัญญาณเตือนให้รู้ว่าไม่ล้อเล่นอีกต่อไปตรีชาดาพยายามทำใจดีสู้เสือทั้งที่ภายในจิตใจลนลานหวาดกลัวต่อสายตาเย็นชาคู่นั้นแต่ยังต้องข่มใจสู้เพื่อชัยชนะที่ต้องการ บะบอส คิดว่าตรี.. จะกลัวบอสหรือไงคะ ท่าทางหลุกหลิกภายใต้น้ำเสียงสั่นเครือบ่งบอกให้รับรู้ว่าเธอเริ่มหวั่นไหวในคำขู่ของเขาไม่น้อยหากแต่ไม่อยากเสียหน้าและเป็นฝ่ายยอมแพ้ ผมรู้ว่าคุณไม่กลัวใครหากคุณไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด ผมก็ไม่ห้าม แต่ผมยังยืนยันคำเดิม ถ้านิลนราต้องเจ็บคุณจะเจ็บยิ่งกว่า ผมสาบานได้ อีกครั้งที่สายตาดุดันจ้องมองราวกับอยากฉีกร่างเธอออกเป็นชิ้นๆเวลานี้ภายุวรรตคล้ายปีศาจร้ายแผ่รังสีอำมหิตทำลายล้างจิตใจให้หวาดหวั่น ตรีชาดาพยายามหาหนทางเพื่อต่อสู้ทั้งที่กลัวสายตาจริงจังคู่นั้นจับใจ ตรี..จะไม่ยอมแพ้หรอกนะ ครับผมเข้าใจ แต่คุณคงลืมไปแล้วนะตรีชาดา คุณยังมีชนักติดหลัง ผมมีหลักฐานยืนยันว่าคุณก่อคดีลักทรัพย์ผมสามารถนำคุณส่งตำรวจได้ตลอดเวลา หากคุณอยากเข้าไปนอนเล่นในมุ้งสายบัวผมก็ไม่ขัดศรัทธา สีหน้าเลิกลั่กมองภายุวรรตด้วยท่าทางหวาดผวายืนร้อนรนไม่เป็นสุข เจ้านายหนุ่มกดปุ่มบนเครื่องโทรศัพท์ตั้งโต๊ะพร้อมพูดส่งแขกให้เธอได้ยินมือไม้สั่นกุมกระเป๋าถือในมือไว้แน่นคล้ายกำลังตื่นเต้นอย่างหนัก เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาในห้องที่เปิดประตูค้างเอาไว้ทำให้อดีตเลขาหันมองยังต้นทางเสียง หน่วยรักษาความปลอดภัยสองนายเดินเข้ามายืนขนาบข้างเตรียมล็อกแขนสองข้างของตรีชาดาไว้คงหมดหนทางสู้อีกต่อไป คราวนี้เธอคงพ่ายแพ้ยับเยินและไม่สนุกแน่หากต้องถูกจับในข้อหาลักทรัพย์เจ้านายเพื่อกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมงานมันไม่คุ้มกันเสียเลย ปล่อยฉัน!! ตรีชาดาสะบัดแขนออกจากการจับกุมวิ่งแนบพ้นห้องผู้บริหารอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวกดปุ่มไฟย้ำๆเพื่อให้ประตูลิฟต์เปิดตัวออก หากแต่ไม่ทันใจ สายตาเลิกลั่กมองหาทางหนีทีไล่ตัดสินใจวิ่งพรวดลงบันได เพื่อไปให้พ้นหน่วยรักษาความปลอดภัยที่วิ่งตามเธอมาติดๆเจ้าหน้าที่สองนายหยุดฝีเท้ายืนคอยลิฟต์เพื่อลงไปดักเธอด้านล่าง ดีกว่าจะยอมเสียพลังงานวิ่งตามลงจากตึกที่มีความสูงเป็นสิบชั้นผลจะเป็นอย่างไรคงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บริหารที่หลุดยิ้มอยู่ภายในห้อง หลังจากนี้ตรีชาดาคงเป็นได้แค่ลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด เขาไม่หวั่นเกรงว่าเธอจะทำร้ายใครได้อีกต่อไป (มีต่อด้านล่างค่ะ) |
มาโซคิส
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?] เ ร า ต่ า ง กั น แ ส น ไ ก ล Blood A_Blood Type Series เรียบง่าย อยู่บนเหตุและผล สันติ ยุติธรรม ถ้าในฝันนั้น.. ฉันได้มีเธอ.. ขอนอนหลับไม่ตื่นได้ไหม..
Link |
ตั้งแต่ตื่นนอนหม่อนไหมดูหงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย เด็กหญิงตัวน้อยยอมปฏิบัติตามคำขอของมารดาอาบน้ำแต่งตัวและเดินทางไปโรงเรียนตามปกติ นิลนราทำหน้าที่เดินนำหม่อนไหมส่งถึงมือครูประจำชั้นและฝากฝังให้ดูแลลูกสาวจนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน เธอเดินกลับขึ้นรถยนต์คันคุ้นเคยอีกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นภาระหน้าที่ เตรียมพร้อมทำในสิ่งที่สมควรถึงแก่เวลาเสียที
ฉันพร้อมแล้วค่ะ หากคุณต้องการให้ฉันไปลาออกจากงาน
ไตรภาคินปรายสายตามองหญิงสาวด้านข้าง เธอคงคิดดีแล้วถึงได้กล้าเอ่ยประโยคนั้นออกมา ในเมื่อเธอยังทำใจได้ เขาก็ต้องทำให้ได้เช่นกัน
คุณคงไม่ผิดหวังหรอกนะ
ค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว
รถยนต์เคลื่อนที่เดินทางอีกครั้ง ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร นิลนราได้แต่เตือนตนเองว่าอย่าหวั่นไหว แม้จะไม่ได้ทำงานใกล้ชิดกับคนรัก หากแต่เขาคงอยู่ในจิตใจและเคียงข้างเธอตลอดเวลา คงเพียงพอแล้วสำหรับกำลังใจเพื่อเผชิญต่ออุปสรรคข้างหน้าที่กำลังเดินทางมาถึง เพียงแต่เวลานี้เธอยังกังวลเกี่ยวกับบุคคลรอบกาย ไม่ว่าจะเป็นวิภานี หรือหม่อนไหม และครอบครัวของนิลนราเองก็ตาม ในเมื่อไตรภาคินตัดสินใจที่จะเหนี่ยวรั้งเธอเอาไว้ ทุกฝ่ายก็คงเจ็บปวดไม่ต่างกัน โดยเฉพาะวิภานี สีหน้าเศร้าโศกเมื่อเช้านี้ยังจำติดตาไม่ลืม ต่อให้เพื่อนสนิทปากกับใจแข็งเพียงใด แต่ในใจลึกๆ ก็หวั่นไหวกับการตัดสินใจของไตรภาคินเมื่อเขาไม่คิดจะปล่อยให้ลี่เป็นอิสระ กักขังให้เป็นนิลนราต่อไป
คุณจะพาฉันไปไหนคะ มันไม่ใช่เส้นทางที่จะไปบริษัทนี่คะ
ไตรภาคินนิ่งเงียบไม่ตอบคำถามหญิงสาวที่นั่งด้านข้าง รถยนต์ยังคงขับต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีหยุดพัก จนเลี้ยวเข้ายังลานจอดรถของสถานที่ราชการ นิลนราหันมองคนด้านข้างอย่างประหลาดใจ พยายามคิดทวนว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่
ลงไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเถอะ จะได้จบเรื่องซะที
คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม
ผมจะหย่าให้คุณ เพื่อที่คุณจะได้ไปตามทางอย่างที่ต้องการ ผมไม่อยากบังคับจิตใจใครให้อยู่ด้วยกันทั้งที่ไม่มีความรักหลงเหลืออีกต่อไป
คุณไตร..
รีบไปเถอะ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ ไม่ยอมหย่าให้คุณขึ้นมา
น้ำเสียงละมุนเจือความเศร้าโศกทำให้คนฟังรู้สึกหดหู่ ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินว่าเขาจะยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระแล้วจริงๆ นิลนรามองตามคนตัวสูงที่เดินลงจากรถและยืนคอยให้เธอเดินตามออกไปเช่นกัน อีกไม่กี่อึดใจเท่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่มีฐานะเป็นสามีภรรยากันเพียงในนามจะสิ้นสุดลง
หน้าตึกสูงตระหง่านสถานที่ทำงานของนิลนรา หลังจากการเซ็นชื่อลงนามหย่าเสร็จสิ้น พันธะในการเป็นสามีภรรยาตามกฏหมายถือว่ายุติลงอย่างเป็นทางการ ไตรภาคินนำหญิงสาวมาส่งตามความต้องการของเธอ คงหมดสิ้นหน้าที่ของเขาแล้วหลังจากนี้
ผมขอบคุณที่คุณยอมเป็นนิลอยู่หลายเดือน แม้มันจะทำให้ผมเจ็บปวด แต่ก็ทำให้ผมตาสว่างและกลับตัวทำอะไรเพื่อคนที่รักผมบ้าง ผมไม่สัญญาว่าจะพูดคุยกับคุณได้สนิทใจเหมือนเดิม แต่ผมยินดีที่จะให้คุณอยู่ดูแลหม่อนไหมได้ตามแต่คุณต้องการ
ขอบคุณนะคะ ที่คุณเข้าใจทุกอย่าง ฉันขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไว้กับคุณและครอบครัว ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ฉันขอให้คุณมีความสุขกับคนที่รักคุณตลอดไปนะคะคุณไตร ถึงยังไงฉันจะจดจำว่าครั้งหนึ่งคุณเคยมีบุญคุณต่อฉัน ขอให้คุณโชคดีค่ะ
นิลนราเบี่ยงกายเตรียมเปิดประตูก้าวลงจากรถ หากแต่ถูกฝ่ามืออบอุ่นดึงรั้งเอาไว้ทำให้ต้องชะงักการเคลื่อนไหวกะทันหัน
นิล.. ผมขอกอดคุณได้ไหม เพื่อให้ผมได้จดจำว่าร่างกายนี้คือภรรยาของผม และจะจดจำไว้ตลอดไปแม้นิลนราจะตายจากผมไปแล้วก็ตาม
นิลนราหันกายกลับยินยอมนั่งนิ่งเฉยให้ไตรภาคินโอบกอดสัมผัสไออุ่นก่อนจากเพื่อเก็บทุกสิ่งไว้ในความทรงจำ วงแขนกระชับแน่นราวกับไม่ต้องการให้ร่างกายนี้จากเขาไปไหน ทุกอย่างจบลงด้วยดีเมื่อนิลนราก้าวลงจากรถ เธอยืนส่งจนไตรภาคินขับรถยนต์เคลื่อนพ้นจากสายตาก่อนก้าวเดินเข้าด้านในอาคารสำนักงาน
ประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมความเงียบผิดปกติ ทำให้นิลนรานึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหนเข้าทำงานภายในตึกแห่งนี้
คุณครับวันนี้เป็นวันหยุดนะครับ ทำไมขยันทำงานจังเลย
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่งยิ้มทักทายหญิงสาวที่เห็นจนคุ้นเคยระหว่างเดินตรวจตราความเรียบร้อยภายในอาคารสำนักงาน
พอดีฉันมาเก็บของน่ะค่ะ
ไม่ทราบว่าคุณเจอผู้บริหารหรือยังครับ เมื่อเช้าผมเห็นท่านมาทำงานแต่เช้า
เอ่อ.. ยังไม่เจอค่ะ
งั้นหรือครับ เชิญคุณตามสบายนะครับ ผมขอตัวตรวจเช็คความเรียบร้อยต่อ
นิลนราพยักหน้าพร้อมคลี่ยิ้มส่งให้ก่อนแยกย้ายปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ประตูห้องผู้บริหารดึงดูดสายตาให้หันมองและหยุดก้าวเดิน เวลานี้เธอเป็นอิสระหลุดพ้นห้วงพันธนาการแล้ว แต่เหตุใดภายในใจกลับไม่รู้สึกยินดีเมื่อจะได้เจอะเจอกับภายุวรรตที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจ เธอไม่มั่นใจว่าแท้จริงแล้วเขายังรักเธอในร่างของหญิงอื่นหรือไม่ ยากเหลือเกินกับการเดาจิตใจใครต่อใคร
ประตูห้องผู้บริหารค่อยๆ เปิดออก สายตาอ่อนโยนจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าที่เดินเข้ามาหาด้วยความรู้สึกโล่งใจ
ลี่.. คุณมาทำงานงั้นเหรอ ลืมไปหรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันหยุดพักร้อน
ตอนแรกก็ลืมค่ะ พอเห็นว่าเงียบผิดปกติเลยนึกได้ว่าคนอื่นยังไม่กลับจากท่องเที่ยว
ทุกอย่างที่บ้านลงตัวดีใช่ไหม ว่าแต่วันนี้คุณมาทำอะไร
ลี่มาเก็บของ
เก็บของ.. ภายุวรรตทวนประโยคอีกครั้ง ไม่เข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่เธอพูดถึง
ค่ะ.. ลี่มาเก็บของ เพราะลี่จะขอลาออกจากงาน
ใจแกร่งวูบไหว ไม่เข้าใจความคิดของเธอ ว่าเหตุใดถึงต้องการลาออกจากหน้าที่การงานทั้งที่เพิ่งเริ่มต้นทำได้เพียงไม่นานเท่านั้น ภายุวรรตก้าวเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้าหญิงสาวซึ่งกำลังหลบสายตาจากเขาเสมองทางอื่น
เพราะอะไรคุณถึงอยากลาออก
ลี่อยากทำงานในด้านที่ถนัดและใฝ่ฝัน
ผมไม่อนุญาตให้คุณลาออก
ทำไมคะภายุ ทำไมคุณถึงไม่ให้ลี่ลาออก คุณไม่มีสิทธิ์บังคับพนักงานคนไหนนี่คะ
ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรนะลี่ ผมก็ไม่ให้คุณออก
แม้ว่าลี่มีหนทางที่จะอยู่ใกล้คุณได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะที่บริษัทงั้นเหรอคะ
... ภายุวรรตจ้องมองวงหน้าหวานด้วยความไม่เข้าใจ
ฟังให้ดีนะคะภายุ ตอนนี้ลี่เป็นอิสระแล้ว คุณไตรเซ็นใบหย่าให้ลี่เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
คุณไม่ได้ล้อผมเล่นใช่ไหมลี่
ท่าทางตื่นตระหนกพานิลนราหลุดขำ สีหน้าจริงจังบวกกับสายตาที่จ้องมองอย่างคาดคั้นรอฟังคำตอบจากเธอ หรือแท้จริงเธอแค่แกล้งแหย่ให้เขาสบายใจ ทั้งที่ความเป็นจริงถูกไตรภาคินบังคับให้เธอไกลห่างจากเขาเท่านั้น
ลี่พูดจริงค่ะ และนี่คือหลักฐาน
นิลนราล้วงมือลงกระเป๋าดึงกระดาษที่พับไว้เป็นสี่ส่วนขึ้นมายื่นส่งให้ชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมแหวนเพชรวงกำลังเหมาะส่องประกายบนนิ้วเรียว ภายุวรรตดึงกระดาษเปิดอ่านพลางหันสายตาระคนดีใจ คลี่ยิ้มยินดี มันเป็นความจริงตามที่เธอบอกกล่าว เอกสารใบหย่าที่มีลายเซ็นของสามีภรรยาและพยานยืนยันว่าเธอเป็นอิสระไร้ซึ่งพันธะใดๆ ร่างสูงโผเข้าโอบกอดหญิงสาวไว้แนบแน่นอย่างลืมตัว และเมื่อนึกขึ้นได้เขาถอนอ้อมแขนปล่อยร่างกายเธอเป็นอิสระ ยังไม่ถึงเวลาที่จะดีใจออกนอกหน้าในตอนนี้ ถึงอย่างไรลี่ก็ยังไม่ได้เป็นของเขาอย่างเต็มตัว ภายุวรรตกำกุมมือบางที่สวมแหวนเพชรของเขาเอาไว้ และพาเธอเดินไปนั่งลงยังโซฟารับแขก ต้องการฟังเรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องน่ายินดีเช่นนี้ เหตุใดไตรภาคินจึงยอมปล่อยให้เธอคนนี้เป็นอิสระอย่างง่ายดาย
สาวมาดเซอร์นอนหลับใหลอยู่ภายในห้องภาพ ทุกอย่างรอบกายพร่ามัว ร่างกายรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ สมองเบลอคล้ายคนกำลังจะเป็นไข้ มือยกกุมขมับกดบีบคลายความเจ็บปวด คงเพราะช่วงนี้มีเรื่องกังวลใจประเดประดังเข้ามาให้คิดหนัก แถมพักผ่อนไม่เพียงพอ เลยทำให้ล้มป่วยเอาง่ายๆ ถึงแม้วิภานีจะเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยสักเท่าไหร่ หากแต่ถูกทุกอย่างรุมเร้าทั้งความเครียด ทั้งหน้าที่การงาน ร่างกายคงต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บไม่ไหวเช่นกัน ตั้งแต่เดินทางกลับถึงที่พักอาศัยเมื่อรุ่งเช้า วิภานีก็เอาแต่นอนซมอยู่บนโซฟาไม่ได้ลุกไปไหนเนื่องจากอาการป่วยถามหา
เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังแว่วผ่านโสตประสาท หากแต่เปลือกตาหนักอึ้งไม่สามารถเปิดขึ้นมามองได้ว่าใครคือบุคคลผู้มาเยือน
วิ
ประสาทสัมผัสได้ยินเสียงละมุนเรียกชื่อแผ่วเบา คล้ายกำลังกึ่งหลับกึ่งฝันล่องลอยแล้วสติดับวูบในที่สุด ไตรภาคินยกหลังมืออังหน้าผากรับรู้ถึงไอร้อนระอุจากร่างกายที่ส่งผ่านระหว่างกัน ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นวิภานีล้มป่วยมาก่อน ครั้งนี้คงเกิดสภาวะเครียดหนักจนทำลายภูมิคุ้มกัน เป็นไข้เอาเสียดื้อๆ
ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดถูกเช็ดตามใบหน้าและลำคอคนป่วยเพื่อดูดซับความร้อนให้บรรเทาลงเป็นระยะ ไตรภาคินอยู่ดูแลวิภานีได้พักใหญ่ รู้สึกห่วงใยและสำนึกผิด คิดว่าตนเองมีส่วนทำให้เธอต้องคิดมากจนล้มป่วยเช่นนี้ มือบอบบางถูกกำกุมขึ้นมาจับไว้
วิ พี่ขอโทษ ที่ไม่เคยทำอะไรชัดเจนสักครั้ง ขอโอกาสอีกครั้งได้ไหม พี่จะไม่ปล่อยให้ความรักของวิต้องหลุดลอยไปไหนอีกแล้ว พี่สัญญา
ประโยคขอร้องและคำมั่นสัญญาที่หลุดผ่านลำคอ กังวานดังในโสตประสาทชัดเจน นานหลายนาทีที่วิภานีพยายามฝืนเปิดเปลือกตาให้ลืมขึ้นอีกครั้งเพื่อมองคนด้านข้างที่กำลังสื่อสารกับเธอ
พี่ไตร..
วิ.. เป็นไงบ้าง ไปหาหมอไหม ลุกไหวหรือเปล่า
ไม่เป็นไร.. ว่าแต่พี่ไตรมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ก่อนเที่ยง
วิภานีเลื่อนสายตามองนาฬิกาบนฝาผนังบ่งบอกว่าใกล้หกโมงเย็นเต็มที ร่างกายขยับเคลื่อนไหวพยายามลุกขึ้นนั่งทั้งที่เรี่ยวแรงก็แทบไม่มีเหลือ จนไตรภาคินต้องช่วยประคองอีกแรง
มาอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน ไม่ห่วงน้องไหมหรือไง แล้วไอ้นิลล่ะ พี่ไตรไม่ต้องไปรับมันกลับบ้านเหรอ
น้องไหมพี่ฝากให้ยายเขาดูแลแล้วล่ะ เดี๋ยวค่ำๆ ค่อยกลับไปรับ ส่วนนิล..
เสียงพูดจาขาดหายจากลำคอทำให้คนรอฟังมองอย่างสงสัย อยากรับรู้เรื่องราวว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกระหว่างครอบครัวของเขา
มีอะไรพี่ไตร
ต่อไปนี้ชีวิตของนิลไม่ได้เป็นหน้าที่ของพี่อีกแล้ว
ทำไม..
พี่หย่ากับนิลแล้ว
วิภานีนิ่งอึ้งรู้สึกใจหายไม่น้อย ไม่คิดว่าไตรภาคินจะด่วนตัดสินใจเช่นนี้ ทั้งที่ตลอดเวลาเขาพยายามปฏิเสธที่จะปล่อยให้นิลนราเป็นอิสระ แต่ครั้งนี้กลับสวนทาง ไม่คิดฝันว่าลี่ที่อยู่ในร่างของนิลนราจะได้มีความสุขกับเขาเสียที
วินับถือพี่ไตรนะ ที่พี่ตัดสินใจปล่อยให้ไอ้นิลมันเป็นอิสระ
พี่ไม่ได้หย่าเพื่อผู้หญิงคนนั้น พี่หย่าเพราะพี่.. ต้องการวิ..
พี่ไตร..
สมองพร่าเบลอเมื่อครู่ เวลานี้กลับมึนหนักกว่าเดิม เขาจะหย่ากับนิลนราเพื่อเธอได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้
เรากลับมาคบกันได้ไหมวิ พี่อยากดูแลและตอบแทนความรักที่วิมีให้พี่ตลอดมา วิไม่ต้องตอบพี่ตอนนี้ก็ได้ พี่ไม่บังคับและไม่เร่งรัดให้วิกลับมาเป็นเหมือนเดิมตอนนี้ พี่รู้ว่ามันทำใจลำบาก แต่ถ้าวิยังมีความรักหลงเหลือให้พี่อยู่บ้าง กลับมาคบกันอีกครั้งได้ไหม
มันไม่ใช่ความรักที่ยังหลงเหลือ แต่เพราะมันไม่เคยจางหายไปเลยต่างหาก วิภานีลังเลกับสิ่งที่ไตรภาคินร้องขอ เธอไม่มั่นใจว่าจะตอบตกลงหรือปฏิเสธเขาในเวลานี้
พี่ไตรเพี้ยนไปแล้วหรือไง มาขอให้วิกลับไปคบกัน พี่ก็เห็นว่าหม่อนไหมไม่ยอมรับวิ
พี่เชื่อว่าสักวันน้องไหมต้องเข้าใจ เราช่วยกันทำให้น้องไหมยอมรับเรื่องของเราด้วยกันนะวิ
พี่ไตรแน่ใจเหรอว่าจะคบกับวิจริงๆ
พี่ไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน พี่ไม่อยากให้วิคิดว่า พอไม่มีนิลพี่ถึงหันมาสนใจวิ มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ วิเข้าใจพี่ใช่ไหม
วิไม่เคยคิดอะไรอย่างนั้นหรอกนะพี่ไตร วิรักพี่ วิถึงอยากเห็นพี่มีความสุข
วิว่าไงนะ..
อะไร..
เมื่อกี้วิบอกว่ารักพี่
หูฝาดหรือเปล่า วิยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ
อืม.. พี่คงหูฝาดไปเอง
ใบหน้าคมเข้มสลดวูบ รอยยิ้มหุบลงกะทันหัน ปรายสายตามองหญิงสาวที่วางสีหน้านิ่งเฉยก่อนลุกยืนเต็มความสูงเตรียมเดินจากไปเมื่อได้รู้คำตอบว่าวิภานีหมดสิ้นแล้วเยื่อใย คนตัวสูงค่อยๆ ย่างก้าวอย่างเชื่องช้า
พี่ไตร!
วิภานีใจคอไม่ดีทำให้เขารู้สึกแย่ขึ้นมาอีกทั้งที่เมื่อครู่ยังเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคมคาย หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นด้วยท่าทางจะล้มไม่ล้มแหล่คว้าแขนของเขาเอาไว้
วิไม่ต้องสงสารพี่หรอก ถ้าไม่รักก็ปล่อยให้พี่ไปให้พ้น
พี่ไตร.. วิรักพี่ วิไม่ได้สงสารพี่ วิไม่อยากให้พี่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ไตรภาคินกระตุกยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ไว้ภายในก่อนหันกายกลับมายืนเผชิญหน้ากับวิภานีอีกครั้ง รอยยิ้มกว้างทำให้หญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาแกล้งแหย่ให้เธอต้องพูดความจริงออกมา วิภานียกมือขึ้นปิดปากหลบสายตาแสร้งมองทางอื่น ใบหน้าร้อนวูบวาบจนขึ้นสีแดงระเรื่อ
แปลกดีนะผู้หญิงห้าวก็อายเป็นกับเขาด้วย ฝ่ามือฟาดลงบนแขนของไตรภาคินอย่างแรงก่อนจะถูกคว้าไปจับกุมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
ปล่อยนะพี่ไตร
พี่ไม่ปล่อย ต่อไปนี้พี่จะไม่ยอมปล่อยให้วิไปไหนอีกแล้ว ไม่ว่าวิจะผลักไสให้พี่ไปหาใคร พี่ก็ไม่ยอมไป
ร่างบอบบางถูกโอบกอดแนบแน่น ส่งผ่านความอบอุ่นระหว่างร่างกาย เตรียมคว้าความสุขที่กำลังจะได้ครอบครองในอีกไม่ช้า ระหว่างเรื่องราวของไตรภาคินและวิภานีคงมีเพียงหม่อนไหมคนเดียวเท่านั้น ที่เขาทั้งสองต้องหาหนทางชนะใจให้กลับมายอมรับวิภานีในฐานะมารดาคนใหม่
โปรดติดตามตอนต่อไป