|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รีวิวของใช้ส่วนตัวนะค้า...
เอาหล่ะ วันนี้อารมณ์ดี เราจะเปิดกรุ ให้ดูของใช้แบบส่วนตั๊วส่วนตัว แบบบุกลุยถึงโต๊ะเครื่องแป้งเลยล่ะกันน้าค่ะ..เป็นผู้หญิ๊ง ผู้หญิง ก็ต้องดูแลรักษาผิวพันเป็นเรื่องปกติ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับสารพัตจะควันพิษ และ ฝุ่นละออง ดูแลกันดีๆ นะจ๊ะสาวๆจ๋า.. ผิดสวยกระจ่างไม่มีสิวก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วเน่อะ จะแต้มสีอะไร ลงสีอะไร ก็ดูแจ่มไฉไล เมื่อไร้สิว
อันแรกนี้คือทางขวามือก็คือ สุดยอดฮิต BI-FACIL Double-Action Eye Makeup Remover By Lancome ขนาด 4.2 FL Oz. เป็น Eye Makeup Remover ตัวยอดฮิตของพี่ Lancome เค้า ตัวนี้ได้รับรางวัลจากนิตยาสารแฟชั้นชั้นนํามากมาย เรียกได้ว่าพี่เค้ากวาดมาหมดแล้วทุกเวที เราลองใช้แล้ว ก็ขอบอกว่า พี่เค้าเยี่ยมจริงๆ เวลาใช้ก็เขย่าขวดให้ 2 layers มันผสมกันอะนะจ๊ะ แล้วก็จุ่มสําลี เช็ดเบาๆบริเวณรอบดวงตา ลบพวกมาสคาร่าที่กันนํ้า และ พวกสีๆ ทั้งหลายออกอย่างหมดจด คนที่ใส่คอนเทคเลนส์นี้ก็ไม่แพ้ แถมยังช่วยคงความสดชื้นให้กับผิวบริเวณรอบดวงตา ไม่เหี้ยวเร็วก่อนวัยซะด้วย ไม่ผิดหวังเลยที่ บีเอ เชียร์นักหนาให้ซื้อ เราก็แนะนําให้สาวคนไหนที่แต่งตาบ่อยอะนะจ๊ะ ลองหามาใช้ดู เพราะความสะอาดรอบดวงตาเป็นเรื่องสําคัญนัก.. ราคาตัวนี้ตกอยู่ที่ 1,000 บาท (9/10 หักไปหนึ่งคะแนนเพราะเราว่าแพงไปนิดนุงเน่อะ เพื่อนๆว่าไม๊) เอาหล่ะ ต่อๆ ตัวซ้ายมือ TONIQUE DOUCEUR Alcohol-Free Freshener โดย Lancome เจ้าเก่า จริงๆตัวนี้เอาไว้ใช้หลังล้างหน้า และ ก่อนทา moisturizer แต่เอามาไว้รูปแรกเพราะเห็นเป็นของ Lancome เหมือนกัน เป็นโทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ผสม และมีค่า pH balanced ที่อยู่ในสถานะที่ดีที่สุดสําหรับผิวหน้า โทนเนอร์เนี๊ยเหมาะสําหรับคนผิวธรรมดาถึงผิวมันนะจ๊ะ เพราะจะช่วยกําจัดนํ้ามันบนผิวหน้า โทนเนอร์ตัวนี้ทาไปแล้วจะให้ความชุ่มชื่นขึ้นมาอย่างรู้สึกได้ และ ช่วยกําจัดเครื่องสําอาง และคราบไคลที่ตกค้างจากการล้างหน้าไปในตัว ทําให้ผิวสะอาด และ นุ่มขึ้นเลยหล่ะ เราฟันธงว่าดีมั๊กมัก ที่เหนอยู่ในรูปนี้ขนาด13.5 FL Oz. ราคา 1,500 บาท (9/10)
Next..!! จากขวา Loreal' Visibly Clean Toner ตัวนี้จะเหมือน Loreal' Toner รุ่นที่วางๆขายกันตามเคาท์เตอร์ กลิ่นหอมดี ซื้อมาลองใช้เล่นๆ ก็ลบได้หมดจดพอตัว ราคาไม่แพง แต่จําไม่ได้แล้วอะว่าเท่าไหร่ เนื้อมันเป็นเหมือนนํ้านม แบบ เหลวขุ่นๆ หอมดีด้วย ใช้ได้นานเลยแหล่ะ (ให้คะแนน 7/10) อันต่อไปขวามือ Kanebo White C อันนี้ก็เอาไว้ทาก่อนลง Moisturizer แต่เราไม่ค่อยชอบอะ มันผสมแอลกอฮอล์แบบได้กลื่นเลยเวลาใช้ จริงๆมันก็ไม่ได้แพ้อะไร แต่ใช้แล้วรู้สึกเหมือนใช้สารเคมีย์แรงๆทุกที เลิกใช้ไปแล้วอะค่ะ แต่หน้าก็ขาวผ่องขึ้นนิดนุง ถ้า ใช้กับMoisturizer ของแซ็ท พี่เค้า (6/10)
ต่อนะค้า Purity by Philosophy อันขวาสุดอะค่ะ อันนี้เราขอบ๊วกๆละก้า .. ว่า ที่เค้าเลื่องลือหน่ะ จิงทุกประการ สะอาด หมดจด หน้านุ่มเนียน กลิ่นก็หอม ถือได้ว่าเป็นนางเอกในสังกัตของเจ๊ฟิโลเค้าเลยทีเดียว ใครไม่มีระวังเชย ราคานี้ถ้าซื้อเมืองไทยได้ข่าวว่าแพงโข่ แต่เราซื้อมาจากอะเมริ๊กา ในราคา $32 (ขนาด 16 Oz) (10/10) ต่อมาอันกลาง Clean and Clear Morning Burst Scrub by Johnson and Johnson Made in U.S.A. อันนี้หอมกลิ่นส้มๆ ถ้าใครชอบล้างหน้าแบบว่ารู้สึกได้เลยว่าพอล้างออกแล้วสะอาดสุดๆเนี๊ย อันเนี๊ยเหมาะเลย เพราะมี Bursting Beads เป็นเม็ดวิตตามินที่ผสมอยู่ เวลาถูๆแล้วจะรู้สึกว่ามันสะอาดอะ เม็ดวิตมินก็ผสมสารเอาไว้บํารุงให้ผิวนุ่มด้วย ใช้อันนี้แล้วจะรู้สึกว่าหอมหวานกลิ่นผลไม้มากเลย (8/10) ใช้ดี ราคาถูก ประมาน 200 บาท นิดๆ และสุดท้าย ซ้ายสุดของรูปนี้ L'Oreal Dermo-Expertise Visibly Clean Foaming Cream Scrub Cleanser 6.5 oz (184 g) ซื้อมาพร้อมกับไอ้โทนเนอร์ รูปข้างบน เวลาใช้ก็ใช้เป็นเซ็ดๆ มีวิตตามินซี แล้วก็ สครับติงบีท คล้ายๆ ไอ้ จอนห์สัน แอนด์ จอนห์สัน ข้างๆ งั้นๆ ไม่ค่อยกรี๊ดเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แพงมาก เกือบๆ 300 บาทมั๊ง (7/10)
Setนี้เห็นเอาไว้บํารุงเวลาสภาพผิวไม่แบบว่าไหวแล้ว ประมานว่าช่วงเรียนหนัก อ่านหนังสือดึก อะไรทํานองนั้น มันแพงอะ ต้องค่อยๆใช้ ฮิๆแต่ก็เอาว่ะ ลงทุน.. มาเริ่มดูกันจากซ้ายไปขวา1) LaMer The Body Serum ($150) 2) La Mer The Body Lotion ($195) เบอร์ 1 กับ 2 ใช้ควบคู่เวลาทาผิวกายอะนะ เอาไว้ใช้หลังจากออกนอกสถานที่หนักๆแล้วต้องการให้ผิวกลับมาคงสภาพเด้งได้อย่างรวดเร็ว 3) Cream de La Mer ($195) ใช้แล้วอันนี้หล่ะที่เลื่องลือว่าเป็นครีมมหัสจรรย์ ไม่ลองไม่รู้ กลิ่นหอม เนื้อครีมหนา เราใช้ทาเฉพาะช่วงหน้าหนาวก็พอ มันเหนียวมั๊กมัก ถ้าทาตอนก่อนนอนเช้าตื่นขึ้นมาจะรู้สึกได้เลยว่าผิวเรามันชั่งเด้ง เปล่ง ปลั่ง จริงๆ เราการันตี มีส่วนผสมหลักๆก็เป็น สาหร่าย กับ มิเนอร์รัล ออย.. แล้วก็คงมีอย่างอื่นอีกเยอะแยะ เราชอบนะ ชุ่มชื่นมากๆเลย (9/10) หักหนึ่งคะแนน ข้อหาแพงเก่ง 4) La Mer the Moisturizing Lotion ($165) ตัวนี้ก็คล้ายๆ Cream de La Mer แต่เนื่อครีมจะบางกว่าเหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทย เราใช้ตัวนี้หน้าร้อนจ๊ะ แต่ต้องช่วงผิวเหนื่อยหนักสักหน่อยนะ (9/10) 5) La Prairie Cellular Eye Contour Cream ($110) โดนลวงให้ซื้อมาอะ ตัวนี้ ใช้แล้วงั้นๆมากเลย ซื้อมาเพราะช่วงนั้นตาคลําอ่านหนังสือสอบ แต่ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ ไม่แนะนําอย่างแรง (7/10) 6) La Prairie Cellular Hydrating Serum($160) ขอแนะนําให้คนที่ผิวขาดความชุ่มชื้นมากๆ ซีรัมตัวนี้ช่วยได้ ใช้ก่อนลง moisturizer เท่านั้นเอง เป็นตัวที่เราใช้ เฉพาะกิจ (10/10) 7) La Prairie Cellular Retexturizing Booster ($160) บอกไว้ก่อนเลยว่าตัวนี้แรงมากๆ มีส่วนผสมของกรดผลไม้ที่สามารถทําให่ผิวที่สีไม่เท่ากัน ไม่เรียบ ไม่เนียน เปลี่ยนไปเป็นสีเท่ากัน เรียบ เนียน เด้งได้อย่างรวดเร็ว ซึมเร็วมากด้วย แต่เตือนว่า ของเค้าดี แต่ก็แรง อย่าใช้บ่อย ถ้าจะใช้ ใช้ตอนที่ผิวมีปัญหาจิงๆ (9/10) หักคะแนน ที่แอบแพง
แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาที่สภาพผิวไม่แย่ขนาดนั้น เราก็ใช้ Artistry Alpha Hydroxy Serum Plus ตัวที่อยู่ในรูป แค่นี้ก็พอแล้ว มีส่วนผสมของ alpha hydroxy ทําให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แล้วก็ช่วยผลัดเซล์ลผิวให้ดูอ่อนวัยตลอด ฮิๆ ไม่รู้คนอื่นเป็นรึป่าวนะ แต่เราใช้แล้วสิวไม่มารังควานอีกเลยด้วย ของเค้าดีจิงๆ ให้คะแนน (9/10) ราคาตกอยู่ประมาณ 2,000 บาทมั๊ง
ต่อไปคือ สกินแคร์ของฟิโล 1) Hope is not enough by Philosophy เป็นซีรัมใช้ทาก่อนลง moisturizer เป็นซีรัมที่เพคเกจหลอกลวงมาก ดูเหมือนเยอะ แต่จริงๆแล้วมีอยู่กะจิ๊ดเดียว สัพะคุณพี่แกอะดี ทาแล้วชุ่มชื้น แล้วก็ช่วยลดริ้วรอยด้วย แต่ปริมาติไม่สมราคา เอาไป (7/10) 2) Hope in a Jar by Philosophy แห้งดีอะ เราก็เชียร์นะ ถ้าใครผิวมันแล้วอยากได้บํารุงที่แห้งๆซึมเร็วหน่อย ใช้ควบคู่กะซีรัมเนี๊ย เวิกเลยทีเดียว (9/10) 3) Hope in a tube by Philosophy (5/10) ใช้แล้วไม่ได้ผลอะไรเลยค่ะ แถมลอกๆ เป็นขุ่ยๆอีกตั้งหาก เสียดายตัง
Last one for Skin Care for today = Artistry Replenishing Eye Creme ภูมิใจเสนอมากเลย ราคาก็ไม่แพง ประมานเกือบพันมั๊ง คุณภาพดีกว่าของ ลาแพร์ มากๆ อันนี้ยกให้ (10/10) Wish List
อยากได้ๆๆๆๆ อันนี้ไปลองมาแล้ว ดีที่สุดในโลกที่เคยลองสครับมา ยังไงก็ต้องซื้อ วันนี้รีวิวขอพอก่อนนะค่ะ จิงๆยังเหลืออีกหลายอย่างแต่ไม่ไหว เหนื่อยแล้ว เด้วพรุ่งนี้จะกลับมารีวิวเครื่องสําอาง กับ สกินแคร์ที่เหลือใหม่น๊ะ บัยบุ๊ยทุกคน
Create Date : 11 สิงหาคม 2549 |
Last Update : 23 มีนาคม 2550 7:21:51 น. |
|
16 comments
|
Counter : 3652 Pageviews. |
|
|
|
โดย: >^)Pla< (ROSIER ) วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:16:39:55 น. |
|
|
|
โดย: CosmeticsJunkies (Superduperpuff) (superduperpuff ) วันที่: 27 สิงหาคม 2549 เวลา:14:43:14 น. |
|
|
|
โดย: gerorogunso (Geerorogunso ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:37:38 น. |
|
|
|
โดย: luke IP: 124.157.153.121 วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:2:37:10 น. |
|
|
|
โดย: เอ๋ IP: 58.9.144.230 วันที่: 26 มกราคม 2550 เวลา:12:48:24 น. |
|
|
|
โดย: shadowboxer IP: 58.8.57.239 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:17:37 น. |
|
|
|
โดย: furby IP: 203.147.59.173 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:31:41 น. |
|
|
|
โดย: 9 IP: 117.47.139.9 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:14:13:48 น. |
|
|
|
โดย: nikky IP: 58.8.203.7 วันที่: 12 เมษายน 2553 เวลา:15:27:39 น. |
|
|
|
โดย: เนย IP: 118.173.177.108 วันที่: 26 เมษายน 2553 เวลา:22:08:45 น. |
|
|
|
โดย: nui IP: 14.207.191.59 วันที่: 13 พฤษภาคม 2554 เวลา:16:12:35 น. |
|
|
|
โดย: แพรพลอย IP: 223.207.121.10 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:14:02:29 น. |
|
|
|
โดย: แพรพลอย IP: 223.207.121.10 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:14:04:48 น. |
|
|
|
โดย: ข้าวปุ้น IP: 223.206.10.118 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:9:11:15 น. |
|
|
|
โดย: Bee IP: 125.24.162.78 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:13:56:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่เพิ่งสอย skII ไป เอาไว้หมดเมื่อไหร่จะลองใช้ของPhilosophyบ้าง
อ่านบล๊อกแล้วกิเลสก่อเกิด เอิ้ก....