_____มันดีจริงๆ กับประเทศไทยหรือ??_____
เรื่องเขาพระวิหาร ม่ะมีความเห็น(ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยตู) แต่เรื่องขายชาติเนี่ย มองได้หลายมุม ..สำหรับผม ผมถือว่าทักกี้ขายชาติตั้งแต่ขายหุ้นชินแล้วอ่ะ
จะบอกว่ามันเป็นทรัพย์สินครอบครัวสร้ามหามาเองคงไม่ได้ เพราะสิ่งที่สร้างหามาเอง มันต่อยอดมาจากทรัพย์กรของชาติ สัมปทานต่างๆ ในเครือหุ้นชิน มันเป็นมากกว่าสมบัติเฉพาะของครอบครัว แม้จะแปรงคุณค่าของทรัพยากรมาเป็น มูลค่าเพื่อการซื้อขายได้ แต่การซื้อขายดังว่าต้องมีขอบเขต ซึ่งจริงๆ กฎเค้าก็มีอยู่แล้ว(49%) แต่การหาช่องโหวของกฎ เพื่อหลีกเลี่ยง เป็นสิ่งถนัดของทักกี้
แค่ขายให้ต่างชาติก็แย่อยู่แล้ว แต่นี่ขายให้สิงคโปร ประเทศที่บ่อนทำลายประเทศไทยทางใต้ดินมาตลอด อันนี้ยิ่งเลวร้ายใหญ่
เรื่องเขาพระวิหาร ก็เหมือนหลายๆ เรื่อง ที่ฝ่ายทุนทักกี้ โต้แย้งกับฝ่ายทุนขั้วตรงข้าม จริงๆ หลายๆ เรื่อง เหมือนเป็นเรื่องมอง 2 ด้าน , มองคนละมุม
ถ้าบอกว่าศาลโลกตัดสินไปแล้วตั้งแต่ 2505 และเรายอมรับ สิ่งที่เค้าทำวันนี้ไม่ได้ผิด ถือว่าทำเรื่องที่ค้างคาอยู่ให้จบก็ได้ (เพื่อจะได้เดินต่อไปข้างหน้า)
แต่ถ้ามองว่า เราไม่ยอมรับคำสั่งศาลมาตั้งแต่ 2505 ถ้าเราจะยืนกรานตรงนั้น ที่ฝ่ายทักกี้ทำก็ถือว่าผิด เพราะสิ่งที่เค้าทำวันนี้ จะมีผลในแง่วิชาการ และมีผลต่อกฎหมายย้อนหลังได้
หลายๆ เรื่อง สิ่งที่ฝ่ายทักกี้ทำ มักจะมีลักษณะอย่างนี้ คือเป็นแนวคิดที่ทันสมัย เป็นทุนนิยมโลกาภิวัตน ซึ่งถือว่า "ทุน" และ "กฎเกณฑ์ของทุน" ถูกต้องเสมอ ..ดังนั้น ด้วยกฎเกณฑ์ของทุน เรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็น มันเป็นกฎธรรมชาติ มันไม่ได้ผิดอะไร
นี่เป็นแนวคิดหลักๆ ของทุนนิยมครอบงำโลก(โลกาภิวัตน์)
ทุนครอบงำโลก หรือทุนนิยมโลกาภิวัตน์ เป็นกระแสหลักของโลก ด้านหนึ่งเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกันเราไม่จำเป็นต้องดำเนินตามกระแสหลักที่ฝรั่งสร้างขึ้นนี้ไปจนสุดโต่ง
สาเหตุก็เพราะมันเป็นกระแสดที่ฝรั่งปลุกขึ้นมา เพราะเค้ามีความได้เปรียบในเรื่องนี้ ระบบของเค้าเข้มแข็งและเกื้อหนุนให้ประเทศ-รัฐชาติเค้าได้เปรียบ ตามกฎเกณฑ์ที่เค้าตั้งขึ้นมานี้
ส่วนประเทศกำลังพัฒนา และประเทศโลกที่ 3 จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ คือประเทศเหล่านี้(รวมถึงไทย-และประเทศส่วนใหญ่ในโลก)ที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การศึกษา ยังไม่มีความพร้อมพอเพียง เมื่อถูกยุแยงตะแคงรั่ว จากฝ่ายที่ได้ประโยชน์ตามแนวคิดทุนนิยมโลกาภิวัตน์นี้ ว่าต้องเปิดเสรีด้านนั้น ด้านนี้ ต้อง "เสรีๆๆๆๆๆๆ" , ต้องโลกาภิวัตน์ๆๆๆๆ
..ประเทศเหล่านี้ ยิ่งเปิดเสรีมากเท่าไหร่ มันก็เหมือนกับเป็นการต่อท่อ ขยายท่อให้ระบบทุนนิยมครอบงำโลกนี้ มาดูด-ใช้ทรัพยากร และความมั่งคั้งประประเทศ-รัฐชาตินั้นๆ ไป
วันนี้ประเทศไทยเราพลั้งถล่ำ มาเกินครึ่งตัวแล้ว ..ถามว่าจำเป็นที่จะต้องเดินไปให้สุดตัวหรือเปล่า??..
ในเมื่อในเนื้อแท้แล้วเรายังไม่มีความพร้อม ในแทบจะทุกแง่ ..และจะว่าไป เราไม่จำเป็นต้องพร้อมด้วยซ้ำไป เรื่องเปิดเสรีนั้น ควรเป็นไปตามความเหมาะสม และขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางเศรษฐกิขของประเทศ เราถนัดส่วนไหน เราก็อาจจะเปิดส่วนนั้นกว้างได้มากหน่อย ส่วนไหนที่เราไม่ถนัด ก็ต้องระมัดระวังดูแลให้เข้มแข็งก่อน
เพราะประเทศที่ชอบแอบอ้างคำว่าเสรี ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น อันที่จริงเค้าอาจจะเสรีน้อยกว่าเราก็ได้ ในหลายๆ เรื่อง ในแง่ปฎิบัติ (เพียงแต่หน้ากากเค้าปั้นแต่งไว้สวยหรูเท่านั้น-เนื้อแท้ไม่ได้เสรีอะไรเลย)
หลายๆ เรื่อง ที่ผมมองการเมืองวันนี้ เหมือนกับการขัดแย้งกันทางความเชื่อ และความถนัด ฝ่ายทักกี้นั้นถนัดกับทุนนิยมโลกาภิวัตน์ (หรือจะเรียกทุนนิยมสามานส์-ทุนนิยมครอบงำโลก ก็ได้) เค้าถนัดทางด้านนี้จริงๆ และเค้าก็ทำได้ดีในส่วนของเค้า(เพราะเค้ามีทุน)
..แต่ผมก็สงสัยว่าเค้าเชื่อว่ามันดีจริงๆ กับประเทศชาตินี้ หรือเปล่า??
ถ้าเค้าเชื่อจากหัวใจจริงๆ ว่าประเทศนี้จะดีได้ ถ้าเนินตามแนวทางนี้(ทุนนิยมสุดขั้ว) ความถนัดของเค้าก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร ถือเป็นฝีมือด้วยซ้ำ-อันนี้มองแบบพยายามเข้าใจในส่วนนี้
..แต่ถ้าเค้าเองจริงๆ ก็ไม่เชื่อเรื่องทุนนิยมขนาดนั้น แต่กลับผลักดันประเทศชาตินี้ไปตามแนวทางนี้ เพราะว่าตัวเองถนัด และทำได้ดีในทางนี้ ทั้งๆ ที่เห็นและรู้อยู่ว่า แนวทางที่ว่านี้ จะก่อให้เกิดผลเสียหายกับรัฐชาติในระยะยาวแล้ว สิ่งที่เค้าพยายามทำวันนี้ หลายต่อหลายประเด็น ทั้งโดยตรงและดดยอ้อม คือการขายชาติโดยเจตนา..
โดยส่วนตัวผมเชื่อจากหัวใจ 100% ว่าประเทศไทยจริงๆ แล้ว ยังไม่พร้อมกับแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ ..วันนี้เรา(10 กว่าปีที่ผ่านมา-ตั้งแต่เปิดเสรีทาการเงิน) เราถล่ำลึกไปเกินกว่าครึ่งตัวแล้ว
แต่ไม่ใช่ว่า เราจะถอนตัวไม่ได้ ในวันนี้ผมมองว่า เรายังรั้งตัวเองไว้ได้ แล้วอาจจะกำหนดจุดยืนของประเทศ ให้เอนเอียงกับทุนโลกาภิวัตน์มอย่างเหมาะสม และฉานฉลาด ให้มีนโยบายบริหารรัฐชาติที่เป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้ ให้น้ำหนักกับประชากรส่วนใหญ่ของชาติ และให้น้ำหนักกับคุณภาพชีวิต และสวัสดิการของประชากรเป็นหลัก
เป็นทุนนิยมที่ไม่สุดโต่ง อย่างที่ฝรั่งผู้ปลุกกระแสให้เราหลงตาม และพยายามบังคับให้คนอื่นเป็นเหมือนมัน (ตูไม่ได้มีเงินเท่ามึง ประเทศตูไม่ได้ผลิตของเมือนมึง วัฒนธรรมตูไม่เหมือนมึง ตูใช้จ่ายไม่เหมือนมึง รสนิยมตูไม่เหมือนมึง และอีกฯลฯ ที่ตูไม่เหมือนมึง ..แล้วมึงจะให้ตูมาทำอย่างมึงได้ไง-ไอ่ฝรั่งขี้นก??)
ยกตัวอย่างอื่กอันหนึ่ง.. ทักกี้ชวนคน ชวนแขกมาดูวิธีการปลูกข้าว ชวนฝรั่งมาใช้เทคโนโลยีในการเพาะปลูก มีข้าวพันธที่ดีๆ ให้ผลผลติสูงๆ มองด้านนี้ก็ดีอยู่.. แต่ถ้าเกิดแขก-ฝรั่ง จะลงทุนจริงๆ ซื้อที่ดินทำกินเพาะปลูก ไปสัก 10 จังหวัด สำหรับแนวคิดทักกี้ คงยอมให้ฝรั่งซื้อได้.. (ทุนนิยม เพิ่มผลผลิต ที่ดินไม่หายไปไหน)
แต่ผลได้อันเกิดจากที่ดินนั้น กำไร 80-90% ก็จะตกเป็นของนายทุน เกษตรกรไทยก็จะเหลือหน้าที่ผู้ใช้แรงงาน ทำงานสนองนายทุนเท่านั้น ไม่มีที่ทำกินของตัวเอง สุดท้ายประเทศเราก็เป็นได้แค่ประเทศผู้รับจ้างผลิต โดยใช้แรงงานของเรา ทรัพยากรของเรา ผืนดินของเรา ฝนของเรา ..แต่ผลกำไร ผลได้ที่ดี ที่มี ตกเป็นของขายทุนต่างชาติ ผู้มีทุนใหญ่กว่า หนากว่า ผู้ที่นิยมทุนโลกาภิวัตินั่นเอง..
Create Date : 24 มิถุนายน 2551 |
|
20 comments |
Last Update : 24 มิถุนายน 2551 15:41:49 น. |
Counter : 353 Pageviews. |
|
|
|
แล้วค่อยมาวิจารณ์ ลำพังเขียนอ่านภาษาไทยยังผิด ก็แย่แล้ว
สามานส์- สามานย์
แปรงคุณค่า-แปลง แปรงคำนี้หมายถึงแปรงสีฟันหรือแปรงผม
ปลาเล็น-หมายถึงอะไรไม่ทราบ ไม่มีคำนี้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
ถล่ำลึก-ถลำ
มั่งคั้ง-มั่งคั่ง
ศาลโลกตัดสินไปแล้วตั้งแต่ 2505 และเรายอมรับ
สิ่งที่เค้าทำวันนี้ไม่ได้ผิด ถือว่าทำเรื่องที่ค้างคาอยู่ให้จบก็ได้
*******และขอแย้งประเด็นี้นะคะน้อง เคยศึกษาไหมว่าคำตัดสินของศาลโลกเราไม่สามารถแย้งได้หลังจากคำตัดสินล่วงไปแล้วเกิน 10 ปีค่ะ ภายใน 10 ปีที่คำตัดสินออกมา เราสามารถยื่นคัดค้านได้ ศาลโลกไม่ใช่ศาลประเทศนะคะน้อง ไปเรียนรู้ อ่านเขียนเรียนให้จบ ศึกษาให้มาก จะได้ฉลาดไม่โง่ค่ะ อย่าเชื่ออะไรตามที่เค้าพูดกรอกหู ไปศึกษานะคะ ขอร้อง...