หายใจเข้าเป็นความรัก หายใจออกเป็นความคิดถึง
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
3 สิงหาคม 2551

12 วันกับการฝึกวิปัสสนากับอาจารย์โกเอ็นก้า ตอน2

วันที่4

วันนี้ตื่นขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น อยากชนะเจ้ากรรมนายเวรที่ทดสอบเราจริงๆ แถมเอาบททดสอบที่เราแพ้มาตลอดชีวิตมาเล่นกับเรา นั่นคือการเห็นใครสักคนแล้วปิ๊ง ขนาดเจอเจี๊ยบยังไม่ปิ๊งเท่าน้องคนนี้เลย (อย่างอนน๊า ยังไงที่พี่ทำได้ก็เพราะข้อความเชียร์สุดๆของเจี๊ยบแหละ อ่านทีไร ใจบานเป็นเห็ดฤดูฝนทุกที)

ไหนๆอาจารย์ก็ไม่ให้กลับบ้าน ความเมตตาของอาจารย์สัมผัสได้เสมอ ทุกครั้งหลังนั่งเสร็จอาจารย์จะเรียกเข้าพบครั้งละ6 คน เป็นคนเดียวที่อาจารย์จะเรียกชื่อเต็มๆ คนอื่นๆจะถามโดยไม่เอ่ยชื่อ ก็รู้สึกใจพองโตทุกครั้งที่อาจารย์จำชื่อเราได้ รู้สึกอาจารย์จะลุ้นกับเรามากเป็นพิเศษ ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ทุกชั่วโมง(สู้กับมดที่มันกัดเราเจ็บจี๊ดๆ ตรงนั้น ตรงโน้น ตรงนี้ ตลอดเวลา แต่อาจารย์บอกว่า ให้แผ่เมตตาให้มัน แล้วมันจะค่อยๆหายไป วันท้ายๆ มันไม่มีกัดเราจริงๆแหละ )

วันนี้ถ้าจำไม่ผิด มันคือวันสำคัญมากๆ เพราะเป็นการเริ่มสอนวิปัสสนาเต็มๆ นั่งยาวไม่ขยับไม่กระดุกกระดิก สองชั่วโมง อุเบกขาๆๆ ท่องไว้ เราต้องมีอุเบกขา จากที่เคยนั่งมองลมหายใจมาหลายวัน วันนี้อาจารย์บอกให้ทิ้งลมหายใจ อย่าสนใจลมหายใจ เอาจิตไปอยู่บนกระกระหม่อม สำรวจร่างกาย สำรวจทั่วตัว ไอ้เราก็ วันที่นั่งมองลมหายใจ มองจนเหมือนไม่มีลมหายใจ ออกจากจมูก มัน ละเอียด เบา จนลองหยุดหายใจ ปรากฎว่าเราหยุดหายใจได้ยาวนานมาก ๆๆ โดยที่ยังรู้สึกนิ่ง เลยนึกถึงกบตอนจำศีลใต้ดินหลายเดือน มันไม่กินอาหาร และมันคงหยุดหายใจได้นานเหมือนเราแน่ๆ ขั้นตอนตรงนี้อธิบายไม่ถูกเลย รู้แต่นั่งสำรวจร่างกายตัวเองทุกส่วน จากหัวสู่เท้า จากเท้าสู่หัว จากกลางกระหม่อม ที่แรกๆมันไหลจากกระหม่อมมาหน้าผาก แล้วมันก็หยุด จิตหาย เอาใหม่ๆ ทำใหม่ๆ ทำจนรู้สึกเหมือนน้ำเย็นๆไหล แต่เพื่อนอีกคนบอกว่า ของเขาเป็นกระแสร้อนๆไหลทั่วตัว ไอ้เรา รู้สึกแค่บางทีเหมือนโดนกระแสไฟฟ้าแปร๊บตัวร่าง ซ่า แล้วหายวับ บางคนมันซ่าขึ้นซ่าลงตามจิต แล้วมันแปลกที่

เมื่อก่อนการมองลมหายใจ ก็ทำให้เราโปร่งเบา สงบ แต่การสำรวจร่างกาย จิตก็สงบ ความรู้สึกเหมือนไม่มีลมหายใจอีกแล้ว พอหมดเวลา โอยตายๆ เราทำได้ สามารถบังคับจิตไหลขึ้นกระกม่อม ไปเต้นตุบๆอยู่บนหัว ไหลเย็นเป็นทาง เป็นวันที่ ไม่ยากกลับบ้านล่ะ อยากนั่งจนถอดจิตไปเที่ยวได้ สนุกมาก จิตโปร่ง สงบ ไม่คิดอะไรอีกเลย ปกติตอนไปคิดว่าตอนนั่งเราต้องฟุ้งแน่ๆ เพราะไหนจะทิ้งงาน ไหนจะทิ้งทุกอย่างที่เราเหมาทำคนเดียว ไหนจะแฟนเก่า ที่รังควาญความรัสึกไม่เลิก แต่แปลกมาก ทุกครั้งที่เราเข้าห้องปฎิบัติ เหมือนการตัดขาดจากโลกภายนอก เราลืมทุกอย่าง
จิตนิ่งในระดับที่พร้อมมากๆ ก็เลยคิดว่า นี่คงเป็นพลังเมตตาของอาจารย์ที่ช่วยเรา จิตเราถึงนิ่งทุกครั้งที่นั่งในห้องนี้ แต่อาจารย์สอนว่า อย่ารู้สึกชอบ อย่ารูสึกไม่ชอบ อย่าดีใจ อย่าติดยึดไปกับความรุ้สึกใดๆ จะสบาย จะอึดอัด จะเจ็บปวด แค่ยอมรับ เพราะทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ไม่มีอะไรคงอยู่ถาวร เกิดดับๆ สายน้ำสายเดิม แค่ดำลงไป ผุดขึ้นมาสายน้ำก็ไม่ใช่สายเดิมอีกแล้ว เพราะระหว่างที่เราดำลงไป สายน้ำก็ไหลไปแล้ว ผุดขึ้นมาก็เป็นสายน้ำสายใหม่ การไปฝึกตรงนี้ ไม่ใช่ฝึกเพื่ออภินิหาริ์ยใด แต่คือการผ่าตัดจิตใจ
การผ่าตัดที่ลึก ขุดกิเลสออกมา ชำระจิตให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น อุเบกขาค่ะ อาจารย์บอกว่า ธรรมะไม่ใช่ยารักษาโรค เป็นโรคอะไรมาก็ไปหาหมอ การจะนั่งแล้วจะทำให้มีอิธิฤทธิ์โน้นนี่ ไม่ใช่แนวทางนี้ โรคเป็นทางกาย
กายกับจิต คนละส่วน ธรรมะคือเรื่องของจิต ผ่าตัดจิต รักษาจิต เพราะฉะนั้นแนวทางนี้จะไม่มีปาฎิหาริ์ย์

555 อาจารย์รู้ทันความคิด การคิดถอดจิตของเราเลยเลิกล้ม
เป็นวันเดียวที่เดินตัวเบาหวิว ใจโปร่งจนเหมือนแก้วใสไม่รู้สึก หน้าบาน กระหยิ่มมาก เราทำได้
แม้ยากเย็นแสนกว่าจะทำได้ฝึกหลายสิบชั่วโมง จนผ่านทุกความเจ็บปวดของร่างกาย แต่.อาจารย์บอก..นี่มันแค่เริ่มต้นเอง
มันแค่ชิวๆสำหรับคนเริ่มฝึก... ตายๆๆๆ นี่แค่เริ่มต้นเหรอ 4วันแล้วนะ ฝึกตั้งแต่ ตี4ครึ่ง จบเอา 3ทุ่มทุกวัน นี่คือเริ่มต้นเหรอ.... แต่มันก็แปลกอยู่อย่าง การนั่งสมาธินาน ยิ่งนานยิ่งสดชื่น ไม่ง่วง ตื่นขึ้นเวลาไหนก็สดชื่น
เราตื่นมาร้องเพลงลิเดียตอนหัวรุ่งได้โดยน้ำตาไม่ร่วงอีกแล้ว ซึ่งมันสุดยอดมาก ....ปกติฟังเพลงลิเดียก็ร้องไห้ตลอด แต่นี่ ตื่นเช้า ร้องเพลงอย่างมีความสุข...เรารักธรรมะจริงๆเล้ยย555

กลับบ้านก็รู้สึกไม่ใช่ที่ของเราจริงๆ เราคิดถึงสถานที่สุขสงบแบบนั้น ..จะกลับไปอีก
ใครอยากแนะนำให้สมัครเนิ่นๆนะ เพราะไม่ง่ายเลย

แล้วจะมาเล่าต่อวันที่5 6 7 8 9 10 11
เสียดายที่เขาไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ไม่งั้นจะถ่ายธรรมะบริกรใจดี น่ารัก มาให้ชม



Create Date : 03 สิงหาคม 2551
Last Update : 3 สิงหาคม 2551 23:14:36 น. 2 comments
Counter : 562 Pageviews.  

 
พึ่งไปกลับมาค่ะ ชอบมากๆเหมือนกัน ไปธรรมอาภาที่เเรกเลย พิษณุโลกช่วง 26 พ.ย.-7ธ.ค.51 สถานที่สุดยอดเเห่งความสงบเงียบ สดชื่น เหมาะกับการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์มากๆค่ะ

คิดว่าไปครั้งที่ 2 จะไปเป็นธรรมบริกรดีกว่า จะได้ลดอัตตาลงซะบ้าง ได้ฝึกบารมีเยอะเลย

ตอนที่ 1 อยู่ไหนหรอคะ หาไม่เจอ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ


โดย: ขวัญ (missqwan ) วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:18:55:08 น.  

 
ดีจังค่ะ อยากไปบ้างแต่ไม่ค่อยมีเวลาได้หยุดยาวขนาดนี้ค่ะ


โดย: Summer Flower วันที่: 28 กันยายน 2552 เวลา:21:56:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

รักไม่จำเป็นต้องพูด
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนใต้แต่กำเนิด มาใช้ชีวิตในเมืองกรุงตั้งแต่เด็ก
แต่ยังหอมกลิ่นโคลนสาบควาย และรักความยุติธรรมเป็นที่สุด
ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อจะทำให้ใครๆรัก แต่ฉันเกิดมาเพื่อจะได้รักใครบางคน
[Add รักไม่จำเป็นต้องพูด's blog to your web]