Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
ความยากลำบากของการจดทะเบียนกับชาวต่างชาติ

ขอระบายผ่านบล๊อกตัวเองละกัน

### ตอนแรกเราไม่รู้ไง ว่าทุกอย่างยุ่งยากวุ่นวายขนาดนี้ เราต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่าย ในการดำเนินเรื่องการจดทะเบียนสมรสกับแฟน(ตอนนี้ต้องเรียก "สามี"ี) ยิ่งเราพวกนอกเทศบาล อยู่บ้านนอก ก็ต้องเดินทางไปอำเภอ และที่รู้กันอยู่อำเภอทำตัวยุ่งยากมาก จริงๆแล้วเอกสาร สามารถทำได้ ก็บอกว่าทำไม่ได้ รู้ไหมเรานะก็เสียเวลาเสาะแสวงหาข้อมูลจนเจอว่าต้องทำยังไง เราก็กลับไปอำเภออีก บอกเขาฟังว่าทำวิธีนี้ได้ แต่คุณเธอไม่ยอมเซ็นต์ให้ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ เป็นเพราะคนไทยไปหลอกเขาหรือว่าเขาอยากได้เงิน เราก็ไม่ทราบแน่ชัดอะนะ แค่เดาๆ ไปเองนะ เราต้องไปอำเภอไปขอใบรับรองความโสด เราก็ไปเองเลย โดยไม่รู้อีกโหน่งอีกเหน่ง เขาก็ไล่กลับบ้านบอกว่าต้องนำกำนัน และญาติมายืนยันว่าโสดจริงๆ แล้วเขาถึงจะออกเอกสารให้ วันต่อมาก็กลับไปอำเภออีก คราวนี้ไปถึงพร้อมกำนันกับญาติ แต่ปลัดอำเภอไม่อยู่ไปงานลูกเสือ อ้าวเราทำไงละเนี่ย..แทนที่จะมีคนทำแทน รู้ไหมเจ้าหน้าที่บอกเราว่า ไม่มีคนทำแทน เราก็เลยต้องกินแห้วกลับบ้านไปอีก คราวต่อมาเราก็รอเวลาจนปลัดมาทำงาน เรารอเกือบเดือน ก็กลับไปอำเภออีก พร้อมกำนันและญาติเหมือนเดิม คราวนี้เราจ่ายค่าน้ำมันให้กำนันด้วย สงสารเขา มาทำธุระให้เราสองครั้งแล้วนะ เราก็ฟ้องปลัดอำเภอเลย ว่าเรามาคราวที่แล้วทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่ทำให้ เขาบอกว่ามี เราก็บอกว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มี เรางี้เซ็งเป็ดอะดิ อะไรเนี่ย ราชการไทย(เริ่มโกรธ)สรุปแล้วเราได้ใบรับรองความโสดวันนี้แหละ เห็นไหมว่ายุ่งยากขนาดไหนแค่ต้องการเอกสารใบนี้ เราก็กลับไปบ้าน คราวนี้เช็คข้อมูลว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรอีกเพื่อเตรียมเอกสารมาจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่น ก็หาข้อมูลในเว๊บไซด์แหละ เราก็เอาเอกสารทุกอย่างไปแปลเป็นภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่น ก็เสียค่าใช้จ่ายไปเยอะเหมือนกัน เรามารู้ทีหลังว่า แปลเอกสารนะไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะในเว๊บไซด์ของสถานฑูตมีฟอร์มให้อยู่แล้ว แ่่ต่อีกนั่นแหละ กลัวพลาดแปลผิด ก็ดีแล้วแหละที่จ้างแปล ความผิดพลาดไม่มีนะ ก่อนเดินทางมาญี่ปุ่นเราก็มาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อนำเอกสารไปประทับตรา ก็อยู่หลายวันเหมือนกัน อาศัยเปลี่ยนบรรยากาศ จากเชียงใหม่ มาอยู่กรุงเทพฯด้วย แต่ที่นี่แค่เสียเวลากับต้องนั่งแท๊กซี่ไปประทับตราที่ แจ้งวัฒนะ เรานะไม่ค่อยถูกกับแท๊กซี่เพราะเป็นคนต่างจังหวัดที่ยังเมารถง่ายมาก พูดแล้วอาย นั่งแท๊กซี่ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ถ้าเกินเมาทันที โคตรทรมาน แต่เรานะถูกกับรถเมล์ธรรมดา แบบลมโกรกนะ ไม่เป็นอะไรเลย เห็นปะว่าโลโซมาก ก็ประทับตราถ้ารอวันเดียว ก็เสียเงินอีกเ่ท่าตัว แต่ถ้ารอ 2 วัน ก็ราคาปกติ เราก็เลือกเลย รอสองวัน ถึงไงก็ไม่ได้รีบไปไหนนี่ ก็เสียค่าแท๊กซี่มาอีกทีละกัน เพราะเราประทับตราหลายฉบับ ขนาดราคาปกติ เรายังเสียไปแล้ว 2,000 บาท ถ้าเท่าตัวก็สี่พันบาท เอาตังค์ไปกินข้าวดีก่า ที่นี่ไม่ยุ่งยากดูแล้ว ง่ายกว่าอำเภอบ้านนอกเราเยอะเลย


พอได้เอกสารทั้งหมดแล้วก็ถึงวันเดินทางมาญี่ปุ่น พอมาถึงญี่ปุ่น เราโกรธแฟนเรามากไม่ยอมขอเอกสารของตัวเองไว้ก่อน เราต้องมานั่งรอเอกสารเขาเกือบหนึ่งสัปดาห์และตัวเขาต้องไปกับเราทุกที่ เราต้องอาศัยเขา แต่ตัวเขาต้องทำงาน ก็ต้องรอเวลาไปเรื่อยๆ กว่าเราจะเริ่มทำเรื่องได้ก็เกือบเดือนแนะ ตัวเขาไม่พูดรายละเอียดเชิงลึกกับครอบครัวเขาเรื่องจดทะเบียนและแต่งงาน ก็ต้องมานั่งอธิบายกันอีก เฮ้อ..เหนื่อย เหมือนมาขอผู้ชาย สรุปแล้ว อุปสรรคเยอะมาก ชีวิตรักเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเหมือนเพื่อนๆ คิดนะ แต่ครอบครัวเขาน่ารัก ใจดีกับเรามาก สรุปผ่านด่านครอบครัวแบบเนียนๆๆ เข้ากับทุกคนได้หมด (สงสัยชาติก่อนเป็นจิ้งจก..อิอิ)พอได้เอกสารเขาแล้วก็รอเขาว่าง ก็ไปกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ไปประทับตรา เราไม่รู้มาก่อนว่าต้องรอเอกสาร1 วัน วันถัดมาก็มารับเอกสาร ก็สรุปเสียเวลาไปอีก 1 วัน เรานะเสียเวลาหลายวันเพราะต้องรอให้แฟนลางานได้ก่อน หัวหน้าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ลางานบ่อย เราก็กลัวแฟนจะตกงานเพราะเราอีกแหละ พอแฟนได้วันหยุดก็รีบไปเอาเอกสารที่กระทรวงต่างประเทศ (ที่นี่เขาไม่เก็บตังค์ค่าประทับตรา เหมือนประเทศไทยแฮะ..ฟรี)ก็ตื่นแต่เช้าเลย เพราะต้องไปสถานฑูตไทยต่อ(รู้ปะเราสองคนเสียเวลาสองวันกับการไปสถานฑูตไทยเพราะแฟนไม่โทรสอบถามหรือถามรายละเอียดก่อน)
ที่เราต้องไปสถานฑูตไทย ก็เพราะต้องการใบรับรองจดทะเบียนสมรส ที่ชินจูกุต้องการฉบับนี้ บางอำเภอก็ไม่ต้องการ สรุปเราก็ต้องไปสถานฑูตไทยก่อนเที่ยง คือ อะไรต้องรีบไปหมด เพราะแต่ละสถานที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลย ต้องใช้เวลาในการเดินทาง เราสองคนส่วนใหญ่กึ่งวิ่งกึ่งเดินทุกครั้งเลย(คิดกลับไปก็เหนื่อยน่าดู)เรื่องกินข้าว ลืมไปเลย ไม่มีเวลาทาน พอไปถึงสถานฑูตไทย คิวยาวเหมือนกัน เพราะทุกอย่างต้องมาแจ้งเรื่องที่สถานฑูตไทยหมดนะ ก็ตรวจเอกสาร ของเรานะครบเพราะเตรียมมาดี อ่านแล้วอ่านอีก เช็คแล้วเช็คอีก ไม่พลาด ก็เลยกรอกข้อความ ก็รอคิว นานมาก..ขอบอก ดูแล้วเจ้าหน้าที่น้อย หรือ บริการไม่ทัน หรือว่ายังไง เราก็อยากให้คนที่มีประสบการณ์เหมือนเรา คงเข้าใจหัวอกเดียวกันอะนะ ไม่อยากพูดมาก แ่ต่ขอชมเจ้าหน้าที่พูดเพราะ ดูไม่ดูถูกคนไทยเหมือนคนไทยที่ทำงานสถานฑูตญี่ปุ่นที่อยู่เมืองไทย โหนั่นมองตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมคำพูด น่า..มาก อะต่อ..เรานะ ก็ห่วงแต่เรื่องเวลา ว่าจะไม่ทันคิวเราไง พอเจ้าหน้าที่บอกต้อง รออีก 1 สัปดาห์ โห..เรางี้เศร้าเลย กลัวเวลาไม่ทัน ทำวีซ่า เพราะเรามีวีซ่าอยู่อีกแค่สองเดือนเอง ก็ทำไงได้ไปทำวันที่เขาหยุดกันนะ เขาเรียก โกเด้นโกล ติดต่อกันสองวัน เราเสียค่ารับรองสมรสไปอีก 2,000 เยน แล้วทางสถานฑูตไทยก็ส่งเอกสารไปให้ที่บ้านแฟน สรุปเราได้รับเอกสารทางไปรษณีย์หลังจากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ เราก็รอแฟนว่างอีกเพื่อไปจดทะเบียนสมรสที่อำเภอชินจูกุ อีกสี่วันก็ไปจดทะเบียนสมรส โห..เตรียมเอกสารไปพร้อมฟอร์มจดทะเบียนสมรส เราสองคนก็เซ็นต์เรียบร้อยเลย เอกสารฉบับนี้แฟนจะต้องเป็นคนกรอก เพราะต้องกรอกเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก็เซ็นต์อย่างเดียว เราต้อง(เซ็นต์ลายเซ็นต์เหมือนพาสปอร์ตไทยที่เราเซ็นต์ไว้)แต่..เห็นปะเจอปัญหาอีกละ แฟนเราสิ พลาดอีกแล้ว ตรงหน้าสุดท้าย พยานที่รับรู้การจดทะเบียนสมรส ต้องเป็นคนญี่ปุ่น คุณชาย เขียนผิดเป็นชื่อเรากับชื่อเขา สรุปต้องกลับบ้าน เราก็โมโห ไม่อยากจดทะเบียนแล้วนะ เหนื่อย แต่แฟนเราน้ำตาเล็ดเลยบอก ..ขอโทษ.. เราก็สวดไปซะยาว แต่ดีหน่อยที่อำเภอชินจูกุ เขารับเรื่องเอกสาร 24 ชั่วโมง หลังจากเลิกงานห้าโมงเย็นแล้วอะนะ จะมีประตูอีกด้าน ประมาณด้านหลัง เปิดอยู่เราก็ไปตรงนั้นแหละ เราว่าดีสำหรับพวกที่เขาไม่มีเวลามาทำธุระตอนกลางวันนะ เราสองคนก็กลับไปบ้านให้แม่แฟนกับเพื่อนแม่แฟนรับรองให้ เราตอบแทนแม่แฟนด้วยการทำอาหารเย็นให้ เพราะแม่แฟนทำงานหนักมาก เราสงสารแม่แฟนนะ ไหนต้องมาวุ่นวายเรื่องเอกสารเราไม่จบไม่สิ้นเพราะแฟนไม่ยอมถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ให้หมด ถถ้าเราพูดญี่ปุ่นได้เราคงจัดการเองไปแล้วแหละ พอเซ็นต์เรียบร้อย เราก็ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เราบอก แล้วเราก็รอเวลาประมาณสามวันนี่แหละ ก็ไปรับเอกสารที่อำเภอ เราก็ขอมาเลยประมาณ 3 ชุด เผื่อต้องยื่นเรื่องขอวีซ่าอีกจะได้ไม่ต้องขอใหม่ ก็รอเวลาแฟนว่างอีก รออีกสี่วัน ก็ได้วันหยุดคราวนี้เริ่มเก่งกล้าสามารถละ ก็รอวันแรกตอนบ่าย(กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น เปิดบริการถึงเวลา 16:30น.) และลาวันที่สองตอนเช้า วันแรกก็เอาเอกสารไปกระทรวงการต่างประเทศเพื่อประทับตรา ก็ยื่นขอประทับตรา 2 ฉบับ เผื่อไว้ตอนยื่นขอวีซ่า หรืออะไรเราไม่รู้ เตรียมไว้ก่อน วันนี้ไม่ค่อยเหนื่อย หลังจากนั้นก็ไปสอบถามเรื่องการยื่นเรื่องขอวีซ่าระยะยาว โดยสามารถสอบถามได้ที่ shinjuku multicultural plaza ชั้นที่ 11 เพราะที่นี่แหละที่สอนภาษาฟรีสำหรับชาวต่างชาติ ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่น ก็อินเตอร์เนชั่นแนลมาก websit: //www.shinjukubunka.or.jp/tabunka/japanese/index.html ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเรื่องวีซ่า ก็ให้บริการระหว่างเวลา 10:00 ถึง 12:00 and 13:00-16:00 น. สามารถรับแบบฟอร์มได้ที่นี่เลย เป็นไปได้มาพร้อมกับแฟนญี่ปุ่นให้เขาคุยให้จะง่ายกว่า เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ถนัดภาษาอื่นนอกจากภาษาตัวเอง และที่นี่นอกจากได้เรียนภาษาญี่ปุ่นฟรีแล้ว ก็มีพี่คนไทยใจดี ช่วยเหลือให้คำปรึกษาทุกวันอังคาร ทำงานถึงห้าโมงเย็น สามารถมาเองหรือโทรมาเองก็ได้ Tel.03-52915171 หลังจากที่เราคุยกับเจ้าหน้าตรวจคนเข้าเมืองแล้ว และพี่คนไทยแล้ว ก็กลับบ้านไปพักผ่อน วันที่สอง เราสองคนก็ไปกระทรวงต่างประเทศแต่เช้า ก็ไปรับเอกสาร พอได้เอกสารก็นั่งรถไฟฟ้ากลับมาชินจุกุ แล้วปั่นจักรยานไปบ้าน เพื่อทำการแปลเอกสารเป็นภาษาไทย(เราเอาฟอร์มจากเว๊บไซด์สถานฑูตไทย)แล้วก็ปริ้น แล้วปั่นจักรยานไปสถานีรถไฟอีกครั้ง ต้องรีบหน่อยเพราะต้องไปสถานฑูตไทยก่อนสิบเอ็ดโมง เพราะเราไม่ค่อยแน่ใจว่าเอกสารที่เราแปลจะผ่านไหม เพราะไม่เคยแปลเองไง ก็ไม่รู้ กลัวผิดพลาด เราก็เลยเอาโน้ตบุค พร้อมแฮนด์ดิสไดร์ไปด้วยเผื่อหาที่ปริ้นที่โน้น พอไปถึงสถานฑูตไทย หิวข้าวมาก แต่ต้องทนนะ ทำธุระยังไม่เสร็จ วางแผนว่าจะกินข้าวด้วยกันก่อนที่แฟนต้องรีบกลับไปทำงานเพราะลาครึ่่งวัน ไปถึงสถานฑูตก็ 11:15 น.รอคิวอีก มีคนไทยและคนญี่ปุ่นสอบถามข้อมูลนานมาก กลัวจะถึงคิวเราก็ 11:45 น. ก็ก็ตรวจเอกสารแล้ว เ้จ้าหน้าที่ก็บอกว่าเอกสารที่แปลมาอาจต้องแก้ไข เราก็เริ่มคิดละว่าจะหาที่ปริ้นที่ไหนเนี่ย ก็รอคิดตัวเอง พอถึงคิว เอกสารที่แปลไม่ผ่านจริงๆ แก้ไขตั้งหลายจุด สรุปฟอร์มที่ที่ดาวน์โหลดในเว๊บไซด์ก็เชื่อไม่ได้ร้อยเปอร็เซ็นต์ เราก็ยกคอมฯมาแก้เลย แล้วเก็บข้อมูลลงแฮนด์ดิสไดร์ให้แฟนไปหาที่ปริ้น โดยไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนนะ เราเดินผ่านมาก็ไม่เห็นอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เลย เราก็ภาวนาขอให้แฟนหาที่ปริ้นเจอ เพราะเวลาก็ใกล้เที่ยงแล้ว ประตูก็จะปิดละ เราก็กังวล เพราะเอกสารเป็นภาษาไทย แฟนก็อ่านไม่ออก แล้วไปปริ้น ก็เจอจริงๆ แฟนวิ่งกลับมาแบบหอบเลย เราก็เอ๊ะ..สงสารแฟน ต้องกลับไปแก้ไขใหม่เพราะตัวหนังสือใหญ่มากและตกบรรทัดหมดเลย เราก็ถามเขาว่าไปปริ้นที่ไหน เขาก็บอกว่า ปริ้นที่ร้านหาบ้านเช่า โห.ไปขอความช่วยเหลือจากเขา เรานี่ซึ้งน้ำใจเขามาก เป็นห่วงเขาจะไปไม่ทันทำงาน และเราสองคนก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้า แต่พอได้เอกสารแปลคราวนี้สมบูรณ์ เราดีใจมาก เราก็เซ็นต์รับรองการแปล ก็รอจ่ายเงิน เพราะเราทำใบมอบอำนาจให้หลานสาวไปเดินเรื่องเอกสารที่เมืองไทยให้เรา ก็เสียเงินไป 12,000 เยน เยอะมาก (เป็นไปได้เราคิดว่าเพื่อนไปเดินเรื่องเองดีกว่านะ)เวลาก็ผ่านไป 12:25 น. ไม่ต้องถามเรื่องกินข้าว ลืมไปเลย กว่าเราจะเดินถึงสถานีรถไฟ และนั่งรถไปไปอีกก็ใช้เวลาเกือบ 30 นาที เราก็เลยซื้อขนมประทังความหิวไปก่อน แล้วเราสองคนก็กินตอนรอรถไฟนั่นแหละ คนมองกันใหญ่เลย แต่ทำไงได้หิวนิ ไม่สนอะไรแล้ว จากนั้นก็มาถึงสถานีรถไฟที่เราขึ้นตอนแรก เพื่อมาเอาจักรยาน ก็ 12:50 น. แฟนต้องต้องงาน 13:00 น. ไม่ต้องลากันเลย แฟนก็ปั่นจักรยานสุดฤทธิ์กลับไปทำงาน เราก็ปั่นจักรยานกลับที่พัก โห..เหนื่อยมาก พอมาถึง กระโดด ขึ้นเตียงหลับไปเลย ตื่นนอนมาอีกทีก็ 15:30 น. แต่เราสงสารแฟนไม่ได้นอนแถมยังต้องไปทำงานต่ออีก ตอนนี้เราก็รอเวลาได้รับเอกสาร ทางสถานฑูตใช้เวลาประมาณสามวัน เราน่าจะได้รับวันศุกร์ก็วันเสาร์นี่แหละ ...ลุ้นต่อไป.. แล้วจะมาเล่าให้ฟัง..


คราวนี้ยาวเลย..เพราะเราต้องการเล่าประสบการณ์ให้เพื่อนที่ต้องมาแต่งงานที่ญี่ปุ่น ถ้าแฟนไม่ติดเรื่องทำงานก็คงง่ายหน่อย..ช่วยๆๆ กันน๊า..

เจอกันตอนต่อไปน๊า..เขียนยาวมาก..หวังคงมีคนอ่านจบ..


Create Date : 21 พฤษภาคม 2552
Last Update : 1 มิถุนายน 2552 16:20:46 น. 11 comments
Counter : 376 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะมาเยี่ยมเยียนค่ะ เพิ่งมีบล๊อกใหม่เหมือนกัน แวะไปชมบ้างนะคะ บล๊อกไม่สวยเพราะแต่งไม่เป็น

ตอนนี้มีข่าวทุนเรียนฟรีที่อังกฤษ 1ปี จำนวน 12ทุน มาให้ติดตามกันได้ในบลอกนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

บล๊อกน่ารักมากๆ เลยค่ะ


โดย: mookyja วันที่: 21 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:08:57 น.  

 
อ่านแล้วเหนื่อยแทน
ตอนเราทำก็เบื่อมากกกกกเหมือนกันค่ะ
กัดฟันทำ ๆ ให้มันจบๆ ไป

เขียนอีกนะคะ จะตามมาอ่าน :-)


โดย: beebah วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:3:37:45 น.  

 
เข้าใจเลยว่าเหนื่อยเพียงใด เพราะตอนเราขอเอกสารเราทำเองหมด ตอนอยู่ไทย แปล ยื่น เองหมด แฟนก็เตรียมเอาสารจากญี่ปุ่นคอยส่งมาให้แต่แฟนน่ะ ไม่ค่อยว่างลางานเลยเสียเวลาไปนานเหมือนกัน ไงขอให้ได้วีซ่าผู้ติดตามไวๆนะคะ แล้วจะแวะมาใหม่นะคะ


โดย: wippy+totoro (wippy+totoro ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2552 เวลา:9:23:51 น.  

 
สู้ๆ ค่ะ ของเราสามีเช็คทุกอย่างเรียบร้อย

เพราะไม่อยากลางานบ่อยๆ เราให้บริษัทจัดการให้ก็เลยไม่ค่อยปวดหัว

จดที่ไทยแล้วก็ให้สถานทูตญี่ปุ่นจัดการส่งมาญี่ปุ่นแล้วก็มีเอกสารส่งมาบอกว่าเรียบร้อยแล้ว

เราเลยไม่รู้ว่ามันยากขนาดนี้ อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลย

แล้วจะแวะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ


โดย: moccachan วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:22:43 น.  

 
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้กำลังใจ สู้ๆๆ ผ่านคานทองมาแล้ว ก็คงต้องดำเนินต่อไปอะนะ อิจฉาแต่พวกที่ผ่านตัวแทนดำเนินเรื่องให้ เพราะเขามีประสบการณ์อะไรก็ดูง่ายไปหมดอะนะ เดี๋ยวเราจะตั้งบริษัททำบ้าง มีใครสนใจก็ติดต่อมาเลย อิอิอิ


โดย: ืnoon (Nooni_Jung ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:43:50 น.  

 
อยากทราบว่าคนไทยต้องใช้เอกสารอะไรบ้างคะ?


โดย: Nutom IP: 222.123.247.26 วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:35:55 น.  

 
อ่านแล้วเหนื่อยแทน ตาลายด้วย ตัวหนังสือเยอะมาก
แสดงว่าคิดอะไรได้ก็ระบายเลยใช่ไหมจ๊ะเนี่ย 555

เอาน่า...ไหนๆ สู้มาถึงขนาดนี้แล้ว สู้ๆ ต่อไป หวังว่าตอนนี้ทุกอย่างคงเรียบร้อยดีนะจ๊ะ


โดย: Koneko-chan (GutChy ) วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:13:52:14 น.  

 
สู้ ๆ นะคะ


โดย: beebah วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:19:11:10 น.  

 
ดูวุ่นมากเลยนะคะ โอ้ว
แต่ก็ผ่านพ้นมาได้แล้วโนะ สู้ต่อไปค่า

แต่กลับไปทำเรื่องเองทีไทยง่ายกว่าเยอะเลยนะคะเนี่ย ไม่ต้องผ่านสถานทูตไทยด้วย




โดย: กล้วยหอมรสนม วันที่: 5 มิถุนายน 2552 เวลา:16:27:10 น.  

 
watashi wa mou sugu ni nihonyin to Gekkon shimasu. Anata no koto mitara yokata desu. Domo arigatou gozaimasu. Odake janya


โดย: Yuuna chan IP: 58.64.55.94 วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:13:01:45 น.  

 
สวัสดีค่ะเปนอีกคนที่กำลังจะแต่งค่ะอยากขอคำแนะนำเกียวกับเอกสารที่จะต้องไปยื่นอำเภอนะค่ะ


โดย: namfon IP: 114.48.158.29 วันที่: 31 ตุลาคม 2553 เวลา:18:26:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nooni_Jung
Location :
Tokyo Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Visit InfoServe for backgrounds.
Friends' blogs
[Add Nooni_Jung's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.