สปันจ์ชาเขียว......ขอสปันจ์อีกสักครั้ง
วัตถุดิบที่จะใช้สูตรเดียวกันตัวสปันจ์เค้กส้มแต่วันนี้ทำสูตร 6ปอนด์นะคะมีต่างนิดหน่อยใส่ผงชาเขียวลงไปในน้ำสะอาด โดยเอาน้ำร้อนใส่ผงชาเขียวลงไปสัก 2 ช้อนชา แล้วก็ทิ้งให้เย็นทุกอย่างต้องอยูในอุณหภูมิห้องคะ ไข่อยู่ในตู้เย็นถ้ารอให้คลายเย็นคงอีกนาน ก็เอาน้ำอุ่นๆ แล้วก็แช่ไข่ไว้สักครู่จับดูพอไข่ไม่เย็นแล้วก็เอาขึ้นได้ อย่าแช่น้ำร้อนจนไข่สุกนะคะ เริ่มเลยใส่ทุกอย่างลงในอ่าง ยกเว้นไขมัน คือ นม, เนย (บางคนอาจจะใส่นมไปตอนนี้แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าใส่ที่หลัง จะตีไข่ขึ้นง่ายกว่า) ใส่ทุกอย่างหมดแล้วอย่าลืมตัวช่วยเอกของเรา SPนั่นเอง เริ่มจากความเร็วต่ำๆให้ทุกอย่างกระจายตัวเข้ากัน สักหนึ่งนาที แล้วก็เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสักเบอร์ 8 จับเวลาที่ 5 นาที อย่างในรูปนี่จำไม่ได้น่าจะประมาณที่ 3 นาทีสังเกตลักษณะครีมที่ตีได้ยังไม่ข้นอยู่ตัวเลย แบบนี้คือใช้ไม่ได้นะใครใส่ไปตอนนี้ตอบได้เลยว่าเนื้อเค้กที่อบได้จะ หนักแน่น เนยจมก้น เป็นไตแน่นอน
แป้งมีผงฟูและใส่น้ำตาลในสูตรไปนิดนึง เคล้าให้เข้ากันนะ ผงฟูจะได้กระจายไปทั่วๆ น้ำตาลจะช่วยขัดให้แป้งละเอียดขึ้น แล้วก็ร่อนสัก 2 ครั้ง เสร็จแล้วก็พักไว้
ครบเวลา5 นาที เนื้อจะข้นขึ้นเห็นรอยตะกร้อชัดเจน แต่ก็ยังดูเบาๆ อยู่ เนื่องจากยังไม่ได้ใส่แป้งลงไป ลดความเร็วต่ำตีไล่ฟองอากาศสัก5 นาทีเนื้อที่จะละเอียดขึ้น เพราะเราได้ตีไล่ฟองอากาศออกไปแล้ว
ยังคงเปิดเครื่องด้วยความเร็วต่ำทยอยใส่แป้งลงไป โดยใส่ไปข้างๆ อ่างนะ ตีพอหมดผงแป้ง ก็ประมาณ 1นาที เอาอ่างออกจากเครื่อง ใช้พายกวาดแป้งที่เกาะอยู่ข้างๆ ลงมาเอาพายกวาดไปให้ทั่วอ่างเลย เอาให้ถึงก้น กวาดให้ทั่วทุกซอกมุมเลยนะ ที่เห็นเป็นเม็ดๆ นั่นคือผงชาเขียวนะคะยังไงจะไม่ละลายเข้ากันเนื้อเค้กอยู่แล้ว เอาอ่างกลับเครื่องอีกครั้งปรับความเร็วกลางๆ สักเบอร์ 6ตีไปประมาณ 3นาที เราจะตีแค่พอให้แป้งเข้ากันเนื้อครีมเท่านั้นนะ ครบเวลาแล้วดูเนื้อที่ได้จะมีลักษณะข้นอยู่ตัวกว่าทุกภาพที่พามา เนื่องจากมีแป้งเป็นส่วนผสมแล้ว ดูเนื้อที่ได้เมื่อผสมแป้งแล้วชัดๆนะ
เอาอ่างออกมากวาดด้วยพายอีกสักครั้ง
เอาเนยไปละลายใส่นม กลิ่น ตีถึงขั้นนี้แล้ว ก็ลองดูว่าเนื้อครีมที่ได้เราพอใจสีมันหรือยังถ้าคิดว่าสีอ่อนไป ก็เติมสีเขียวไปในเนยได้เลย ลืมบอกไปชาเขียวที่เราใช้ไม่เคยมีกลิ่น แล้วเราก็ไม่มีกลิ่นชาเขียวด้วยเราใช้วนิลาผสมกับกลิ่นนมเนยอย่างละครึ่งคะ
เอาอ่างเข้าเครื่องอีกครั้งเปิดความเร็วต่ำ ๆ ค่อยใส่เนยที่ผสมไว้แล้วลงไป ตีไปจนเนยเข้ากันกับเนื้อครีม เนื้อที่ได้หลังจากใส่แป้งเรียบร้อยแล้วยังคงมีความข้นอยู่นะ เพิ่งจะมารู้ว่าฟอยด์ไม่พอ ก็ใส่ไปแบบล้นๆ แล้วกัน อยู่ในเตาหัวปูดปูน เพราะใส่จนล้น พออบเสร็จติดกันเป็นแพ แต่พอเย็นแล้วก็หลุดจากกันเอง หดนิดหน่อยนะคะ ไม่มากแต่ราดหน้าไม่ได้ละ กินแบบนี้แล้วกันเนื้อที่ได้จะเบากว่าการตีแบบสปันจ์เค้กส้มก่อนหน้านี้นะคะอันนั้นจะมีเนื้อมากกว่า ตัวนี้นุ่มเบาเชียว ลาไปแล้วคะ ขอบคุณเพื่อนที่แวะมา
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 8:13:10 น. |
Counter : 8168 Pageviews. |
|
|