ใคร่เขียนก็เขียน ใคร่อ่านก็อ่าน ขยันก็ทำ ไม่ขยันก็หยุด ว่างก็ยุ่ง ไม่ว่างก็ยุ่ง
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
เรื่องสั้น ในความระลึกถึง (ทดลอง blog)

ในความระลึกถึง
โดย อุตราวดี
กันยายน 52

แด่ เธอ ผู้งดงามเสมอในห้วงเวลาที่ระลึกถึง เธอ ผู้ไม่ใช่ความทรงจำอันหวานชื่น เธอ ผู้ไม่ใช่ความฝัน เธอผู้ไม่ใช่การผ่าน- พบ-ผ่าน
คือ เธอ ผู้ดำรงอยู่กับฉันในวันที่ไร้ซึ่งกาลเวลาระหว่างเรา

ฝนปรอยโปรยปรายเป็นสายดุจม่านหมอกบาง ท้องน้ำยามย่ำเย็นนิ่งสงบ เสี้ยวเวลาหนึ่งดูคล้ายจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆใต้ผืนน้ำสีฟ้าอมเทาที่ทอดยาวสุดสายตานั้น แม่น้ำอาจกำลังอ้อยอิ่งอุทิศเศษเสี้ยวโมงยามเพื่อล่ำลาแสงสุดท้ายของวัน แต่ก็เป็นการจากลาชั่วคราว เมื่อถึงเช้า ความงามของแสงแรกจะชุบย้อมชีวิตสายน้ำให้ตื่นจากหลับใหล พร้อมกับการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตทุกชีวิต เพื่ออาจได้พบที่ไม่อาจคาดเดา
การจากลา บางที อาจเพียงเพื่อพบการเริ่มต้นใหม่ การจากลามิใช่แค่การจำจากจร

เสียงทุ้มนุ่มแสนสุภาพคุ้นหู ดังแว่วอยู่กับฉันเกือบตลอดเวลาเมื่ออยู่เพียงลำพัง “ผมกลับมาแล้ว” ฉันยังคงนิ่งเงียบ “ที่ไม่บอกก่อน เพราะอยากมาเซอร์ไพรส์คุณ ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า” เขาอธิบายกึ่งถามน้ำเสียงสดใสแบบที่ฉันชอบ เสียงของเขามักมีประกายเรืองรองของความฝัน ความหวัง ความกระตือรือร้นที่ชวนกระหายใคร่รู้เสมอ
“ไม่แล้ว ฉันย้ายที่อยู่มาเกือบสองปีแล้ว” ฉันคงกระซิบตอบเขาไปกระมัง เขาจึงนิ่งนานเกินจำเป็น “เหรอ ผมแปลกใจนะนั่น เห็นคุณชอบที่นั่นมาก” แม้มองไม่เห็นกัน แต่ร่องรอยของความหมองหม่นคงปรากฏอยู่กับเราทั้งคู่ในเวลาของการสนทนาผ่านโทรศัพท์ครั้งนี้ “อืม ก็ยังคงชอบอยู่ คอนโดบนตึกสูง กับแสงไฟระยับตาทำฉันหลงใหลได้ทุกทีแหละ” ฉันแสร้งสดใสขึ้นมา หวังว่าเขาคงรู้สึกตามที่ฉันแสดงออก “คุณคงไม่ได้อยู่ในเมืองแล้วซิ” “ใช่ ฉันย้ายแล้ว” ฉันตอบง่ายๆ ไม่อยากอธิบายอะไรเกินกว่านี้ “แล้ว...แล้วเราจะยังคงเจอกันได้หรือเปล่า” ไม่มีความสดใส ความหวัง ความฝันกับประโยคนี้ มีเพียงอย่างเดียวที่ฉันรู้สึกได้
เขายังคงโหยหา

จากบนตึกสูงระฟ้า แสงไฟนับร้อย พัน หรือนับหมื่น นับแสนเบื้องล่าง เบื้องบน บดบังดวงดาวบนท้องฟ้าสิ้นแล้ว แต่เวลานี้ เวลาที่ฉันมีเขา ดวงดาว แสงไฟ ไม่เคยมีความหมาย ไม่มีสิ่งสวยงามอื่นใดทำให้ฉันเสียเวลาหยุดชื่นชมได้ ดวงตาของฉันยามนี้มีเพียงเขา จะมีอะไรในห้วงเวลาสุนทรีย์ของราตรีกาล สามารถทำให้หญิงสาวสนใจมากไปกว่า ช่วงอกกำยำผึ่งผายอัดแน่นด้วยมัดกล้ามแข็งแกร่ง ร่างสูงสมส่วนกับท่อนขาที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังของชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆ ดูเหมือนกับว่าร่างที่เคลือบด้วยผิวสองสีที่เนียนเรียบรื่นจะเปล่งประกายความเข้มแข็งออกมา ใบหน้าที่ประดับด้วยดวงตาอมเศร้าคู่นั้น ชวนให้ค้นหาอย่างไม่รู้จบ จมูกโด่งงามรับกับริมฝีปากบางได้รูป ที่พึงให้เกิดปรารถนาร้อนแรงเมื่อได้สัมผัสทุกครั้ง
ความหลงใหลใดจะเปรียบได้ เมื่อทั้งร่างกายอันอ่อนนุ่มของฉันอยู่ภายใต้โอบกอดที่รัดรึงเผาไหม้ด้วยความกระหายของชายหนุ่มที่ราวกับถูกปั้นมาเพื่อฉัน ความร้อนใดจะน่ารื่นรมย์เท่าความร้อนของการสัมผัสบดเบียดระหว่างเนื้อต่อเนี้อรุนแรงโชนช่วงด้วยปรารถนาดื่มด่ำอันเย้ายวน กระทั่งเม็ดเหงื่อที่พราวพรายก็มีรสชาติของความซ่านซ่าร้อนแรงกำซาบลึกล้ำพร่างพรู
ยามกอดกระหวัดอ่อนโรย กรุ่นกลิ่นของสุขสมก็ดูราวจะแทรกซึมอยู่ในอณูอากาศ
เขาเป็นมนุษย์ผู้ชายที่สามารถสร้างความพึงใจอย่างที่สุดในทุกด้านให้กับ ฉัน
“คุณไม่เหมือนใครเลย ไม่เหมือนใครที่ผมเคยรู้จัก คุณคือผู้หญิงที่พิเศษที่สุดของผม” เขามักกระซิบอ่อนโยนยามเมื่อความรุ่มร้อนพัดผ่าน “ดีจัง ที่คุณรู้สึกอย่างนั้น เพราะฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ควรสำคัญต่อคุณ” ฉันหยอกเย้าแกมหึงหวงโดยไม่ต้องเสแสร้ง และทุกครั้งเขามักเงียบงัน
“อย่าคิดมากน่า ฉันล้อเล่น ชีวิตคุณเป็นของคุณ คุณอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่มันทำให้คุณมีความสุข” ความจริงใจที่สุด เท่าที่ฉันจะให้เขาได้ นั่นคือ การให้เขามีอิสระตามใจปรารถนา และมันไม่ควรทำให้ฉันปวดร้าว “คุณก็เหมือนกันใช่มัย” เขาถามแผ่วเบา “ใช่ ชีวิตฉันเป็นของฉัน ฉันควรได้รับสิทธิใช้มันให้เต็มที่”
ไม่ได้มีแต่ฉันเท่านั้นที่หลงใหลในเขา เขาก็ลุ่มหลงในความงามและจริตที่ปรุงมาเป็นอย่างดีของฉัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ปรารถนาในฉัน หญิงสาวผู้งดงาม อ่อนไหว แฝงไว้ด้วยความเข้มแข็งและอ่อนโยน หญิงงามที่ฉลาดพอที่จะรู้ใจรู้ความต้องการของผู้ชายและพร้อมตอบสนองอย่างมีชั้นเชิง หญิงงามคนใดๆ ย่อมถูกหมายปองและต้องการครอบครองจากชายเสมอ

“มันไม่ใช่การมีอิสระในการใช้ชีวิตแล้ว” เขาฉุนเฉียวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “อะไร” แม้จะรู้อยู่แก่ใจ แต่จะให้ยอมรับทันทีดูจะไม่ใช่คนอย่างฉัน “พิมพ์คุณควรจะรู้ ถึงตอนนี้ คุณไม่ควรมีคนอื่นอีกแล้ว”ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่โลดแล่นในทุกคำของเขา และสายตาดูจะร้าวรานยิ่งกว่า “ฉันมีเขามาก่อนคุณ ฉันไม่เคยปิดบัง” ฉันตอบโดยไม่สบตาเขา “ใช่คุณบอกแล้ว แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ตอนที่คุณมีผม ไม่ใช่ตอนที่คุณบอกว่าคุณมีความสุขมากกว่าเมื่ออยู่กับผม” ความเจ็บปวดไม่ลดลงในน้ำเสียงทุ้มพร่านั้น ความเงียบคือคำตอบของฉัน ฉันมีคำตอบที่แท้จริงแน่นอน
ใช่ ฉันมีความสุขมากกว่าเมื่ออยู่กับเขา แต่มันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้กับความสบายที่ใครอีกคนปรนเปรอให้ฉัน
ถ้าฉันตอบเขาแบบนี้ ฉันจะยังคงมีเขาอยู่ได้ครอบครองเขาต่อไปอย่างนั้นหรือ ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยพลังของความฝัน ความทะเยอทะยานที่กระตุ้นการขับเคลื่อนชีวิต ความทระนง ของคนหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในตัวเอง เขาแค่ต้องใช้เวลา เพื่อให้ได้มาซึ่งความพร้อมในชีวิต
ฉันรู้ แต่ฉันรอไม่ได้ ฉันไม่สามารถรอวันที่เขาพร้อมพอสำหรับเรา ฉันไม่สามารถทนทุกข์ทนลำบากจากความขาดแคลนได้
ฉันเคยลิ้มรสของความไม่มีมามากพอแล้ว วัยเด็กที่เว้าแหว่งขาดทั้งความรัก ความเอาใจใส่ เงินทอง กระทั่งอาหารแต่ละมื้อ มันหลอกหลอนฉันให้น่ากลัวยิ่งกว่าผีห่าซาตานตนใด กว่าจะยกระดับชีวิตเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ฉันต้องทำงานแทบทุกอย่าง เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชน เพื่อจะได้มีโอกาสในสังคม ฉันต้องสูญเสียไปมากแค่ไหน ฉันไม่ได้ลงทุนด้วยชีวิตหรอกหรือ ฉันไม่ได้เอาชีวิตที่มีเพียงหนึ่งเดียวเท่าคนอื่นเป็นเดิมพันหรอกหรือ ถ้าความสวยสดในวัยสาวไม่มีราคาจริงละก็ ชีวิตฉันคงไม่ใช่อยู่ในโคลนตมเป็นแน่ ที่ดีที่สุดที่ฉันจะอยู่ได้หากไม่ยอมเสียทุกอย่างคือถังอาจมเป็นอย่างน้อย ฉะนั้นรอยแผลทุกรอยในความทรงจำอันน่าสมเพชนั้นไม่มีวันที่จะมียาดีขนานใดลบเลือนได้ มันจะติดยึดอยู่กับฉันตลอดชีวิต
ฉันต้องยอมรับและอยู่กับมัน
“พิมพ์ คุณต้องเลือก จะอยู่กับผมที่คุณรู้ว่ารักคุณมากที่สุด ทำให้คุณมีความสุขที่สุด หรือเขา ที่ให้คุณได้แค่เงิน”แววตามุ่งมั่นคู่นั้น เหมือนมีดแหลมคมแทงลึกเข้าไปในใจฉัน ฉันกำลังจะสูญเสียคนที่รัก กำลังจะสิ้นไร้ความสุขความปรารถนาที่ฉันหวงแหน ฉันปวดร้าวจนเกือบจะหมดเรี่ยวแรงยึดเหนี่ยวตัวเองไว้กับความจริง ฉันเจ็บ และกลัว กลัวมากที่สุด
ความเงียบจากฉันเป็นสิ่งที่เขาได้รับ เขาให้ฉันกลับคืน ด้วยการหนีไปอย่างภูติพราย เร้นหายไม่มีคำลา
บางทีฉันต้องเลือกแล้ว เลือกทำในสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ

ฉันไม่รู้ตัวว่านิ่งงันไปนานแค่ไหน จนเขาพูดอีกครั้ง “ผมคิดถึงคุณเหลือเกิน คุณคิดถึงผมบ้างมั้ย เรายังพบกันได้ไหม ” เขาทำลายความเงียบเหมือนจะดึงฉันกลับมาสู่เวลาปัจจุบัน และผลักฉันเผชิญหน้าประตูสู่อดีตด้วยคำถามอีกครั้ง“ฉันไม่แน่ใจ แล้วฉันจะโทร.หาคุณนะ” ไม่ง่ายเลยที่จะตอบอย่างที่ใจต้องการ ทำได้เพียงยุติช่วงเวลาสั้นๆจากการสนทนานี้ เพื่อบรรเทาความสับสนที่ก่อตัวม้วนเป็นก้อนกลมเหมือนพายุที่กำลังจะสร้างความพินาศในไม่ช้า
“คุณยังสวยเหมือนเดิม” ดวงตาคู่เศร้าเปล่งประกายแห่งความชื่นชมไม่ปิดบังและไม่เปลี่ยนแปลง “คุณดูเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ” เพราะเขาดูเป็นชายหนุ่มที่สุขุมกว่าเดิม นอกจากนั้น ฉันค่อนข้างเชื่อว่าทุกตารางนิ้วในกายเขาจะไม่มีอะไรเปลี่ยน “สามปีแล้วนะ ที่เราไม่พบกัน” ฉันพยักหน้าให้กับรำพึงของเขา “คิดถึงมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่มีใครเหมือนคุณเลย” มีแววปรารถนาสอดแทรกอยู่ในน้ำเสียงของเขา “ฉันก็คิดถึงคุณ” เมื่อไม่มีใคร คืออีกประโยคที่ฉันไม่ได้พูดออกไป ฉันเลือกที่จะให้ดวงตาสื่อทุกสิ่งที่รู้สึกเช่นเดียวกับเขา
ในช่วงเวลาหลายปีที่ห่างหาย ฉันกลับมาอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงของเขาอีกครั้ง อยู่กับความเร่าร้อนอยากกระหายที่ยากจะให้ใครมาเติมเต็มได้เหมือน ฉันสัมผัสร่างกายเขาด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านตามแรงปรารถนา สองมือลูบไล้มัดกล้ามทุกมัดที่คุ้นเคยอย่างร้อนรนดุจไม่เคยพานพบ กระทั่งพยายามสูดเอาลมหายใจผ่านกลีบปากที่เย้ายวนของเขา เพื่อกระตุ้นกลิ่นกรุ่นคงเดิม ฉันอยากจะเก็บกักเขาไว้ให้อยู่กับฉันไม่มีวันสิ้นสุดให้สมกับการจากลาที่แสนจะเจ็บร้าวยาวนานนั้น การลาจากแสนทุกข์ทนแต่ช่างหอมหวานเร่าร้อนจนเกินสรรหาถ้อยคำรำพันเมื่อได้มาพบเจออีกครั้ง เราต่างไขว่คว้าหากันและกัน พยายามครอบครองความต้องการอันลึกล้ำร่วมกันที่ดูราวกับว่าไม่เคยเพียงพอ
โอว...ดื่มด่ำรุนแรงเป็นเช่นนี้เอง
ร่องรอยการช่วงชิงแบ่งปันความสุขสมปรากฏชัดเจนบนเตียง สมรภูมิความใคร่ยุติลงโดยเรียบร้อยสมใจหมาย
“เราคงไม่พบกันอีกแล้วนะคะภูมิ” ฉันพูดเสียงเรียบเฉยอย่างที่ควรจะเป็น เขาอึ้งและหดหู่ตามมาอย่างที่คาด “ฉันรู้ค่ะภูมิ คุณกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวเจ้าสัวคนดัง คนที่เพิ่งบินตามคุณมาจากเมืองนอกเมื่อสองวันก่อน เธอเป็นข่าวก็อสซิปเล็กๆตอนบินกลับมา” ฉันยังพูดเรื่อยๆ ไม่สบตาเขา ใช่ว่าฉันจะซ่อนหรือรู้สึกอะไร ไม่เลย ฉันแค่จะทำอย่างที่ต้องการ “คุณรู้” เขาครางแผ่วเบา พยายามจะกลืนก้อนอะไรสักอย่างลงคอ ก่อนจะพูดเสียงเบาหวิวล่องลอย “คุณไม่โกรธผมเหรอ”
“โกรธที่คุณไม่บอกเพราะต้องการนอนกับฉัน หรือ โกรธที่คุณพยายามเอาเปรียบฉันโดยทำเหมือนกับว่า ฉันเป็นคนพิเศษเพียงคนเดียว เหมือนเดิม” หยุดมองหน้าเขาเพื่อทบทวนความรู้สึกตัวเอง “ไม่เลยค่ะ ฉันไม่โกรธคุณ เพราะฉันก็เคยมีคนอื่นแล้วมีคุณด้วยมาก่อนนี่ค่ะ และฉันก็อยากนอนกับคุณมาก” ฉันยิ้มไม่มีความหมายให้เขา “ผมไม่ได้จะแก้แค้น หรือคิดเอาคืนคุณนะพิมพ์” เขาละล่ำละลัก “ผมคิดถึงคุณมากจริงๆ มันมากเสียจนผมทนไม่ไหวต้องพยายามเจอคุณให้ได้ ผมไม่เคยลืมคุณ ไม่เคยลืมได้ ผมไม่รู้ทำไม ทั้งที่ผมรู้ว่าคุณไม่รักผมเท่าที่ผมรักคุณแน่ๆ แต่คุณคือคนที่พิเศษที่สุดของผม ผมรู้แค่ว่าผมไม่มีวันรู้สึกกับใครได้เหมือนที่รู้สึกกับคุณ” เขาพรูพร่ำคำอธิบาย ฉันปล่อยให้เขาจมดิ่งกับความรู้สึกตัวเองเวลาสั้นๆ “คุณเข้าใจทุกอย่างถูกต้องค่ะ ดังนั้นถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะทำอย่างเดียวกับคุณ” เราสบตากัน เขาคงไม่พบอะไรในแววตาของฉัน แต่ฉันได้เห็นความเสียดายอาลัยโหยไห้ในสายตาของเขา มันดูเศร้าจนคล้ายจะกลายเป็นความเจ็บปวด
“ลาก่อนนะคะภูมิ ฉันไม่อยากให้คุณกับฉันต้องเจอกันอีก เราไม่มีอะไรต้องสั่งลากันอีกแล้ว ฉันพอใจที่เราได้เจอกันครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย หวังว่าคุณก็เช่นกันนะคะ” ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่รอคำตอบหรือคำอวยพร ฉันได้บอกลาอย่างครบถ้วนทุกกระบวนความ นั่นคือได้ทำสิ่งที่ฉันต้องการจะทำแล้ว
โรงแรมสุดหรูริมน้ำแห่งนี้ แม้ไม่เหมือนคอนโดฯระฟ้าของฉัน แต่ก็ให้บรรยากาศในการล่ำลาได้ดีไม่ต่างกัน นับได้ว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างใจหมาย และก่อนที่ฉันจะพ้นจากล็อบบี้หรูหรา ฉันได้ยินเสียงสนทนากระซิบกระซาบ “นั่นว่าที่คุณหญิงใหม่ นายพลฯที่เป็นข่าวสังคมนี่ มาทำอะไรที่นี่” ฉันกลั้นใจฟัง “คงมากินข้าวมั้ง ร้านอาหารญี่ปุ่นที่นี่ไฮโซเค้าชอบ” ฉันยิ้มกับตัวเอง ไฮโซ เหรอ ไม่เลว “สวยเนอะ ยังสาวอยู่เลย แต่งงานกับคนแก่ขนาดนั้น ทำใจได้ไงนะ” ใครจะอยากอธิบาย แล้วมีความจำเป็นอะไรต้องอธิบาย มันชีวิตฉันเรื่องของฉัน ฉันเลือกใช้ชีวิตในแบบของฉัน ฉันพอใจกับมัน ก็เท่านั้น
“เจมส์ค่ะ ท่านนายพลฯจะไปยุโรปพุธหน้า ฉันน่าจะพอมีเวลาทานติ่มซำกับคุณที่ฮ่องกงสักสองสามวันนะค่ะ ...” เสียงปลายสายตื่นเต้นยินดี จนฉันต้องอมยิ้ม “ตกลงคะศุกร์หน้าเจอกันคะ บาย”
ไม่จำเป็นต้องทำใจ แค่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และทำอย่างไรจึงจะได้ ฉันก็จะได้ในทุกสิ่งที่อยากได้เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

หมายเหตุ
ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ เมื่อ 30 กันยายน 2552


Create Date : 04 ตุลาคม 2554
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 17:38:03 น. 2 comments
Counter : 325 Pageviews.

 
ลองมี Blog กับเขาดูบ้างซิ


โดย: forgive not forget (forgive not forger ) วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:17:46:44 น.  

 
ติดตามๆๆๆ
........
.
.
>


โดย: aodblo22 วันที่: 5 ตุลาคม 2554 เวลา:0:07:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

forgive not forger
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add forgive not forger's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.