...ไม่มีไฟใดเสมอด้วย..ราคะ ...>> ไม่มีโทษใดเสมอด้วย..โทสะ ...>> ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วย..เบญจขันธ์ ...>> ไม่มีสุขใดเสมอด้วย..ความสงบ ...>> พุทธวจนะในธรรมบท <<...
งานแรกและงานสุดท้าย .. ที่กว่าจะได้มาในเยอรมัน...

เราเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ในเยอรมันเมื่อปี 1990
หลังจากที่เรียนภาษาเยอรมันจนมีความรู้พอสมควรแล้ว
เราก็นึกอยากจะลองหางานทำดู..


แต่เนื่องจากว่าเราไม่ได้เรียนวิชาชีพใดๆของที่นี่มาก่อนเลย
อีกทั้งยังอาศัยอยู่ในชนบทที่ห่างไกล
จึงหมดโอกาสที่จะไปหางานตำแหน่งดีๆทำในตัวเมือง
วิธีเดียวที่จะพอหางานทำได้บ้างก็คือหาตามหนังสือพิมพ์


ในหมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่จะมีหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน
ที่ส่งให้ฟรีถึงบ้านในทุกวันศุกร์
เราจึงเริ่มหางานตามที่มีลงประกาศไว้ในหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น


แต่งานที่มีคนมาลงประกาศในหนังสือพิมพ์นั้น
ส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องใช้แรงงานอย่างเดียว
เช่น ทำความสะอาด ซักรีดเสื้อผ้า ดูแลเด็กและคนชรา


เราเพิ่งจะพูดภาษาเยอรมันเป็นใหม่ๆ
ก็อยากจะทำงานที่ได้พบปะกับผู้คนบ้าง
เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานขาย หรืองานบริการด้านอื่นๆ
เพื่อที่จะได้ฝึกฝนภาษาพูดของเราให้คล่องยิ่งขึ้น


แต่หางานอยู่นานก็ยังหางานที่ตรงจุดประสงค์ทำไม่ได้
ทำให้เราเริ่มท้อใจและขี้เกียจ..
ประกอบกับสามีก็พูดให้กำลังใจอยู่เสมอว่า..

"งานบ้านของเธอก็มีมากพออยู่แล้ว
จะออกไปหางานทำนอกบ้านให้เหนื่อยอีกทำไม"..


เมื่อวันเวลาผ่านไปนานเข้า
เราก็ค่อยๆคล้อยตามคำพูดของสามีไปโดยปริยาย
เพราะการอยู่บ้านเฉยๆนั้นมันก็สบายดีจริงๆ
อยากกิน อยากนอน อยากตื่น อยากทำอะไรตอนไหนก็ได้


ทำให้เราเคยชินกับความสบาย
และก็สบายซะจนเพลิน..
ลืมเรื่องที่อยากจะหางานทำไปเลย..







3 ปีให้หลัง..
เผอิญได้ไปรู้จักผู้หญิงไทยคนหนึ่ง
เธอทำงานอยู่ในโรงงานผลิตเครื่องมือทางการแพทย์
เธอเห็นว่าเราอยู่ว่างๆก็เลยชวนเราไปทำงานด้วย
โดยเธอรับรองเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเธอฝากเราเข้าทำงานได้
เพราะเธอสนิทกับหัวหน้า ..


ทำให้เรากระตือรือล้นเรื่องงานขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เพราะอยู่ๆก็จะได้งานทำโดยไม่ต้องออกแรงหาให้เหนื่อย
แถมมีเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนไทยด้วยกันอีกด้วย


เราจึงรีบไปขอใบอนุญาติทำงาน
แล้วฝากเอกสารการสมัครงานให้เธอไปยื่นกับหัวหน้าให้
แต่คำตอบที่ได้จากหัวหน้าของเธอมาก็คือ..
ทางบริษัทยังไม่มีโครงการที่จะรับพนักงานใหม่ ..


อิ อิ อิ.. เชื่อแล้วว่าระบบเส้นสายใช้ในเยอรมันไม่ได้ ..


แค่งานแรกก็ผิดหวังซะแล้ว..
แต่การผิดหวังครั้งนี้ก็มีประโยชน์กับเราเหมือนกันนะ
เพราะมันทำให้เราคิดช่องทางใหม่ในการหางานออก
นั่นก็คือ .. การไปหาสมัครงานในโรงงาน


ปัญหาก็คือ..จะไปหาโรงงานที่ไหนล่ะ
บ้านก็อยู่ซะไกลปืนเที่ยง
แล้วในละแวกใกล้ๆนี้ไม่มีโรงงานเลยแม้แต่แห่งเดียว


คิดไปคิดมาเราก็คิดถึงบริษัทที่สามีทำงานอยู่ขึ้นมาได้
(แหม..ทำไมไม่คิดได้ซะตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วก็ไม่รู้เน๊าะ อิ อิ อิ)


เพราะบริษัทที่สามีทำงานอยู่นั้น
เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค
จึงมีส่วนที่เป็นโรงงานอยู่ด้วย
สามีเป็น Projektleiter (ผู้จัดการโครงการ)
และ Konstrukteur (นักออกแบบ) ... อยู่ที่นั่น


เราจึงขอให้สามีลองไปหางานในโรงงานให้
แต่สามีกลับไม่สนับสนุนซะอีกแหละ
โดยบอกว่าความรู้ขนาดเราน่าจะทำงานที่ดีกว่านั้นได้
เช่น เป็นพนักงานแยกเอกสาร/เดินเอกสารในบริษัท

สามีจึงลองไปสอบถามที่แผนกบุคคลให้
แต่ปรากฎว่าไม่มีตำแหน่งงานเหล่านี้ว่างเลย..


ผิดหวังอีกแล้วเป็นครั้งที่สอง..
และจากการผิดหวังครั้งนี้
ทำไห้เราหมดอารมณ์ที่อยากจะทำงานไปเลย

..เมื่อมันหายากนักก็ไม่อยากจะทำมันแล้วละ ฮึ..







หลังจากที่หมดอารมณ์อยากจะหางานทำอยู่นาน
ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆวันหนึ่งเราก็คิดขึ้นมาว่า..

ไหนๆเราก็ตั้งใจอยากจะทำงานแล้ว
ใบอนุญาติทำงานก็อุตส่าห์ไปขอมาแล้ว
แก่ก็ยังไม่แก่ ..
ยังทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้อีกเยอะ
แล้วจะมานอนอยู่บ้านให้เสียเวลาไปเปล่าๆทำไม ...


เมื่อคิดได้ดังนั้น
เราก็ขอให้สามีไปสอบถามเรื่องงานในโรงงานให้อีก
สามีคงเห็นความตั้งใจจริงของเราก็เลยตามใจ
และคราวนี้โชคก็เข้าข้างเราแฮะ ..
ทางบริษัทกำลังต้องการรับพนักงานชั่วคราวอยู่พอดี
เนื่องจากช่วงนั้นทางโรงงานมีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก


ถึงแม้จะเป็นงานชั่วคราวแค่ระยะสั้นๆ(แค่ 3 เดือน)
แต่เราก็ตกลงใจที่จะไปลองทำดู
อย่างน้อยก็จะได้มีประสบการณ์ในการทำงาน
เผื่อในวันข้างหน้าเรามีโอกาสได้ไปทำงานที่โรงงานอื่น


วันรุ่งขึ้นสามีก็พาเราไปดูที่ทำงาน
และในวันถัดมาเราก็ไปเริ่มงานได้เลย
ได้ชื่อว่าเป็นฉันทนาเต็มตัวตั้งแต่วันนั้น ..


อ้าว.. ไหนว่าระบบเส้นสายใช้ในเยอรมันไม่ได้ไง .. อิ อิ อิ



เรามีสัญญาทดลองงาน 3 เดือน
แต่พอทำงานไปได้แค่สองเดือนก็ต้องไปขอลาออก
เนื่องจากสามีได้ลาหยุดพักร้อนเป็นเวลา 1 เดือน
สามีเห็นว่าเราก็เหลือเวลาทำงานอีกแค่ 1 เดือนก็จะหมดสัญญา
จึงอยากให้เราหยุดงานไปพร้อมกับเขาเสียเลย


แต่พอเราไปลาออก
ทางบริษัทบอกว่าเราทำงานดี
เลยอยากให้เราอยู่ร่วมงานต่อไปอีก
จึงได้ต่อสัญญาให้เราเป็นพนักงานประจำตั้งแต่วันนั้น..



เราทำงานอยู่ที่นั่นนานถึง 11 ปีจึงถูกปลดให้ออกจากงาน
เพราะบริษัทได้ย้ายส่วนของโรงงานไปไว้ที่ต่างประเทศ
บางแผนกก็ย้ายไปไว้ที่ประเทศโปแลนด์
บางแผนกก็ย้ายไปไว้ที่ประเทศจีน
เนื่องจากค่าแรงและภาษีที่นั่นถูกกว่าในเยอรมันมาก








หลังจากที่บริษัทแจ้งเลิกจ้างแล้ว
เรายังต้องทำงานต่อไปอีกเป็นเวลา 6 เดือนตามกฎหมาย
ซึ่งใน 6 เดือนนี้เราไม่มีแผนกที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง
ตรงไหนว่างหัวหน้าก็จะจับเราไปทำตรงนั้น


เคยถูกส่งไปทำในตำแหน่งที่สามีอยากให้ทำด้วยละ
ไปนั่งแยกแฟ็กซ์ แยกเอกสาร ป้อนข้อมูลเข้าคอมฯ
จากนั้นก็เอาเอกสารเหล่านั้นไปเดินแจกตามแผนกต่างๆ

อืมม.. งานสบายอย่างนี้นี่เองสามีถึงอยากให้เราไปทำนัก อิ อิ อิ


เคยถูกส่งให้ไปเช็คของในสโตร์
ซึ่งมีของเยอะมากเป็นหลายๆพันรายการ
เช็คทีใช้เวลาเป็นอาทิตย์ๆกว่าจะเสร็จ


แต่บางวันเราก็ไม่มีอะไรทำเลยนะ
ไม่รู้จะทำอะไรก็เดินไปคุยกับเพื่อนคนนั้นคนนี้
จนเกรงใจเพื่อนที่ทำงานแบบเหมาจ่ายมาก
เพราะเขาต้องทำงานแบบเร่งรีบเพื่อจะให้งานเสร็จเร็วๆ
(ยิ่งงานเสร็จเร็วเท่าไรค่าแรงก็จะเพิ่มเยอะขึ้นเท่านั้น)


แต่เราสิเดินไปเดินมา.. สบายใจเฉิบ
(เราไม่ได้ทำงานเหมา ได้รับค่าแรงเป็นรายชั่วโมง)


เมื่อไม่ค่อยมีงานทำบ่อยๆเข้าเราก็เบื่อ
อีกทั้งยังเกรงใจเพื่อนร่วมงานด้วย
จึงไปขอเปลี่ยนสัญญาทำงานใหม่
จากที่เคยทำงานเต็มเวลามาเป็นทำงานครึ่งวัน


แต่เนื่องจากว่าเราต้องไปทำงานและกลับกับสามี
เมื่อทำงานแค่ครึ่งวันเราจึงกลับบ้านไม่ได้


จึงได้เสนอบริษัทไปว่าขอทำงานแค่อาทิตย์ละ 2 วัน
โดยขอไปทำในวันอังคารกับวันพุธ
ซึ่งทางบริษัทก็บ้าจี้อนุมัติซะด้วย ...
จากวันนั้นจนกระทั่งถึงวันที่ออกจากงาน
เราจึงไปทำงานแค่เดือนละ 8 วันเท่านั้น ..


เราได้รับเงินชดเชยจากบริษัทมา 9,000 ยูโร
ที่จริงตามกฎหมายแล้วเราต้องได้เงินชดเชยปีละ 1,000 ยูโร
ทำงานมา 11 ปีก็ต้องได้เงินชดเชย 11,000 ยูโร


ซึ่งถ้าเราจะเอาตามกฎหมายก็ต้องไปยื่นฟ้องศาล
แต่เนื่องจากสามียังต้องทำงานที่นั่นไปอีกหลายปีกว่าจะเกษียณ
เราจึงไม่อยากมีเรื่องมีราว..
อีกทั้งยังไม่อยากต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอีกด้วย
ก็เลยพอใจกับเงินชดเชยที่ได้มา ..


หลังจากออกจากงานแล้ว
เราได้รับเงินสวัสดิการตกงานอีกเป็นเวลา 1 ปี

ได้เท่านี้ก็ดีใจแล้วละ .. อิ อิ อิ







บล็อกที่อยู่ในกลุ่ม.. อยากบอก .. อยากเล่า นี้

เราขอจัดให้เป็นบล็อกที่ไม่มีคอมเม้นต์นะคะ

เพราะเราแค่อยากบอกอยากเล่าให้ฟัง(อ่าน)เท่านั้น...






MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com








Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 21:49:16 น. 0 comments
Counter : 7475 Pageviews.

คนร่วมชายคา
Location :

Thailand

Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




**..นิสัยส่วนตั๊ว..ส่วนตัว..**

ตามใจตัวเองที่ซู๊ดดดด...
รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ
อารมณ์ดีเหลือหลาย
(แต่ถ้าร้ายขึ้นมาละก็ให้อยู่ห่างๆนะจ๊ะ)
ความเครียดไม่เคยย่างกรายมาในชีวิต
.. ติดจะบ้าๆ ...
(อย่างหลังต้องทำใจกันหน่อยนะ อิอิ)



**..คติ "ทำ" ประจำใจ..**

Before you speak, listen
Before you write, think
Before you spend, earn
Before you invest, investigate
Before you quite, try
Before you retire, save
Before you die, give
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
12 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add คนร่วมชายคา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.