Bloggang.com : weblog for you and your gang
...ไม่มีไฟใดเสมอด้วย..ราคะ ...>> ไม่มีโทษใดเสมอด้วย..โทสะ ...>> ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วย..เบญจขันธ์ ...>> ไม่มีสุขใดเสมอด้วย..ความสงบ ...>> พุทธวจนะในธรรมบท <<...
และแล้ว..เราก็มีไฟฟ้าส่วนตัวใช้ฟรีไปจนตลอดชีพ..
ที่บ้านเราใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องทำความร้อนและทำน้ำอุ่น
จึงต้องจ้างบริษัทที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของเครื่องทำความร้อน
ให้มาเปลี่ยนเครื่องกรองน้ำมันและตรวจเช็คระบบของเครื่องให้ปีละครั้ง
ปกติแล้วพนักงานที่มาทำการตรวจเช็คเครื่องให้ทุกปีนั้น
เมื่อทำงานเสร็จแล้วเขาก็จะกลับเลยทันที
แต่เมื่อปีที่แล้ว
ไม่รู้ว่าเขามีเวลาว่างเหลือเฟือหรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้
หลังจากที่ตรวจเช็คเครื่องเสร็จแล้วเขาก็ชวนสามีเราคุยต่อ
คุยไปคุยมาเขาก็ไปยืนแหงนมองหลังคาบ้านของเราแล้วบอกว่า
หลังคาบ้านของเราทางด้านทิศใต้นั้นลาดเอียงรับแสงแดดได้เต็มที่ดี
ทำไมจึงไม่ติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์ไว้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์
เขาบอกว่าเขารู้จักบริษัทรับติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์ที่กำลังมีโปรโมชั่นอยู่พอดี
ถ้าเราสนใจ..เขาจะเป็นผู้ไปดำเนินการให้เอง..
หลังคาบ้านทางฝั่งทิศใต้ตอนที่ยังไม่ได้ติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์
ตัวเราเองนั้นไม่เคยสนใจเรื่องพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์มาก่อนเลย
เพราะเข้าใจว่าการติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์นั้นนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว
มันยังเป็นตัวการที่ทำให้โลกร้อนอีกด้วย
อีกอย่างเราคิดว่าบ้านเรานั้นไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามากมายอะไร
ไม่จำเป็นถึงขนาดต้องไปสรรหาพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์มาใช้
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่เราก็ไม่ได้ใช้บ่อยๆ
เครื่องซักผ้าเฉลี่ยแล้วก็ใช้แค่อาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เครื่องล้างจานใช้ 3-4 วันครั้ง
เครื่องดูดฝุ่นใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง
เตารีดไอน้ำแบบหม้อต้มใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
จะมีก็แต่เตาไฟฟ้าเท่านั้นที่ต้องใช้ทำอาหารทุกวัน
ปกติเราก็จ่ายค่าไฟฟ้าอยู่ที่เดือนละ 120 ยูโรเท่านั้น
แต่พอได้ฟังข้อเสนอของพนักงานคนนั้นแล้วเราก็อดที่จะสนใจขึ้นมาไม่ได้
เขาบอกว่า..
เมื่อติดตั้งแล้วนอกจากเราจะได้ใช้ไฟฟ้าของเราเองฟรีไปตลอดชีวิตแล้ว
พลังงานไฟฟ้าส่วนเกินที่เหลือจากการใช้งานของเราในแต่ละวัน
ก็ยังขายได้เงินอีกด้วย..
หลังคาบ้านหลังจากติดตั้งเครื่องทำไฟฟ้าส่วนตัวแล้ว..
ส่วนค่าใช้จ่าย..(เขาตั้งไว้ที่ 20000 ยูโร)
เราก็ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง
แต่ให้ไปทำเครดิตกับธนาคาร
แล้วใช้เงินที่ได้จากการขายพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินนั่นแหละจ่ายหนี้ธนาคาร
พูดง่ายๆก็คือ..
เราไม่ต้องควักกระเป๋าตัวเองจ่ายทั้งเงินที่จะลงทุนและก็เงินที่จะใช้หนี้เลยแม้แต่ยูโรเดียว..
เมื่อถามถึงเรื่องโลกร้อน
เขาบอกว่าแผงรับแสงอาทิตย์ไม่ได้เป็นตัวการที่ทำให้โลกร้อน
เพราะมันไม่ได้สะท้อนแสงอาทิตย์ให้กระจายออกไปเหมือนเรือนกระจก
แต่มันทำหน้าที่ดูดแสงอาทิตย์เอาไว้ต่างหาก..
(เหตุผลน่าฟัง..แต่ไม่รู้ว่าถูกหลอกหรือเปล่าสิ..อิ อิ อิ)
หลังจากคุยกับเขาแล้วเราก็ขอเวลาไปศึกษาหาข้อมูลดูก่อน
ว่ามันคุ้มค่าหรือมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
พลังงานที่ได้มันจะมากพอที่จะขายเอาเงินใช้หนี้ธนาคารได้จริงหรือเปล่า
กลัวว่าจะถูกหลอกให้ไปเป็นหนี้ธนาคารเล่นซะน่ะสิ..ฮิๆ
หลังคาบ้านซีกซ้ายติด 12 แผง
เมื่อได้ไปศึกษาหาข้อมูลและคำนวนมาแล้ว
เราก็เห็นว่ามันน่าจะคุ้มค่า
จึงได้ติดต่อพนักงานคนนั้นกลับไป
เพื่อให้เขาไปดำเนินการกับบริษัทที่จะมาติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์ให้
นัดวันกันเป็นที่เรียบร้อย
แต่พอถึงวันนัดจริงๆเขากลับไม่มา
โทรไปถามก็อ้างว่าบริษัทที่เขาติดต่อไปนั้นกำลังมีงานเยอะ
ขอเลื่อนนัดไปเป็นวันนั้นวันนี้แล้วก็ไม่มาอีก
ง้อซะที่ไหนล่ะ..
บริษัทที่รับติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์ไม่ได้มีบริษัทเดียวในเยอรมันซะเมื่อไหร่..
สามีจึงไปติดต่อบริษัทที่รับติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์อีกบริษัทหนึ่ง
เราจึงได้ติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์สมใจ
แถมได้ติดตั้งในราคาที่ถูกกว่าที่พนักงานคนนั้นตั้งราคาไว้ถึง 2000 ยูโรอีกด้วย
เมื่อมีแผงรับแสงอาทิตย์ของตัวเองแล้ว
ไม่ว่าเราจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรในช่วงเวลากลางวัน
เราก็จะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีจากพลังงานแสงอาทิตย์ของเราเองทั้งหมด
จะใช้ไฟฟ้าของหลวงก็เฉพาะในช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น
หลังคาบ้านซีกขวาติด 16 แผง
หลังจากที่มีพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ใช้ฟรีเท่านั้นแหละ
เราเริ่มรู้สึกตัวเองเลยว่า..เราขยันและรู้จักเวล่ำเวลามากขึ้น
จากที่เมื่อก่อนเคยแต่ทำอะไรตามใจฉันมาตลอด
อยากทำอาหารตอนไหนก็ทำ
หิวตอน 3 ทุ่มก็ทำมันตอน 3 ทุ่มนั่นแหละ
อยากรีดผ้าตอนไหนก็รีด
ส่วนใหญ่จะรีดตอน 5-6 โมงเย็นยาวไปถึง 3- 4 ทุ่มอย่างสบายอารมณ์
(ตอนกลางวันมัวแต่เฝ้าหน้าคอมฯน่ะสิ..ฮิๆๆ)
จากที่เคยตื่นนอนขึ้นมาปุ๊บก็กระโดดเข้าหาคอมพิวเตอร์ปั๊บ
ก็กลับกลายมาเป็น..วันๆจ้องแต่จะหางานบ้านทำ
ถ้าไม่ซักผ้าก็รีดผ้า
ไม่รีดผ้าก็ดูดฝุ่น
ไม่ดูดฝุ่นก็ล้างจาน
ไม่ล้างจานก็จะอบขนมเค้กหรือทำอาหาร
(ตู้แช่แข็งเต็มไปด้วยขนมกับอาหารแล้ว.. ฮิๆๆ)
คือทำอะไรก็ได้ขอให้ได้ใช้ไฟ..555
กลายเป็นคนขยันจนเกินเหตุไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ..
ที่ขยันก็เพราะนึกเสียดายพลังงานไฟฟ้าฟรีน่ะสิ..
ติดตั้งมาแล้วขี้เกียจใช้..ก็ไม่รู้ว่าจะติดตั้งให้เป็นหนี้เล่นทำไม..
ตรงกลางหลังคาบ้านติด 8 แผง
รูปนี้เราเดินขึ้นไปซูมถ่ายบนเนินเขาข้างๆบ้านในระยะไกล 300-400 เมตร
เราติดตั้งแผงรับแสงอาทิตย์เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
จนถึงสิ้นปีเราก็ได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานไฟฟ้าของเราเองไป 5 เดือน
ค่าไฟฟ้าที่เราต้องจ่ายในปีนี้จึงลดลงจากที่เคยจ่ายเดือนละ 120 ยูโร
เหลือเพียงเดือนละ 70 ยูโรเท่านั้น
ต้องขออธิบายเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าที่บ้านเราก่อนนิดนึง
เผื่อจะมีคนงงว่าใช้ไฟไปตั้งแต่ปีที่แล้วทำไมค่าไฟถึงเพิ่งมาลดลงในปีนี้
คือที่บ้านเราจะมีเจ้าหน้าที่มาจดมิเตอร์ไฟฟ้าแค่ปีละครั้ง
ปีไหนขยัน..
เขาก็จะมาจดด้วยตัวเอง
ปีไหนขี้เกียจหน่อย..
เขาก็จะส่งเป็นจดหมายมาให้เรากรอกเลขมิเตอร์แล้วส่งกลับไป
แต่ถ้าปีไหนขี้เกียจสุดๆ..
เขาก็จะไปค้นยอดมิเตอร์เดิมของปีก่อนๆมาประเมินคร่าวๆ
แล้วคำนวนออกมาเป็นค่าไฟฟ้าให้เรา
มิเตอร์ที่จดไปในปีนี้
เขาก็จะนำไปคิดเฉลี่ยออกมาเป็นค่าไฟฟ้าของแต่ละเดือนในปีหน้า
พูดง่ายๆก็คือเราจ่ายค่าไฟฟ้าย้อนหลังปีต่อปีนั่นเอง
ค่าไฟฟ้าที่เราจ่ายอยู่ทุกเดือนในปีนี้ก็คือค่าไฟฟ้าที่เราใช้ไปเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนค่าไฟฟ้าที่เราใช้ไปในปีนี้ก็จะไปจ่ายในปีหน้า
เพราะฉนั้นถ้าปีนี้เราใช้ไฟเยอะ..ปีหน้าเราก็จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงขึ้น
แต่ถ้าปีนี้เราใช้ไฟน้อย..ปีหน้าเราก็จะจ่ายค่าไฟฟ้าน้อยลง
งงดีไหมล่ะ..
ตู้ควบคุมพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้และจ่ายออก
คาดว่าในปีหน้าเราคงจะจ่ายค่าไฟฟ้าลดลงไปกว่านี้อีกพอสมควร
เพราะเพียง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2555)
เราได้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของเราเองไปแล้ว 1300 กิโลวัตต์
นั่นก็เท่ากับว่า..
เราได้ประหยัดเงินค่าไฟฟ้าของหลวงลงไปแล้วถึง 1300 กิโลวัตต์
เราได้รับเงินจากการขายพลังงานไฟฟ้าส่วนเกินเดือนละ 147 ยูโร
ธนาคารหักหนี้ไปเดือนละ 134 ยูโร
ที่เหลืออีก 13 ยูโรก็ถือซะว่าเป็นกำไรก็แล้วกันเน๊าะ.. อิ อิ
เงินที่ได้จากการขายพลังงานไฟฟ้านั้นจะมากขึ้นหรือน้อยลงกว่านี้อีกก็ได้
ขึ้นอยู่กับพลังงานที่จะได้จากแสงอาทิตย์ในแต่ละปี
ก็หวังแต่ว่ามันคงจะไม่น้อยลงไปกว่าจำนวนเงินที่ต้องจ่ายหนี้ธนาคาร
ไม่เช่นนั้นเราคงต้องควักกระเป๋าของตัวเองจ่ายเพิ่มเข้าไปให้มันครบจำนวน
เพราะหนี้ธนาคารจะคงจำนวนเดิมเท่านี้ไปจนกว่าเราจะใช้หนี้หมดโน่นแหละ
ไม่รู้ว่ามันคุ้มหรือเปล่าสิกับการที่ต้องเป็นหนี้ไปอีก 9 ปีเนี่ย... อิ อิ อิ
อย่างเดียวที่รู้แน่ๆก็คือ..
ตราบใดที่โลกนี้ยังมีแสงอาทิตย์
ตราบนั้นเราก็จะมีไฟฟ้าส่วนตัวใช้ฟรีไปตลอดชีวิต..
Create Date : 10 ตุลาคม 2555
Last Update : 10 พฤษภาคม 2559 5:14:53 น.
0 comments
Counter : 2776 Pageviews.
Share
Tweet
คนร่วมชายคา
Location :
Thailand
Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
**..นิสัยส่วนตั๊ว..ส่วนตัว..**
ตามใจตัวเองที่ซู๊ดดดด...
รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ
อารมณ์ดีเหลือหลาย
(แต่ถ้าร้ายขึ้นมาละก็ให้อยู่ห่างๆนะจ๊ะ)
ความเครียดไม่เคยย่างกรายมาในชีวิต
.. ติดจะบ้าๆ ...
(อย่างหลังต้องทำใจกันหน่อยนะ อิอิ)
**..คติ "ทำ" ประจำใจ..**
Before you speak, listen
Before you write, think
Before you spend, earn
Before you invest, investigate
Before you quite, try
Before you retire, save
Before you die, give
Group Blog
อยากมีสาระ
อยากไร้สาระ
อยากบอก .. อยากเล่า
อยากเรื่อยเปื่อย
อยากขำ... ฮ่าๆๆ
อยากซึ้งมั่ง
อยากกิน .. อยากเที่ยว
<<
ตุลาคม 2555
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 ตุลาคม 2555
และแล้ว..เราก็มีไฟฟ้าส่วนตัวใช้ฟรีไปจนตลอดชีพ..
All Blogs
ถ้ารู้ว่าต้องลำบากอย่างนี้..ไม่มาอยู่มันหรอกเมืองนอก
มาดูฝรั่งทำแปลงปลูกผักไทยกัน...
จากคอลัมน์หาคู่ .. สู่ 25 ปีของการแต่งงาน
และแล้ว..เราก็มีไฟฟ้าส่วนตัวใช้ฟรีไปจนตลอดชีพ..
อาหารเช้าของคนไทยอย่างเรา..ที่ฝรั่งข้างตัวเห็นแล้วบังอาจร้อง..ยี้..
ของขวัญ .. จากแดนไกล...
รถคันสุดท้าย .. มันก็ต้องบรรจงเลือกสรรกันหน่อยสิ ... อิ อิ
งัดข้อกับ >>>..กรมแรงงานของเยอรมัน.. ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร !!! .. อิ อิ อิ
มาดูหน้าตา >>>ใบเงินเดือนของเยอรมันกัน...
วันแห่งความรัก.. เป็นวันแห่งความสุข แต่เรากลับทำให้สามีต้องหลั่งน้ำตา ...
งานแรกและงานสุดท้าย .. ที่กว่าจะได้มาในเยอรมัน...
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add คนร่วมชายคา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.