|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ความยุติธรรม : เราไม่ได้อาศัยอยู่บนโลกที่เท่าเทียมกัน
เพลโต หลักความยุติธรรมของเพลโตไม่ใช่หมายถึงการที่ทุกคนได้สิทธิเท่าเทียมกัน แต่เป็นความยุติธรรมตามความถนัดตามธรรมชาติมากที่สุด คือ การที่มนุษย์แต่ละคนควรมีความถนัดเพียงอย่างเดียวและใช้ความถนัดนั้นรับใช้ชุมชนให้เต็มที่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การให้ทุกคนตามส่วนที่พึงได้รับ หรือ ผลของการแบ่งแยกชนชั้นและหน้าที่ ซึ่งแต่ละคนได้รับจากการมีคุณสมบัติเหมาะสมตามความถนัด และการศึกษาอบรมที่จะปฏิบัติ ก็คือ ความยุติธรรม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง เพลโตเชื่อในเรื่องความยุติธรรมตามสัดส่วนของความสามารถ รวมทั้งในเรื่องความยุติธรรมตามสิทธิความเป็นมนุษย์ของหญิงและชายอย่างไรก็ตาม เพลโตพยายามป้องกันมิให้ชนชั้นสูงหรือชนชั้นปกครองเอาเปรียบประชาชน โดยวางมาตรฐานส่งเสริมหลักความยุติธรรมไว้ 2 ประการ ประการแรก : ให้สิทธิและความเสมอภาคที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง (การศึกษาอบรม, การปกครอง, หน้าที่ทางการทหาร รวมทั้งบทบาทของประชาชน) ประการที่สอง : หญิงและชายที่ได้รับเลือกเป็นชนชั้นปกครองจะมีครอบครัวเป็นส่วนตัวไม่ได้ ไม่สามารถอยู่ร่วมกันฉันสามีหรือภรรยาเดียว ไม่มีสมบัติส่วนตัว ไม่มุ่งปัจเจกนิยม
อริสโตเติล ความยุติธรรมของอริสโตเติล ก็คือการทำให้พอดี ซึ่งแต่ละคนก็มีความพอดีไม่เท่ากัน ดังนั้น จึงต้องทำให้พอดีตามคุณสมบัติของแต่ละคน นั่นเอง ความยุติธรรมตามสัดส่วนของความสามารถ (ตามธรรมชาติ) : มนุษย์ถูกกำหนดให้ทำหน้าที่ต่างๆ ตามแต่ความสามารถของแต่ละคน, การที่คนมีทรัพย์สมบัติไม่เท่ากัน เป็นเพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้นควรจัดสรรกันตามความสามารถในการสะสมรวบรวมทรัพย์สินของแต่ละคน ใครควรจะได้รับสิ่งใดก็ให้เขาได้รับสิ่งนั้น ความยุติธรรมตามความเสมอภาคตามกฎหมาย : กฎหมายมีขึ้นเพื่อใช้บังคับมนุษย์ทุกคนในชุมชนเพื่อประโยชน์ของชุมชนเป็นส่วนรวม ความยุติธรรมแบบนี้จึงเป็นการปกครองด้วยกฎหมายหรือการกระทำใดๆในขอบเขตของกฎหมาย ทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติโดยเท่าเทียมกันในเรื่องเกี่ยวกับการพิจารณาทางกฎหมาย ถึงแม้แต่ละคนจะมีสถานะทางสังคมแตกต่างกันแต่เมื่ออยู่ในชุมชนภายใต้กฎหมายแล้ว ทุกคนมีความเสมอภาคเท่ากันหมด กฎหมายจะต้องมีผลบังคับใช้ต่อทุกคนในชุมชน มิใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
ส่วนในทัศนะของผู้เขียน ผู้เขียนเห็นด้วยกับเพลโตและอริสโตเติลตรงที่ว่าความยุติธรรมเป็นการทำให้พอดีตามคุณสมบัติของแต่ละคน ไม่ใช่หมายถึงการที่ทุกคนได้สิทธิเท่าเทียมกัน แต่เป็น การให้ทุกคนตามส่วนที่พึงได้รับ ความยุติธรรมนั้น ถ้าจะแปลตามตัวก็คือ ยุติ แปลว่า จบ สิ้นสุด ส่วนธรรมก็คือธรรมะ ถ้ารวมกันแล้วยุติธรรมในทัศนะของผู้เขียนก็คือ ธรรมะนำไปสู่การสิ้นสุดของปัญหาหรือความขัดแย้งนั้นเอง สาเหตุของความอยุติธรรมในปัจจุบันที่มีอยู่มากมายนั้นก็เกิดจากที่มนุษย์เราไม่มีธรรมในจิตใจ ไม่รู้จักสิทธิหน้าที่และความพอดี มนุษย์เราจะรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมก็ต่อเมื่อเราเสียผลประโยชน์ แต่ในทางกลับกันถ้าเราไม่เสียผลประโยชน์เราก็จะถือว่าเราได้รับความยุติธรรม ในเรื่องพื้นฐานของแต่ละคน มนุษย์ต่างเกิดมามีพื้นฐานไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน บางคนอาจต้องเผชิญกับความรุนแรง โรคร้าย แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้มันด้อยค่าลงไปเลย คนรวยก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนจน หรือคนร่างกายครบสมบูรณ์ก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนพิการ การที่พื้นฐานของมนุษย์ไม่เท่ากันนั้น ผู้เขียนคิดว่าดีเสียอีกเพราะว่ามันจะเป็นแรงพลักดันให้คนๆหนึ่งก้าวไปถึงจุดมุ่งหมายได้ตามที่ตนต้องการ
แล้วความยุติธรรมของผู้อ่านเป็นอย่างไร?
อ้างอิง ไฟล์//www.pol.ubu.ac.th/~singubu/E_Learning_001/Justics3.ppt
Create Date : 09 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2552 2:22:14 น. |
|
9 comments
|
Counter : 3116 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เปาเปา IP: 112.142.93.214 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:6:30:05 น. |
|
|
|
โดย: ปลาวาฬสีรุ้ง งุ๊งๆ IP: 202.28.78.171 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:10:58:09 น. |
|
|
|
โดย: whan_whan IP: 202.28.78.138 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:20:25 น. |
|
|
|
โดย: อาจารย์แรก IP: 124.122.30.107 วันที่: 9 สิงหาคม 2552 เวลา:11:38:06 น. |
|
|
|
โดย: เอ็ม IP: 202.28.78.136 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:9:39:24 น. |
|
|
|
โดย: bobegins IP: 202.28.78.174 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:19:32:11 น. |
|
|
|
โดย: นางสาวเห็บ IP: 124.157.172.135 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:2:40:52 น. |
|
|
|
โดย: ธมร IP: 113.53.167.70 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:8:02:19 น. |
|
|
|
โดย: da IP: 124.122.247.144 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:22:08:16 น. |
|
|
|
| |
|
|
เพราะความที่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักพอด้วยล่ะ
ทำให้ต้องออก มาโวยวาย ร้องเรียก ความเท่าเทียม ของตัวเองกับคนอื่น
เห็นคนอื่นดีกว่า ก็โทษ ว่ามัน ไม่ยุติธรรม
ก็จริงที่ว่า พื้นฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ ก็มีแต่ จะเจอแต่ความอยุติธรรม
แต่จะมีสะกี่คน ที่เห็นคนอื่นอยู่สุขสบาย ส่วนตัวเองยิ้มรับมีความสุขกับความลำบากของตนได้
จริงๆ แล้วทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็เพราะ ผลเวรผลกรรม ที่ทำไว้แหละ
ใครทำอะไรก็ได้สิ่งนั้นตอบแทน
ต่อให้วางรากฐานทางกฏหมาย ทางสังคมขนาดไหน
มันก็หยุดความไม่รู้จักพอของมนุษย์ ไม่ได้อยู่ดี