เพชร : เลอค่าอมตะ
ขอบคุณ แหล่งที่มา : weddingsquare.com --------------------------------------------------------- ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเพชร - เพชรทุกเม็ดเป็นวัตถุที่มีความเก่าแก่และถือกำเนิดก่อนไดโนเสาร ์ เพชรที่มีอายุน้อยที่สุดมีอายุถึง 900 ล้านปี - เพชรเป็นวัตถุทางะรรมชาติที่มีความแข็งที่สุด เพชรแข็งกว่าแร่ธาตุที่มีความแข็งเป็นอันดับ 2 ถึง 58 เท่า - เพชรมีองค์ประกอบทางเคมีเป็นคาร์บอน ถึงแม้ว่าในทางชีวเคมีเพชร ไม่ได้แตกต่างจากถ่านหินหรือถ่านไส้ดินสอที่ใช้เขียนหนังสือ แต่สิ่งที่แตกต่างคือเพชรได้ผ่านความร้อนและความกดดันสูง ที่บีบอัดจนกลายเป็นอัญมณีที่มีค่าสุงที่สุดในโลก - เพชรต้องเจียระไนด้วเพชรเท่านั้น - เพชรที่ได้จากการขุดพบมีทุกสี และสีที่หายากที่สุดคือ สีแดง - คำว่า diamond มีรากศัพท์จากภาษากรีกว่า adamas ซึ่งหมายความถึงความเป็นหนึ่ง - ประเพณีของการสวมแหวนเพชรที่นิ้วนางซ้ายสืบทอดมาจากชาวอียิปต์โ บราณ ซึ่งมีความเชื่อว่าเลือดจะไหลเวียนจากเส้นโลหิตแห่งรัก (vien of love) ไปยังหัวใจ - เพชรทุกเม็ดจะประเมินคุณภาพจาก ..4C's ไม่ว่าจะเป็นเพชรเม็ดเล็กหรือเม็ดใหญ่ ..4C's มาจาก Cutting, Color, Clarity and Carat weight
ความหมายจากใบเซอร์ Shape : รูปทรงของเพชรค่ะ..เพชรกลมหรือที่เรียกว่าเพชรเกสร(Ro und brilliant)..เพชรรูปไข่(Oval)..หัวใจ(Heart), เพชรมาร์คีส์(Marquise),เพชรเหลี่ยมมรกต(Emerald cut),เพชรปริ้นเซส(Princess Weight : น้ำหนักของเพชร มีหน่วยเป็นกะรัต เช่น 1.02ct..1 กะรัตแบ่งหน่วยย่อยๆเรียกเป็นสตางค์..1กะรัตเท่ากับ 100สตางค์ (กะรัต นั้นมาจากคำว่า Carob ซึ่งเป็นชื่อของเมล็ดพันธุ์พืชชนิดหนึ่ง) Clarity grade : ความสะอาด หรือ ความบริสุทธ์ของเพชร ตามที่เข้าใจ ที่ดีจากมากไปน้อยคือ Loupe-clean (IF), VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI (VVS = Very Very Slightly Included ซึ่งมีความหมายว่า จะหาตำหนิได้ยากมากโดยเฉพาะเมื่อดูจากกล้อง) Fluorescence : ถ้าเป็นสี D to H color ควรจะเป็น nil or none แต่ถ้า I color ลงไปควรอยู่ที่ faint blue or slight .. Color Grade: สีของเพชร เรียงลำดับจากไร้สีไปสู่มีสี คือ D, E, F, G, H, I, .... ยิ่งไร้สีจะยิ่งหายากราคาก็จะสูงตามไปด้วย ตัวอักษร D (สีน้ำ 100%), E (สีน้ำ 99%), F (98%), G (97%),H (96%), I (95%), J (94%)...ที่แนะนำคือช่วง F,G,H,I Measurements : ค่าน้อยที่สุดของเส้นผ่านศูนย์กลางที่วัดได้ - ค่ามากที่สุดที่วัดได้ คูณ ความลึก (เช่น 6.52-6.54 mm.x 3.93 mm.) ค่าเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 ค่านั้น เท่ากับจะทำให้สามารถดูได้ว่า เพชรมีความกลมมากแค่ไหน ควรจะให้ทั้ง 2 ค่าใกล้เคียงกันมากที่สุด เท่าที่ยอมรับได้นั้น ต้องดูที่ total depth ว่าควรจะห่างกันไม่เกิน 59.5%-61.5% จะดี..และ..สามารถบวกลบเพิ่มได้อีก 0.5% Proportions : เรียงลำดับจากดีมากไปน้อย คือ Very Good, Good, Unusual - gridle : ค่าที่เหมาะสมควรจะเป็น thin 2.5% to medium 4% - culet : ควรจะเป็น pointed - table width : ค่าที่เหมาะสมควรจะเป็น 55-60% - cn.height : ค่าที่เหมาะสมควรจะเป็น 12.5-14.5% - pav.depth : ค่าที่เหมาะสมควรจะเป็น 43-45.5% ทั้งนี้ทั้งนั้นควรนำมาพิจารณารวมๆด้วย..เช่น..girdle 3%+cr.height 13%+pav 43.5%= total depth 59.5% ก็เป็นค่าที่โอค่ะ..แต่ถ้าไม่ต้องการจำค่าแต่ละตัวก็ให้ดูค่าสร ุปค่ะ.. Finish Grade : เรียงลำดับจากดีมากไปน้อย คือ Very Good, Good, Medium, Poor ด้านบนนั้นเป็นรายละเอียดของ HRD สำหรับ cer ของ GIA เห็นว่า จะมีเพิ่มมาในส่วนของ Finish Polish: Symmetry: ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ เรียงที่ดีจากมากไปน้อย ก็เป็น Excellent, Very Good, Good, Fair, poor ถ้าเป็นไปได้เลือกที่ Excellent or very good
องศาสวยต้องแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆค่ะ.. สวยแรก..จากธรรมชาติก็จ ะเป็นเรื่องสี(Color), ความสะอาด(Clarity) สองส่วนนี้จะเป็นธรรมชาติสร้างมาค่ะ.. สวยที่สอง..เรื่องการเจียรไน ในส่วนนี้สวยได้ด้วยปัจจัยที่สำคัญที่สุดซึ่งมีผลต่อความงามของเพชรก็คือ การเจียรไน (cutting) ส่วนของ pavilion (ตั้งแต่ขอบเพชร (girdle) ลงมาจนถึงปลายสุดของเพชร (culet) จำเป็นจะต้องถูกเจียรไนให้ได้องศาที่ถูกต้องแม่นยำในทุกๆหน้าเจ ียรไน ถ้ามีความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยขององศาก็จะทำให้เพชรเม็ดนั้นมีการรั่วไหลของแสง ทำให้เกิดการหักเหแสงที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงความสมดุลของมุมหรือองศาระหว่าง crown และ pavilion ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญมาก
การเกิด H&A ได้นั้น เรื่องความสมมาตร (symmetry) นั้นสำคัญมาก ไม่เพียงแค่สมมาตรธรรมดานะ แต่ต้องเป็นสุดยอดสมมาตร (super symmetry) ผิดพลาดแม้แต่องศาเดียวก็ไม่ใช่ H&A แล้ว ดังนั้นถึงแม้เพชรจะได้ proportion เป็น very good หรือ cutting เป็น excellent ก็ตาม เพชรเม็ดนั้นอาจไม่ใช่ H&A ก็ได้ แนวทางการดู H&A ให้ไว้ดังนี้ การดู Hearts ให้ดูตามลำดับดังนี้ - หัวใจทั้ง 8 ดวง จะต้องสมมาตรกันและมีขนาดเท่ากัน - หัวใจทั้ง 8 ดวง จะต้องแยกออกจากกัน กับหัวลูกศรที่อยู่ด้านล่างของหัวใจ อย่างชัดเจน - ตรวจดูว่าหัวใจมีรอยแยกหรือแตกบริเวณร่องหัวใจหรือไม่ ถ้ามีให้วัดรอยแยกหรือรอยแตกนั้นไว้ - คำนวณ % ความยาวของรอยแยกหรือรอยแตกนั้น ถ้ามีค่ามากกว่า 8% ของความสูงของหัวใจ (วัดจากร่องหัวใจถึงปลายหัวใจ) และมีมากกว่า 2 ดวง ถือว่าเพชรเม็ดนั้นไม่มี "True Hearts" การดู Arrows ให้ดูตามลำดับดังนี้- ลูกศรทั้ง 8 คัน จะต้องสามารถมองเห็นได้ทั้งก้านลูกศรและหัวลูกศร ได้อย่างชัดเจน - ลูกศรทั้ง 8 คัน จะต้องมีขนาดเท่ากัน และสมมาตรกันทั้งหมด - ก้านลูกศรจะต้องเป็นเส้นตรง ไม่คดงอ และจะต้องอยู่ตรงกลางของหัวลูกศร - ปลายของหัวลูกศรทั้ง 8 จะต้องชนกับขอบเพชร (girdle) พอดี ถ้าเพชรเม็ดนั้นมีทั้ง Hearts และ Arrows ถูกต้องตามเกณฑ์ทุกอย่าง ก็จะถือว่าเพชรเม็ดนั้นเป็น "True Hearts and Arrows" ทั้งนี้ต้องดู H&A ด้วย H&A scope ด้วย แต่ถ้ามีเพียง Hearts หรือ Arrows อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ถือว่าเพชรเม็ดนั้นไม่ใช่ Hearts & Arrows
//www.git.or.th/# เว็บของ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นองค์กรของรัฐ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ดังนั้น เชื่อถือเรื่องความถูกต้อง และเป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติได้ค่ะ เพราะห้องแลบเขาติดอันดับ 1 ใน 7 ของแลบดังๆ ทั่วโลก เช่น SSEF, GIA, Gubelin, AGTA, Tokyo Lab ฯลฯ
Create Date : 08 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2552 10:29:09 น. |
|
3 comments
|
Counter : 840 Pageviews. |
|
|
|