|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
28 เมษายน 2551
|
|
|
|
สุขภาพ
...ด้วยรักและห่วงใยในสุขภาพ...
เวลา 21.00-23.00 น. ร่างกายจะสะสมพลังงานรวม พลังงานของร่างกายจะสร้างช่วงนี้เท่านั้น..จึงควรพักผ่อนเข้านอน 3 ทุ่ม..
เวลา 23.00-01.00 น. พลังงานที่สร้างขึ้นจะเคลื่อนเข้าสู่ถุงน้ำดี..ล้างถุงน้ำดีทำให้ถุงน้ำดีแข็งแรง ย่อยไขมันที่จะเปลี่ยนรูปไปเป็นฮอร์โมน กล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ไขสมอง น้ำหล่อเลี้ยงในร่างกายทั้งหมด การย่อยไขมันของร่างกายจะเกิดขึ้นในช่วงนี้เท่านั้น.. หากไม่พักผ่อนช่วงนี้ไขมันดังกล่าวจะตกตะกอนอยู่ตามร่างกาย เช่นถุงไขมันใต้ตา มีพุง สมองเละเลือนง่าย ปวดไหล่ ปวดท้องง่ายบริเวณลำไส้ใหญ่ ท้องเสีย หรือท้องผูก เวลา 01.00 - 03.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ตับ ตับจะเริ่มทำงานโดยใช้พลังงานที่สะสมไว้ ตับจะสะสมอาหารสำรองให้ร่างกายกำจัดของเสีย ผลิตน้ำดีและส่งไปเก็บที่ถุงน้ำดี ถ้าช่วงนี้ไม่หลับนอนร่างกายจะสูญเสียพลังงานที่สะสมไว้ ตับจะอ่อนแอลง การสะมพลังงานสำรองลดลง การผลิตน้ำดีก็ลดลง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับอ่อนเป็นผลให้การผลิตอินซูลินลดลงด้วย โรคที่จะเกิดขึ้นคือ โรคเกี่ยวกับความดันโลหิตแปรปรวน โรคเก๊าท์ โรครูมาตอยด์ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เบาหวาน หัวใจ กระดูกเสื่อม
03.00 - 05.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ปอด ถ้าปอดแข็งแรงผู้นั้นจะหลับสนิท ถ้าเป็นโรคปอดหรือสูบบุหรี่จะไม่รู้สึกสบายตัวและจะถูกปลุกให้ตื่นช่วงนี้ จะไอและหายใจ
05.00 - 07.00 น. พลังงานจะเคลื่อนเข้าสู่ลำไส้ใหญ่...เป็นช่วงที่เราต้องถ่ายอุจจาระร่างกายจะต้องเอาของเสียทิ้งให้หมดก่อน 07.00 น.ถ้าไม่ถ่ายร่างกายจะเริ่มดูดซึมของเสียเข้าสู่ระบบเลือดนี่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า เกิดไขมันเสีย ๆ...ควรออกกำลังกายช่วงนี้เพื่อให้ลำไส้ใหญ่ขยับตัวและเพิ่มศักยภาพในการขับเคลื่อนของเสีย
07.00 - 09.00 น.กระเพาะอาหารจะทำงานได้สูงสุดในช่วงนี้เท่านั้น กระเพาะอาหารจะต้องการอาหารและจะหลั่งน้ำย่อยมากที่สุด.....ผู้ที่ไม่รบประทานอาหารเช้าจะมีโอกาสเป็นโรคกระเพาะอาหาร และจะเกิดโรคหัวใจด้วยเพราะไม่ได้สารอาหารสำหรับทุกอวัยวะเพื่อกลับไปสร้างพลังงานรวม..
.09.00 - 11.00 น...ม้ามจะเริ่มเก็บพลังงานสำรองเก็บสารอาหารจากการย่อยของกระเพาะอาหาร...การที่เราไม่ได้รับประทานอาหารเช้าร่างกายจะดึงพลังงานสำรองออกมาใช้ พลังงานรวมจะหายไป ร่างกายจะอ่อนแอไม่มีแรง...
11.00 - 13.00 น พลังงานจะเคลื่อนที่ไปที่หัวใจ...ถ้าร่างกายไม่ได้สารอาหาร หัวใจจะทำงานลำบากหัวใจวายได้ง่ายในช่วงนี้..
13.00 - 15.00 น. พลังงานจะเคลื่อนสู่ลำไส้เล็ก..ลำไส้เล็กจะทำงานโดยเปลี่ยนรูปอาหารที่ได้จากตอนเช้าทั้งคาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่เป็นพลังงานทั้งหมด...ถ้าไม่ได้รับอาหารเช้าอาหารที่จะย่อยในลำไส้เล็กก็ไม่มีลำไส้เล็กก็จะย่อยตัวเองและเริ่มอ่อนแอ....
15.00 - 17.00 น. พลังงานจะเคลื่อนมาที่กระเพาะปัสสาวะ..ของเสียที่เกิดขึ้นจากการแปรรูปอาหารที่ลำไส้เล็กจะเกิดขึ้นกระเพาะปัสสาวะจะทำงานมากที่สุด...
17.00 - 19.00 น....พลังงานจะเคลื่อนมาที่ไต...ช่วงนี้ไตทำงานหนัก ไม่ควรออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วงเย็นจะทำให้ไตวายง่าย เวียนหัว ตาพร่า ปวดศีรษะ..
19.00 - 21.00 น....พลังงานจะเคลื่อนมาที่กล้ามเนื้อหัวใจ...กล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานชะล้างตัวเองทำงานช้าลง ช่วงนี้ต้องพักผ่อน ถ้าไม่พัก เลือดจะข้นกล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานหนัก ทำให้หัวใจโต.....ทั้งหมดนี้เป็นการหมุนเวียนของพลังงานในร่างกาย..เป็นทฤษฎีการดูแลสุขภาพของจีน ที่มีอายุมากว่า 5000 ปี
Create Date : 28 เมษายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2551 16:01:36 น. |
Counter : 807 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
joypla |
|
|
|
Location :
สงขลา Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีครับ ผมคนสงขลาแต่กำเนิด เริ่มเรียนที่โรงเรียนวัดชะแล้ อ.สิงหนคร จ.สงขลา, ม.ต้น ที่โรงเรียนชะแล้นิมิตวิทยา ต่อม.ปลายโรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา เข้าสู่ระดับอุดมศึกษา ณ คณะเกษตรศาสตร์นครศรีธรรมราช สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ( ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย) ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร เคยทำงานที่บริษัท โชติวัฒน์อุตสาหกรรมการผลิต จำกัด ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ปัจจุบันทำงานที่ บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) จังหวัดชุมพร
|
|
|