Bloggang.com : jippika : [ รีวิวทำสวย !! ] ปฏิบัติการหน้าเรียว V-Shape ด้วยการร้อยไหมและโบท็อกซ์ ที่ Pisit Clinic

[ รีวิวทำสวย !! ] ปฏิบัติการหน้าเรียว V-Shape ด้วยการร้อยไหมและโบท็อกซ์ ที่ Pisit Clinic

สวัสดีค่าาา วันนี้จิ๊บมาอัพเดทเรื่องความสวยความงาม
ด้วยเรื่องของการทำหน้าเรียว หรือ V-shape treatment ที่เป็นที่นิยมกันมานาน
และยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ แต่มีการวิวัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ
มีแพทย์ที่มีความถนัดและชำนาญมากขึ้น ซึ่งจิ๊บมีโอกาสได้ทำทรีทเม้นท์นี้กับ
คุณหมอเหน็น หรือ นพ. พิสิษฐ์ เจียมจิรอานนท์ ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องการรักษา
ปัญหาทางด้านผิวพรรณ รวมไปถึงความสวยความงาม

และเป็นแพทย์ผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ ในรายการโทรทัศน์ “Wonderful life”

ออกอากาศทางช่อง สุวรรณภูมิ และ GMM Z

การเลือกคุณหมอที่จะทำด้วยสำคัญไหม๊ ?
ขอตอบว่าสำคัญมากกกกกค่ะ การจะทำอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับรูปลักษณ์เรา
สำคัญมากที่ผู้ที่จะทำให้ คือบ้างที่มีชื่อเสียง แต่คุณหมอที่มีชื่อนั้นไม่ได้เป็นผู้ทำให้
เป็นทีมงาน หรือเป็นผู้ช่วย แค่นี้ก็คือคนละฝีมือแล้วค่ะ
ความชำนาญของคุณหมอเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าหาก
คลาดเคลื่อนผิดจุดเพียงเล็กน้อย
ก็อาจทำให้สิ่งที่เราไปทำ ไม่เห็นผล หรือ เห็นผลแต่ไม่มาก
และที่สำคัญ ถ้าการทำเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
ยิ่งคุณหมอมีความชำนาญ
และแม่นยำ อาจจะไม่ช้ำเลยด้วยซ้ำค่ะ หรือเกิดเพียงเล็กน้อย
อันนี้ทำให้ใช้ชีวิตง่ายนะคะ ไม่ต้องคอยหลบรอยช้ำจนกว่าจะหาย

คุณหมอเหน็น ประจำอยู่ที่ พิสิษฐ์ คลีนิค อยู่แถวพระราม 3 ค่ะ
จิ๊บเลือกทำทรีทเม้นต์ยกกระชับหน้า ให้ได้รูป
เพราะมีปัญหากับช่วงกรอบหน้ากรอบเบาๆ แต่มีคางนะคะ
อยากเน้นให้คางเห็นเด่นชัด เลยตัดสินใจที่จะทำทรีทเม้นต์หน้าเรียวค่ะ

ขั้นแรกคุณหมอจะให้กัดฟันแรงๆ เพื่อจับดูว่าเคสของจิ๊บจะต้องทำอะไรบ้าง
ถึงจะได้ผลดีที่สุดกับจุดประสงค์ที่ต้องการ
ของจิ๊บด้วยความที่เป็นคนอวบอ้วนอยู่แล้วจึงมีชั้นไขมัน และชั้นกล้ามเนื้อ
วิธีทดสอบคือกัดฟันแล้วจับกรอบหน้าที่ถัดจากคางออกมาทางกรอบหน้า
ถ้ากัดปุ๊บ ปึง ! มีกล้ามเนื้อเด้งออกมาเยอะ คือเราควรโฟกัสที่ลดกล้ามเนื้อค่ะ
ของจิ๊บถือว่า ไขมัน 50 กล้ามเนื้อ 50 เลยค่ะที่เด้งออกมา
เลยต้องใช้วิธีการร้อยไหม + โบท็อกซ์ โดยใช้ตามนี้ค่ะ
ร้อยไหม 20 เส้น ข้างละ 10 เส้น และ โบท็อกซ์ 20 ยูนิตต่อข้าง

การทำคือตามแนวลูกศรเลยค่ะ ร้อยไหมเพื่อยกกระชับกรอบหน้า
และ ฉีดโบท็อกซ์ที่กล้ามเนื้อข้างละ 1 จุด
โดยเริ่มจากการร้อยไหมก่อน ข้างละ 20 เส้นค่ะ
อันนี้ทายาชาทิ้งไว้ 30 นาที แล้วก็ฉีดยาชาอีกค่ะ

เจ็บไหม๊ ? เจ็บค่ะ ท่องเอาไว้ อยากสวย อยากหน้าเรียว

การร้อยไหม
ทำเพื่ออะไร ? ขอสรุปสั้นๆว่า ไขมัน โตด้วย เส้นเลือดไปเลี้ยง
ร้อยไหมเข้าไปเพื่อตัดไขมันกับเส้นเลือด พอไม่มีเลือดเลี้ยง
ไขมันไม่มีอาหาร ก็จะค่อยๆโดนร่างกายใช้งานและค่อยๆหายไป
และร่างกายก็จะทำการสร้างแนวคอลลาเจนใหม่ตามโครงเส้นไหม
และเส้นไหมจะอยู่จนถึงเมื่อไหร่ ?

เส้นไหมที่ใช้จะเป็นไหมละลาย ที่ใช้ในการเย็บอวัยวะภายใน
จะละลายไปเอง ตามอายุการใช้งานของมันค่ะ

ข้อเสีย >> สำหรับคนที่เป็นคนเลือดฝาดที่แก้ม สิ่งนี้จะหายไปค่ะ
ถ้าคุณหมอไม่ชำนาญ งานออกมาไม่สวยได้เช่นกันค่ะ
อีก 1 อย่างคือ ควรเผื่อเวลาพักฟื้นจากการช้ำด้วยค่ะ
หลายๆคนทำแล้วช้ำ เกิดจากการไม่ชำนาญของหมอ และร่างกายของเราค่ะ

หลังจากบล็อกยาชาไว้เรียบร้อย คุณหมอต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการทำค่ะ
ถ้าคุณหมอมือนิ่ง และร้อยได้แม่นยำ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะน่าพอใจมาก
และที่สำคัญ ผิวจะช้ำน้อยค่ะ ลองนึกสภาพ จิ้มผิดเคลื่อนไม่กี่มิลต้องจิ้มใหม่
แค่นี้ก็มีส่วนทำให้ผิวช้ำแล้วค่ะ

ร้อยไป ปึง ๆ ๆ ที่ละเส้น คุณหมอทำเร็วมาก จิ้มเป๊ะๆ ๆเลยค่ะ
คือเห็นเลยว่าตอนทำเสร็จโครงหน้ายกขึ้นเล็กน้อย
แต่สักพักคือหน้าจะระบบจากการโดนจิ้มเล็กน้อยค่ะ เลยกลับไปบวมเล็กน้อย

ใครๆก็บอกว่าร้อยไหมจะช้ำ ของจิ๊บวันแรกๆแทบไม่เห็นความช้ำเลย
ยกให้เป็นความเก่งของคุณหมอเลยค่ะ จิ้มทีละเข็มไม่มีพลาดตำแหน่ง
ช้ำเพียงนิดเดียวตามจุดที่วงๆให้ชมค่ะ
แต่งหน้ากลบเบาๆ ก็ไม่เห็นเลยค่ะ ออกจากบ้านได้สบายทุกวันแบบไม่มีใครรู้เลย

หลังจากนั้นประมาณ 9 วันผ่านไป จิ๊บก็ไปฉีดโบท็อกซ์เพิ่ม
เพื่อให้การเห็นผลไล่เลี่ยกัน เพราะโบท็อกซ์จะออกฤิทธิ์เร็วกว่าเล็กน้อยค่ะ
ฉีด Botox ข้างละ 20 Units คนเราไม่ควรฉีดเกินข้างละ 15-30 Units ต่อครั้งนะคะ

ถามว่า Botox ต้องเลือกแบบไหน ?

Botox มีจากหลากหลายประเทศค่ะ คุณหมอเหน็นใช้ของ อเมริกาให้จิ๊บค่ะ
เพราะมีสารปนเปื้อนน้อย สารปนเปื้อนไม่ได้แปลว่าสกปรกนะคะ
เป็นสารจากไข่ขาวที่เป็นตัวทำละลาย ของญี่ปุ่นและจีน จะมีมากกว่าอเมริกาค่ะ
ใช้งานได้เหมือนกัน แต่ราคาจะถูกกว่าของอเมริกาค่ะ

การทำงานของ Botox
ถ้าให้อธิบายง่ายๆ Botox จะมีผลกับส่วนกล้ามเนื้อ
ทำให้กล้ามเนื้อนั้นหยุดทำงานชั่วคราว เหมือนฟรีซไว้ พอหมดฤิทธิ์แล้ว
กล้ามเนื้อก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม คือที่หลายๆคนเรียกว่า โบท็อกซ์คลายค่ะ

หลังจากทำแล้วต้องประมาณ 1-2 เดือนจะเริ่มเห็นผลชัดที่สุดค่ะ
เพราะร่างกายจะค่อยๆปรับ กล้ามเนื้อเมื่อหยุดทำงานก็จะค่อยๆเล็กลง
ไขมันเมื่อไม่มีอาหารไปเลี้ยงก็ค่อยๆหายไป

สำหรับคนที่สนใจอยากทำทรีทเม้นต์เหล่านี้
สิ่งที่อยากให้ดูสนใจหาข้อมูลมากๆที่สุดคือ

1. ความชำนาญของแพทย์คนที่จะทำให้
2. สารโบท็อกซ์หรือไหมที่ใช้ว่าเป็นของที่ใดแล้วครบตามโดสหรือไม่
3. ผลงานที่ผ่านๆมา เป็นตัวช่วยตัดสินใจได้ดีข้อหนึ่งค่ะ
4. ราคา บางครั้งราคาถูก อาจเป็นไปได้ว่าฉีดไม่ครบ Doze ที่ต้องใช้
ข้อนี้ช่วยให้ประหยัดค่ะ แต่ไม่เห็นผลเต็มที่อย่างที่ต้องการ

แล้วจะอยู่ได้นานไหม ?

ขึ้นอยู่กับการดูแล และร่างกายแต่ละคนด้วยค่ะ
ส่วนมากจะอยู่ประมาณ 6 เดือน - 1 ปี
การดูแลรักษา สามารถทำกิจกรรมทุกอย่างได้ ใช้งานการเคี้ยวได้ปกติ
ไม่มีคลายค่ะ หรือจะเซาวน่าก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ ไม่มีผลค่ะ
ร่างกายที่สร้างแนวคอลลาเจนใหม่ ก็จะมีผลต่อการดูแลตัวเอง
หากคุณยังคงทานกระหน่ำ ก็อาจทำให้เห็นผลช้าหรือผลลัพธ์คลายได้เร็ว

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพิสิษฐ์คลีนิคด้วยค่ะ ^^
สำหรับผู้ที่สนใจ แนะนำให้พูดคุยกับคุณหมอเพื่อรับคำปรึกษาก่อนได้นะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม //pisitclinic.com/

หรือ

https://www.facebook.com/PisitClinic

อย่าลืมนะคะ มาแวะพูดคุย หรือฝากคำถามอื่นๆเพิ่มเติม

และอัพเดทเทรนด์เริ่ดๆก่อนใคร กันได้ที่ Facebook Fanpage และ Instagram

แล้วพบกันใหม่ ในบล็อกหน้าค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามค่า

Jupjip

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ

Create Date : 25 กรกฎาคม 2557

Last Update : 25 กรกฎาคม 2557 21:50:06 น.

0 comments

Counter : 5079 Pageviews.