Dead Poet Society : แรงบันดาลใจในสังคมที่วายปราณ
เราทุกคนมีความฝันครับ..... เมื่อเราโตขึ้นเราจะพบว่าประเด็นที่น่าสนใจมากกว่า ความฝันของแต่ละคนคืออะไร? คือ เราจะเก็บความฝันนั้นไว้กับตัวเราได้นานเท่าใด? เพราะเมื่อเรายิ่งโตขึ้น..... เหมือนว่าโลกใบนี้จะพยายามกระชากความฝันออกจากอ้อมอกเราแรงขึ้นทุกที ลองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนสิครับ....ลองรำลึกเล่นๆดูว่าเรากอดความฝันไว้มากเพียงใด.... . . แล้วเมื่อ 10 ปีก่อนละ? . . แล้วตอนนี้ละ??
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับเสียงคำถามเล็กๆในหัวใจว่า มันหายไปไหน?
โรงเรียนเวลตันเป็น โรงเรียนประจำที่บรรจุวัยรุ่นชายหลายร้อยคนร่วมกันไว้............และอย่างที่ทราบกันดีครับ เมื่อชายหนุ่มวัยกระเตาะมาอยู่ร่วมกัน ก็ย่อมมาพร้อมกับฮอร์โมนที่พุ่งพล่าน ความอยากรู้อยากเห็น และการโหยหาอิสระเสรีภาพให้ตัวเอง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านั้นอยู่ใต้กรอบแห่งกฏระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติที่โรงเรียนได้วางไว้อย่างเข้มงวด หากแต่กรอบปฏิบัติของโรงเรียนมิใช่ศัตรูของอิสรภาพทางความคิดเพียงตัวเดียวของเรื่อง...... แต่มันยังต้องต่อสู้กับเรือนจำทางทัศนคติ ของสังคมซึ่งมันเป็นตัวละครที่ใหญ่และใกล้ตัวกว่าซะด้วย
ชาร์ลี ดาลตัน ถูกตัดสินว่าฝ่าฝืนและท้าทายอำนาจของผู้ปกครองจากการแสดงความคิดเห็นเรียกร้องผ่านหนังสือพิมพ์โรงเรียน สมาคมกวีวายปราณ ถูกตีตราว่าเป็นการมั่วสุมที่ชักจูงต่อการประพฤติผิด ทั้งที่เป็นการรวมกลุ่มที่แสดงออกถึงความซาบซึ้งต่อบทกวีที่ไหลผ่านจากหัวใจ นีล แพรรี่ มีชีวิตที่ถูกบังคับให้เป็นไปตามความใฝ่ฝันของผู้เป็นพ่อ ที่ต้องการให้ลูกเป็นหมอเพื่อการยอมรับในสังคม ทั้งที่จิตวิญญาณของเขารู้ซึ้งว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง ทอดด์ แอนเดอร์สัน ถูกบีบคั้นให้เซ็นรายชื่อรับรองรายงานของโรงเรียนโดยครอบครัว ทั้งที่เขาปรารถนาจะปกป้องครูที่เปลี่ยนชีวิตของเขา
.......นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของตัวอย่างของการ จำกัดสิทธิ์ที่จะคิดที่จะฝัน จำนวนมากมายที่แฝงอยู่ในฉากต่างๆของภาพยนตร์เรื่องนี้
สิ่งเดียวที่นำพาแสงสว่างเล็กๆมาสู่บรรยากาศอันมืดทึบของสิ่งแวดล้อมภายในเรื่อง คือ การมาของครูจอห์น คีตติ้ง
ครูที่สอนให้ลูกศิษย์อย่าเพิ่งเชื่อในตำราที่สอน ด้วยการให้ฉีกหน้ากระดาษจากบทเรียนที่เขาวิเคราะห์แล้วว่า ไร้สาระ ครูที่สอนให้ลูกศิษย์เริ่มมองสิ่งต่างๆในมุมใหม่ๆที่ไม่เคยแม้แต่ที่จะคิด โดยให้แต่ละคนลุกขึ้นไปยืนตระหง่านบนโต๊ะครูและดื่มด่ำความรู้สึก ครูที่สอนให้ลูกศิษย์หาวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผ่านรูปแบบการเดินสวนสนามอย่างอิสระภายนอกห้องเรียน ครูที่สอนให้ลูกศิษย์เก็บเกี่ยวเวลาของวันนี้ (Seize the day) เพื่อไม่ให้เราเสียใจในวันหลังที่ใช้ชีวิตตามกรอบอย่างไม่คุ้มค่า
แม้สุดท้าย....แสงสว่างเล็กๆมิอาจจะต้านทานลมแห่งความมืดทึบที่มีพลังมหาศาลได้ แต่อย่างน้อย...มันได้จุดเชื้อไฟดวงเล็กๆอีกหลายดวง ให้ครูคีตติ้งได้พออุ่นใจว่าอย่างน้อยสิ่งที่เขาทุ่มเททำลงไปนั้นไม่เสียเปล่า โดยหวังเล็กๆว่าดวงไฟเหล่านี้จะประคับประคองตัวเองให้ลุกโชติช่วงในอนาคตและมีกำลังมากพอจะไปสร้างเชื้อไฟต่อๆไป...โดยไม่ดับไปเสียก่อน...
.....ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในสังคมที่เป็นลักษณะเดียวกันกับในเรื่อง เราถูกขโมยความฝันไป แล้วมาใช้ชีวิตแบบมาตรฐานคนธรรมดาทั่วไป(ที่เราเคยบอกตัวเองว่าไม่อยากเป็น) ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพราะสังคมมันบอกเราว่า ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะคนใกล้ตัวบอกว่า ทำอย่างนั้นจะดีเหรอ ทำอย่างนี้มันปลอดภัยกว่านะ จนกลับกลายเป็นเราก็คล้อยตาม โดยย้ำบอกตัวเองว่า เราคงทำได้แค่นี้แหละ ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไหร่ระบบการศึกษาของเราก็ยังคงเป็นการท่องจำกับความรู้ที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไร การเรียนที่มุ่งเน้นให้คิดอยู่ในกรอบ การเรียนที่พยายามหาสูตรสำเร็จหรือทางลัดในการพิชิตโจทย์ต่างๆให้ง่ายและเร็วที่สุด เราเติบโตมาโดยปราศจากคนอย่างครูคีตติ้ง ไม่มีคนมาคอยบอกเราว่า ลองมองมุมอื่นดูสิ ลองทำแบบที่คนอื่นไม่ทำกันสิ เธอทำได้อยู่แล้ว ครูเชื่อ.... แต่เราพากันจูงมือกันเข้าสู่โรงงานผลิตมนุษย์ซึ่งเร่งปั๊มคนมาตรฐานเดียวกันออกมา..........อย่างสมยอมซะด้วย
....แล้วได้คำตอบหรือยังครับว่า มันหายไปไหน? หลายเสียงพูดเป็นทำนองเดียวกันหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า สร้างแรงบันดาลใจให้เขาอยากเป็นครู.... ซึ่งแท้ที่จริงเราไม่จำเป็นต้องเป็นครูหรอกครับ... เราสามารถสร้างแรงบันดาลใจและให้กำลังใจให้กับคนอื่นได้แม้เราจะเป็นคนตัวเล็กๆอย่างนี้แหละ เราไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่เพื่อที่จะบอกคนใกล้ตัวว่า ฉันเชื่อในตัวเธอนะ หรือไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จเพื่อที่จะบอกว่า จงกล้าฝัน และทำให้มันเป็นจริง.... แท้จริงแล้วไม่ว่าเราจะเป็นใคร......เราก็สามารถเป็น จอห์น คีตติ้ง ให้คนรุ่นต่อๆไปได้ครับ
.....ร่วมกับผมมั๊ยครับ?
ป.ล. ผมโคตรชอบชื่อ ครูครับ...เราจะสู้เพื่อฝันเลยครับ เป็นชื่อที่สปอยล์ได้อย่างลงตัวมากๆ
Create Date : 15 มิถุนายน 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 0:30:04 น. |
Counter : 2415 Pageviews. |
|
|
|