3. หมวดสมบูรณ์แบบแสบหยักสมอง - Inception
อย่าพยายามมาไล่ตรรกะของหนังเรื่องนี้กับผม...ผมโง่กว่าคุณพนันได้...
ผมไม่ได้ปลื้มเรื่องนี้เพราะมันซับซ้อน
เพราะฉะนั้นอย่าพยายามถามคำถามแบบมนุษย์โลกถึงความเป็นเหตุเป็นผลในการเล่าเรื่องของหนัง...
เพราะผมดูในมุมแบบโนแลน....
....ดูแบบเทพ (^_^)/
เทพโนแลนเขาไม่พยายามหาคำตอบแบบมนุษยโลกหรอก...
จริงๆเทพเองคงจะตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น....
ผมคิดถึงวันหนึ่งถ้าผู้อำนวยการสร้างขว้างโจทย์ง่ายๆมาให้คนอยากเป็นผู้กำกับโง่ๆอย่างผม
...ผมขอหนังที่แปลกใหม่นะ แบบเป็นนวัตกรรมหน่ะ
และ...ผมขอหนังที่เล่นเกี่ยวกับจิต ความคิด ปรัชญา และวิทยาศาสตร์ด้วยนะ
และ...ผมขอหนังที่แบบซับซ้อน ทำให้คนต้องคิดตามตลอดทั้งเรื่องนะ
และ...ผมขอหนังที่แบบสร้างกลไกขึ้นมาใหม่ สร้างสรรค์สถาปัตยกรรมแบบใหม่ ที่ใช้อธิบายเรื่องราวใกล้ๆตัวของคนเราด้วยนะ จะได้เปิดมิติความคิดของคน
และ...ผมขอให้เป็นหนังที่จบแบบไม่ยัดเยียดสรุป มากพอที่คนดูแล้วจะเกิดกระแสถกเถียงกันในมนุษยโลกนะ...
และ...ผมขอหนังที่เป็นแนว แอคชั้น ดรามา ไซไฟ ทริลเลอร์ นะ
และ..ผมขอหนังที่คนดูสามารถดูหลายๆรอบได้ด้วยนะ
และ...ผมขอให้มีการหักมุม มีชั้นเชิง ในหนังด้วยนะ
และ....เหนือสิ่งอื่นใด ขอให้มันสนุก ตื่นเต้นและน่าติดตามด้วยนะ
และอ้อ...สุดท้าย ผมขอให้ มีโปรดักชั่นดี ดาราดี ลำดับภาพดี เอฟเฟกต์ดี บทพูดดีและดนตรีประกอบดี ด้วยนะ
ผมคงจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูเขาว่า "ให้พ่อคุณมาทำสิครับ..."
แต่พี่คริสเขาทำได้!!!
นั่นไงผมเลยยกตำแหน่งสมบูรณ์แบบให้โดยปริยาย
Shot ประทับใจ : ฉากจบ...มันจบได้ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!!!
4. หมวดน้ำตาหลั่งไหลหัวใจตื้นตัน - I AM SAM
จะหาว่าขี้แยก็ได้นะ.... แต่ผมดูเรื่องนี้ครั้งแรกแล้วเสื้อเปียกไปครึ่งตัว
ดูรอบพิเศษซะด้วย (ขอคุยหน่อย)
2 ชั่วโมงกว่าๆ ถูกขยายความขึ้นมาจากประเด็นขัดแย้งเล็กๆระหว่างสองสิ่ง
"วุฒิภาวะทางความคิด" กับ "วุฒิภาวะทางความรัก" ?
โอ้โห....แค่นี้ก็เล่าได้ยาวแล้ว....
การเล่าเรื่องที่ทั้งสนุกและสะเทือนอารมณ์ไปพร้อมๆกัน แฝงปมประเด็นทางสังคมและความคิด ให้เราต้อง"หยุด" เพื่อขบคิดอยู่หลายๆครั้ง
ขณะที่น้ำตาก็ไม่ได้หยุดทำหน้าที่ของมันเลย...
ที่ผมชอบมากๆ คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มี"ตัวร้าย"เลย
มันเป็นเรื่องเหตุผลของคนดีๆ ที่บังเอิญมันขัดแย้งกัน...
จนไม่รู้จะเอาใจช่วยตัวละครตัวไหน.....จากหนังทั่วๆไปที่ไม่มีตัวไหนอยากจะเอาใจช่วย... มันเจ๋งตรงนี้แหละ...
สิ่งที่ดีที่สุดของหนังอย่างหนึ่ง คือ การแสดงของฌอน เพนน์, มิเชล ไฟเฟอร์ และเอสสเปเชียลลี่...ดาโกต้า แฟนนิ่ง ในวัยเจ็ดขวบ ที่โผล่มาฉากไหน ผมก็ถูกสะกดเมื่อนั้น แววตาของน้องแกมันแบบ แสดงอารมณ์ได้แบบถึงมากๆ ทั้งเศร้า ทั้งสุข ทั้งสับสน ดูแล้วแบบเข้าใจตัวละครจริงๆ ......พลังสูงมากๆ
เป็นภาพยนตร์ที่โศกทุกข์สนุกสุขสันต์รันทดที่งดงาม
Shot ประทับใจ : Sam ระเบิดอารมณ์เพื่อสอนริต้า...ถึงความเล็กน้อยของปัญหาสำหรับมนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเรา
5. หมวดสะเทือนใจอะไรกันนี่.. - Nada Sou Sou
ญี่ปุ่นเรื่องนี้ หลายคนคิดว่ามัน"มาก"เกินไป...
แต่สำหรับผมแล้ว....เอามากๆแบบนี้แหละ....
พี่ชายน้องสาวต่างพ่อมีความรู้สึกที่มากกว่าพี่น้องกันที่ต่างต้องเก็บเอาไว้ในมุมที่ลึกที่สุดของหัวใจ....
....บทมันดู"เห่ย"มาก....
แต่แหม...การเล่าเรื่องและอารมณ์ของหนังนี่มันโดนจริงๆ
ผมหลงรักพระเอกตั้งแต่วินาทีแรก (นั่น!!!) คนบ้าอะไรจะอารมณ์ดี จิตใจงาม มองโลกบวก ขนาดนั้น
แต่คนดีๆ อย่างพี่ชาย ใยต้องมีแต่เรื่องให้ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
น้องสาวที่แอ๊บน่ารักเกิ๊น แต่ก็ดูซุกซน สดใส บริสุทธิ์พอที่ทำให้เรารู้สึกหลงรัก
เราก็เลยเอาใจช่วยทั้งคู่จนเหนื่อย....
ด้วยความน่ารัก ความทะเยอทะยาน การต่อสู้ และความรักที่ค่อยๆถูกผสมปรุงกันอย่างกลมกล่อม จนออกมาเป็นผลลัพธ์ที่เป็นสุขนาฏกรรมที่สะเทือนใจชิ้นนี้
จึงทำให้เป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ตรึงใจผมได้โดยปริยาย
Shot ประทับใจ : รอยยิ้มที่กลบเกลื่อนความระทมของพี่ชาย และปากหมาที่กลบเกลื่อนปรารถนาดีของยายขายถั่วงอก
6. หมวดระทึกขวัญสัตว์ประหลาดฟาดแง่คิด - The Mist
เหตุหลง่ายๆ ที่ฟังโง่ๆ ที่ผมปลื้มหนังสัตว์ประหลาดเรื่องนี้คือ...
...เพราะสัตว์ประหลาดมันเยอะ เลอะ เทอะ เรี่ยราดดี...
แอบคิดย้อนไปถึงห้องประชุมบอร์ดบริหารที่มีอเจนด้าว่าจะเลือกเดรัจฉานประเภทไหนดีในโปรเจกต์ภาพยนตร์เรื่องใหม่...
....ในขณะที่ผู้เข้าร่วมประขุมกิตติมศักดิ์กำลังถกเถียงถมึงทึงดึงดัน "สัตว์ปั้น" ของตัวเองให้เข้าวิน ท่ามกลางเอกสารและโมเดลนับร้อย
...ผู้บริหารสูงสุดทุบโต๊ะ พร้อมวาทกรรมอำมหิตอันหนักแน่น... "เอาแม่งหมดนี่แหละ....."
เราจึงได้เห็นมันทุกประเภทในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึกบก แมลงปอยักษ์ แมงมุมโหด เต่าทองนรก หรือ ตัวห่าอะไรไม่รู้เกลื่อนกลาด....
ตัวประหลาดว่าเยอะ ว่าเลอะเทอะแล้ว...
คนประหลาดยิ่งดูเยอะ และเลอะเทอะยิ่งกว่า...
ห้างน้อยภายใต้หมอกขาว เปรียบเหมือนย่อโลกเป็นใบเล็กๆ และตีแผ่ให้เห็นสังคมว่า...คนจะเป็นอย่างไร เมื่อถูกความกลัวขั้นสูงสุดครอบงำ....
Shawshank บอกว่า... Fear Can Hold You prisoner...Hope Can Set you Fee
The Mist กระแทกเบาๆกลับไปว่า... Fear Changes Everything
หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกทั้งสนุกและเหนื่อยในเวลาเดียวกัน
เหนื่อยในการต่อสู้...ต่อสู้ทั้งอะไรไม่รู้ภายนอก...และอะไรก็ไม่รู้ภายใน
และทำให้เราฉงนคิดว่า...ศัตรูตัวไหนอันตรายกว่า?
ช่างเหน็บแนมมนุษย์ได้อย่างแสบสันต์รูทวารอย่างยิ่ง...
ไม่รู้สิ.... บางครั้งที่ผมเปิดข่าวในประเทศดู....
....ผมจะคิดถึงหนังเรื่องนี้...
Shot ประทับใจ : เปรี้ยง!!!! ตายซะนังป้า.... และฉากจบในตำนาน
7. หมวดสร้างสรรค์แรงบันดาลใจเติมไฟให้วิญญาณ - Dead Poet Society
ยอมรับว่าดูเรื่องนี้รู้เรื่องก็ตอนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว...
ตอนผ่านชีวิตมากระจิ๊ดริด ก็งงเหมือนกันว่าเรื่องนี้...มันสนุกตรงไหนวะ...
แต่ดูตอนที่เริ่มมีความโชกโชนขึ้นมาบ้างก็อึ้งๆไปเหมือนกัน
ภาพยนตร์ที่เหมือนจะเล่าเรื่องแบบเนิบๆ เรียบๆ ชิลล์ๆ อ่อนแรง...
แต่ซ่อนหมัดแย๊บให้เราได้น่วมและช้ำแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน
มันตอบคำถามที่เราลืมสงสัยไปได้ว่า "ความฝันวัยเด็กของเรามันหายไปไหน?"
เพราะกรอบของสังคมในรั้วกำแพงของโรงเรียนเวลตัน มันก็สะท้อนกรอบของสังคมบนโลกของเราดีๆนี่เอง...
เราถูกจองจำด้วย "เรือนจำทางทัศนคติ" แบบที่เราไม่ได้ยินยอมแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เพราะไม่ได้รู้ตัว...
หนังเรื่องนี้คงจะมีความหมายถ้าไม่มีการมาถึงของ "ครูคีตติ้ง"
ที่พฤติกรรมและการกระทำของเขาได้จุดไฟเล็กๆในห้องมืดหม่นขึ้นมา... รวมทั้งไฟเล็กๆในใจที่มืดหม่นของผมอีกด้วย...
ไฟที่กระซิบบอกผมเบาๆว่า เราไม่จำเป้นต้องทำเหมือนคนอื่น...
ไฟที่กระซิบบอกผมเบาๆว่า จงฉวยวันนี้เอาไว้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป..
ไฟที่กระซิบบอกผมเบาๆว่า ถึงคนจะไป แต่แรงบันดาลใจยังอยู่...
อุว้าว หลายดวงเข้าก็เริ่มสว่างแฮะ...
ก็ไม่แปลกที่บรรดาหนุ่มสาวที่ดูเรื่องนี้แล้วอยากจะเป็นครูกันเป็นทิวแถว...
เพราะอยากจะเป็นต้นไฟนี่แหละ...
แล้วทำไมจะเป็นไม่ได้ละ?
Shot ประทับใจ : บทเรียนของชีวิตจากภาพอนุสรณ์ของรุ่นพี่
8. ภาพยนตร์รักโรแมนติคกุ๊กกิ๊กซิกจี๊ด - Love Actually
ฉากแรกก็น๊อคแล้ว.....
" เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกโศกเศร้ากับโลกใบนี้ ผมมักจะคิดถึงภาพในประตูทางเข้าที่สนามบิน"
แล้วจบด้วย Intro Title "Love Actually Is all Around"
โอ้โห....เก๋เฟี้ยว!!!
จากนั้นมันก็พาผมหลงเข้าไปอยู่ในเรื่องแบบลืมโลกเลย...
หลงไปกับอะไรก็ไม่รู้ จับใจความได้อยู่คำเดียว คือ รัก รัก รัก รัก รัก ฯลฯ จากใครก็ไม่รู้นับสิบคู่ สิบมิติ สิบมุมมอง
สนุก เศร้า ซึ้ง ขำ ซีเรียส สุข ฮา น้ำตาไหล ใจพองโต
มันให้หมดเลย....
รักแบบเพื่อน แฟน คู่รัก พ่อแม่ กิ๊ก พี่น้อง ทีมงาน คนแปลกหน้า
มันให้หมดเลย...
มันเป็นหนังสำหรับคนที่ "รักความคุ้ม" เพราะมัน "คุ้มความรัก"
และ Key Message ของหนังเรื่องนี้มันกระแทกลงมาให้นึกถึงเวลาที่ท้อแท้อยู่เสมอ...หนำซ้ำกลัวไม่ติดตรึงใจพอเลยมาในรูปเสียงเพลงอีกช่องทาง...แบบไม่ต้องกั๊กเลยว่า...
...."LOVE IS ALL AROUND".....
รู้สึกหรือเปล่าละ?
Shot ประทับใจ : ก็นั่นแหละทั้ง Intro และ Ending
9. หมวดยิงแหลกแอคชั่นมันส์ระเบิดเปิดดวงตาอ้ารูหูบู๊ระห่ำน้ำกระจายตายพอดี - True Lies
James Cameron ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง....
ควงคู่มากับ
Arnold Schwarzenegger (ใครสามารถสะกดนามสกุลพี่เขาโดยไม่ต้องพึ่ง Wikipedia ได้บ้าง?) ยอดดารานักบู๊แห่งศตวรรษ
จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้....
พี่เจมส์แกก็ฉลาดพอจะใช้พี่กล้ามอย่างถูกทาง ไม่ต้องพูด ไม่ต้องแสดงอารมณ์ ยิงแม่มลูกเดียว!!!!...
นั่นแหละที่ผมชอบ
เนื่อเรื่องไม่รู้ บทพูดไม่แคร์ แต่มันส์เห้.....จบ!!!
ผมชอบที่เจมส์พยายามทำหนังสไตล์เจมส์ บอนด์ แบบไม่ต้องลีลามากมาย ลงไปลุยแหลกแหกระห่ำ ยำกันให้เวอร์โคตรๆเข้าไว้...
ที่ชอบยิ่งกว่าคือมันตอบโจทย์แอคชั่นได้อย่างไม่ลังเล ไม่กั๊ก...
เพราะในเรื่องนี้สิ่งที่คุณจะเห็นนอกจากการยิงกระหน่ำซัมเมอร์ซอลท์ ยิงแบบไม่โดนซักทีตามมาตรฐานแอคชั่นทั่วไปแล้ว ยังมีอุปกรณ์
ประกอบฉากแอคชั่นที่เรียกว่าขนกันมาทั้งกรุเลย ไม่ว่า จะเป็นระเบิดโครมๆ บู๊มอเตอร์ไซค์ บู๊เฮลิคอปเตอร์ บู๊รถยนต์ บู๊เครื่องบินF15 บู๊สกี หรือแม้กระทั้งบู๊ม้า ... คุ้มกันอีกแล้วครับท่าน...
ยังไม่นับมุขตลกที่สอดแทรกกันมาให้ฮาเป็นพักๆ อีกนะ...
นั่นแหละ ไม่ต้องสงสัย เอารางวัล "บู๊คุ้ม" ไปครองเลย
Shot ประทับใจ : อาร์โนลด์ขี่ม้าไล่ล่าในโรงแรม!! ใครคิดวะเนี่ย.....
10. หมวดเขย่าขวัญสั่นประสาทแขนขาขาดเลือดสาดกระจาย - Dawn Of the Dead
หนังผีนี่หายากนะ....
เอาแบบเข้าตาก็หายาก...
อันนี้คงจะเป็นรสนิยมส่วนบุคคลละมั้ง ผมไม่ชอบหนังผีแบบ โผล่แฮ่ หรือ ผีแบบลึกลับซับซ้อนซ่อนเงือน หรือ ผีครีเอท ที่สรรหาวิธีหลอกให้แบบคนจินตนาการไม่ถึง... มันดูเป็นผีเฟคไปหน่อยอ่ะ...
ผมเลยกลับหลงรักผีแบบจริงใจ ชัดเจนมากกว่า
ผีที่แบบกรูคือผี.... กรูไม่ได้ซ่อนตัวด้วย กรูไม่ได้โผล่แวบด้วย
กรูมีอยู่เต็มเลยยย และกรูจะกินมรึง....
นั่นแหละผีจริงใจ
เป็นผีที่เน้นปริมาณ ไม่ค่อยเน้นคุณภาพเท่าไหร่
เน้นมากไม่ได้ แต่ละตัวก็เดินช้าแบบชีวิตบัดซบ
แต่ถ้าเข้าถึงตัวได้ เอ็งตายยยยย
นั่นแหละผมเลยชอบเรื่องนี้....
ผมชอบเพราะมันไม่ได้บอกที่มา และไม่ได้บอกที่ไป ปล่อยให้เรางงเหมือนตัวละครในเรื่องนั่นแหละ จะได้มีอารมณ์ร่วม
ผมชอบตรงที่เอาคนหลายๆคน หลายๆประเภทมารวมกันในที่ปิด....ปิดด้วยซอมบี้
ผมชอบตรงการสร้างและลำดับสถานการณ์ที่ตึงเครียดไปตามลำดับ
แต่ผมก็ชอบที่มันไม่"กด"เราจนเกินไป ก็มีช่วงผ่อนคลายให้เราได้หายใจสบายๆบ้าง
แง่คิดอะไรไม่ค่อยได้หรอก ดูสนุกๆอย่างเดียว
เพราะผมชอบผีจริงใจ....
Shot ประทับใจ - เลื่อยไฟฟ้าปลิ้นมาเฉาะแขนตัวเองนี่แหละ...โหดแบบคาดไม่ถึงดี
ทั้งหมดมวลเป็นเรื่องของทศนิยมนะครับ....(รสนิยม!!! - ซอมบี้ผีจริงใจมาช่วยแก้....)
อีกหลายเรื่องก็ว่าจะหามาดู เพราะอ่านคำสาธยายแล้วมันน่าสนใจ
เราเชื่อพระเอกอยู่แล้ว ว่าตาถึง
นี่เชื่อง่ายไปหรือเปล่า
คำแต่ละคำคมลึก สะอึกให้คิด
เล่าได้เห็นภาพเลยนะคะ
เพลงบางเพลงในภาพยนต์บางเรื่องก็ยังทำให้ซึ้งได้ไม่รู้จบ
ทั้งๆที่บางเพลงก็ฟังไม่รู้เรื่อง อิ อิ
คิดถึงจั๊ง จัง
แอมอร