Bloggang.com : จอมเยอะเล่า : false sense of security: ธุรกิจ หมอ ช้าง หนู

false sense of security: ธุรกิจ หมอ ช้าง หนู

"เป็นหมอน่ะดี แต่มันไม่ต่อถึงลูก ถึงหลาน ... สู้ทำธุรกิจไม่ได้ ต่อถึงลูก ถึงหลาน"

ความคิดผิดๆ แบบนี้อีกแล้ว

จริงๆแล้ว ใช้เวลาเท่าไร ในการที่ธุรกิจแย่จนถึงเจ๊ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ขายไม่ดี ไม่กี่เดือนก็รู้เรื่อง
SME กิจการไม่ดี ... ไม่เกิน 3 ปี
บริษัทใหญ่ๆหน่อยก็นานหน่อย ขึ้นกับ สายป่าน ... Kodak เจ๊งแล้ว

แต่ถ้าลูก หลาน ของเรา มันไม่เอาไหน จริงๆ มีอะไรให้ ก็ไม่พอหรอกครับ เอาไม่อยู่หรอกครับ

มันแค่หลอกตัวเองได้เท่านั้น ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ และเลี้ยงมัน จ้างมัน (ที่ไม่เอาไหน) มาทำงานให้เรา
แต่พอเราตายไปแล้ว ถ้ามันไม่เอาไหนจริงๆ ก็แค่โชคกับเวลาเท่านั้นหละ ว่ามันจะเจ๊งเมื่อไหร่

หรือ แม้แต่กิจการเข้มแข็งมั่นคงจริง เป็น บริษัท มหาชน ถือแต่หุ้น มีเงิน ทอง ให้ใช้มากมาย
คิดว่า ลูก หลาน ถ้ามันไม่เอาไหน จริงๆ มันจะรอดเหรอ?

แล้ว คิดว่า ไอ้พวกที่รวยๆ ดูเหมือนมีทุกอย่าง แล้วติดยา แล้วฆ่าตัวตาย เพราะอะไร

ไม่มีทาง ที่เราจะป้องกัน เรื่องร้ายๆ ทุกอย่าง ที่อาจเกิดกับ ลูกหลานของเรา ได้หรอกครับ

เรื่องงาน ... มีธุรกิจให้มันทำ ... จะรอดมั้ย? ... สมมติว่ารอด

เรื่องชีวิตครอบครัว ... หาแฟนให้มัน แต่งงานให้มัน ... จะอยู่กันรอดมั้ย? ...
แล้วถ้ามันไม่เอาไหน มันจะเลี้ยงหลานของเรา ออกมาดีมั้ย?

เรื่องสุขภาพ ... เราห้ามไม่ให้มันเป็นมะเร็งได้มั้ย? ... เราห้ามไม่ให้มันเป็นโรคหัวใจได้มั้ย?

เรื่องสภาพสังคม ... เราห้ามไม่ให้มันเกิดอุบัติเหตุได้มั้ย? ในท้องถนน ของสังคมไทย ที่ขับรถอันตราย ไม่มีน้ำใจ ไม่เคารพ กฏจราจร ... แล้วตัวมันเอง จะไม่ขับรถอันตรายไปทำร้ายตัวเองและคนอื่นมั้ย?

แล้วคนประท้วงหละ ยิงกันหละ เราแน่ใจได้ไงว่า ไอ้ลูกเรา หลานเรามันจะไม่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา หรือ แม้แต่มันจะเกิดเลือดเดือดดันไปร่วมประท้วงกับเขาด้วย

เรื่องภัยธรรมชาติ ... เราห้ามซึนามิ ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ได้มั้ย?

สงครามกลางเมืองหละ ถ้ามันจะเกิดเราห้ามได้มั้ย? ถ้าเกิดแล้วมันจะรอดมั้ย?

แล้วแม้แต่ไม่มีอะไรเลย ... ถ้าลูกหลานเรา มันจะติดเหล้า ติดยา ฆ่าตัวตาย ทำร้ายตัวเอง หรือ ชาติชั่วจังไร จนเรารู้สึกไม่น่าให้มันเกิดมาเลย จะไม่ยิ่งกว่าเหรอ?

ไม่มีทางที่เราจะป้องกันลูกหลานของเราได้จากทุกๆเรื่อง (ทั้งภายนอก และ ภายในตัวเขาเอง)
ความจริงของชีวิต ก็คือ มีโอกาสที่เรื่องร้ายๆจะเกิดขึ้นได้มากมาย หลายแบบ
แต่ ไม่ใช่ว่า เราจะคอยแต่กลัว แต่กังวล ว่ามันจะเกิด
มีลูกหลาน เลี้ยงเขาให้ดี ให้เขามีความคิด ให้เขาเติบโต ในแบบของเขา
เขาอาจจะไม่เพอร์เฟ็ค (เราเองก็ไม่เพอร์เฟ็ค ยอมรับมาเถอะ) แต่เชื่อเถอะว่า เขาเอาตัวรอดได้ ... ถ้าไม่ได้ ก็ต้องยอมรับ ว่ามันเป็นธรรมชาติ ของชีวิต
ให้ลูกของเรา หลานของเรา มีชีวิตของเขา ... มันจะสั้น มันจะยาว มันจะสบาย มันจะลำบาก ... มันเป็นเส้นทางชีวิตของเขา ... ความลำบาก ความผิดหวัง บางทีมันก็ถูกเข้าใจผิด ถูกกลัวจนเกินไป

"ความลำบาก ความผิดหวัง ความพ่ายแพ้"
... ช่วยสอนเขา ได้ดีกว่าที่เราบ่น
... ช่วยฝึกเขา ได้ดีกว่าที่เราสอน
... ช่วยทำให้เขาได้คิด ได้ดีกว่าอะไรก็ตามที่เราจะทำได้

บุคคลที่ยิ่งใหญ่ทุกคน ผ่าน ความยากลำบาก มาแล้วทุกคน
... ถ้าเราสอนเขามาดีแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในตัวเขา ให้โอกาสเขาได้ถูกธรรมชาติทดสอบ
ถ้าเขาผ่านได้ เขาคือ คนยิ่งใหญ่
ถ้าเขาผ่านไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ... คนส่วนใหญ่ ก็ติดที่อะไรระหว่างทางเหมือนกัน
... ตัวเราเอง ก็ติดอยู่ระหว่างทาง

ถ้าเราให้โอกาสเขา ทำใจเป็นกลาง หยุดตัดสินเขา หยุดเป็นห่วงเขา หยุดกังวลเขา
ให้ความไว้ใจเขา ... เราอาจจะแปลกใจ ว่า เขาอาจทำได้ดีกว่าที่เราคิด หรือแม้แต่ ทำได้ดีกว่าที่ เราทำเองซะอีก

ชีวิต ... เป็นเรื่องแปลก และ มหัศจรรย์ในตัวเอง
... มีโอกาสน้อยมากๆ ที่กรดอะมิโนอิสระ จะมาเรียงตัวกัน เป็นโปรตีนได้เองในธรรมชาติ
... น้อยมากจนภาษาชาวบ้านเรียกว่า เป็นไปไม่ได้
... นักวิทยาศาสตร์ ก็ยังไขความลับที่ยิ่งใหญ่ข้อนี้ไม่ออก

พูดง่ายๆ คือ มันไม่น่าจะมีชีวิต เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
แต่ มันก็เกิดมา เยอะด้วย หลากหลายด้วย และ หลายๆแบบก็ซับซ้อนด้วย

การที่เราเกิดมาได้ มันก็มหัศจรรย์ อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น
อย่ากลัวมาก
... มีโอกาสมากมายที่ชีวิตจะเกิดมาไม่ได้
... มีโอกาสมากมายที่ ถึงชีวิตเกิดได้ ก็จะไม่ซับซ้อน
แต่มันก็เกิด แต่มันก็ซับซ้อน
... ดังนั้น แม้จะมีโอกาสมากมายที่ ชีวิตจะแย่
... แม้จะมีโอกาสมากมายที่ ชีวิตจะจบสิ้น
แต่มันก็ไม่ได้แปลว่า มันจะแย่ มันจะจบ
... วางใจ ไว้ใจ ... ให้มีความสงบในใจ ... มีความมั่นคงภายใน ...
... ปัญหามันอยู่ที่ตัวเรา มันอยู่ที่ความไม่มั่นคงภายในใจของเรา ... ไม่ใช่ที่ลูกเรา ไม่ใช่ที่หลานเรา

กลับมาเรื่อง ธุรกิจ กับ ลูก, โอกาสที่ ลูก หลาน ของเรา จะรอดได้ดีที่สุด คือ ให้เขา ได้เล่นในเกมส์ ของเขา ได้เดินไปบน เส้นทาง ที่เขาเกิดมาเพื่อเดินมัน

ช้าง แม้จะตัวใหญ่ ดูสง่างาม เป็นที่สนใจของผู้คน
แต่ถ้า พูดถึง สามารถในการอยู่รอดแล้ว ช้างไม่ได้มีความสามารถในการอยู่รอดมากไปกว่าหนูเลย

บางครั้ง การเป็นพ่อ เป็นแม่, เราอยากเป็นช้าง ... เราอยากให้ลูกหลานของเราเป็นช้าง ... แต่ถ้าธรรมชาติจริงๆ แล้วเขาเป็นหนู
แล้วเรายอมให้เขาเป็นตัวของเขาเอง นั่นแหละครับ เส้นทางที่เขาจะมีโอกาสรอดมากที่สุด

สิ่งที่ดีที่สุด คือ สอนให้ลูกหลานของเรารู้จักคิด
แล้วเมื่อถึงเวลา ปล่อยให้เขาเดินเส้นทางของเขาเอง ... เขาจะมีโอกาสรอดมากที่สุด

ไม่มีอะไรที่ต่อผ่านกันได้จริงๆ นอกจาก สายเลือด ความคิด หลักการ และ คุณค่า.

ส่วนปัจจัยภายนอก, เช่น ธุรกิจ เงินทอง ชื่อเสียง คนรู้จัก, อาจช่วยเขาได้ตอนเริ่มต้น.
แต่อย่าดูถูกลูกหลานของเราเอง.
เชื่อเถอะครับว่า ถ้าเขาเลือกเส้นทางของเขา ถึงเขาไม่มีปัจจัยภายนอกที่ช่วยในการเริ่มต้น.
แต่ถ้าภายในเขามีปัจจัยที่ดี, ปัจจัยภายนอกทุกอย่างที่เราคิดว่าเราเตรียมไว้ให้เขา เขาสร้างเองได้.
จริงๆแล้ว, เขาจะลำบากกว่าด้วยซ้ำ ถ้าเขามีแต่ปัจจัยภายนอกที่เราให้ แต่ไม่มีปัจจัยภายในเลย.

ไม่ว่า ช้างจะตัวใหญ่แค่ไหน ถ้าพูดถึงโอกาสรอดชีวิต มันไม่ได้มีโอกาสรอดที่ดีไปกว่า หนูที่แข็งแรง หรอกครับ

เมตตา ปัญญา ความกล้า พลัง มีแก่ทุกท่านครับ
ขอบคุณครับ

Create Date : 30 มีนาคม 2555

Last Update : 30 มีนาคม 2555 10:51:31 น.

0 comments

Counter : 1287 Pageviews.