ก้าวแรกและก้าวต่อๆไป
ย้อนไปเกือบยี่สิบปีก่อน ถนนหนทางเข้าสู่หมู่บ้านตามชนบท ส่วนใหญ่มักจะเป็นถนนลูกรัง หน้าร้อนฝุ่นผงละเอียดสีแดงปลิวว่อน แม้เพียงต้องลมพัดผ่าน นั้นเพราะพื้นถนนที่แห้งผาก ปราศจากน้ำฝนหล่นมาชโลมผิว ต้นไม้ริมทางจำต้องเปลี่ยนใบสีเขียวสดเป็นลวดลายสีฝุ่นอย่างไม่เต็มใจ เด็กน้อยเดินไปโรงเรียนอย่างมุ่งมั่น รองเท้านักเรียนมีใส่บ้างไม่มีบ้าง ถุงเท้าขาวหม่นยิ่งหม่นหมองเพราะต้องฝุ่นแดงจากการเดินไปเตะฝุ่นไป ของเด็กผู้ชายดีหน่อยสีน้ำตาลมองไม่ออก แต่เมื่อเข้าห้องเรียนกลิ่นตลบเชียว ข้าวห่อใส่ปิ่นโตบ้าง ใส่กล่องข้าวแล้วนำไปใส่ในกระเป๋าอีกทีหนึ่ง บางคนใส่ถุงพลาสติกเวลากลับบ้านก็เอาแต่ช้อนกลับไปล้าง ส่วนถุงก็ทิ้งไป เด็กบอกว่ามันทำให้กระเป๋าเบาลงและไม่มีเสียงดังเวลาเดิน หากเอาช้อนใส่กล่องข้าว(เมื่อข้าวลงสู่กระเพาะหมดแล้ว)จะมีเสียงช้อนกระทบกล่องข้าวดังน่ารำคาญ สองฝั่งของถนนจะเป็นคูคลองสายเล็กๅ มีดอกบัวชูช่อทักทายเด็กๆ นานๆจะมีรถยนต์ผ่านมา เด็กต้องเดินชิดขอบถนนและหยุดกับที่พร้อมเอามือปิดจมูกทันที รอจนฝุ่นสีแดงจางลงแล้วจึงสาวเท้าเดิน เดิน เดินต่อไป ระยะทางเป็นกิโล บางคน 2 กิโล บางคน 3 กิโล บางคนเกินกว่า 3 กิโล แต่ทุกคนมีจุดหมายเดียวกัน คือ ไปให้ถึงก่อนธงชาติผืนเล็กๆปลายธงขาดหน่อยๆเพราะต้องต่อสู้กับแรงลมที่มาทายทักทุกเมื่อเชื่อวัน จะขึ้นสู่ยอดเสาไม้ไผ่ซึ่งสูงพอแหงนคอมองไม่ทันเมื่อย วันนี้ และทุกๆวันจากนี้ไป เด็กๆจะมีความสุขกับโรงเรียนเล็กๆ มีครูบรรจุมาใหม่ 4 คน มีครูใหญ่มารับตำแหน่งใหม่ จากบ้านย่านอาศัย จากเมืองศิวิไลซ์ก้าวสู่หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่ากันดารอันดับต้นๆของจังหวัดใหญ่ทางภาคใต้ของไทย นั่นคือ "พรุเคร็ง"
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 1 ธันวาคม 2552 21:23:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 322 Pageviews. |
|
|