|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ชอบอ่านเรื่องผี เขียนเรื่องได้หลายแนว กำลังหัดเขียนเรื่องผีจากคนใกล้ตัว ประสบการณ์ตรงไม่มี อิอิ....
****สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปโพสต์หรือไปลงที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ดุนะเนี่ย เด๋วส่งผีตำรวจไปหลอก แบร่ๆๆๆๆ
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ก่อนเริ่มเรื่อง
เรื่องลี้ลับในสังคมของเรา ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการบอกเล่ากันในหมู่ญาติสนิทมิตรสหายใกล้ชิดในสิ่งแปลกๆที่ประสบพบเห็นกันมา สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ไม่ได้ บางท่านก็อาจเชื่อหรือไม่เชื่อ กลายเป็นคำพูดที่พูดกันติดปากว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ตรงของแม่ แม่ของข้าพเจ้าคือ (ในบล็อกขอละไว้ก่อน) อายุ 79 ปีนี้ ย่าง 80 ปี ในปี พ.ศ. 2552 นี้ แม่เป็นคนที่ชอบเห็นอะไรแปลกๆ หรือมีสัมผัสอะไรเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่ามีทรานซิสเตอร์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และก็ไม่ใช่ว่ามีความสุขสนุกสนานกับสิ่งที่เป็น ความจริงแม่เป็นคนกลัวผีเป็นที่หนึ่ง ....แต่...นั่นแหละ เขาว่าไม่ชอบอะไรก็มักจะได้อย่างนั้น วิญญานต่างๆดูจะชอบแม่เป็นพิเศษ ชอบพาเหรดมาให้ดูเป็นระยะๆ
พอแม่เจออะไรเข้า ก็มักจะเล่าให้คนใกล้ชิดฟังเป็นประจำ ข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้มาตั้งแต่เด็ก แต่เป็นคนไม่มีซิกเซ้นท์หรือตาพิเศษอะไรใดๆ แม่จะก็เล่าเรื่องต่างๆให้เพือนฝูงใกล้ชิด หรือในวงสนทนาบ่อยๆ ยกเว้นเรื่อง สายโลหิต ที่แม่ได้ยินมาจากคุณยายอีกทีหนึ่ง ถ้าใครคิดว่าแม่กินข้าวแล้วท้องอืดนอนหลับฝันไป ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น หรือแม่อาจจะพบเห็นปรากฎการณ์ใดๆนี้จริงๆก็ได้ ก่อนที่เริ่มอ่านเรื่องนี้ คงต้องประกาศแบบในโทรทัศน์ว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญานในการอ่านด้วย ......
เมื่อข้าพเจ้าปรารภว่าจะเขียนเรื่องลับลี้ที่แม่เล่าเพื่อให้คนอื่นได้ทราบกันบ้าง แม่ก็กังวลว่าถ้าเล่าเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ คนอาจจะหาว่า แม่สติไม่ดีก็ได้ ก็ไม่เป็นไรแล้วแต่จะคิดกันไป....
หัสเดิมเริ่มเรื่องก็ต้องท้าวความถึงครอบครัวของแม่กันก่อน พ่อของแม่ ชื่อ นายพันตรีหลวงพลหาญสงคราม (จิตร อัคนิทัต) บุตรพระสุนทรพิพิธ ที่สืบเชื้อสายมาจากพระยาอัคนีพินาศ เจ้ากรมพระเพลิง ผู้เป็นต้นสกุลอัคนิทัต คุณตาเป็นนายทหารระดับหัวกะทิที่สอบเข้าโรงเรียนเสนาธิการทหารด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง เลยถูกส่งไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบกที่ประเทศฝรั่งเศส รุ่นใกล้เคียงกับบุคคลสำคัญในคณะราษฎร คือ นายพันตรี หลวงพิบูลสงคราม (แปลก ขีตตะสังคะ ) ซึ่งต่อมาได้ตั้งตัวเองเป็นจอมพล และเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นเอง คุณตามีพี่น้องอีก 3 คนคือ นายพันเอก พระยาเทพสงคราม (สิน อัคนิทัต) นางเล็ก และนางน้อม อัคนิทัต
ส่วนครอบครัวทางแม่ของแม่ เป็นครอบครัวใหญ่ คุณยายหรือนางพลหาญสงคราม (ไสว สกุลเดิมสีหอุไร) เป็นลูกสาวของอำมาตยโท หลวงประกอบธนากร (สวัสดิ์ สีหอุไร) และนางน้อม (อัคนิทัต) น้องสาวคุณตานั่นเอง คือเป็นญาติกันสองชั้น คุณยายเป็นหลานปู่ของพลโท พระยาสีหราชฤทธิไกร (ทองคำ สีหอุไร) ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เจ้ากรมพระตำรวจและเป็นองคมนตรีที่ปรึกษาราชการ เป็นกวีมีชื่อเสียงเลื่องลือแต่งนิทานเทียบสุภาษิตที่เด็กชาวไทยทุกคนต้องเรียนจนทุกวันนี้ และนิราศออกบวชตอนที่ท่านได้ลาบวชตลอดชีวิตเพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายรัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จสวรรคต
ประเทศฝรั่งเศสนั้นเป็นประเทศที่แปลก คือนักเรียนที่ไปเรียนมักจะได้ไอเดียเก๋ไก๋ของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือ revolution ดังจะเห็นได้จากกรณี ท่านเหมาเจ๋อตุง ท่านโฮจิมินห์ ท่านอะไรต่อมิอะไร รวมทั้งท่านจอมพล ป. แห่งประเทศไทย ที่เมื่อเรียนจบมาก็มีความคิดอันบรรเจิดในการเปลี่ยนแปลงการปกครองให้ชนชั้นกรรมาชีพเป็นใหญ่กันไปตามๆกัน นักเรียนไทยที่ไปเรียนที่ฝรั่งเศสในขณะนั้นก็ปิ๊งไอเดียนี้เช่นกัน โดยมีการประชุมกันครั้งแรกที่บ้านนักเรียนไทยในฝรั่งเศสนั่นแหละ แต่ทุกเรื่องก็ย่อมมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย คุณตาเองเป็นนายทหารที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ก็ย่อมไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจโดยการปฎิวัติรัฐประหาร
หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 แล้ว เกิดการต่อสู้กันระหว่างคนไทยเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2476 โดยคณะนายทหารนำโดยพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช อดีตเสนาบดีกระทรวงกลาโหมได้เข้าต่อสู้กับกองทัพรัฐบาล คุณตาและพี่ชายซึ่งเป็นนายทหารที่เคยได้ร่วมดื่มน้ำพิพัฒนสัตยาสาบานตนว่าจะจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์ ก็ร่วมอยู่ในกลุ่มกบฎบวรเดชนี้ด้วยเนื่องจากไม่พอใจที่มีการฟ้องร้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อการกบฎไม่สำเร็จ พันเอกพระยาเทพสงคราม ขึ้นรถไฟหนีไป ไซ่ง่อน เวียดนามได้ แต่คุณตาได้ต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลและเสียชีวิตบริเวณทุ่งบางเขน แถวๆอนุสาวรีย์หลักสี่นั่นเอง คือในประวัติศาสตร์บอกว่า คุณตาได้ยิงตัวตายเพื่อหลบหนีความผิด แต่แม่ยืนยันว่าคุณตาโดนยิงเพื่อไม่ต้องการให้ขี้นศาลพิจารณาคดี เนื่องจากเป็นเพื่อนกันมา ย่อมรู้ฝีมือกันดี
แม่ก็เลยเป็นเด็กกำพร้าพ่อตอนอายุสักสองขวบกว่าๆ ตั้งแต่บัดนั้น อยู่กับคุณยายและน้าป่อง น้องชาย (พิพัฒน์ อัคนิทัต) กันสามคนที่บ้านราชวัตร ถนนนครไชยศรี เป็นบ้านไม้ใหญ่ 2 หลังเนื้อที่เป็นสวนหลายไร่ในซอยวัดน้อยนพคุณ อาศัยกันอยู่ 3 ครอบครัว หลังใหญ่เป็นของพระยาเทพสงครามกับม.ล. ดนตรี (มนตรีกุล) มีลูกๆ หญิง 1 คน ชาย 3 คน รวม 4 คน พอเจ้าคุณเทพฯ หนีไปไซ่ง่อน คุณยายดนตรีก็ชวนครอบครัวคุณยายย้ายเข้ามาอยู่รวมกัน คุณตามีบ้านที่ปลูกในเนื้อที่นี้อีก 1 หลังเป็นเรือนหอของคุณตาคุณยาย แต่ตั้งแต่คุณตาเสียชีวิต คุณยายก็ไม่มีรายได้อะไร ต้องเอาบ้านหลังเล็กให้เช่าแล้วย้ายมารวมอยู่ในบ้านใหญ่พอมีรายได้เล็กๆน้อยๆประทังชีวิต หน้าบ้านมีสันติบาลนั่งเฝ้าตลอดเวลาเพราะเป็นครอบครัวทหารทั้งบ้านและเป็นกบฎ ลูกๆของพระยาเทพฯ และ แม่กับน้องชาย ก็เข้าโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ ก็ลำบากกันพอสมควรในสมัยนั้น
อีกครอบครัวหนึ่ง ต้องกล่าวถึงคุณยายเล็ก น้องสาวคุณตาอีกคนหนึ่งแต่งงานกับพันโท พระไกรกรีฑา(ม.ล. ประยูร เสนีวงศ์) มีลูกสาวชื่อป้าเพาะผล คุณป้าก็ออกเรือนแต่งงานกับนายทหาร ญาติๆกันอีก นามสกุลเดียวกัน คือพันโทหลวงไววิธีทัพ (ไว เสนีวงศ์ ฯ) ไม่มีลูก แต่คุณหลวงไวฯ มีลูกติดมาอีก 6 คน ผู้หญิง 2 คนผู้ชาย 4 คน ก็อยู่รวมกันทั้งหมด
บ้านนี้จึงเป็นที่รวมเด็กผู้ชายวัยทะโมนทั้งหลายเป็นโขยง ส่วนผู้หญิงมีแค่ไม่กี่คนและโตหมดแล้ว มีแม่เป็นเด็กผู้หญิงเล็กอยู่คนเดียว และเหตุการณ์แปลกๆ หลายๆอย่างที่แม่เห็น ก็มีที่มาจากบ้านไม้โบราณบริเวณสองสามหลังนี้แหละ .....
ตามมาอ่านได้เลยค่ะ...
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2551 19:50:59 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1952 Pageviews. |
|
|
|
โดย: สุนันทา อัคนิทัต IP: 124.121.1.191 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:42:51 น. |
|
|
|
โดย: อยากรู้ คับ IP: 125.24.69.107 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:40:55 น. |
|
|
|
โดย: คมสััน IP: 49.230.126.38 วันที่: 1 ตุลาคม 2556 เวลา:7:50:47 น. |
|
|
|
โดย: ครรชิต IP: 180.180.233.62 วันที่: 16 กันยายน 2557 เวลา:10:56:17 น. |
|
|
|
|
|
|
อยากเล่าเรื่องของคุณย่าจัง สร้างเป็นนิยายได้เลย
ตั้งแต่เข้าไปทำงานอยู่บ้านคุณปู่และคุณย่าใหญ่
เห็นใจคุณย่าเล็ก(คุณแม่ของคุณพ่อ)จัง
ต้องตั้งท้องตั้งแต่อายุยังน้อย ต้องเข้าโรงพยาบาลประสาท ศาลสั่งให้เป็นคนวิ....อีก สมบัติที่ได้คือรูปถ่ายของคุณปู่ยกให้คุณพ่อมา 1 ใบ "ดีนะคุณแม่ของคณย่าทิ้งที่ดินไว้นิดหนึ่ง" พ่อแม่คุณย่าเสียหมดแล้ว
คิดดูนะลำบากขนาดไหนกัน วิ...ก็วิ....ก็เลยเลี้ยงลูก(คุณพ่อ)ไม่ได้ ที่ดินเป็นชื่อคุณย่าแต่น้องของคุณย่าก็มาหรอกเอาไปอีกครึ่งหนึง คือว่าคุณย่าไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร
ใครอยากทำอะไร อยากได้อะไรก็เอา ให้เซ็นยกให้
ก็ตอนนั้นศาลยังไม่ได้สั่งให้เป็นคนวิ...เศร้าอยากร้องไห้จัง
ว่ากันง่ายๆ ว่าคุณพ่อโตได้เพราะคนข้างบ้าน ต้องไปรับจ้างคนอื่น เพื่อเลี้ยงแม่และเรียนหนังสือ โอ้ย...ชีวิตรันทดจริงๆ จบดีกว่า บาย บ๋าย