★My Japan Trip, 10-16 Apr 2014 [ปฐมบท: ตั๋วเครื่องบิน แผนการเที่ยว และที่พัก]★
สวัสดีจร้า...เพื่อนๆทุกคนเราได้มีโอกาสได้เที่ยวประเทศญี่ปุ่นทริปสุดฮิตในช่วงสงกรานต์นี้ค่ะ เลยเอาเส้นทางการท่องเที่ยวและค่าใช้จ่ายแบบคร่าวๆมาแชร์กันให้ได้อ่านนะคะ เราอาจจะจำรายละเอียดได้ไม่หมดนะจ๊ะเอาเป็นว่าอ่านไว้เป็นแนวทางแล้วกันนะคะ ความตั้งใจของทริปนี้คือ เป็นทริปฮันนีมูน ที่กะว่าจะใช้เงินให้น้อยที่สุด ลองอ่านดูแล้วมาลุ้นกันนะว่า ... สุดท้ายเราใช้เงินไปกี่บาท มาเริ่มต้นการเดินทางกันเลย...
1. ตั๋วเครื่องบิน เราจองตั๋วกับทาง tg191 ตั้งแต่เดือนมกราคมได้ โดยมีแพลนคร่าวๆว่าจะไปช่วงสงกรานต์ ต้องการค่าตั๋วเครื่องบินไม่เกิน 20,000 บาท และลงที่สนามบินฮาเนดะ (น้องที่รู้จักกันบอกว่ามาลงฮาเนดะดีกว่าเพราะใกล้เมืองมากกว่านาริตะ ทำให้ประหยัดเวลาและค่าเดินทางเข้าเมือง)
เราหาไฟลท์ผ่านทางเว็บไซต์เพราะเราชอบค่อยๆเลือก ค่อยๆตัดสินใจ ก็หาจนได้ช่วงเวลาและราคาตามที่เราต้องการ แล้วเราก็ทำการจองจนได้รหัสการจองมาแต่เพราะอินเตอร์เนตมีปัญหาเราเลยไปไม่ถึงหน้าที่จ่ายเงิน แต่เรารีบโทรบอกเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการคอนเฟิร์มการจองของเราแล้วค่อยจ่ายเงินภายหลัง ข้อดีของเว็บนี้คือสามารถจองผ่านหน้าเว็บได้เลยไม่มีปัญหา เราเคยใช้บริการของเจ้าหนึ่ง จองอย่างไรก็ไม่สำเร็จจนต้องโทรไปติดต่อ call center เอง ปรากฏว่าราคาแพงกว่าหน้าเว็บไซต์อีก
สรุปว่า เราได้สายการบิน AirChina ออกเดินทางวันที่ 10 เม.ย. เวลา 01.00 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่ปักกิ่ง 2 ช.ม. ถึงฮาเนดะ 12.50 น. และกลับถึงไทยวันที่ 16 เม.ย. เวลา 18.45 น. ในราคา 19,000 บาท
ข้อดีของสายการบินนี้ทำเอาเรายิ้มแก้มปริ คือ ได้กระเป๋าคนละ 2 ใบ ใบละ 23 กิโลกรัม ซึ่งมันเยอะมากๆๆที่เราดีใจไม่ใช่ว่ากะจะขนของมาให้เต็มนะคะ เพียงแต่ว่าการได้น้ำหนักกระเป๋าเยอะๆทำให้ไม่กังวลในการซื้อของกลับมามากกว่าค่ะ
2. แผนการเที่ยว หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยตอนเดือนมกราคมแพลนการเที่ยวของเราก็หยุดนิ่ง ... ไม่ได้คิดอะไร ใดๆ เพิ่มทั้งสิ้นจนมีเพื่อนสนิทแพลนจะไปเที่ยวช่วงสงกรานต์เหมือนกัน บอกว่าไม่รีบหาที่พักหรอเดี๋ยวแพงนะ หรือ ไม่ไปดูภูเขาไฟฟูจิที่คาวากูชิโกะหรอ สวยนะ ...ตอนนั้นละเราถึงเริ่ม เอออออ ต้องเริ่มวางแผนในการเที่ยวแล้วสินะ ทีแรกเรากะจะก็อปปี้แผนการเที่ยวจากพวกทัวร์ต่างๆ แต่ทัวร์ส่วนใหญ่จะเน้นเที่ยวเยอะและเค้าจะเดินทางโดยใช้บัสจึงดูเหมือนเที่ยวได้เยอะกว่ามีการเปลี่ยนโซน/จังหวัดบ่อยๆ ซึ่งการไปเที่ยวเองแบบเราจะไม่สามารถก็อปปี้ได้เลยเราก็เลยเริ่มวางแผนการเที่ยวโดยการอ่านจากรีวิวในพันทิพเป็นหลักและซื้อหนังสือมาอ่านเราซื้อหนังสือมา 3-4 เล่ม แต่ละเล่มจะมีข้อดี ข้อเสีย ต่างกันบางเล่มจะแพลนให้ว่าแต่ละวันไปเที่ยวที่ไหนบ้างและจะอธิบายละเอียดเลยว่าแต่ละวันออกเดินทางจากที่พักไปไหนบ้างบางเล่มจะพูดถึงแต่ละโซนไปเลยว่ามีอะไรน่าสนใจ เดินทางอย่างไร และมีแพลนคร่าวๆว่าแต่ละวันไปไหนบ้างจากการอ่านรีวิวและอ่านหนังสือ เราก็วางแผนการเที่ยวจากความคิด (มโน)ของเราเองล้วนๆ ได้ดังนี้
Day1: ถึงโตเกียว/เข้าที่พัก/เดินเล่นแถวๆ Shinjuku Day2: Asakusa/Ueno/Ameyoko/Akihabara/Roppongi Day3: Imperial Palace/Tsukiji market/Ginza/Odiaba Day4: Kamakura/Meji Gingu/Harajuku/Shibuya/Ikeburo Day5: Hakone/Kawaguchiko Day6: Kawaguchiko/Shinjuku Day7: กลับกรุงเทพฯ
ตอนวางแผนก็วางแน่นๆไว้ก่อนแต่ไปจริงๆบางวันก็ไปไม่ครบ บางสถานที่ก็มาเก็บเอาวันหลังค่ะแผนการเที่ยวนี้เสร็จก่อนออกเดินทางไม่กี่วันค่ะตอนจองที่พักคิดแค่คร่าวๆว่าจะไปนอนที่คาวากูชิโกะวันไหนเท่านั้นเองค่ะ
3. ที่พัก เนื่องจากช่วงวันที่ 14 เม.ย. เราจะไปเที่ยว Hakone และจะค้างที่ Lake Kawaguchiko เลยต้องจองที่พักแบบแหว่งๆ คือ 10-14 เม.ย. และ 15-16 เม.ย. พักที่ Shinjuku และ 14-15 เม.ย. พักที่ Lake Kawaguchiko
ทำไมต้อง Shinjuku??? คุยกับน้องที่เคยอยู่ญี่ปุ่นและอ่านจากพันทิพเลยทราบมาว่าหากคุณชอบสีสันและเมืองที่ไม่หลับใหล คุณควรจะพักย่านนี้แต่ถ้าชอบแบบเงียบๆหาของกินง่ายๆควรเลือกแถบ Ueno เรากะเที่ยวจนดึกจนดื่นเลยคิดว่า Shinjuku น่าจะเหมาะกับเรา
สำหรับเราข้อดีของการพักแถว Shinjukuคือ เดินทางไปไหนก็สะดวก เพราะ Shinjuku Station เหมือนเป็นศูนย์รวมของการเดินทางไปที่ต่างๆ และมีห้างเยอะมากๆ ทั้ง Isetan,Lumine, Odakyu ร้านขายเสื้อผ้าก็มาก มีทุกๆอย่างเลยก็ว่าได้ทั้ง Uniqlo,GU, Zara, H&M นอกจากนี้ก็ยังมีร้านที่ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆอย่างYodobashi หรือ Bic camera ของกินก็หาไม่ยาก แต่ราคาอาจจะสูงเมื่อเทียบกับแถว Ueno แต่ด้วยความที่มันใหญ่มากกกก็อาจจะเกิดการหลงทิศได้บ้าง
สำหรับที่พักที่ Shinjuku ทีแรกเราจองโรงแรมยอดฮิตของทัวร์ไทย ตอนนั้นได้ราคา 3,000++ บาท/ห้อง/คืน ซึ่งเป็นราคาที่ดีที่สุดที่เราหาได้แล้ว และตอนนั้นจอง 6 คืนรวด เพราะกะว่าจะไม่ไปคาวากูชิโกะแล้ว เนื่องจากที่พักค่อนข้างแพงและยังไม่แน่ใจว่าจะไปวันไหน และถ้าไปแล้วพักแบบแหว่งๆจะลำบากหรือเปล่า บลาๆๆๆ
แต่พอใกล้ๆเดินทางมีดีลจากเวบไหนสักเวบหนึ่งระหว่าง booking.com กับ agoda.com ขึ้นมาว่ามีโรงแรมแถว Shinjuku ราคาประมาณ 2,000++ บาท/ห้อง/คืน ออกมา เปรียบเทียบการเดินทางจาก Shinjuku Station แล้วพอๆกันกับที่แรก (ใช้ googlemap ในการดู) แล้วเราจะพักที่แพงกว่าทำไม???
เราเลยไม่รอช้ารีบเช็ควันว่าง สลับกับไปดูที่พักที่คาวากูชิโกะ เห็นมีที่พักในราคาที่รับได้ (ตอนนั้นรู้แล้วว่าการพักแหว่งๆไม่แปลกใครๆก็ทำกัน) เลยรีบจองทันที แล้วรีบไป cancel
สุดท้ายเราเลือกพักที่ Hotel Listel Shinjuku โดยจองกับ agoda.com เพราะรวมแล้วถูกกว่าแต่ข้อเสียคือทาง agoda จะตัดเงินในบัตรเครดิตก่อนออกเดินทางและถ้ายกเลิกจะมีค่าใช้จ่าย (ในบางกรณี) แต่ข้อดีคือเราอาจมั่นใจได้ว่าเราได้ห้องพักชัวร์ๆ
ส่วนที่พักที่คาวากูชิโกะได้ที่ Lake Land Hotel Mizunosato โดยจองกับ booking.com ข้อดีคือเราไปจ่ายเงิน ณ วันเข้าพัก และสามารถยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายก่อนวันที่เค้ากำหนดส่วนข้อเสียคือห้องพักอาจโดนยกให้คนอื่นไป ... "แต่ส่วนตัวเราไม่เคยกลัวในเรื่องนี้และไม่เคยเจอปัญหานี้เลยค่ะ"
มาดูค่าใช้จ่ายแต่ละโรงแรมกันค่ะ ราคาสำหรับ 2 ท่าน นะคะ 1. Hotel Listel Shinjuku (4 คืน) - 9,549.68 บาท 2. Lake Land Hotel Mizunosato (1 คืน+อาหารเย็น+อาหารเย็น) 9758.85 บาท *ค่าที่พักที่นี่ราคาค่อนข้างสูง เพราะเราเลือกห้องนอนแบบเรียวกัง นอนบนเสื้อตาตามิ มีออนเซ็น และที่พักวิวทะเลสาบค่ะ 3. Hotel Listel Shinjuku (1 คืน) 3183.23 บาท รวมค่าที่พักทั้งหมด 22,491.76 บาท คิดเป็น 11,245.88 บาทต่อคน
โอ๊ว...ยังไม่เริ่มเดินทาง ก็มีค่าใช้จ่ายไปแล้ว 30,245.88 บาท/คน แล้วทริปนี้ค่าใช้จ่ายจะบานปลายไปถึงไหนกันน๊ออออ...
Create Date : 27 เมษายน 2557 |
|
1 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2557 0:25:55 น. |
Counter : 3548 Pageviews. |
|
|
|
สนใจอยากลงโฆษณาผลิตภัณฑ์ค่ะ ต้องติดต่อใครค่ะ ? ช่วยส่งข้อมูมาให้หน่อยค่ะว่าต้องทำอย่างไรบ้าง มาที่ E mail นี้ค่ะ wadsee@dasydesign.com