กินเพลิน เที่ยวสบาย ไปกับ iRoeng

iRoeng
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add iRoeng's blog to your web]
Links
 

 

อีกครั้ง ที่ภูเก็ต - กระบี่

ไปเที่ยวกันไหม จะไปก็รีบไป ไปกับพี่แล้วสบาย แล้วพี่จะพาไปเที่ยวภูเก็ต ^^

ได้เวลาท่องเที่ยวอีกแล้ว ^^ ครั้งนี้ลงใต้เที่ยวชมทะเลใสๆ แต่ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ :(

เริ่มต้นเดินทางออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง แต่เช้า ไปถึง ภูเก็ต สายๆ เกือบเที่ยงแล้ว หลังจากนั้น ก็ไปทำเรื่องรับรถเช้า และก็ออกเดินทางไปกระบี่ตามเส้นทางในแผนที่นี้เลยครับ ^^ 


พอขับรถออกจากสนามบินปุ๊ป สมาชิกในรถก็บ่นหิวข้าวกัน ก็เลยแวะทานข้าวที่ร้านจั๊กจั่น (ร้านจักจั่นจะตั้งอยู่ใกล้กลับด่านตรวจภูเก็ต มาทางสะพานสารสิน นิดหนึ่งครับ ร้านจะอยู่ซ้ายมือครับ
บรรยากาศของร้านติดชายหาดครับ(แต่จำชื่อหาดไม่ได้)


รสชาติอาหารของร้านจั๊กจั่น ใช้ได้เลยนะครับ และเมนูแรกที่พวกเราสั่งมาทานก็คือผักเหลียงผัดไข่ครับ


จานต่อมาเป็น ปลากระพงทอดราดน้ำปลาครับ ปลาที่นำมาทอดสดใช้ได้เลยครับ ^^


มาเที่ยวทะเลทั้งทีแต่อยากกินผัดกระเพรา ก็เลยต้องสั่ง ผัดกระเพราทะเลมาทานซะเลย


เมนูต่อมาเอาแบบซดๆน้ำแกงกันบ้างนะครับ เลยจัดการสั่งต้มย้ำกุ้งมาทานกันครับ กุ้งตัวใหญ่ใช้ได้ รสชาติเข้มข้นมากครับ


กุ้งตัวใหญ่ๆ เมื่อเทียบกับถ้วยแบ่ง ^^


และเมนูสุดท้ายที่สั่งกันมื้อนี้ครับ กุ้ง สะตอ ผัดกะปิครับ อร่อยๆครับ (ขนาดผมไม่ทานสะตอ ยังอดที่จะไม่ชิมไม่ได้เลย)


พออิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ออกเดินทางไปกระบี่ต่อครับ จุดมุ่งหมายของเราคือ อ่าวนาง หรืออ่าวพระนาง ขับรถจากชิลๆ จากภูเก็ตไปกระบี่ก็ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงครับ พอถึงอ่าวนางแล้วกะว่าจะเหมาเรือข้ามไปเที่ยว เกาะปอดะ และไปดูทะเลแหวก ที่เกาะทับซะหน่อย แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเลยครับ ก็ต้องยกเลิกแผนที่วางไว้ของวันนี้ทั้งหมด :( 

นั่งเรือข้ามเกาะไม่ได้ ก็ต้อง เข้าที่พักเพื่อเช็คอินครับ ที่อ่าวนาง พวกเราเลือกพักกันที่ อารีย์ธารา รีสอร์ทกันครับ


พอจอดรถเดินขึ้นบันไดมา ก็จะเจอมุมอ่านหนังสือ มุมคอมพิวเตอร์ครับ (บริเวณหลังต้นไม้เขียวๆจะเป็นสระว่ายน้ำครับ)


ก่อนอื่นก็ต้องไปเช็คอินกันก่อนครับ พนักงานที่นี่อัธยาศัยดีครับ ยิ้มแย้ม ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีครับ (มีบริการ Welcome drink ด้วย)


เช็คอินเสร็จก็เอาของเข้าไปเก็บให้ห้อง และสำรวจห้องดีกว่าครับ (ราคาห้อง 12xx จองผ่าน agoda) ห้องสะอาดดี (ภายในห้องครับ)


ห้องน้ำสะอาดสะอ้าน มีอ่างอาบน้ำและ ฝักบัวอาบน้ำครับ


ของใช้ในห้องน้ำก็มีให้พร้อมครับ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสระผม โลชั่นบำรุงผิวครับ


เก็บของเสร็จ นอนเล่น นอนพักกันตามอัธยาศัย แล้ัวก็ได้เวลาหิว เวลากิน อีกแว้ว (สรุปจะเน้นทานหรือเน้นเที่ยวเนี่ย ^^) มื้อเย็นวันนี้ พวกเราเลือกร้าน ครัวธารา อยู่บริเวณสุดหาดนพรัตน์ ครับ(อ่านๆ ที่มีแนะนำในพันทิป) ร้านนี้รสชาติอาหารก็โอเคเลยครับ ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ครับ

มาดูกันว่าพวกเราสั่งอะไรมาทานกันบ้างครับ จานแรกเลย กุ้งแช่น้ำปลาครับ(กุ้งตัวเล็กไปนิด)


จานที่สอง หอยชักตีนลวก หรือต้มอะไรสักอย่างนี่แหละครับ ^^ เนื้อหอยหวานๆ แต่ตัวเล็กไปนิด


อีกจานเป็น ปลากระพงทอดกระเทียมครับ โรยกระเทียมทอดมาอย่างเยอะ ชอบๆครับ ปลาก็สดดี


เมนูต่อมาต้องนี่เลย กุ้งราดซอสมะขาม เปรี้ยวๆหวานๆ อร่อยๆ(แต่ยังไม่อร่อยที่สุด)


และจานสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ผักเหลียงผัดกุ้งเสียบครับ อร่อยไม่แพ้ผักเหลียงผัดไข่เลย


พอทานอิ่มแล้ว ก็กลับที่พัก เพราะกลางคืนไม่รู้จะไปเดินไปเที่ยวที่ไหน เลยกลับเข้าที่พักเำพื่อพักผ่อนดีกว่า นั่งเล่นอินเตอร์เน็ตตรงล็อบบี้แป๊ปหนึ่่ง (ไม่มีแฟนอยู่ได้ แต่ถ้าขาด wifi หรือ 3g นี่อยู่ไม่ได้เลย^^) นั่งเล่นเน็ตเลยได้รูปนี้มา ก่อนที่จะกลับเข้าไปนอน


นอนอิ่ม ตื่นมาก็อาบน้ำทานข้าว และก็เตรียมตัวไปเที่ยวกระบี่ต่ออีกวันครับ  ทานอาหารเช้าด้วยกันครับ เช้านี้ทานน้อย เหมือนจะไม่ค่อยหิวยังไงก้ไม่รู้ครับ กินแค่นี้เอง + น้ำผลไม้ 2 แก้วเล็กๆ


ห้องอาหารก็จะน่ารักดีครับ ออกแนวเรียบๆง่ายๆ สบายๆ (แจกันบนโต๊ะอาหาร)


ภายในห้องอาหารครับ โล่งๆ สะอาดสะอ้านครับ นั่งทานข้าวแบบสบายๆ


อิ่มแล้ว เก็บของ เช็คเอาท์ และเตรียมตัวไปเที่ยว สระมรกตกันครับ ก่อนไป แวะถ่ายรูปที่ อ่าวนางซะหน่อยครับ^^


ถ่ายรูปที่อ่าวนางเสร็จ ก็ได้เวลาไปสระมรกตกันครับ เดินทางจากอ่าวนางไปสระมรกต ระยะทางน่าจะเกือบๆ 60 กิโลเมตร มั้งครับ ^^ 

พอมาถึงสระมรกต ก็ต้องมาเสียค่าทำเนียมก่อนครับ พอเดินเข้ามาก็จะบรรยากาศแบบนี้ต้อนรับเราเลยครับ


ทางเดินเข้าไปชมสระมรกตจะมีสองทางนะครับ ทางแรกจะเป็นทางเดินธรรมดาครับแบบนี้ครับ แต่มีต้นไม้ปกคลุมอยู่ 2 ข้างทางครับ


และอีกทางจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติครับ เขาทำทางเดินให้อย่างดีเลยครับ (พวกเราเลือกเดินทางนี้ครับ) 2 ข้างทางปกคลุมด้วยต้นไม้เช่นกันครับ


เดินดูธรรมชาติชิลๆ อากาศร้อนนิดหน่อย แต่ก็ยังไหวอยู่ เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอธารน้ำบ้าง แอ่งน้ำบ้าง แต่น้ำที่นี่ใสจริงๆครับ


เดินสักพักก็ถึงสระมรกตครับ น้ำใสๆ มีคนบ้าง แต่ไม่เยอะเหมือนครั้งก่อนที่เคยมา ส่วนมากจะมีแต่คนต่างชาติมากกว่าคนไทยซะอีก ที่ลงเล่นน้ำ และมาเที่ยว


น้ำใสๆ มันอยากที่จะห้ามใจไม่ให้ลงไปเล่นจริงๆ^^


อยู่ที่สระมรกต จนหนำใจแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะไปเที่ยวน้ำตกร้อนต่อ แต่พอดูเวลาแล้ว กลัวจะกลับภูเก็ตมืด เลยยกเลิกการเที่ยวที่น้ำตกร้อนครับ แต่ขับรถกลับมุ่งหน้าไปที่อ่าวนาง เพื่อที่จะไปเที่ยวเกาะปอดะและชมทะเลแหวกครับ

มาถึงอ่าวนางก็ทำเรื่องเช่าเรือ ครับ เสียค่าเช่าเหมาลำไปประมาณ 1800 บาทครับ นั้งเรืออกเดินทางไปปอดะกันเลยครับ


เกาะปอดะอยู่ไม่ไกลจากอ่าวนางเท่าไหร่ครับ นั่งเรือประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้วครับ

หาดทรายขาวๆ น้ำใสๆ แต่ทริปกระบี่นี่ฟ้าฝนไม่เป็นใจให้พวกเราเที่ยวกันเท่าไหร่ครับ :(


ถึงปอดะก็ลงมาเล่นน้ำ นั่งพัก นั่งรอเวลาเพื่อไปดูทะเลแหวกครับ
มาถึงปอดะแล้วถ้าไม่ได้ ถ่ายรูปภูเขานี้มาอาจจะเหมือนว่ามาไม่ถึงปอดะก็ได้เนอะ


นั่งพักจนเบื่อ ก็ออกไปเดินเล่นดีกว่าครับ (เรือที่พานักท่องเที่ยวมาเที่ยว)


หาดทรายขาวๆ น้ำใสๆ ชอบๆ แต่ถ้าแดดแรงๆน้ำคงจะใสกว่านี้มากกก


ทรายขาวๆ บวกกับเศษเปือกหอย เศษปะการัง ก็สวยดีอีกแบบ


อยู่ที่เกาะปอดะจนเบื่อแระ ปะเราไปเที่ยวเกาะทับดูทะเลแหวกกันครับพี่น้อง (ฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจเลย)


ทะเลยังไม่ทันแหวกเท่าไหร่เลย ต้องรอเวลา อีกประมาณ 1 ชั่วโมง สันทรายตรงกลางจึงจะโผล่ขึ้นมาให้เราได้เห็นครับ  แต่ ณ เวลานั้น ก็สามารถเดินข้ามไปยังอีกเกาะได้แล้วนะครับ


ก่อนจะกลับออกจากเกาะทับ ก็ขอถ่ายรูปทะเล(เกือบ)แหวก อีกสักรูปครับ


ปะเดินทางกลับอ่าวนางกัน


ระหว่างที่นั่งเรือจากเกาะทับมาอ่าวนางก็มีคลื่นบ้างนิดหน่อย สำหรับบางคนที่ยังไม่ชินอาจจะทำให้กลัวก็ได้นะครับ 
ในที่สุดก็ถึงอ่าวนางครับ หาดกว้างๆ สะอาดๆ ดูแล้วสบายตามากๆ อ่อ หลังภูเขานั่นจะเป็นไร่เลย์ครับ


นั่งพักนิดหน่อย ก่อนที่จะเดินทางไปยังภูเก็ตครับ ทิ้งท้ายอ่างนาง กระบี่ ไว้กับภาพนี้แล้วกันครับ^^


เดินทางจากกระบี่มาภูเก็ต ก็ใช้เวลาเท่าเดิมครับ ขับรถ 2-3 ชั่วโมงแบบชิลๆ เจอฝนบ้างไม่เจอบ้างครับ  มาถึงภูเก็ตก็หาข้าวเย็นทานกัน สมาชิกที่ไปด้วยอยากทานข้าวต้ม เลยจัดให้ครับ(แต่ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมานะครับ) ทานอิ่มก็กลับเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนครับ จะได้ลุยพรุ่งนี้ได้แบบสดใส

ตื่นเช้าทานอาหารที่โรงแรม และก็ออกเดินทางตะลุยภูเก็ตกันครับ สถานที่แรก ที่ไปก็คือ วัดฉลองครับ(มากี่ครั้งๆก็ต้องมาวัดนี้) ปะไปไหว้พระทำบุญพร้อมกันครับ


ผู้คนมาทำบุญที่วัดฉลองนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติครับ บางคนก็มาแก้บน โดยการจุดประทัดครับ และสถานที่ในการจุดประทัดก็คือ อันนี้ครับ จุดทีนี่ทั้งควัน ทั้งเสียงครับ


บรรยากาศภายในวัดครับ (เห็นมีฝรั่งคู่หนึ่ง มาถ่ายรูป Pre Wedding ภายในวัด ไม่รู้ว่ามันเหมาะสมกับสถานที่หรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ)


ลาจากวัดฉลองด้วยรูปนี้แล้วกันครับ  ก่อนที่จะขึ้นไปไหว้พระที่เขานาคเกิด


ขึ้นเขานาคเกิดกันครับ มาครั้งนี้เขากำลังซ่อมแซมพระพุทธรูปครับ เสร็จแล้วคงจะสวยกว่านี้มากครับ


ไม่รู้ว่าคนที่มาซ่อมแซมพระพุทธรูปนี้ เป็นไทยหรือต่างชาติเนอะ^^


นอกจากพระพุทธรูปหินอ่อนสีขาวแล้ว ยังมีพระพุทธรูปสีเหลืองทองอยู่รอบๆด้วยนะครับ


วิวมุมสูงบริเวณบนเขานาคเกิดครับ มองเห็นทะเล และก็ท่าเรือด้วยครับ


ทำบุญไหว้พระเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาหาไรทานมื้อเที่ยงอีกแล้วครับ รีบลงเขากันเถอะครับ^^
วิวข้างทาง ขณะขับรถลงเขาครับ


อ่อ บนริเวณ ตีนเขานาคเกิด จะมีบริการรถเช่า เช่น ATV หรือ มอเตอร์ไซด์ ให้เช่าด้วยนะครับ ส่วนมากคนที่เช่าจะเป็นต่างชาติครับ (ค่าบริการน่าจะแพงเอาเรื่องอยู่)


ได้เวลาไปหาไรทานแล้ว มื้อเที่ยงนี้พวกเราฝากท้องไว้ที่แพครูวิทย์ (หรือเียกกันง่ายๆว่าร้านกระชัง) ลักษณะร้านจะเป็นกระชังลอยอยู่กลางอ่าวครับ ต้องนั่งเรือข้ามไปที่ร้านอีกทีครับ
และมื้อนี้พวกเราจัดหนักกันเลยทีเดียวครับบ มาดูกันครับว่าพวกเราทานไรกันบ้างกับมื้อเที่ยงนี้^^
เมนูเรียกน้ำย่อยก็ต้องนี่เลย หอยนางรมสดตัวใหญ่ๆครับ จัดไปคนละ 2 ตัว


ก่อนอื่นต้องสั่งข้าวผัดก่อนครับ เพื่อที่จะเอามาทานกับอาหารที่พวกเราจะสั่งมาทานกันครับ


มาครั้งก่อนติดใจ กุ้งราดซอสมะขาม แต่ครั้งนี้ก็เลยสั่งมาทานอีก (แต่แอบผิดหวังนิดหน่อย ดูกุ้งตัวเล็กไปนิด)  แต่รสชาติก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม


และที่สั่งประจำก็คือ หอยตลับผัดน้ำพริกเผาครับ (เมนูนี้ชอบเป็นการส่วนตัวครับ)


มาภูเก็ตทั้งทีจะไม่สั่งเมนูนี้ได้อย่างไรเนอะ มันก็คือ น้ำพริกกุ้งเสียบ ครับ รสจัดแต่ไม่เผ็ดมากครับ


อยากกินปู ก็ต้องสั่งปูม้านึ่งครับ สดๆ เนื้อปูหวานๆ


ต่อด้วย ส้มตำปูม้า แซบๆครับ


ปลาหมึกนึ่งมะนาวรสชาติจัดจ้านครับ


ส่วนเมนูน้ำ ก็ต้องนี่เลยครับ หัวปลาเก๋าต้มเต้าเจี่ยวครับ หวานๆเปรี้ยวๆ ถูกใจนักแล ^^ (ส่วนตัวปลาเก๋า เอาไปทำทอดราดน้ำปลาครับ )


มื้อเที่ยงพวกเราทานเลทมาก กว่าจะทานเสร็จก็ นั่งชิลๆ ก็ปาเข้าไป บ่าย 4 กว่าๆแล้วครับ อิ่มแล้วก็กลับเข้าฝั่งครับ เพื่อที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพกันครับ แต่ก็จะไปแหลมพรหมเทพ พวกเราได้แวะ ดูวิวที่กะรนวิวพ้อยก่อนครับ(มาภูเก็ตก็หลายครั้งแล้ว แต่สถานที่นี้ เพิ่งมาครั้งแรกครับ) ที่กะรนวิวพ้อยนี้จะเห็น 3 อ่าวครับ โดยอ่าวที่อยู่ใกล้ที่สุด คือหาดกะตะน้อย เลยออกไปเป็นอ่าวกะตะ และที่อยู่นอกสุด เป็นหาดกะรน


ชมวิวจากกะรนพ้อยเสร็จก็เดินทางไปแหลมพรหมเทพ ต่อกันเลยครับ วันนี้ที่แหลมพรหมเทพ คนก็ยังเยอะเช่นเดิมครับ (แต่น้อยกว่าครั้งก่อนมากๆ) และวันนี้มีกองถ่ายละครมาถ่ายละครด้วยครับ ได้ยินแว่วๆว่า เป็น ญาญ่าด้วย แต่ไม่ได้ไปมุงกับเขาหรอกครับ ชมวิวของเราดีกว่า ^^


วันนี้โชคดีที่ฝนไม่ตก ยังพอมีแสงสวยๆให้ได้เห็นบ้างครับ แต่เสียดายน่าจะเป็นไข่แดงให้เราได้เห็นบ้างเนอะ


มืดแล้ว ก็ขับรถกลับที่พัก แล้วก็นอนพักผ่อนเพื่อจะได้ตะลุยภูเก็ตพรุ่งนี้อีกวันครับ^^

นอนเต็มอิ่ม ตื่นเช้าทานอาหาร และก็เริ่มออกเดินทางเที่ยวกันเลยครับ มีเวลาถึงแค่ 5 โมงเย็นก่อนที่จะต้องกลับ กทม. ครับ

สถานที่แรกที่เราไปในวันนี้คือ เขารังครับ(ไม่รู้จะไปไหน กลัวขับเข้าเมืองมากกว่านี้แล้วจะหลงทางเอา) ขึ้นไปดูวิวเมืองภูเก็ตซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง และเป็นสถานที่ ที่ยังไม่เคยขึ้นมาเที่ยวก็เลยมาดูซะหน่อยว่าข้างบนมีอะไร^^  (วิวบนเขารังครับ)


จากเขารังลงมาแล้ว พวกเรามุ่งหน้าไปยังป่าตองครับ พาสมาชิกไปดูซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงภูเก็ต^^  หาดป่าตองเต็มไปด้วยชาวต่างชาติเต็มไปหมด(เราเป็นเจ้าบ้านแท้ๆ แต่พอไปอยู่ ณ จุดนั้น มันเหมือนไม่ใช่บ้านของเราเลย^^) บริเวณหาดก็ถูกจับจองไปด้วยเตียงผ้าใบ และร่มสีๆเต็มไปหมดครับ


บริเวณหาดป่าตอง ก็มีบริการเช่า เจ็ตสกี หรือพาราเซล(ไม่แน่ใจว่าใช่อย่างในรูปหรือเปล่านะครับ) ราคา ก็แพงเอาเรื่องครับ ราคาต่อครั้ง(อยู่กลางอากาศไม่น่าจะถึง2 นาที) ต่างชาติ 1500 ส่วนคนไทย 1300 ครับ (แค่ดูคนอื่นเล่นก็พอแล้วเนอะ)


ออกจากหาดป่าตองก็ขับรถเลียบหาดไปเรื่อง ขึ้นเขา ลงเขา ขับไปเรื่อยๆจนมาทะลุที่ อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์และท้าวศรีสุนทรครับ ได้เวลาทานอีกแล้วว มื้อนี้หาไรทานง่ายๆครับ เลยมาลงเอยกับร้านบะหมี่พังงาครับ ร้านจะอยู่เลยปั้มเซลล์ มาทางสะพานสารสินครับอยู่ใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีย์และท้าวศรีสุนทรครับ ที่ร้านจะมี ขาหมู บะหมี่ และหมูปิ้ง 

มาดูกันว่าบะหมี่เกี๊ยวแห้งจะน่าทานขนาดไหน (ถูกใจตรงที่มีกากหมูนี่แหละครับ)


หมูปิ้งที่ร้าน ไม้ละ 10 บาท ไม้ใหญ่อยู่นะ หมูก็นุ่มๆ แต่มีมันน้อยไปหน่อย ^^


ทานเสร็จ อิ่มอืดกันทุกคน สถานีต่อไปก็คือวัดพระทอง หรือวัดพระผุดครับ ไหว้พระทำบุญก่อนกลับ กทม. ซะหน่อยครับ


บริเวณวัดก็โล่งๆ มีต้นไม้ใหญ่ๆเยอะพอสมควรครับ มีลานจอดรถกว้างขวางครับ บรรยากาศเงียบสงบดี (วันที่พวกเราไปคนน้อย ปกติจะมีทัวร์มาลงเยอะมาก)


ไหว้พระทำบุญแล้ว ยังพอมีเวลาเหลือครับ ก็แวะซื้อของฝากนิดหน่อย จากนั้นก็ไปต่อที่สะพานสารสินกันครับ สะพานสารสินอันเก่าถูกปรับเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงอันเดิมเลยครับ


เดินเล่นบนสะพานสักพัก ก็ได้เวลาที่ต้องกลับไปคืนรถเช้าแล้วครับ (รู้สึกเหมือนยังเที่ยวไม่จุใจเลย) และรอเวลาขึ้นเครื่อง กลับ กทม. ครับ ใช้บริการของหางแดงเช่นเคย เพราจองตั๋วไว้นานมากแล้ว จองจนลืม^^
และสุดท้ายกับทริปภูเก็ต-กระบี่ ฝากไว้กับภาพสะพานสารสินภาพนี้แล้วกันนะครับ


เจอกันทริปหน้าครับ จะไปไหนยังไม่รู้เลยๆครับ ^^




 

Create Date : 15 พฤศจิกายน 2555
5 comments
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2555 14:12:30 น.
Counter : 15469 Pageviews.

 

ที่เที่ยวสวย อาหารน่ากิน

 

โดย: moji fanclub IP: 115.87.51.96 18 พฤศจิกายน 2555 17:57:56 น.  

 

ถ่ายภาพได้สวยมากครับ เอามาให้ดูเรื่อย ๆ น่ะครับ จะคอยติดตาม

 

โดย: jom2507 22 ธันวาคม 2555 22:38:18 น.  

 

@jom2507 ขอบคุณครับ

 

โดย: im_moji 28 ธันวาคม 2555 8:07:30 น.  

 

ภาพสวยมากเลยครับ เห็นแล้วฟินเลย

บ้านมือสองภูเก็ต

 

โดย: PHUKET108 10 เมษายน 2557 14:42:20 น.  

 

Big Buddha Phuket มีพระนามว่า พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี พระประจำเมืองเมืองภูเก็ต

เงินทำบุญเพื่อสร้างพระใหญ่และพุทธอุทยานเมืองภูเก็ต เป็นเงินจากพลังศรัทธาของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
และคนไทยด้วยเช่นกัน
ประธานดำเนินการ คือ คุณสุพร วนิชกุล

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ :-
//www.mingmongkolphuket.com

และ Facebook : TheBig Buddha phuket thailand

น้อมอนุโมทนาสาธุครับผม

 

โดย: Mr.Nop Aphiwit IP: 103.10.228.122 30 พฤศจิกายน 2557 15:51:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.