|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ครีมยางพารา(Hb cream)
นั่นอะไรนะนั้นอะไร?????.....
ยางพารานี่นะเอามาทำครีมได้ด้วยเหรอ แล้วมันจะเป็นยังไงเนี่ย ......? เรื่องของเรื่องไปเจอเจ้าครีมตัวนี้โดยบังเอิญ ระหว่างที่เล่นเนตหาข้อมูลโน่นนี่ไปเรื่อย เมื่อรู้ว่ามีเจ้ารีมตัวนี้ในโลกแล้ว ก็ทำการหาข้อมูลและโทรไปที่ศูนย์วิจัย กระทั่งสั่งซื้อมาใช้ ขอพูดถึงสภาพหน้าตัวเองตอนที่ใช้ครีมยางพาราก่อน..... คือ
# เป็นคนหน้ามัน มันจริงๆ ไม่รู้จะมันอะไรนักหนา แต่งหน้าแป๊บเดียว..เยิ้มละ สวยเด้งอยู่ได้ 2 ชม. ก็เริ่มแปลงกาย
# รอยสิวมีบ้างไม่มากมายจากการแงะแกะเกาประสามือไม่นิ่ง # กระไม่มี( หลบอยู่ข้างในยังไม่แสดงออกรึเปล่าก็ไม่รู้ )
# ฝ้า ไม่มั่นใจว่ามันเป็นฝ้ารึเปล่า คือไปทำเดอร์มาโรลลเลอร์อยู่คอร์สหนึ่ง แล้วหมอกดย้ำจนผิวช้ำมากไป เกิดเลือดออกใต้ผิวหนังมาก แล้วช่วงที่ทำควรหลบแดด และทาครีมกันแดด แต่เป็นคนไม่ชอบทาครีมกันแดด มันเลยเป็นปื้นๆ นานวันเข้าก็เหมือนจะจางลง เอ..มันกลายร่างเป็นฝ้าไปแล้วรึเปล่าไม่รู้
# สิว มีช่วงหนึ่งเห่อเป็นสิวอักเสบ เจ็บด้วย ไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน หาหมอ และศึกษาเรียนรู้มาเรื่อย จนเข้าใจผิวตัวเองมากขึ้น ปัจจุบันสิวอักเสบมีไม่มากไม่บ่อย ส่วนใหญ่มีตอนประจำเดือนมาเยือน หมั่นดูแลไม่ให้มีสิวอุดตันโดยการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางช่วยก็ได้ผลเป็นที่พอใจ จากที่บอกมาทั้งหมดเวลาจะหาอะไรใช้ทีต้องดูแล้วดูอีก เพราะเป็นคนผิวแพ้ง่าย
# ความขาวใสของหน้า เฉยๆ ก็เล่นไม่ทากันแดด แต่ก็คอยดูแลไม่ให้หมอง ไม่ให้ดูโทรม
# ริ้วรอย ไม่ค่อยมี คงเพราะเป็นคนผิวมันมีน้ำมันหล่อลื่นบนหน้ามาก เวลาขยับส่วนต่างๆบนใบหน้าเลยไม่เกิดรอยยับย่น
# รูขุมขน แน่นอนว่ารูขุมขนใหญ่เพราะเป็นคนหน้ามัน รูขุมขนกับหน้ามันนี่เป็นอะไรที่มาคู่กัน
จากที่บอกสภาพหนังหน้ามาทั้งหมด ครีมยางพาราตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ..... ดูจะเป็นครีมมหัศจรรย์อะไรขนาดนี้ งั้นมาดูข้อมูลที่ได้มาจากศูนย์วิจัยกัน ออ... ขอบอกอีกนิดว่าเจ้าครีมยางพาราเคยนำมาจำหน่ายที่งานBIO ที่ศูนย์สิริกิตติ์ แต่ตอนนั้นไม่ได้ไป และครีมตัวนี้ต้องใช้ต่อเนื่อง บางคนใช้ไปแค่กระปุกเดียวหยุดใช้ น่าเสียดาย คือครีมมันกำลังimprove ผิว เพราะผิวแต่ละคนตอบรับเร็วช้าต่างกัน เอกสารที่แนบมากับผลิตภัณฑ์รวมทั้งผลการวิจัยก็ชี้แจงไว้ว่าจะดีขึ้นเมื่อใช้ไป9สัปดาห์ ดังนั้นคนที่หยุดใช้กลางคันก็น่าเสียดาย
|
ที่มาที่ไป :
รศ.ดร.รพีพรรณ วิทิตสุวรรณกุล ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้รับทุนวิจัยจากศูนย์วิจัย ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (TCELS) ในการวิจัยนำสารสกัด จากยางพารามาพัฒนาเป็นเวชภัณฑ์และเวชสำอาง พบว่าครีมจากน้ำยางพารา ช่วยปรับปรุงได้ดี
เมื่อได้สารสกัดแล้วจึงได้ส่งสารดังกล่าวให้กับ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เพื่อทดสอบทำเป็นครีมและทดลองในตัวคน รวมทั้งให้นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมคิดค้น วิธีการนำส่งสารเข้าสู่ผิวพร้อมกับทดลองกับคนอีกเช่นกัน ซึ่งผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ มีคุณสมบัติที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ต่อผิวหนังในระดับสัตว์ทดลองวิธีมาตรฐานOECD มีระดับการปนเปื้อนเชื้อจุลชีพผ่านเกณฑ์มาตรฐานFDA สามารถปรับปรุงรักษาสุขภาพผิวหน้าได้เป็นอย่างดี โดยใช้สารสกัดยางพารา( hb extract )เข้มข้นที่ 5%
|
สิ่งที่มีในสารสกัดยางพารา( hb extract ) :
ยางพารา(Hevea brasiliensis) เป็นพืชที่ถูกคุมคามอยู่ตลอดเวลาโดยการกรีด ทำให้มันเกิดบาดแผลอยู่ตลอด ยางพาราจะถูกชาวสวนกรีดวันเว้นวัน.....ถ้ามันพูดได้คงร้องบอกว่าเจ็บไปแล้ว ก็เล่นเจ็บตัวกันวันเว้นวัน จากการที่ต้นยางพาราถูกคุกคามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกกระทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ ทำให้ต้นยางสร้างสารพฤกษเคมีชนิดพิเศษขึ้นมาเพื่อเยียวยาบาดแผล และสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทนส่วนที่ถูกกรีด ทำให้เมื่อทำการค้นคว้าวิจัยจึงพบว่าในน้ำยางนั้นเจอสารที่เป็นประโยชน์มากมาย ได้แก่ สารโปรตีเอสอินฮิบิเตอร์ อันได้แก่ พวกกรดอินทรีย์ ก็คือ AA, AHA , BHA ที่เราคุ้นกันนั่นแหละ มีน้ำตาลอย่างซูโครส ฟรุคโตส น้ำตาลแอลกอฮอล์ L-quebrachitol มีสารซุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์ วิตามินบี2 วิตามินบี5 แร่ธาตุต่างๆ ขอเขียนตัวย่อ คือ Cr Cu Mn Se Zn และแทนนิน
ไอ้พวกสารต่างๆที่เห็นนั้นก็จะพบในเครื่องสำอางราคาสูงๆ ที่กลุ่มบ.เครื่องสำอางนำไปใส่ในผลิตภัณฑ์
ขอเสริมอีกหน่อยเกี่ยวกับต้นยางพารา ต้นยางพารามีอายุยาวนานเป็นแหล่งรายได้ของชาวสวนยาง หากดูแลบำรุงดีก็จะมีอายุให้น้ำยางแกชาวสวนได้นานถึง15 ปีหรือมากกว่านั้น อันนี้นับจากปีที่เริ่มกรีดได้นะ ต้นยางเมื่อทำการปลูกแล้วต้องรอประมาณ 7 ปีถึงจะกรีดได้ เมื่อชาวสวนกรีดครบรอบต้นแล้วก็จะวนกลับมากรีดรอยเดิม ( ดูสิ...ย่ำยีซ้ำแล้วซ้ำเล่าน่าสงสารจริงๆ ) ซึ่งถึงตอนนั้นผิวต้นยางที่เคยถูกกรีดเป็นรอยแผลลึกได้ถูกซ่อมแซมมีเนื้อไม้เติมเต็มขึ้นมาดังเดิมแล้ว ธรรมชาตินี่ช่างอัศจรรย์จริงๆ
|
ผลจากการใช้ในอาสาสมัคร :
จากการทาครีมไปได้ 9 สัปดาห์ กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นฝ้า 64 คน พบว่า รอยฝ้าจางลง96.8% หน้าขาวขึ้น 98.4% หน้าเรียบเนียนขึ้น 92.2% ความมันบนใบหน้าลดลง 53.1%
กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นสิว 36 คน พบว่า การอักเสบของสิวลดลง 100% ปริมาณสิวลดลง 100% ความมันบนใบหน้าลดลง 88.9% รอยด่างดำจากสิวลดลง 86.1%
|
ผลการใช้ของตัวเอง :
นอกจากสภาพหนังหน้าที่ได้บอกไปแล้ว มีอาการหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ อาการแพ้ จากการใช้ paulas choice BHA2% ทีแรกจะรอให้อาการแพ้หายแล้วจึงใช้เจ้าครีมยางพารา ทำไปทำมา เอาวะ..... ใช้มันเลย ไม่รอหายแล้ว ผลออกมาดังนี้.....
สิวผด สิวอุดตันที่เห่อขึ้นมาจากการใช้ป้าพอลล่าช้อยส์ ค่อยๆแห้ง สิวปูดๆ มีทีท่าว่าจะอักเสบตรงไรผมที่หู ฝ่อแห้งลงใน 1 คืน แต่ยังไม่หลุด รอไปอีกวัน แห้งและยุบ มือเจ้ากรรมก็ไปแกะ และแล้วหัวสิวก็หลุดออกมาอย่างไม่ยากเย็น
มีสิวปูดที่คางมาสองอาทิตย์ เจ็บๆนิดหน่อย เอาเข็มสะกิด บีบๆกดๆ เอาหนองออก หนองเหลวเชียว สุดท้ายเอาหนองออกไม่หมด ทั้งๆที่คิดว่าหมดแล้ว ต่อมามันก็ยังปูดและมีหนองมาอีก พอได้ครีมมาก็ทาทับตรงสิวไปด้วยทั้งที่เห็นหัวหนองขาวๆ นั่นแหละ มาดูอีกที เออ....อาการอักเสบลดลง หัวสิวแห้งขึ้น รออีกวันก็จัดการเอาหนองออก เห็นเลยว่าหนองมันแห้งจับตัวเป็นก้อนๆ แต่ไม่แข็งมาก คราวนี้เอาหนองออกหมด คงเพราะหนองแห้งลงและรวมตัวเป็นก้อนๆ คืนนั้นก็ทาครีมยางพาราอีก รอยสิวสมานตัวเร็ว ปลื้มแหะ แล้วรอยสิวก็ไม่มาก ปกติเวลาจัดการกับสิวแบบบีบๆกดๆ ผิวจะช้ำมากเกิดรอยดำเห็นชัดเจนและจะติดตรึงอยู่ทรมานใจเราไปนานแสนนาน
ออ...เวลาใช้ ทาบางๆ เท่านั้น บางจริงๆ ใครคิดจะใช้อย่าทาหนาเด็ดขาด เพราะสารสกัดเข้มข้น แรกๆ เหมือนจะแสบๆ นิดๆ นิดเดียวจริงๆ คิดว่าตอนนั้นคงทาหนาไปหน่อย แบบว่าใช้ครั้งแรกยังกะปริมาณไม่ถูกทิ้งสักพักก็หาย ครีมไม่ได้เหนียวอะไรมากมาย ถ้าเทียบกับครีมบาชิ.....ช่วงนั้นเทพลองของเข้าสิงเลยซื้อมาใช้ดู อุเหม่.....ทั้งเหนอะ เหนียว กลิ่นแรงมาก ไม่รู้คิดไงซื้อมาลอง ทั้งๆที่ความปลอดภัยก็ไม่ค่อยแน่ชัด สุดท้ายก็ลงไปอยู่ในถังขยะ กลับเข้าเรื่องต่อ.....
ส่วนกลิ่นครีมยางพาราไม่ได้มีกลิ่นอะไรมากมาย มีกลิ่นยางนิดหน่อย กลิ่นบางๆ เจ้าครีมยางพาราไม่ใส่น้ำหอม ไม่ใส่สี ไม่แต่งสวยอะไรทั้งนั้นเนื้อๆ เน้นๆ ซึ่งก็ดี แต่กระปุกนี่น่าจะแต่งสวยสักหน่อย ได้ข่าวมาจากทางศูนย์วิจัยว่าต้นปีหน้าจะเปลี่ยนแพคเกจให้สวยขึ้น ราคาขึ้นด้วยรึเปล่าก็ลืมถาม คือมันอย่างนี้... ด้วยสารสกัดที่มีคุณภาพราคาก็แปรผันตรง....ต้นทุนสูงไปตามระเบียบ แล้วความเข้มข้นก็ใส่ในความเข้มข้นที่ออกฤทธิ์ได้จริง มีประสิทธิภาพ ถ้าเลือกใช้แพคเกจสวยๆ ก็ไปเพิ่มต้นทุน ผู้มีรายได้น้อยหรือรายได้ปานกลางก็จะมีโอกาสใช้น้อยลง ของดีของไทยให้คนไทยได้ใช้ทั่วถึงกันก็นับเป็นเรื่องดี
|
^ เปิดออกมาจะมีฝาปิดข้างในอีกชั้น
^ หน้าตาครีม เห็นเนื้อในกันชัดๆ ปริมาณที่ใช้ก็จะใช้เท่าที่เห็น โดยจะใช้ cotton bud ตักครีม แบบว่าเพื่ออนามัยที่ดี ปริมาณ 15 g.ต่อกระปุก ตอนแรกก็คิดว่านิดเดียว แอบบ่นกับที่ศูนย์ตอนสั่ง จนท.ที่ศูนย์บอกว่าไม่แพงแล้วจริงๆ พอได้ของมา..... และได้ใช้เข้าจริงๆ ใช้ได้นานแหะ จากรูปใช้ไปสักพักแล้วยังดูไม่พร่องเท่าไหร่ และพอมานั่งคิดๆ ทีใช้ของฝรั่งล่ะแพงกว่านี้หลายเท่าไม่เห็นบ่น แถมพอแพ้ขึ้นมาก็โวยวายไม่เท่าไหร่ พอของไทยล่ะจับผิดซะจริง ^^"
|
ได้ลงหนังสือพิมพ์ด้วยนะนี่ รูปนี้ได้มาจากgoogle ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของคนไทย เจ้าครีมยางพาราเปิดตัวมาตั้งกะปีที่แล้ว แต่ตอนนั้นไม่รู้ไปทำอะไรและอยู่หนใด.....ตกข่าวมากๆ
|
ข้อมูลเพิ่ม : สนับสนุนข้อมูลโดย : สำนักข่าวมุสลิมไทย
เชื่อมั้ยว่า...ยางพาราจะทำให้หน้าขาวได้ หลายคนอาจสงสัยยางพาราจะไปเกี่ยวข้องกับความงามได้อย่างไร
ในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบกันอย่างหนัก ยางพาราราคาตกไปกว่าครึ่ง ชาวสวนยางต้องร้องครวญกับราคายางที่ร่วงและอนาคตที่ดูมืดมน บัดนี้น้ำยางพารามีมูลค่าเพิ่มขึ้นหลายร้อยเท่า เพราะยางพารากลายเป็นพืชแห่งความงามไปแล้วจากงานวิจัยของอาจารย์จากม.อ.หาดใหญ่ทำให้งานวิจัยไม่ตั้งอยู่เฉพาะบนหิ้งอีกต่อไป
รศ.ดร.รพีพรรณ วิทิตสุวรรณกุล ภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เมธีวิจัยอาวุโส(สกว.) (เมธีวิจัยอาวุโส สกว. คือ ผู้ที่ได้รับ "ทุนส่งเสริมกลุ่มวิจัย" จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เพื่อสนับสนุนนักวิจัยอาวุโสให้สร้างนักวิจัยใหม่ที่มีความสามารถทางวิชาการสูง และเพื่อเป็นเกียรติแก่นักวิจัยในฐานะที่สร้างผลงานดีเด่น โดยเริ่มให้ทุนวิจัยตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2538 เป็นต้นมา ผู้ได้รับคัดเลือกให้เป็นเมธีวิจัยอาวุโส สกว. จะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) เจ้าของสิทธิบัตรครีมเสริมสุขภาพผิวจากยางพารา เปิดเผยว่า
จากการศึกษาและวิจัยยางพารามากว่า 20 ปี สังเกตเห็นว่า ยางพารา เป็นพืชที่ถูกคุกคามโดยการทำให้เกิดบาดแผลจากการกรีดแทบทุกวัน การที่เรากรีดเปลือกยางเพื่อเอาน้ำยาง ทำให้ต้นยางเป็นแผลและมีจุลินทรีย์เข้าไปรบกวน ต้นยางจึงสร้างสารต่อสู้จุลินทรีย์และหลั่งออกมาในน้ำยางด้วย และสร้างสารพฤกษเคมีขึ้นเพื่อรักษาบาดแผลและสร้างเนื้อเยื่อใหม่แทนบาดแผลที่โดนกรีด และสังเกตเห็นคนงานในโรงงานยางพารา ส่วนใหญ่ล้วนมีผิวพรรณที่มีสุขภาพดี จึงเกิดความคิดที่จะศึกษาวิจัยความพิเศษของสารในน้ำยาง
โดยผลจากการวิจัยร่วมกันหลายฝ่ายจากนักศึกษาปริญญาเอกและนักวิจัยอื่นๆพบว่าน้ำยางสดเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารพฤกษเคมีนานาชนิดซึ่งในน้ำยางพารานั้นมีส่วนประกอบของสารโปรตีเอสอินฮิบิเตอร์, แอนติออกซิแดนท์ 2-3 ประเภท, น้ำตาลแอลกอฮอล์ที่เป็นตัวสร้างความชุ่มชื้น และสารแอลฟาไฮดรอกซิเอซีฟ (เอ เอช เอ) ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์และมักใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ความงามหลายชนิด จึงสกัดสารเหล่านี้ออกมาแล้วส่งไปให้ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติพัฒนาเป็นครีมและทำการทดลองในคน ส่วนทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรทำการพัฒนาเกี่ยวกับการส่งสารเข้าสู่ผิวและทดลองในคน ซึ่งจากการวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้ครีมมีใบหน้าที่ขาวและเรียบเนียนขึ้นภายใน 6-8 สัปดาห์ อีกทั้งไม่พบอาการแพ้ใด ๆ นอกจากนี้ยางพารายังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
ด้านของเงินทุนได้รับการสนับสนุนทุนในการวิจัยจากศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย(TCELS) จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการวิจัยครีมหน้าขาวจากน้ำยางพารา โดยใช้ระยะเวลาในการค้นคว้า วิจัย และปรับปรุงผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 3 ปี
สำหรับผลการทดลองในห้องแล็บนั้น ดร.รพีพรรณ เปิดเผยว่า สามารถเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งคือ สารสกัดจากยางพารามีสารต้านไม่ทำให้เกิดสีผิวเข้ม ซึ่งกระบวนการที่จะทำให้สีผิวเข้มนั้นมี 2 กระบวนการ โดยสารที่สกัดมาสามารถยับยั้งได้ คือ 1.การยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี2.ไม่ให้เกิดการขนถ่ายของเม็ดสี เนื่องจากเห็นว่าสารสกัดจากธรรมชาตินั้นไม่ก่อให้เกิดพิษไม่เหมือนกับสารสกัดอื่นๆ
อย่างที่มีข่าวว่า "ไฮโดรควิโนน" เป็นสารพิษที่ทำให้เกิดใบหน้าด่างขาวมากไป มีพิษต่อเซลล์ แต่ถ้าหากใช้สารจากธรรมชาติโดยปกติจะไม่มีพิษหรือน้อยมาก ถ้าไม่ใช้ในปริมาณมาก หรือความเป็นกรดอย่างแรงก็จะไม่เป็นพิษ ส่วนผลข้างเคียงนั้น จากการทดลองกับสัตว์อื่นที่นอกจากหมูพื้นเมืองที่มีผิวคล้ายมนุษย์มากที่สุดแล้วพบว่าไม่เกิดการแพ้ใดๆ อย่างในการทดลองกับกระต่ายที่มีผิวแพ้ง่าย ก็ไม่เกิดการแพ้ ในหนูเมื่อให้รับประทานก็ไม่ตาย จึงเชื่อว่าผลข้างเคียงที่จะทำให้เกิดการแพ้นั้นน่าจะไม่เกิดขึ้น ส่วนระยะเวลาที่จะเห็นผลจากการทดลองกับสัตว์ ใน 8 สัปดาห์ก็สามารถเห็นผลได้ชัดเจนแล้ว แต่ในมนุษย์นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับเซลล์ผิวของแต่ละบุคคลซึ่งต่างกัน ในคนผิวขาวซึ่งมีเม็ดสีน้อยก็จะได้ผลเร็วกว่าผู้ที่มีสีผิวคล้ำ ระยะเวลาจึงไม่แน่นอนซึ่งต้องพิสูจน์ต่อไป
.................................................................................................................
จากการวิจัยสารสกัดที่อยู่ในน้ำยางพาราพบว่ามีกลุ่มสารที่เหมาะสำหรับนำไปใช้ทำเครื่องสำอางเพื่อเสริมหรือรักษาสุขภาพผิวพรรณให้ขาวใส เนียน และเต่งตึงขึ้น ได้แก่
1.สารต้านกิจกรรมการขนถ่ายเม็ดสีจากเซลล์สร้างเม็ดสี ไปยังเซลล์ผิว ทำให้ผิวขาวขึ้นเพราะเซลล์ผิวมีปริมาณเม็ดสีน้อยลง
2.สารแอนตี้ออกซิแด้นท์ชนิดที่นอกจากจะสามารถทำลายฤทธิ์สารอนุมูลอิสระของออกซิเจน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เหี่ยวย่นและมีริ้วรอยแล้ว ยังสามารถส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการสร้างเม็ดสีพีโอเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีหลักสำหรับผิวฝรั่ง และการลดลงของกิจกรรมการสร้างเม็ดสียูเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีหลักของคนผิวเอเชียและนิโกร
3.สารซูเปอร์แอนตี้ออกซิแด้นท์ ที่สามารถทำลายทั้งฤทธิ์ของอนุมูลอิสระของออกซิเจน และอนุมูลอิสระของไนโตรเจน รวมทั้งสามารถต้านกิจกรรมการกระตุ้นการสร้างสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ของเซลล์ผิวหนังเมื่อได้รับรังสียูวีจากแสงแดด ได้อีกด้วย ส่งผลยับยั้งการเกิดริ้วรอยและเสื่อมสภาพของผิวหนัง
4.สารน้ำตาลแอลกอฮอล์ น้ำตาลซูโครส, ฟรุคโตส และกรดอะมิโนที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังให้ดูเต่งตึงขึ้น
5.สารแอลฟาและเบต้าไฮดรอกซีแอซิด ที่สามารถช่วยเอื้อต่อการหลุดลอกของเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอกให้ง่ายขึ้น โดยสารเบต้าไฮดรอกซิแอซิดสามารถแทรกซึมเข้าไปออกฤทธิ์ในระดับรูขุมขนพร้อมทั้งสามารถป้องกันเซลล์ผิวจากการแผดเผาด้วยรังสียูวีบีได้ด้วย ส่งผลกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าแลดูเนียนและสดใสขึ้น
6. สารอาหารกรดอะมิโน 17 ชนิดรวมทั้งชนิดที่ใช้สำหรับสร้างโปรตีนคีราติน และคอลลาเจนเพื่อสุขภาพของที่ดีของเซลล์ผิว
7. สารอาหารแร่ธาตุสำคัญปริมาณน้อย จำพวก สังกะสี, โครเมียม, ทองแดง, แมงกานีส และซีเลเนียมที่เอื้อต่อกระบวนการปรับปรุงสุขภาพผิว
.................................................................................................................
นอกเหนือจากคุณสมบัติในการรักษาใบหน้ายังอาจใช้ร่วมกับส่วนอื่นๆของร่างกายได้ด้วย โดย ดร.รพีพรรณ ระบุว่า
เราอาจใช้ร่วมกับส่วนอื่นๆได้ แต่โดยเบื้องต้นเราทำออกมาเป็นครีมทาหน้า ซึ่งต่อไปก็อาจเป็นสบู่ และอื่นๆ คือสามารถใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย แต่ก็ต้องทำการทดลองต่อไปอีกเป็นแผนที่เราจะดำเนินต่อไปจากนี้
ประเทศไทยมียางพาราจำนวนมากและส่งออกไปทั่วโลก ทั้งนโยบายรัฐบาลยังส่งเสริมการปลูกยางพาราในหลายๆพื้นที่ ทำให้เรามีวัตถุดิบในด้านนี้เหลือเฟือ ขณะเดียวกันการค้นพบตรงนี้ยังช่วยต่อยอดศักยภาพของผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ตอนนี้ผลิตตามความต้องการของลูกค้า หลังจากได้รับหมายเลขในการจดสิทธิบัตรประมาณเดือนมีนาคมนี้จึงจะผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป ซึ่งเจ้าของคือทางม.อ.และTCELS จะตกลงกันว่าจะขายสิทธิบัตรให้บริษัทไหนไปผลิต ในอนาคตอยากขายสารสกัดมากกว่าเพราะสามารถส่งออกและขยายตลาดได้ทั่วโลก ดร.รพีพรรณเอ่ยถึงการดำเนินงาน
ในด้านการส่งเสริมให้ชาวสวนมีรายได้เพิ่มจากการวิจัยนี้ รศ.ดร.รพีพรรณกล่าวว่า ต้องมองในภาพรวมเพราะต้องมีการพัฒนาไปถึงระดับที่เอกชนสามารถทำเองได้ ต้องมีการอบรมและการจัดการที่มีประสิทธิภาพในการจะเอาสารสกัดหรือเซรั่มที่บริสุทธิ์เพราะนำมาให้กับใบหน้า ชาวสวนก็จะมีรายได้เพิ่มจากส่วนที่ไม่ใช่ยางหรือน้ำยางโดยเอาส่วนที่เป็นสารสกัดมาขายได้ภายใต้สถานการณ์การควบคุมคุณภาพจากบริษัทผู้ผลิต
อยากให้เด็กรุ่นใหม่คิดค้นทดลองและเข้ามาสู่งานวิจัยกันมากขึ้น จากการที่เราขายยางไปอย่างเดียวแล้วต่างประเทศคิดค้นผลิตภัณฑ์ จดสิทธิบัตรนำสินค้ากลับเข้ามาขายเราในราคาแพง เราต้องคิดต่างออกไป และยังหวังว่าเด็กไทยยังมีความสามารถอีกมากและควรใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ เมธีวิจัยอาวุโสกล่าวปิดท้าย
.................................................................................................................
ทางด้าน ผศ.คำรณ พิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่าทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้จัดตั้ง บริษัทพี.เอส.ยู.นวัตวาณิชย์ หรือ PSU Innovation trading Company ด้วยทุนจดทะเบียน 1ล้านบาท
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ในส่วนของครีมหน้าใสยางพารา (Hb Brightening Cream) เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจ ซึ่ง ขนาดบรรจุ 15 กรัม ราคาชุดละ 450 บาท และสารสกัดเอชบีเพื่อปรับปรุงสุขภาพผิว (The Hb extract for improving skin health) ขนาดบรรจุ 50 กรัม ผงแห้ง ราคา 3,000 บาท
ครีมหน้าใสยางพารา (Hb Brightening Cream) มีวิธีใช้คือ หลังการทำความสะอาด ทาครีมลงบนผิวหน้าและลำคอเพียงบางๆ ทุกเช้าและเย็นหรือบ่อยครั้งตามที่ต้องการ ควรเก็บครีมไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีและไม่โดนแสงแดดหรือเก็บไว้ในตู้เย็น ก่อนใช้ควรทดลองทาบางๆ ใต้ท้องแขนและทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง หากเกิดการระคายเคืองควรระงับการใช้
ผู้แทนจำหน่ายขณะนี้คือ บริษัทพี.เอส.ยู.นวัตวาณิชย์ จำกัด ชั้น G อาคารการจัดการสิ่งแวดล้อม ม.อ.หาดใหญ่ โทรศัพท์ 083-5133960, 084-1990741
ภายใต้การสนับสนุนของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมีจำหน่าย ณ ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจอีก 3 แห่งของม.อ.คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และปัตตานี
ปัจจุบันตลาดครีมหน้าขาวกำลังได้รับความนิยม โดยพบว่าในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณปีละ 25,000 ล้านบาท ดังนั้นการค้นพบสารสกัดจากน้ำยางพาราที่มีคุณสมบัติลดความเข้มข้นของสีผิว จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพยางพาราเพื่อการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายได้อีกระดับหนึ่ง และเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย
|
..V..V..V..V..V..V..V..V..V.. ผ่านไป 3 เดือนจะมาupdateสภาพผิวตัวเอง
Create Date : 01 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 17 มีนาคม 2553 20:01:54 น. |
|
52 comments
|
Counter : 13295 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Noky (Nami&Robin ) วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:13:21:33 น. |
|
|
|
โดย: DA IP: 124.120.174.3 วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:15:44:08 น. |
|
|
|
โดย: กsะต่าeน้อe (ดูดีในที่มืด ) วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:16:10:19 น. |
|
|
|
โดย: I am cin วันที่: 1 สิงหาคม 2552 เวลา:17:18:35 น. |
|
|
|
โดย: berserker IP: 117.47.158.131 วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:1:47:15 น. |
|
|
|
โดย: I am cin วันที่: 2 สิงหาคม 2552 เวลา:11:57:57 น. |
|
|
|
โดย: Noky (Nami&Robin ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:11:12:46 น. |
|
|
|
โดย: mychoco วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:15:51:21 น. |
|
|
|
โดย: นิธิกานต์ IP: 58.9.229.245 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:11:54:05 น. |
|
|
|
โดย: I am cin วันที่: 24 สิงหาคม 2552 เวลา:15:57:08 น. |
|
|
|
โดย: นิธิกานต์ IP: 58.9.146.177 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:11:58:45 น. |
|
|
|
โดย: I am cin วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:8:49:38 น. |
|
|
|
โดย: รัญธิดา IP: 203.155.63.130 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:9:57:20 น. |
|
|
|
โดย: Nami&Robin วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:11:42:29 น. |
|
|
|
โดย: PP IP: 119.31.104.141 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:17:56:13 น. |
|
|
|
โดย: ^__^ IP: 203.144.144.165 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:23:07:56 น. |
|
|
|
โดย: เนเธเนเนเธซเธกเธทเธญเธเธเธฑเธ IP: 110.77.145.108 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:42:46 น. |
|
|
|
โดย: กระทู้ข้างบน IP: 110.77.145.108 วันที่: 5 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:44:55 น. |
|
|
|
โดย: เกด IP: 125.27.50.23 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:31:00 น. |
|
|
|
โดย: เมย์ IP: 118.173.158.231 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:58:28 น. |
|
|
|
โดย: jommy IP: 110.174.15.204 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:27:24 น. |
|
|
|
โดย: เมย์ IP: 118.173.150.55 วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:10:11:56 น. |
|
|
|
โดย: punuki IP: 10.0.1.57, 124.122.147.30 วันที่: 5 มิถุนายน 2553 เวลา:10:53:34 น. |
|
|
|
โดย: jeeds IP: 118.172.167.56 วันที่: 7 มิถุนายน 2553 เวลา:13:03:09 น. |
|
|
|
โดย: nuangz-psu-itc IP: 112.142.181.136 วันที่: 9 มิถุนายน 2553 เวลา:17:31:00 น. |
|
|
|
โดย: ziiz IP: 119.31.11.239 วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:21:14:04 น. |
|
|
|
โดย: nuangz-psu-itc IP: 183.88.121.241 วันที่: 10 มิถุนายน 2553 เวลา:22:12:12 น. |
|
|
|
โดย: Numthip IP: 118.172.139.33 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:10:19:20 น. |
|
|
|
โดย: พสิ IP: 115.31.136.249, 117.121.208.2 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:15:36:24 น. |
|
|
|
โดย: mam IP: 61.7.136.180 วันที่: 22 มิถุนายน 2553 เวลา:14:28:36 น. |
|
|
|
โดย: jeed IP: 125.25.199.46 วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:25:33 น. |
|
|
|
โดย: ผีญี่ปุ่นน้อย IP: 180.180.81.240 วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:33:01 น. |
|
|
|
โดย: แก้ว IP: 124.120.34.68 วันที่: 23 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:23:01 น. |
|
|
|
โดย: เอ๋ เองจร้า IP: 182.232.61.65 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:15:52:38 น. |
|
|
|
โดย: กิ๊กกิ๊ก IP: 118.175.148.29 วันที่: 12 ตุลาคม 2553 เวลา:11:36:44 น. |
|
|
|
โดย: nuangz IP: 222.123.136.20 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:45:38 น. |
|
|
|
โดย: sugy IP: 118.173.105.89 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:47:11 น. |
|
|
|
โดย: ชื่นกมล IP: 124.121.172.64 วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:14:32:45 น. |
|
|
|
โดย: นาน้า IP: 119.46.90.103 วันที่: 17 มกราคม 2554 เวลา:9:36:08 น. |
|
|
|
โดย: บี IP: 118.173.143.211 วันที่: 20 มกราคม 2554 เวลา:11:02:34 น. |
|
|
|
โดย: wikornnsp@hotmail IP: 58.11.20.107 วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:13:38:19 น. |
|
|
|
โดย: นาน้า IP: 119.46.90.100 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:54:39 น. |
|
|
|
โดย: สปายจัง IP: 113.53.6.178 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:21:06:29 น. |
|
|
|
โดย: หนึ่งฤทัย IP: 182.232.209.127 วันที่: 19 เมษายน 2554 เวลา:14:22:44 น. |
|
|
|
โดย: nuangz IP: 61.7.172.161 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:11:40:33 น. |
|
|
|
โดย: kook IP: 49.229.49.163 วันที่: 1 ธันวาคม 2554 เวลา:16:42:33 น. |
|
|
|
โดย: หนึ่งฤทัย IP: 61.7.172.183 วันที่: 12 มีนาคม 2555 เวลา:18:26:09 น. |
|
|
|
โดย: นิชาภัทร IP: 49.228.207.52, 141.0.9.6 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:16:44:21 น. |
|
|
|
โดย: PSU-ITC IP: 202.12.74.129 วันที่: 4 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:36:50 น. |
|
|
|
โดย: Jacky IP: 1.0.242.50 วันที่: 27 ตุลาคม 2556 เวลา:17:53:07 น. |
|
|
|
โดย: ไฟเย็น IP: 223.204.228.190 วันที่: 14 เมษายน 2558 เวลา:12:53:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|