เรื่องอุบัติเหตุแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เราเชื่อว่าทุกคนที่ขับรถย่อมมีความระมัดระวังกันทุกคนอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกค่ะว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และบางสถานการณ์แม้ว่าเราจะระมัดระวังมากแค่ไหนก็ตาม
อย่างทุกวันนี้ที่ฝนตกทุกวัน การขับรถบนถนนที่ลื่นนั้น ย่อมส่งผลให้อุบัติเหตุเกิดได้ง่ายกว่าปกติ และเรารู้กันอยู่แล้วว่าหากเกิดเหตุการรถชนกัน ไม่ว่าจะเป็นคนอื่นขับรถมาชนเรา หรือเราขับรถไปชนคนอื่น หากเราทำประกันภัยรถยนต์ไว้แน่นอนว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ย่อมอยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัยรถยนต์แน่นอน แต่ในบางกรณีที่อุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ได้เกิดจากรถชนรถ แต่เป็นเราขับรถไปชนทรัพย์สินอย่างอื่น เคยสงสัยหรือไม่คะว่า กรณีแบบนี้จะอยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์หรือไม่
ขับรถชนเสาไฟฟ้า ประกันจ่ายมั้ย
ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ในกรณีที่มีการขับรถชนเสาไฟฟ้านั้น จะแบ่งออกตามประเภทของประกันภัยรถยนต์ที่คุณทำไว้ค่ะ
-ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 หากคุณขับรถยนต์ในช่วงที่ถนนลื่น และเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น รถชน รถเสียหลักตกข้างทาง รถคว่ำ หรือชนเสาไฟฟ้า และรถได้รับความเสียหาย ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 จะให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เท่านั้น
-ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 หากคุณขับรถไปชนเสาไฟฟ้า รถชน รถเสียหลักตกข้างทาง รถคว่ำ และรถของคุณได้รับความเสียหาย ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 จะจ่ายค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกเท่านั้น ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ คุณจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเองค่ะ
-ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2พลัส และ ประกันภัยรถยนต์ 3 พลัส หากคุณขับรถไปชนเสาไฟฟ้า รถชน รถเสียหลักตกข้างทาง รถคว่ำ และรถของคุณได้รับความเสียหาย ประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้จะจ่ายค่าเสียหายให้กับความเสียหายของบุคคลภายนอกเท่านั้น ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ คุณจะต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบเอง
ทั้งนี้ก็เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น2 และประกันภัยรถยนต์ชั้น2 พลัส และ 3พลัส นั้นจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบุคคลภายนอก และความเสียหายที่เกิดจากรถชนรถเท่านั้น แต่ถ้าหากอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ หรือสาเหตุที่ทำให้คุณขับรถไปชนเสาไฟฟ้านั้น มีสาเหตุมาจากรถยนต์คันอื่น เช่นการเฉี่ยวชนที่ทำให้เสียหลักจนเกิดเหตุดังกล่าว แล้วคุณสามารถแจ้งให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ทราบถึงคู่กรณีได้ ประกันภัยรถยนต์ถึงจะให้ความคุ้มครองแก่คุณค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้เราจะรู้แล้วว่ากรณีดังกล่าวนั้นอยุ่ในความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ แต่หากคุณมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถในขณะที่ฝนตกถนนลื่น ก็ควรที่จะเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้นนะคะ