เก็บมาจากกระทู้ของคุณ Ala Moana
เซี่ยงเส้าหลงจ้งเก๋าเจ้ง กรรมเก่าปชป.เคย"ปลุกกระแส"ทำลายคู่แข่ง!?
โดย เซี่ยงเส้าหลง 1 กุมภาพันธ์ 2548 00:44 น.
สุดแสนจะ คลาสสิก จริง ๆ สำหรับการ์ตูนฝีมือ บัญชา/คามิน เมื่อวานนี้ใน ผู้จัดการรายวัน คนรุ่นหลังที่ไม่มีพื้นฐานประวัติศาสตร์การเมืองไทยอาจจะ งง ขออนุญาตให้ เซี่ยงเส้าหลง นำมาลงอีกครั้งหนึ่งและขยายความสักนิดหนึ่งเถอะว่าเป็นการจำลอง ภาพเหตุการณ์เมื่อปี 2489 ที่มี ไอ้โม่ง ปรปักษ์ทางการเมืองของท่านปรีดี พนมยงค์ เข้าไปปล่อยข่าวสร้างกระแสด้วย การตะโกน ใน โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมกรุง ว่า ...ปรีดีฆ่าในหลวง. เพื่อโยงให้ประชาชนหลงเชื่อว่ารัฐบุรุษอาวุโสมันสมองของคณะราษฎรท่านนี้มีส่วนเกี่ยวข้องใน กรณีสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 8 เมื่อ วันที่ 9 มิถุนายน 2489 กระบวนการสร้างกระแสความเชื่อที่ผิด ๆ เช่นนั้นดำเนินไป อย่างเป็นระบบ นอกจากจะมีผลให้สุภาพบุรุษทางการเมืองอย่างท่านต้อง ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากเพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน 2489 แล้ว เดินทางไปต่างประเทศชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วยังเป็นผลต่อเนื่องให้เกิด รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 ที่ตามมาด้วย การไล่ล่าสังหารกลุ่มบุคคลที่สนับสนุนท่านปรีดี พนมยงค์ ชนิดที่แม้กระทั่งตัวท่านก็ แทบเอาชีวิตไม่รอด แน่นอนว่าไม่มีใครยอมรับว่าเป็น ผู้อยู่เบื้องหลังการตะโกนปล่อยข่าวในโรงภาพยนตร์ รู้แต่เพียงว่า พรรคประชาธิ ปัตย์ หันมาร่วมมือกับ คณะทหาร และหัวหน้าได้ขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรีขัดตาทัพ อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อนที่คณะทหารจะ เชิญออกจากตำแหน่งไป แล้ว ขึ้นเถลิงอำนาจเอง อันถือเป็น จุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญ ของบ้านนี้เมืองนี้ กรรมเก่า จะย้อนมาสนอง พรรคประชาธิปัตย์ ดังจินตนาการของ บัญชา/คามิน หรือไม่ เซี่ยงเส้าหลง ว่ามีแต่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เท่านั้นที่จะ รู้ชัด เพราะถึงอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องยืนกระต่ายสามขาว่า ไม่รู้ไม่เห็น กับการสั่งพิมพ์ สติ๊กเกอร์พระราชดำรัส ที่ถูกจับได้ที่บริเวณ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์เขตคลองเตย งานนี้ก็หนักหน้า ก.ก.ต. อีกเช่นเคยเพราะถ้าวินิจฉัยออกมาว่าเป็นการกระทำโดยที่ ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรู้เห็น นั้น โทษหนัก ถึงขั้น ยุบพรรค ทีเดียวเชียวแหละ ที่สำคัญก็คืองานนี้ เสียท่า ปล่อยให้มีการบันทึกเทปเสียงสนทนา แนวทางการแก้เกม แสดงให้เห็นว่า เกลือเป็นหนอน แล้ว จริงอยู่ การเผยแพร่พระราชดำรัส นั้นแม้จะ ไม่ผิด แต่นี่เป็นประเด็นที่ ละเอียดอ่อน การกระทำที่มีแนวโน้มส่อไปในทาง เพื่อประโยชน์ในการต่อสู้ทางการเมือง นั้นจะผิดหรือไม่ผิดไม่สำคัญเท่ากับว่า ไม่เหมาะสม, ไม่สมควรกระทำ เป็น มุกเก่า, มุกเดิม ที่พูดตามตรงว่าฝ่ายตรงกันข้ามเขา จับทางได้แล้ว จึงไม่ยากที่เขาจะ ย้อนรอย เอาอย่าง เจ็บปวด เช่นครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้ตั้งแต่ ปลายปี 2544 โดยเฉพาะช่วง ต้นปี 2545 บรรดาพันธมิตรปรปักษ์ทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่รู้ตัวดีหากจะ โค่มล้ม คน ๆ นี้ลงได้ เร็ว, เบ็ดเสร็จ มีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือหันไปใช้ ยุทธการดั้งเดิม ที่เคยกระทำต่อ ท่านปรีดี พนมยงค์ เมื่อครั้ง ปี 2489 - 2490 ด้วยกระบวนการปล่อยข่าวแพร่ข่าวสร้างภาพให้คน ๆ นี้เป็น บุคคลผู้มักใหญ่ใฝ่สูงเกินศักดิ์ เห่อเหิมไม่เจียมตน โดยพัฒนารูปแบบวิธีการขึ้นจากระดับ การตะโกนในโรงภาพยนตร์ มาเป็นการใช้ สื่อมวลชน รวมทั้ง สื่อมวลชนต่างประเทศ คำว่า ...ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่. นั้นออกจากปากหนึ่งในคนกลุ่มนี้ตั้งแต่ช่วง กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2545 หลังจาก พลิกเกม จาก รับ ขึ้นมา ยัน ได้ในระดับหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกเล่าความในใจของเขาออกมาในการให้สัมภาษณ์ ไมเคิล วิติคิโอติส, รอดนีย์ ทาสเกอร์ แห่ง ฟาร์อีสเทิร์นอีคอนอมิกรีวิว ในบทความเรื่อง Prickly Premier ตีพิมพ์ในฉบับลง วันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2002 ประโยคตรงไปตรงมามีว่า ...มีบางคนพยายามทำให้ผมปะทะทางอุดม การณ์กับประชาชน โดยอาศัยสถาบันพระมหากษัตริย์ นั่นเลวร้ายอย่างมาก ผมทุ่มเททั้งหัวใจให้กับพระมหากษัตริย์และประเทศไทย พวกนั้นไม่สามารถโค่นผมโดยอาศัยระบบรัฐสภาได้ เพราะประชา ชนให้ฉันทานุมัติผมมา และเพราะความเข้มแข็งในการเป็นผู้นำของผม. (ภาษาเดิมจากต้นฉบับก็คือ Someone is trying to make me clash ideologically with the people through the monarchy. That is very bad. I am wholeheartedly for the king and Thailand. และ They cant topple me using the parliamentary system. They cant do it, because of the peoples mandate and my strong leadership. ) ในเดือนเดียวกันนั้นเองระหว่างการประชุมใหญ่ พรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคในขณะนั้นคือ ชวน หลีกภัย ก็เอ่ยวาจาทำนองว่ารัฐบาลชุดนี้ ...กำลังบริหารประเทศด้วยระบบกึ่งประธานาธิบดี. เรื่องนี้ที่ เซี่ยงเส้าหลง กล่าวว่าเป็น มุกเก่า, มุกเดิม ไม่เฉพาะพิจารณาในกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นหากลองไปอ่านประวัติศาสตร์ดูเถิด อดีตผู้นำไร้แผ่นดิน ไม่ว่า ท่านปรีดี พนมยงค์, จอมพลป. พิบูลสงคราม, จอมพลถนอม กิตติขจร, จอมพลประภาส จารุเสถียร และ พันเอกณรงค์ กิตติขจร ล้วนพ่ายแพ้ต่อ วิชามาร ลักษณะนี้มาทั้งสิ้น จุดเปลี่ยนของสถานการณ์เมื่อ 3 ปีก่อนเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 5 พฤษภาคม 2545 เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้าวิเศษ โดยพระบรมราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ อันถือเป็น มงคลสูงสุด คุ้มหัว ดับข่าวลือ-ข่าวปล่อย ไปได้ชั่วคราว แต่ เซี่ยงเส้าหลง ก็ขอ ท้วง, ติง มายัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วยเช่นกันว่าไม่ควร ฉวยโอกาสรุกไล่ปรปักษ์ทางการเมือง ด้วย มุกเก่า, มุกเดิม หรือนัยหนึ่ง มุกเดียวกัน เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ตัวท่านก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา ของพรรค์นี้ ปล่อยให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ อย่าไป เร่งเกม เลย เรื่อง พระราชดำรัส ไม่ว่าองค์ใดก็ตาม เซี่ยงเส้าหลง เห็นว่า ศักดิ์สิทธิ์ ไม่จำเป็นต้อง เร่ง ไม่จำเป็นต้อง ขยายความ, กล่าวอ้าง ให้ดู มากเกินไป, ผิดธรรมชาติ อีกไม่ช้าไม่นานก็จะ เป็นที่ประจักษ์ เอง
*************************************
ไม่อายคนอื่นก็หัดอายตัวเองบ้างสิ...ธิเอ๊ย ไม่รู้จะเก๋าเจ้งไปถึงไหน
จากคุณ : Ala Moana - [ 17 มิ.ย. 49 07:16:59 ]
Create Date : 17 มิถุนายน 2549 |
|
1 comments |
Last Update : 17 มิถุนายน 2549 10:15:53 น. |
Counter : 450 Pageviews. |
|
|
|