Bloggang.com : grooveriderz : จี้นายกฯญี่ปุ่นลาออก

PINK PANDA

กรกฏาคม 2550

1	2	3	4	5	6	7
8	9	10	11	12	13	14
15	16	17	18	19	20	21
22	23	24	25	26	27	28
29	30	31

31 กรกฏาคม 2550

จี้นายกฯญี่ปุ่นลาออก

จี้นายกฯญี่ปุ่นลาออกอะเบขอปรับ ครม.ชุดใหญ่แทน

โตเกียว-"ชินโซอะเบ" เจอแรงกดดันให้ลาออกแสดงความรับผิดชอบที่พรรครัฐบาลพ่ายการเลือกตั้งวุฒิสภาอย่างหมดรูป ด้านเจ้าตัวยืนกรานไม่ลาออก แต่จะขอปรับครม.ชุดใหญ่แทน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์(30 ก.ค.) ว่า นายชินโซ อะเบ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับเสียงเรียกร้องให้ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบภายหลังจากที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) และพรรคร่วมรัฐบาลพ่ายการเลือกตั้งวุฒิสภาเมื่อวันอาทิตย์อย่างหมดรูป โดยหนังสือพิมพ์ไมนิจิ และหนังสือพิมพ์อาซาฮี ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์รายวันยักษ์ใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างชัดเจน และถือเป็นคำพิพากษาที่ดีที่สุดว่า รัฐบาลที่ไม่ผ่านบททดสอบด้านความไว้วางใจจากประชาชนสมควรจะต้องลาออก
หนังสือพิมพ์ไมนิจิรายงานว่า หากนายอะเบยืนยันจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปก็ควรจะยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเพื่อยืนยันเสียงของประชาชนอีกครั้ง ซึ่งสอดคล้องกับเสียงเรียกร้องของฝ่ายค้าน รวมถึงหนังสือพิมพ์นิคเคอิ และหนังสือพิมพ์โตเกียว แต่นายอะเบได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง โดยบอกว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่เท่านั้น
ทั้งนี้นายอะเบได้แถลงภายหลังจากที่รับทราบความพ่ายแพ้ว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้รุนแรง เรายอมรับการตัดสินของประชาชนอย่างจริงจัง และจริงใจ อย่างไรก็ตาม เป็นความรับผิดชอบของเขาที่จะสานต่อภารกิจในการสร้างประเทศใหม่ และผลักดันการปฏิรูป พร้อมประกาศว่าจะปรับคณะรัฐมนตรีที่รุมเร้าไปด้วยเรื่องอื้อฉาว
ด้านแกนนำพรรคแอลดีพีได้ประชุมกันเมื่อวันจันทร์และได้อนุมัติให้นายอะเบดำรงตำแหน่งต่อไป แต่ก็มี ส.ส.หัวกบฏภายในพรรคที่ตั้งคำถามเรื่องที่นายอะเบจะอยู่ต่อ หนึ่งในนั้นคือ นายทะโร โคโนะ ที่กล่าวว่าผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนมากตัดสินใจว่า นายกฯ หรือรัฐบาลของเขาไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรับตำแหน่ง และว่านายอะเบไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้เหมือนก่อน เพราะปัญหาต่างๆใน ครม.ของเขาได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการลงคะแนน
ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการนั้นพรรคแอลดีพี และพรรคนิวโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ 46 ที่นั่ง จากทั้งหมด 121 ที่นั่ง ลดลงจากเดิมที่เคยได้ 76 ที่นั่ง เฉพาะแอลดีพีเพียงพรรคเดียวได้ที่นั่งเพียง 37 ที่นั่ง ลดลงจากที่เคยได้ 64 ที่นั่ง ทำให้เป็นครั้งแรกที่แอลดีพีไม่ได้เป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา
ทั้งนี้แม้ว่าความพ่ายแพ้ในสภาสูงจะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรคแอลดีพีมากนักเนื่องจากยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มีอำนาจในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆอยู่ แต่ที่แล้วมานายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมักลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบเวลาเผชิญความพ่ายแพ้เช่นนี้

ที่มา:หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 30 กรกฏาคม 2550