พฤศจิกายน 2554

 
 
1
2
3
5
6
8
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
ความทรงจำดีๆที่...ลี่เจียง-04



ถึงลี่เจียงแล้ว เห็นม้าตัวนี้ก็เตรียมตัวลงรถได้เลย รถจอดที่ขนส่ง เดินออกมาต่อแท็กซี่ ไม่เกิน10หยวน ไปลงด้านหน้าเมืองเก่า แล้วต้องเดินเข้าไปในเมืองเก่าเอง แนะนำว่า ถ้าอยากประหยัดให้หาที่พักนอกเมืองเก่า แต่ถ้า ขี้เกียจเหมือนเราก็หาในเมืองเก่าได้เลย ในเมืองเก่าพื้นจะปูด้วยหิน(แกรนิตมั้ง) แต่มันทำให้การลากกระเป๋าลำบากมาก ถ้ากระเป๋าไม่แข็งแรงอาจเจ๊งได้ง่ายๆเลย




เนื่องจากเรามาถึงก็มืดแล้ว และก็มีนายหน้าเป็นอาม่าคนหนึงมาเสนอห้องพักให้เรา เราก็บอกเค้าไปว่าอยากได้ราคาเท่าไร ของพวกเราขอ 50หยวน เค้าก็พาไปดูห้อง(ของเจ้าของอื่น) ซึ่งก็ใช้ได้แต่ไม่ถูกใจ เค้าก็เลยถามว่าไปดูห้องของเค้าไหมล่ะ 100หยวน เราก็เลยตามไปดู




ห้องก็สวยงามสะดวกสบายดี เลยต่อราคาอาม่าแกอีกนิด บอกนอน ประมาณ2-3คืน เป็นคืนละ 80หยวน แกก็โอเค มีน้ำร้อน ที่นอนไฟฟ้าก็มีให้ด้วยไม่คิดเพิ่ม(ควรต่อรองราคานะจ๊ะไม่ควรแพงกว่า 100หยวน ต่อคืน) อาม่าแกแข็งแรงมาก ดูๆน่าจะ 70 กว่าๆแล้ว แกจะมาลากกระเป๋าให้พวกเรา พวกเราก็ไม่ยอม กลัวทรมานคนแก่ เลยบอกแกว่าไม่เป็นไรเราลากกันเองได้ เราเลยลากกันเอง สักพักแกเห็นว่าพวกเราเก้ๆกังๆ เนื่องจากพื้นในเมืองเก่าสภาพไม่ค่อยอำนวย แกเห็นอย่างนั้นก็เลยมาช่วย กลายเป็นเราเดินตาม อาม่ากะคุณแฟนช่วยกันลากกระเป๋าไปจนถึงที่พัก








รูปเพิ่มเติมที่พักตอนเช้า (ของวันที่จะไปแชงกรีล่า)








ห้องข้างบน นี่แหละ




กลับมาที่วันเดิม ที่มาถึง นี่คืออาหารมื้อแรกที่ลี่เจียง เป็นเนื้อจามรีย่าง 3ไม้ 10หยวน กับปาปา 2แผ่น แล้วก็หมี่ร้อนๆ 1ชาม สังเกตว่าแทบทุกมื้อต้องมีหมี่ ก็เพราะว่าอากาศมันหนาว แล้วที่สำคัญมันถูกและอร่อยด้วย




ขนมไหมฟ้าที่นี่อร่อยกว่าที่ไทยเยอะเลย (ก็เค้าต้นตำหรับนิหน่า55++)




เส้นไหมเป็นน้ำตาล ส่วนไส้เป็นถั่ว รสชาติเหมือนถั่วตุ๊บตั๊บอร่อยๆ




เนื่องจากเราหาข้อมูลตามเวปต่างๆและกระทู้ในพันทิป ทำให้เจอกระทู้ของคุณห้าสิบกะรัต (ขอขอบคุณคุณห้าสิบกะรัตด้วยนะคะ) เราก็เลยได้เบอร์คุณ หวงลี่ฮัวมา วันละ150 หยวน ก็เลยลองติดต่อไปตอนกำลังกินข้าวแต่ว่าคุณหวงลี่ฮัวไม่ว่าง เลยให้ลูกพี่ลูกน้อง ชื่อพี่ซิงมาแทน เพื่อรับพวกเราไปเที่ยวในวันพรุ่งนี้ นัดเจอกัน 8โมงเช้าหน้ากังหันน้ำ

วันที่ 7ม.ค.54 วันที่ 8 ของการเดินทาง

เช้าแรกที่ลี่เจียง อาม่าก็มาเคาะประตูห้องแต่เช้า ถามว่าจะนอนต่ออีกคืนไหม ถ้านอนต่อ ก็ลงไปจ่ายเงินข้างล่างได้เลย พอ 8โมงตรงก็เจอกับพี่ซิงเลย พี่เค้าตรงเวลา และนิสัยดีมากๆ ให้คำแนะนำพวกเราเต็มที่ แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้นะจ๊ะ พูดภาษาจีนได้อย่างเดียว

เมืองเก่ายามเช้า








ถนนรอบเมืองเก่า




อาหารเช้ามื้อนี้ก็ได้พี่ซิงนี่แหละพาไป เพราะไม่มีเวลาไปหาทานที่อื่น ได้ปาปา มา 1แผ่น กินกับพริกที่รสชาติเหมือนน้ำพริกหนุ่ม กับหมี่ร้อนๆเหมาะกับอากาศหนาวๆ 1ชาม กินปาปาเหลือ เลยขอถุงมาใส่เก็บไว้กินต่อตอนบ่าย เพราะไม่รู้จะได้แวะร้านอาหารอีกหรือเปล่า




โปรแกรมวันนี้ ที่แรกคือ ตงปากู่ ตามมาด้วยภูเขาหิมะมังกรหยกและไป๋สุยเหอ
รถของพวกเรา จริงนั่งได้ 6-7 คน(ไม่รวมคนขับ) แต่ไปกัน 2คนเลยนั่งได้สบายๆ




เดินทางไปสักพักก็แวะซื้อออกซิเจนกระป๋อง ซึ่ง มันสำคัญมากๆๆๆ กระป๋องนี้เป็นแบบคุณภาพดีกระป๋องละประมาณ 50หยวน ถึงตรงนี้ขอแนะนำนิดหน่อย สำหรับคนที่จะเดินทางมาทริปนี้ควรมีร่างกายที่เตรียมพร้อมพอสมควร ควรจิบน้ำบ่อยๆเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ เตรียมขนมหวานๆพวกช็อคโกแล็ตไปด้วยก็จะดีมาก ถ้าเลือกได้ หรือมีเวลามาก การเดินทางทางรถจะดีที่สุด เพราะจะได้ค่อยๆปรับสภาพร่างกาย เนื่องจากเส้นทางนี้มีระดับความสูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก จะทำให้ คนไม่คุ้นเคยกับสภาวะแบบนี้เสี่ยงต่อภาวะ High altitude sickness หรืออาการแพ้ที่สูง มีอาการปวดหัว เหนื่อยหอบ คลื่นไส้ อาเจียน ไม่มีแรงฯ เป็นมากน้อย แต่ละคนไม่เท่ากัน หรือบางคนก็ไม่เป็นเลย (อย่างเช่นพวกเรา) ยาที่ใช้ในภาวะนี้ที่เรารู้ก็คือยา Diamox ควรกินก่อนขึ้นที่สูง 24ช.ม. และกินต่อเนื่องขณะที่ยังอยู่บนที่สูง ควรกิน 125กรัม (ครึ่งเม็ด) เช้า-เย็น 2เวลา คนที่แพ้ซัลฟ่าห้ามกินอาการข้างเคียงที่อาจมีคือ ชาที่ริมฝีปาก-ปลายนิ้ว ปัสสวะบ่อย เป็นต้น




ภูเขาหิมะมองจากในรถ




จุดหมายแรกของเราคือตงปากู่ ก่อนอื่นต้องแวะซื้อตั๋วก่อน พี่ซิงกะคุณแฟนกำลังซื้อตั๋วอยู่ เป็นตั๋วรวมอุทยานแห่งชาติราคา 190หยวน (น่าจะรวมค่าเข้าเมืองเก่า 80หยวนแล้ว) ตั๋วนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อที่นี่ที่เดียว อาจซื้อจากที่อื่นก็ได้ เช่นซื้อที่สระมังกรดำ สามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวทุกที่ที่เราเห็นในรีวิวตามเวปต่างๆได้เลย (แต่ที่ภูเขาหิมะต้องซื้อตั๋วเคเบิ้ลคาร์แยกต่างหาก) เราก็มีหน้าที่แค่เที่ยวให้ครบสถานที่ที่ระบุในตั๋วเท่านั้นเอง

ซื้อตั๋วแล้วก็เตรียมลุย




ตงปากู่จะมีทางให้เดินไปเรื่อยๆ วันนี้คนน้อยเดินเล่นได้สบายๆ




มีร้านขายของที่ระลึกด้วย




ยืนถ่ายรูปสักพักก็มีสาวๆมายืนร้องเพลงชนเผ่าให้ฟัง




มุมภูเขาหิมะมองจากตงปากู่






ภูเขาหิมะกับดอกเหมย




ออกเดินทางมายังจุดหมายต่อมาคือ ภูเขาหิมะมังกรหยก








เดินเข้าไปในอาคารเพื่อต่อรถไปทางขึ้นกระเช้า






เสียค่ากระเช้าไป-กลับอีกคนละ 170หยวน




วิวสวยๆบนกระเช้า






ถึงจุดหมายบนภูเขาหิมะแล้ว คนไม่ค่อยเยอะ แต่โชคไม่ดี ที่ไม่สามารถเดินไปถึงยอดได้เพราะหิมะมันหนาและลื่นเกินไป อันตรายเค้าปิดทางเดินไว้ เลยได้อยู่แค่แถวๆบันไดชั้น2เอง










อันนี้น่าสนใจแต่ไม่ได้ลองเล่น อากาศข้างบนมันหนาวมากๆๆๆๆๆ ขนาดใส่เสื้อทั้งหมด 6ชั้นยังหนาวเลย มือชาจนแทบจะไม่มีความรู้สึกแล้ว และต้องคอยสูดออกซิเจนกระป๋องเป็นระยะๆ เพราะอากาศข้างบนเบาบางมาก พาลจะหายใจไม่ออกเอาดื้อๆ




สูงกว่าระดับน้ำทะเล 4,506เมตร จากระดับน้ำทะเล




พอลงจากกระเช้าก็นั่งรถออกมา จุดต่อไปคือไป๋สุยเหอ(ไม่เสียค่าเข้าชม) ต้องต่อรถบัสสีเขียว(ฟรี)ออกมา แต่รถไม่ได้ส่งถึงที่ ต้องต่อรถกอล์ฟสีเขียวอีกที และต้องจ่ายค่ารถเพิ่มคนละ 20หยวน พี่ซิงเลยพาเดินไป ไม่ต้องเสียเพิ่มสักหยวนเดียว แถมเวลาเจอที่สวยๆก็แวะถ่ายรูปได้อีก ถ้านั่งรถไม่สามารถลงมาถ่ายรูปได้แน่นอน






ทางที่พวกเราเดินไป




น้ำแร่บริสุทธิ์จากลำธารสามารถดื่มได้




สีสวยเหมือนน้ำทะเลเลย




ลำธารน้ำใสขนาบทางเดิน




รถกอล์ฟ สีเขียวที่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม คนละ 20หยวน




ถึงแล้ว อันนี้เป็นขั้นน้ำตกฝีมือมนุษย์




ถ้าถ่ายรูปกะจามรีต้องเสียตังค์ด้วยนะ






ได้เวลาเดินกลับ




วิวแบบนี้ถ้านั่งรถก็อดถ่ายรูปไปตามระเบียบ โชคดีที่เราเลือกเดินกัน










น้ำตกอันนี้ก็ฝีมือคนอีกเช่นกัน










วันนี้พี่ซิงชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน เพราะว่าคุยกันถูกคอ นับว่าเป็นโชคดีของพวกเรา พี่ซิงบอกว่าวันนี้เป็นวันที่คนในหมู่บ้านของพี่เค้าจะมารวมตัวกันจัดงานเลี้ยงครั้งใหญ่ (ถึงขนาดต้องล้มหมูกันเลยทีเดียว) 1ปีมีครั้งเดียว เค้าเชิญเราไปในฐานะเพื่อนของเค้า เป็นงานเลี้ยงของชาวเผ่าน่าซี ที่อบอุ่นมากๆ มีเพื่อนบ้าน และญาติพี่น้องมารวมตัวกันเลี้ยงอาหารที่ดีที่สุด เป็นมื้อที่เราลืมไม่ลงเลยทีเดียว




อาหารพิ้นเมืองแท้ๆ ถึงจะมีเงินซื้อแต่ก็คงไม่ได้ชิมอาหารอย่างนี้แน่ๆ






หลังจากกินกันจนอิ่มแล้ว เพื่อนชาวต่างชาติ อย่างเราสองคนก็โดนชาวบ้านสัมภาษณ์กันยกใหญ่ ทุกคนใจดีและเป็นมิตรมากๆ มื้อนี้มีเค้กเป็นของหวานตบท้ายด้วย ถึงแม้จะเป็นเค้ก ครีมธรรมดาๆ แต่วันนั้นมันอร่อยและอิ่มจริงๆ จากมิตรภาพของคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน




คืนนี้พี่ซิงก็พามาส่งที่เมืองเก่า เลยเดินเล่นสักพักย่อยอาหาร ก็เดินมาเห็นโยเกิร์ตที่หลายๆรีวิวบอกว่าอร่อยเลยลองซื้อมาชิม ก็อร่อยดีจริงๆ




วันพรุ่งนี้พี่ซิงไม่ว่างเลยส่งสามีมาเป็นตัวแทนนัดเจอกันที่เดิม 9โมงเพราะขี้เกียจตื่นเช้า










Create Date : 13 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2555 14:43:09 น.
Counter : 1866 Pageviews.

4 comments
  
ติดตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ
อ่านเพลินและมีประโชน์หากจะใช้ข้อมูลนี้ในการไปเยือนลี่เจียครับ
โดย: Insignia_Museum วันที่: 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา:10:41:01 น.
  
ขอบคุณคุณ Insignia_Museseum ที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ^^
โดย: gohachimitsu วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:31:49 น.
  
น่าสนใจมาก รูปก็สวยนะคะ ติดตามอ่านตั้งแต่ไปญี่ปุ่นแล้ว ไว้จะไปเปบปุ
โดย: Nio IP: 101.108.7.3 วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:16:00:55 น.
  
ขอบคุณค่ะคุณ Nio เปปปุเป็นเมืองบ่อน้ำร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นเลยค่ะ ไปมาแล้วเป็นไงก็กลับมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ^^
โดย: gohachimitsu วันที่: 13 มีนาคม 2555 เวลา:20:14:48 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gohachimitsu
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



New Comments