ธันวาคม 2554

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
ความทรงจำดีๆที่...ลี่เจียง-05



วันที่ 8 ม.ค.54วันที่ 9 ของการเดินทาง

อาหารเช้าของเราวันนี้เป็นมาม่าจีนคนละกระป๋อง กาแฟ เตรียมไปเองเพราะที่เมืองจีนได้ยินว่า กาแฟแพง ไม่อร่อย
ขนมเค้กที่ซื้อเมื่อคืน เอาสตอว์เบอรี่เหลือมาตกแต่งเพิ่มเติม ต้องกินเยอะหน่อย เพราะเมื่อวานไม่ได้แวะกินข้าวเที่ยงที่ไหนเลย วันนี้ก็คงเที่ยวเพลินเหมือนกัน





ที่เที่ยวแรกของวันนี้ จำชื่อสถานที่ไม่ได้ ใครรู้ช่วยบอกที

อันนี้เป็นบ่อน้ำตกเล็กๆที่อยู่ข้างหน้าด้านในทางเข้า อากาศหนาวมากๆจนน้ำเป็นน้ำแข็งเลย






สะพานยังเป็นน้ำแข็งเลย




สระน้ำที่นี่ฟ้าดีจริง ทุกที่เลย










น้องแมวที่นี่อ้วนท้วนน่ารัก แต่ดุมากกกกกกกก









วิวสวยๆระหว่างทางเดินไปเข้าห้องน้ำแบบ โอเพ่นแอร์




สถานนีต่อไป ตงปาเซินหยวน




ไกด์สาวน้อยของเราพูดภาษาอังกฤษได้






ทางเดินที่เราเห็นมีรูปภาพสีสันสดใส ก็คือคติความเชื่อเรื่อง นรก โลกมนุษย์ และสวรรค์










เค้าบอกว่าหมุน 1รอบอายุยืนพิ่มอีก 12ปี




ลองถ่ายย้อนกลับไป












ออกไปขึ้นรถเพื่อไปอิวสุ่ยไจ้




ปลาเยอะมากๆ แต่ละตัวว่ายอยู่กับที่นิ่งๆ




พระโพธิสัตว์ กับบ่อปลา




โยนเหรียญอธิฐาน




พระโพธิสัตว์ใกล้ๆ




เข้ามาเดินเล่นด้านใน








บนกิ่งนั้นเป็นลูกพลับ




ดอกเหมยที่เห็นได้เรื่อยๆตามสถานที่ต่างๆ










เป้าหมายต่อไป(วัด) อวี้เฟิงซือ รูปนี้คือทางขึ้น เดินเหนื่อยหน่อย ด้านหน้าทางขึ้นวัด จะมีกลุ่มอาม่าชาวพื้นเมืองร้องเพลง แล้วชวนพวกเราเต้นรำและถ่ายรูป แต่ต้องจ่ายเงินประมาณ 5หยวน




ต้นคาเมเลียพันปี ถ่ายจากด้านหลัง ไม่มีดอกสักดอก555++++










ขึ้นบันไดไปดูดอกคาเมเลียด้านอื่น
ดอกเยอะมาก แบ่งไปให้ต้นพันปีนั่นบ้างก็ได้นะ555++++




ทางเข้าหมู่บ้านไป๋ซา หรือหมู่บ้านตระกูลมู่




เข้าไปก็เจอ ดงดอกเหมยทั้งแถบเลย ระหว่างถ่ายรูปอยู่ก็คุณลุงชาวญี่ปุ่นจากซัปโปโร มาเที่ยวคนเดียว เข้ามาทัก คุยกันสักแป๊ปคุณลุงก็บอกว่าที่นี่ไม่ค่อยหนาวเนอะ เราสองคนมองหน้ากันพร้อมใจผสานเสียงตอบกลับว่า มันหนาวมาก ลุงหัวเราะแทบหงายหลัง ก็ใช่สิลุงซัปโปโลมันหนาวกว่านี้ตั้งเยอะนิน่า555+++






แวะไหว้พระสักหน่อย




สังเกตพื้นตามวัดแหล่งท่องเที่ยว หรือที่พักของที่นี่ มักจะปูพื้นโดยการเอาก้อนหินก้อนเล็กมาเรียงเป็นลวดลายไว้สวยงาม




มาฝ่าด่าน 18อรหันกันหน่อยมั๊ย




กำลังเดินเข้าเขตหมู่บ้าน




ด้านในจะมีของที่ระลึกขายเป็นจุดๆ






ตามบ้านต่างๆ เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ ร้านกาแฟ และขายสมุนไพร ข้าวโพดที่เห็นอันนี้เค้าเอาไว้เลี้ยงสัตว์ ได้ลองแกะเม็ดข้าวโพดด้วยเครื่องนี้ด้วย ไม่กินกาแฟหรือซื้อของเค้าก็ไม่เป็นไร แค่บริจาคเล็กๆน้อยๆเพื่อเป็นค่าบำรุงให้เค้าก็พอ








ลองซื้อกินดู เป็นแป้งทอดจืดๆ ราดพริกน้ำส้ม ก็พอกินได้




ตอนเดินกลับออกมาเพื่อไปสระมังกรดำก็เจอลุงญี่ปุ่นคนเดิม ก็เลยถามลุงว่าจะกลับยังไง ลุงบอกว่าเดี๋ยวรอรถเมลล์ ไปลงแถวๆเมืองเก่าแล้วจะไปสนามบิน บินกลับ เราสองก็เลยชวนลุงไปด้วยกันเพราะถ้าปล่อยลุงแกรอรถเมลล์มีหวังตกเครื่องแน่ ลุงแกเล่าให้ฟังว่าแกมาคนเดียว เที่ยวโดยนั่งรถเมลล์ วันนี้เที่ยวได้ 2ที่เอง และรถเมลล์ก็รอนานมาก








เพราะมากับพวกเรา พอถึงสระมังกรดำทำให้ลุงมีเวลาได้เที่ยวเพิ่มอีก 1ที่ก็เลยเดินเที่ยวด้วยกัน




พวกเราเดินมาถึงที่ศาลนี้ เลยเข้าไปข้างใน เจออาเจ้แกยื่นธูปให้ บอกว่าให้เข้าไปไหว้ด้านในได้เลย

พอเดินขึ้นไปก็ไปไหว้พระพุทธรูป และมีพระรูปหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เรียกพวกเราขึ้นมาทำพิธีเหมือนให้พร อะไรซักอย่าง พอเสร็จพิธี แกก็มัดมือชก ให้ลงชื่อในสมุดบริจาคะบุเงินคนละ 100หยวน แม่เจ้า ค่าที่พักต่อคืนชั้นยังแค่ 80หยวนเอง อันนี้เกินไปหน่อยมั้ง พอรู้ว่าเราไม่พอใจ พระรูปนั้นก็โวยวาย บอกว่าทำพิธีไปแล้วโง้นงี้ เราเลยไม่เกรงใจ ไม่จ่ายแมร่งสักหยวน ลุงญี่ปุ่นผู้แสนสุภาพจะจ่าย 10หยวน เราบอกว่ามากเกินไปสำหรับพวกมิจฉาชีพแบบนี้ ลุงเลยเปลี่ยนเป็นแบงค์ 1หยวน แล้วบอกว่าหยวนเดียวไม่เป็นไร ยังถูกกว่าค่ารถเมลล์อีก จ่ายเสร็จก็รีบเดินกันออกมาเลย ทิ้งให้พระรูปนั้นยืนงงเป็นไก่ตาแตก555+++




ด้านในสระมังกรดำเป็นสวนสาธารณะ








ดนตรีสดกลางสวนสาธารณะสระมังกรดำ






อาจไม่ใช่มุมสวยที่สุด แตไม่อยากแทรกตัวเข้าไป เพราะมุมนี้คนเยอะ








จากสระมังกรดำเราก็เริ่มเดินเข้าเขตเมืองเก่าลี่เจียง ก็ได้เวลาบอกลาคุณลุงแล้ว








แพะโดนแขวนอยู่หน้าร้าน




มื้อเย็นวันนี้เราเดินมาหาของกินนอกเขตเมืองเก่า เป็นร้านอาหารอิสลาม




สั่งเนื้อตุ๋นมาหม้อเดียวเพราะหม้อมันใหญ่มาก ข้าวกับน้ำชาฟรี แอบนินทาหน่อยว่า ข้าวอะเค้าจะตักใส่ให้ในโถโต๊ะละ1โถ ไม่ได้ตักเป็นถ้วยๆ ถ้าโต๊ะไหนกินข้าวไม่หมด เค้าก็จะเอาไปเทรวมกันในหม้อหุงข้าว แล้วตักให้โต๊ะต่อไปกินต่อ เห็นคาตาเลย ถ้าไอ้โต๊ะแรกเอาช้อนกินข้าวลงไปตักในโถก็จบกัน จะอ้วก555
เนื่องจากพวกเราเป็นพวกนิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน และเราชอบกินขนมจุบจิบมากๆ ก็เลยสงสัยว่า ทำไม่ค่อยเห็นแต่ละเมืองมีขนม หรือของว่างขายเท่าไร (หมายถึงที่ทำกันสดๆเหมือนรถเข็นที่ไทย) ก็เลยถามเถ้าแก่ว่า ที่นี่มีขนมอร่อยๆแนะนำบ้างไหม เค้าก็ถามว่าขนมขึ้นชื่อเหรอ อืม.......ลี่เจียงปาปามั้ง 5555




กินอิ่มก็เดินถ่ายรูปเก็บภาพประทับใจที่เมืองเก่า ด้วยความที่กล้องเราเป็นกล้องดิจิตอลตัวเล็ก และขาตั้งกล้องก็ อันเล็กๆ เหมือนกัน กล้องถ่ายรูปเราเลยกลายเป็นที่สนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา มุงดูยังกะกำลังถ่ายละครกับซุปเปอร์สตาร์กันเลยที่เดียว เป็นอย่างนี้ทุกที่ ที่ควักกล้องถ่ายรูปออกมา เอ๊ะ... ว่าแต่ ขากล้องชั้นนี่เมคอินไชน่านะ555










เก็บภาพบรรยากาศประทับใจไปเรื่อยๆก็เจอแม่ค้าขายสตอว์เบอรี่ ซึ่งพวกเราชอบสตอว์เบอรี่ที่นี่มาก เพราะราคาถูกและหวานอร่อย เล่าให้พี่ซิงฟังว่ากินเกือบทุกวัน วันละครึ่งโล พี่เค้าตกใจ แล้วบอกว่าอย่ากินเยอะ มันไม่ดีมียาฆ่าแมลง คนที่นี่ไม่ค่อยกินกันหรอก 555+++ แต่พวกเราไม่กลัวเพราะกลับ กทม.ก็ไม่ได้กินทุกวัน เลยตัดสินใจซื้ออีกครึ่งโล แม่ค้าบอกว่ากินได้เลยล้างแล้ว ด้วยความตะกละเลยเอาเข้าปากกันทันที แฟนเราเลยสงสัยว่าล้างตรงไหน ถามแม่ค้า แม่ค้าบอกว่าล้างในคูเนี่ยล่ะจ๊ะหนู 5555++++ อวกแทบพุ่ง55555555555555555












เมืองเก่าลี่เจียงเป็นเมืองที่ยามค่ำคืนสวยงามมากๆ แต่ก็พลุกพล่านมากเช่นกัน ส่วนตัวพวกเราชอบเมืองเก่าต้าลีมากกว่า ถึงสีสันยามค่ำคืนจะไม่สวยเท่าเมืองเก่าลี่เจียง แต่ความที่เมืองเก่าต้าลีสงบกว่า(แต่ก็มีผับบาร์นะ) เลยทำให้ซึมซับบรรยากาศรอบๆตัวได้ดีกว่า














แต่ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเมืองลี่เจียงมีมากกว่าและก็ประทับใจพวกเรามากๆด้วยเช่นกัน














เจอกันใหม่พรุ่งนี้ เราจะไปเดินตลาดกัน^^



Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2555 14:53:56 น.
Counter : 1647 Pageviews.

1 comments
  
ต้องไปทัวร์จีน ให้ได้สักครั้ง
โดย: limingxin วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:0:49:42 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gohachimitsu
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



New Comments