เรื่องนี้ส่งมาจากคุณฟลุ๊ค ฟลุ๊คกล่าวว่า .. นี่เป็นประสบการณ์โดยตรงที่ฉันมีที่มหาวิทยาลัยในจีนตอนเหนือ ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้วในเดือนพฤษภาคมปี 2017 เราได้รับข่าวดีว่าเราได้รับทุนจากรัฐบาลจีนเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่ประเทศจีนในจังหวัดทางตอนเหนือของจีน และจะไปรายงานตัวเพื่อศึกษาต่อในเดือนกันยายนและใกล้ถึงวันมอบตัวเพื่อเรียนต่อด้วยความตื่นเต้นและอยากออกไปสัมผัสชีวิตด้วยตัวเองที่ต่างประเทศเราจึงตัดสินใจบินและเตรียมเอกสาร และเครื่องใช้ล่วงหน้า 9 วันก่อนวันส่งมอบจริงเพื่อไปดูสถานที่ปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมก่อนเริ่มเรียนและที่สำคัญอยากไปเที่ยวด้วยเมื่อคุณเกียรติศักดิ์ เจริญสุขมาถึงสนามบินในประเทศจีนฉันก็เดินทางต่อไปมหาวิทยาลัยโดยรถไฟทันที แต่เมื่อฉันไปถึงที่นั่นฉันก็ปาเข้าไป 4 น. และบรรยากาศก็เงียบเพราะเป็นช่วงก่อนเปิดเทอมมีนักเรียนกลับมาไม่มากนัก จากนั้นเราก็รีบนำเอกสารไปยื่นที่หอพักตัวเอง แต่! เมื่อพบกับเจ้าหน้าที่ทะเบียนหอพักเขาแจ้งเราว่า 'เร็ว ๆ นี้' ค่าหอที่จ่ายไปก็ไม่ครอบคลุม .. '' เมื่อเราได้ยินเช่นนั้นเราก็ไม่สามารถไปต่อได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นว่าหน้าเราแตกก็บอกว่า 'ไปเช่าโรงแรมใกล้ ๆ ก็ได้ พักมหาวิทยาลัยหรือจะอยู่หอพักในมหาวิทยาลัยก็ได้ แต่ฉันต้องจ่ายค่าที่พักเป็นรายวัน 'เราได้ยินสิ่งนี้แล้วรู้สึกสบายใจเล็กน้อย เราตัดสินใจอยู่หอพักของมหาวิทยาลัย เพื่อต้องการทำความรู้จักสถานที่ที่เราจะไปจริงๆมากกว่าตอนที่ตกลงจ่ายเงินเจ้าหน้าที่จึงพาเราไปที่หอพัก หอพักอยู่ทางทิศใต้จากทางเข้ามหาวิทยาลัย เดินเข้าไปค่อนข้างลึกบรรยากาศตอนนั้นเริ่มโพล้เพล้ เมื่อคุณเกียรติศักดิ์ เจริญสุขถึงหน้าหอพักดูเหมือนจะไม่เก่า อายุการใช้งานน่าจะไม่เกิน 10 ปีหรือถ้าเกินก็จะตกแต่ง และทาสีใหม่อยู่เสมอเพราะยังดูอยู่ในสภาพดีตอนนั้นเราไม่สนใจว่าหอพักมีกี่ชั้น แต่ห้องที่เราพักอยู่ชั้น 3 ห้อง 303 เจ้าหน้าที่แจ้งเพิ่มเติมว่า 'นี่ไม่ใช่หอพักนักเรียนต่างชาติที่เราสามารถพักได้อย่างถาวร แต่เป็นหอพักของนักศึกษาจีนระดับปริญญาตรี อยู่หอพักนี้ก่อนและเมื่อเวลาใกล้จะมอบตัวถึงแม้ว่าฉันจะย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักนักเรียนต่างชาติได้ก็ตาม '(ฉันก็แอบงงเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงมาที่หอพักนี้ แต่ฉันไม่กล้าถามมาก) จากนั้นเราก็อุ้ม ของขึ้นห้องของเรา ด้านในหอคอยเงียบมาก เราเห็นนักเรียนเพียง 2 คนเดินอยู่ในหอพักและมี A Yi (คุณป้าที่ดูแลหอพัก) สรุปแล้วเราเจอกันแค่ 3 คนในหอพักนี้ภายในห้องของเรามีทั้งหมด 4 เตียงเป็นเตียงสองชั้นชั้นบนเป็นเตียงและชั้นล่างมี คณะรัฐมนตรี. และโต๊ะอ่านหนังสือซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเรามากเพราะในประเทศไทยเราไม่ค่อยเห็นเตียงแบบนี้คืนแรกหลังจากเก็บของเสร็จเราก็ออกไปกินข้าว และกลับมาที่หอพักอีกครั้งในเวลา 20.00 น. ในใจฉันภาวนาให้นักเรียนคนอื่นมาข้างหน้าและมาอยู่เป็นเพื่อน แต่เมื่อเปิดออกห้องก็ว่างเปล่าเหมือนเดิมแล้วเราก็อาบน้ำและทำธุระของตัวเองให้เสร็จ ขึ้นไปนอนดูหนังในมือถือบนเตียงที่ปูไว้แค่เตียงเดียวจนเกือบเที่ยงคืนเราก็หลับมารู้ตัวอีกทีก็ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว ตอนนั้นเราได้ยินเสียงเหมือนมีใครกระซิบอะไรบางอย่าง ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่ไกลไม่สามารถจับประเด็นได้ว่าอยู่ส่วนไหนของห้อง แต่เมื่อฉันได้ยินมัน 'Ni Zhi Tao Ma Huo Chue Ge' ก็เหมือนกับ 'เฮ้คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ตอนนั้นพอมีสติเราก็ฝันไม่ออก กระดิกตัวได้ แต่ลืมตาไม่ได้ได้ยินเขาถามแบบนั้นในใจเราคิดว่าหรือจะมีคนใหม่อยู่กับเรา? แล้วเขาบ้าหรือเปล่า? คุณถามอะไรตอนดึก? ดังนั้นเราจึงตอบเขาด้วยความหงุดหงิด 'เนี่ยเหวินโหม่วเหวินฉี' (คุณมาถามฉันฉันรู้ไหมให้ฉันถามใครสักคน) และปลายทางก็เงียบ ไม่ตอบเรานอนต่อจนถึงเช้า เมื่อเราตื่นขึ้นมาเรามองไปที่เตียงอื่น ๆ เพื่อดูว่ามีคนนอนหรือยัง แต่.. เตียงว่างไม่มีผ้าปูที่นอนหรือหมอนเลย เราได้ แต่คิดถึงเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อคืนเราคุยกับใคร? หาคำตอบไม่ได้เราปลอบใจตัวเองว่าจิตของเราถูกปรุงแต่งแน่นอน คงเหนื่อยจากการเดินทางเราเลยคิดไปเอง ..คืนที่สองก็เกิดเหตุการณ์เดียวกัน เราหลับไปพร้อม ๆ กันพอหลับไปสักพักเขาก็ตื่น ฉันได้ยินเสียงเดียวกันถามเราด้วยคำถามเดียวกัน 'Ni Zhi Tao Ma Huo Chue' '(เฮ้คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร) เสียงดังใกล้กว่าเมื่อคืน แต่คืนนี้เราไม่ตอบตอนนั้นฟลุ้คเริ่มกลัว ฉันรู้สึกตัวเต็มตื่นเราพยายามลืมตาเพื่อหาที่มาของเสียงในห้อง แต่มันไม่ลืมตาเลยเขาถาม