Say "La ilaha ill Allah"
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
17 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
เส้นทางแห่งศรัทธา ตอนที่ ๔ (แผ่นดินฮะรอม มาดินะฮ์-มักกะฮ์)



นั่งเครื่องจากท่าอากาศยาน Queen Alia International Airport ถึงท่าอากาศยาน King AbdulAziz เมืองญิดดะห์(เจดดาห์,Jeddah) เมืองท่าสำคัญของซาอุดิอาระเบีย เวลาประมาณ ตี 3 ครึ่ง

ขณะนี้เราอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย ชื่อทางการว่า ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย (Al Mamlakah Al Arabiyyah As-Saudiyyah) ประชากร 99% นับถือศาสนาอิสลาม ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ เมืองสำคัญได้แก่ มักกะฮ์(เมกกะ),มาดินะฮ์ เป็นเมืองสำคัญทางศาสนา ส่วนริยาดเป็นเมืองหลวง ประเทศซาอุฯเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศในคาบสมุทรอาหรับ



จุดหมายแรกของเราคือนครมาดินะฮ์ ซึ่งห่างจากนครมักกะฮ์ไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งรถจากเมืองท่าญิดดะห์ไปยังมาดินะฮฺประมาณ 7 ชั่วโมง(ผมหลับตลอดทางเลยครับ...)


ทางเข้าลานรอบมัสญิด...


หลังจากการนั่งรถที่ยาวนาน ในที่สุดเราก็ถึง.....ขอต้อนรับสู่ อัล-มาดินะฮ์ อัล-มูเนาวะเราะฮ์ นครอันจำรัส (Al Madinah Al Munawwarah)

ทำไมมาดินะฮ์ถึงมีความสำคัญต่อมุสลิมนัก ก็เพราะว่า มาดินะฮ์เป็นเมืองที่ท่านนบีมุฮัมมัดได้อพยพหลบหนีพวกมุชริกีนจากมักกะฮ์ที่ตามสังหารท่านมาที่นี่ ซึ่งขณะนั้นมาดินะฮ์มีชื่อว่า "ยัษริบ" เหตุการณ์นี้เป็นการเริ่มต้นศักราชของอิสลามหรือที่เรียกกันว่า "ฮิจเราะฮ์" อีกทั้งมาดินะฮ์ยังเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของรัฐอิสลาม และท่านนบีมุฮัมมัดก็เสียชีวิตที่เมืองแห่งนี้ด้วย

ณ มัสญิด อัล-นะบะวีย์ นั้นเป็นที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัด ซล. และซอฮาบะฮฺ(สาวกคนสนิท) 2 ท่าน คือท่านอบูบักร อัซซิดดิก และท่านอุมัร อิบนุ อัลค็อฏฏอบ ท่านนบีเคยกล่าวไว้ว่า"ใครมาละหมาดที่มัสญิดของฉันจะได้ผลบุญ 1,000 เท่าจากละหมาดปกติ" เป็นเหตุผลที่มาคือเราชาวมุสลิมต้องการจะเยี่ยมสุสานของท่านศาสนทูตและมหาบุรุษท่านนี้ ผู้เป็นที่รักของมุสลิมทุกคน เมื่อเข้ามาในมัสญิดนี้สิ่งแรกที่ต้องทำคือให้สลามแก่ท่านนบีและซอฮาบะฮฺ

ใกล้ๆมัสญิด อัล-นะบะวีย์ ยังมีสุสานญันนะฮ์ตุลบะกีอ์(หรือที่บ้านเราเรียกติดปากว่า สุสานบาเกี๊ยะ) ซึ่งเป็นที่ฝังเหล่าบรรดาซอฮาบะฮ์หลายท่าน



รอบนอกมัสญิดอัล-นะบะวีย์เป็นลานหินอ่อนที่กว้างมากและเราจะสังเกตได้ว่ามาดินะฮ์เป็นเมืองที่สะอาดมาก สะอาดขนาดที่ว่ามีเจ้าหน้าที่เดินกวาดฝุ่นตามพื้น(ขยะไม่มีก็กวาดฝุ่น)



ในภาพ โดมสีเขียวบริเวณเราดะฮฺ นั้นตรงกับจุดที่เป็นที่ฝังศพของท่านนบีมุฮัมมัด ซล. ที่เราเรียกว่า กุบบะฮฺตุนนบี(Qubbat Al- Nabi) โดยมีท่านอบูบักรและท่านอุมัรฝังอยู่เคียงข้าง



ผมเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภายในมาเพราะ เขาห้ามถ่าย เจ้าหน้าที่จะยืนทุกประตูทางเข้าและค้นตัว ผมขอบรรยายว่า"เหมือนอยู่ในป่าของเสาหินอ่อน" มีเป็นพันๆเสา และแต่ละเสาจะมีเครื่องปรับอากาศ ทำให้ภายในมัสญิดเย็นสบาย โดยรวมมัสญิดนี้มีพื้นที่ 22,955 ตารางเมตร ซึ่งจุคนได้กว่าสองแสนคน! กว่าจะเดินจากด้านนึงไปด้านนึงเล่นเอาปวดขาเหมือนกัน



ภายในมัสญิดนั้นให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่นที่ได้อยู่ใกล้ชิดท่านนบีมุฮัมมัด และยังสบายเพราะมีแอร์แถมยังปูพรมแดงทั่วพื้นมัสญิด คนที่มาละหมาดบางคนเลยถือโอกาส"งีบ" เอนตัวลงนอนบ้าง

ตามทางเดินภายในจะมีถังน้ำซัมซัม (เป็นน้ำจากบ่อน้ำซัมซัมในบริเวณมัสญิดอัล-ฮะรอม นครมักกะฮ์) ตั้งเรียงรายอยู่ มีให้เลือกทั้งเย็นและไม่เย็น

ที่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ละหมาดพร้อมกับพี่น้องมุสลิมเป็นจำนวนมากที่สุด(ตั้งแต่เกิดมา^^)



รอบนอกลานมัสญิดเป็นร้านค้าต่างๆเรียงรายโดยรอบ ร้านเหล่านี้จะคึกคักในตอนกลางคืนหลังจากละหมาดอีซา(กลางคืน)เสร็จ ประมาณ 3 ทุ่ม

น่าเสียดายที่ผมสามารถอยู่ที่นครมาดินะฮ์แค่ 2 วัน เพราะมีภารกิจที่ใหญ่กว่ารอยู่ที่มักกะฮฺ ดังนั้นหลังจากละหมาดดุฮฺริ(ตอนเที่ยง)เสร็จ ผมก็ให้สลามท่านนบีมุฮัมมัด ซล. ผู้เป็นที่รักของเราชาวมุสลิม แล้วจึงเดินทางออกจากมาดินะฮฺ

แต่ยังไม่ทันออกจากเขตนครมาดินะฮฺ ก็พบกับสถานที่สำคัญต่างๆในเมืองในเราได้ไปเยี่ยมเยียน ที่แรกคือเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์คือ สมรภูมิอุฮุด เป็นบริเวณที่ท่านนบีมุฮัมมัดต้องทำสงครามต่อต้านชาวมักกะฮฺที่หมายสังหารท่านนบีและมุสลิมทั้งหมดที่มาดินะฮฺ ซึ่งสงครามครั้งนี้มุสลิมต้องสูญเสียอย่างหนัก



ระหว่างสงคราม ท่านนบีกำชับให้พลธนูให้ประจำการอยู่บนภูเขาอุฮุด ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม ห้ามลงมาจากเขาเป็นอันขาด แต่เมื่อมุชริกมักกะฮฺดูเหมือนเพลี่ยงพล้ำในสงคราม พลธนูเหล่านั้นละทิ้งคำสั่งของท่านนบี ทหารม้าของชาวมักกะฮฺจึงทำการตีโอบด้านหลังภูเขา ทำให้มุสลิมภายแพ้ในสงครามครั้งนี้

ซึ่งปัจจุบันมีการซ่อมแซมภูเขาและบริเวณโดยรอบ จึงดูรกๆไปบ้าง



ป้ายหน้าสุสานที่สมรภูมิอุฮุด




สุสานนี้เป็นที่ฝังศพผู้ที่สละชีพเพื่อศาสนา ในจำนวนนี้รวมถึง"ท่านฮัมซะฮ์" ลุงของท่านนบีมุฮัมมัดด้วย



สถานที่ต่อไปคือมัสญิด กิบละฮฺตัยน์ หรือ มัสญิดสองกิบลัต ซึ่งประวัติคือ ในช่วงแรกของอิสลามมุสลิมทำการละหมาดหันหน้าไปยังมัสญิด อัล-อักซอ นครเยรูซาเลม และระหว่างที่ท่านนบีมุฮัมมัดกำลังละหมาดอยู่ในมัสญิดแห่งนี้ ท่านนบีได้รับวะฮีย์(วิวรณ์)จากอัลลอฮฺ ให้หันหน้าไปยังมัสญิด อัล-ฮะรอม นครมักกะฮ์แทน ดังนั้นท่านนบีจึงหมุนตัวหันหน้าไปยังมักกะฮ์ในรอกาอัตที่ 2



เราได้ทำการละหมาดอัสริ(ตอนบ่าย)กันที่นี่




หลังจากเสร็จจากละหมาด ก็นั่งรถไปยังโรงงานอินทผลัม ที่นครมาดินะฮฺนี้ขึ้นชื่อเรื่องอินทผลัมอย่างมาก ได้ชื่อว่าดีที่สุด ผมเลยทำการซื้อไปพอสมควร ที่นี่มีอินทผลัมพันธุ์ต่างๆให้เลือกมากมาย มีทั้งสดและแห้ง ที่ผมเลือกคือพันธุ์อัชวะฮ์ เป็นพันธุ์ที่ท่านนบีมุฮัมมัดชื่นชอบ ราคาค่อนข้างสูงและมีที่มาดินะฮ์ที่เดียว



สถานที่ต่อไปคือมัสญิด อัล-กุบา ซึ่งเป็ที่ที่ท่านนบีกล่าวไว้ว่า"ผู้ที่มาละหมาดที่มัสญิดนี้ จะได้ภาคผลเท่ากับ 1 อุมเราะฮ์"



ภายในตกแต่งเรียบๆแต่สวยงาม ด้านหลังมีเด็กๆนั่งเรียนอัล-กุรอานอยู่....




หลังจากละหมาดที่มัสญิด อัล-กุบา แล้ว เราได้เดินทางออกจากมาดินะฮ์ สู่มหานครมักกะฮ์ โดยใช้เวลานั่งรถประมาณเป็นเวลา 7 ชั่วโมง

ระหว่างทางบุคคลที่ประสงค์เดินทางจากมาดินะฮ์ไปยังมักกะฮ์ เพื่อไปประกอบพิธีอุมเราะฮ์ นั้นต้องเปลี่ยนชุดจากชุดธรรมดา เป็นชุดเอียะฮฺรอม ที่มิกอตซุลฮุลัยฟะฮ์ มัสญิดบิรฺ อาลี สำหรับผู้ชายจะต้องใส่แค่ผ้าสองผืน ที่ไม่มีการเย็บติดกัน ลักษณะคล้ายผ้าขนหนูบางๆ ผืนแรกนุ่งห่มช่วงล่าง ผืนที่สองคลุมช่วงบน ตอนนี้ถือเป็นฮุจญาตแล้ว(ผู้แสวงบุญ)



หลังนั่งรถมานาน เกือบ 7 ชั่วโมง เราก็เข้าเขตแผ่นดินฮะรอม(แผ่นดินต้องห้าม สำหรับการทำชั่วทุกประการ) เข้าเขตมหานครมักกะฮ์ ประมาณตี 1 กว่าๆ เมื่อถึงที่พักก็เข้าห้อง เอาสัมภาระระเก็บ แล้วออกจากที่พักตรงไปยังมัสญิดอัล-ฮะรอม ทันที เพื่อประกอบพิธีอุมเราะฮฺครั้งแรก(เป็นวาญิบ)



ประกอบพิธีอุมเราะฮ์นั้น ประกอบด้วย
1.การอยู่ในสภาพเอียะฮฺรอม
2.การเดินเวียนทวนเข็มนาฬิการอบอัลกะอฺบะฮฺ(ตอวาฟ) 7 รอบ โดยเริ่มต้นและจบรอบที่มุมหินดำ
3.ละหมาด 2 รอกาอัต และดื่มน้ำซัมซัม
4.การเดินสะอีย์ จากเนินเขาซอฟา-มัรวะฮฺ ระยะทาง 410 เมตร จำนวน 7 รอบ(ไปนับ1 กลับนับ 2)
5.เมื่อเสร็จสะอีย์แล้ว ให้ขลิบผมอย่างน้อย 3 เส้น เป็นอันจบ



เมื่อเข้าไปด้านในครั้งแรก รู้สึกตื่นตะลึงเพราะขนาดมหึมาของมัสญิดและจำนวนคนมากมาย เมื่อเดินผ่านรอบนอกมัสญิดเข้าไป จะพบกับลานกว้างกลางมัสญิด และนั่นเองที่ได้เห็น "กะอฺบะฮฺ" ทำให้รู้สึกตื้นตันที่ได้เห็น "ว่าที่นี่แหละที่เราละหมาดหันหน้ามาทุกวัน บัดนี้เราได้มายืนอยู่ตรงที่แห่งนั้นแล้ว"

วิหารอัลกะอฺบะฮฺ หรือ บัยตุลลอฮฺ เป็นวิหารทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ คลุมด้วยผ้สีดำ เป็นจุดที่อัลลอฮฺบัญชาให้มุสลิมทุกคนหันหน้ามาที่นี่ เพื่อเป็นศูนย์รวมของการสักการะพระองค์(คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดว่ามุสลิมบูชากราบไว้ตัววิหารแต่ความจริงแล้ว กะอฺบะฮฺเป็นเพียงศูนย์รวมการละหมาดและการตอวาฟเท่านั้น เนื่องจากมุสลิมไม่เคารพบูชาสิ่งอื่นนอกจากพระเจ้า) กะอฺบะฮฺนั้นอัลลอฮฺบัญชาให้ท่านนบีอิบรอฮีม(อับราฮัม)และอิสมาอีล(อิชมาเอล) สร้างขึ้น ซึ่งถ้านับตามอายุแล้วก็หลายพันปีเลยที่เดียว

ขนาดตีสอง คนยังเยอะได้ขนาดนี้(ในภาพ)



หลังจากเดินตอวาฟรอบกะอฺบะฮฺครบ 7 รอบแล้ว ละหมาด 2 รอกาอัต หลังมะกอมอิบรอฮีม ดื่มน้ำซัมซัม แล้วจึงไปเดินสะอีย์

ในภาพเป็นทางสะอีย์ชั้น 2 ซึ่งคนจะน้อย แต่ผมเดินด้านล่าง(คนเยอะเลยไม่กล้าถ่ายรูป)

ปล.คนในภาพนี้ใส่ชุดเอียะฮฺรอม ซึ่งผู้ชายต้องใส่ในช่วงเวลาประกอบพิธี



หลังจากขลิบผม ก็ถือเป็นอันเสร็จ 1 อุมเราะฮ์ แต่ผมยังไม่อยากกลับที่พัก เลยรอจนเวลาตี 4 กว่า เพื่อจะได้ละหมาดซุบฮิ(ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น)เลย แล้วค่อยกลับที่พัก..........



เรียกว่าเหนื่อยเต็มที่ สำหรับครั้งแรก จึงใช้เวลาตั้งแต่ 6 โมงเช้ายันเที่ยงเป็นเวลานอน พอเที่ยงก็ต้องออกจากที่พักไปละหมาดที่มัสญิด ตอนเที่ยงอากาศค่อนข้างร้อน เมื่อเดินลงไปที่ลานข้างมัสญิดซึ่งเป็นพื้นหินอ่อนสีขาว แสงอาทิตย์สะท้อนขึ้น(มองนานๆหน้ามืดเลย)



ตอนเที่ยงจะไม่ค่อยมีคนออกไปละหมาดที่ลาน เพราะแดดร้อนพอสมควร.........



แต่ละวันที่อยู่ที่มักกะฮ์นี่ ผมตั้งตารางเวลาไว้ว่า จะไปทำอุมเราะฮ์ตอน 6 โมงเช้าทุกๆวัน ตลอดเวลาที่อยู่ 14 วัน ผมทำอุมเราะฮฺได้ทั้งหมด 7 ครั้ง เล่นเอาเหนื่อยมาก(เหนื่อยกายแต่ไม่เหนื่อยใจ)

เมื่อเราจะทำอุมเราะฮ์เราต้องนั่งรถออกไปนอกมักกะฮ์ ไปเนียตยังเขตที่กำหนดเพื่อเข้าสู่สภาพเอียะฮฺรอมในภาพคือ มัสญิดตันอีม



วิธีไปเขตที่กำหนดเพื่อเข้าสู่สภาพเอียะฮฺรอมมีหลายวิธี คือนั่งแท็กซี่ นั่งรถเมล์ นั่งรถตู้ ส่วนผมเลือกนั่งรถตู้เพราะคนที่นั่งต้องเฉลี่ยกันจ่าย ค่าโดยสารรถตู้ไปกลับคือ 4 ริยาล = 40 บาท

ที่เห็นในภาพคือคนขับรถตู้กำลังจะขับไปส่งที่มัสยิดตันอีม ซึ่งระหว่างทางต้องอ่านตัลบียะฮ์ตลอดทางจนถึงอัล-ฮะรอม

"ลับบัยกั้ลลอ ฮุมมะลับบัยก์ ลับบัยกะลา ชารีกะละกะลับบัยก์ อินนั้ลฮัมดะฮ์ วั้ลเนี๊ยะมะต่าลากา วัลมุ้ลก์ ลาชารีกะลักก์"

"ข้าพระองค์ได้กล่าวขานรับตามที่พระองค์ทรงเรียกแล้ว ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขานรับการเรียกร้องของพระองค์แล้ว โดยไม่มีสิ่งใดมาเทียบเคียงพระองค์ แท้จริงข้าพระองค์สรรเสริญต่อความโปรดปรานของพระองค์ และต่อพระองค์ผู้ซึ่งข้าพระองค์ไม่ได้ยึดสิ่งใดเทียบเท่าเลย"



เมื่อกลับมาที่อัล-ฮะรอมก็คือ ทำอุมเราะฮ์ตามลำดับเหมือนเดิม

ในภาพคือภายในมัสญิดชั้น 2 กลุ่มนี้เป็นคุณลุงชาวตุรกี




จุดที่ผมมานั่งละหมาดประจำ เพราะสะดวก




ที่อัล-ฮะรอม มักกะฮ์ จะไม่เหมือนกับที่ อัล-นะบะวีย์ ที่มาดินะฮ์ เพราะคนละบรรยากาศกัน ที่มักกะฮฺนั้นจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺ ความเป็นเอกภาพของประชาชาติมุสลิม ไม่มีช่วงเวลาที่มัสญิดไร้ผู้คนเลย ตลอด 24 ชม. ส่วนที่มาดินะฮฺ จะรู้สึกใกล้ชิดท่านนบีมุฮัมมัด สงบสบายและอบอุ่น



งีบซะหน่อย




ความงดงามของสถาปัตยกรรมภายในมัสญิด




เต็มไปด้วยผู้คน...




มัสญิดนี้ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ ในสมัยของกษัตริย์ฟาฮัด บิน อับดุลอาซิซ อัลซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ขยายจนสามารถรองรับผู้ละหมาดได้เป็นล้านคน!



ลานตอวาฟช่วงสายๆ


ยังมีต่อนะครับ

โปรดติดตามตอนสุดท้าย เส้นทางแห่งศรัทธา ตอนที่ ๕ (อำลา อัล-ฮะรอม)




Create Date : 17 สิงหาคม 2549
Last Update : 26 พฤษภาคม 2550 0:09:13 น. 9 comments
Counter : 4478 Pageviews.

 


โดย: Aisha วันที่: 19 สิงหาคม 2549 เวลา:0:09:30 น.  

 
อัสลามูอาลัยกุม (ขออัลเลาะฮ์ทรงคุ้มครองน่ะค่ะ)
หนูชื่อ คอดีย๊ะค่ะ หนูชอบรายการนี้มากค่ะดูแล้วรู้สึกอบอุ่น ดูแล้วมีความสุขเหมือนกับหนูได้เข้าไปอยู่ที่มักกะเลยขอบคุณมากน่ะค่ะที่มีรายการสาระดีๆมาให้ได้ดูหนูดีใจมากเลยที่ได้ดูรายการของพี่ไม่ทราบว่าพี่ชื่ออะไรค่ะ ถ้าพี่พอมีเวลาส่งรูป ที่มักกะ ข้างบน Mail ของหนูน่ะค่ะหนูจะรอรูปที่พี่ส่งมาให้น่ะค่ะ ขอให้พระเจ้าทรงคุ้มครองพี่ให้ไปมักกะอีกนะค่ะจะได้เก็บภาพที่อบอุ่นๆมาให้ น้องคอย๊ะดูอีก (คอดีย๊ะ เบนติ้ ฮาหรูน)


โดย: jaruneet@TTT.CO.TH IP: 202.69.140.233 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:14:33:38 น.  

 
อัสสลามมุอาลัยกุม
ดิฉันอยากรู้ว่าทำไมคนผู้หญิงเขาถึงไม่ให้เข้ากุโบร์เวลาไปส่งมะญาดที่กุโบร์ ช่วยตอบคำถามหน่อยคะ


โดย: มูรีดะฮ์ IP: 202.29.33.6 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:07:08 น.  

 
สวยมากๆเป็นที่น่าศรัทธาของชาวมุสลิมทั่วโลก


โดย: ห้องสมุดร.ร.สามเเยก IP: 58.10.134.29 วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:02:06 น.  

 
อัสลามูอาลัยกุมค่ะ (ขอให้ความสันติสุขจงมีแด่ท่าน)
อัสลามูอาลัยกุมค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่มีรายการดีๆมาให้ดูชอบมากเลยค่ะดูรายการอ่านอัลกุรอ่านแล้วรู้สึกดี แล้วตื้นตันใจมากเลยค่ะอยากจะร้องให้และอีกอย่างหนึ่งหนูได้ใกล้ชิดคำสอนของท่านนบีมูศฮำหมัดบอกตรงๆตอนนี้หนูได้ฟังอัลกุรอ่านของชาวอาหรับหนูตื้นตันใจบอกไม่ถูกขอบคุณมากน่ะค่ะที่นำสาระดีๆมาให้ดูและให้อ่าน และสุดท้ายนี้หนูให้พระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองท่านน่ะค่ะ
(คอดีย๊ะ เบนตี้ ฮารูน)


โดย: คอดีย๊ะ IP: 202.69.140.130 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:10:27:07 น.  

 
เป็นคนนับถือไทยพุทธค่ะ มีแฟนนับถือศานสาอิสลาม และตัวของเราเตรียมตัวจะเข้าศาสนาอิสลามต้องทำอย่างไรบ้าง และต้องการรูปภาพฮะรอมมักกะฮ์ จะหาซื้อได้ที่ไหนเนของขวัญปีใหม่ ช่วยตอบด้วยขอบคุณค่ะ


โดย: ยะส์ IP: 124.121.108.78 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:32:55 น.  

 
ขอสันติจงมีแด่ท่านครับ

หากสนใจอิสลาม แนะนำลองไปที่นี่ครับ

สำนักงานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน
439 ถนนลาดพร้าว 112 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร. 02-5394693-5วันอาทิตย์ ต่อ 19 วันจันทร์-ศุกร์ ต่อ 14

หรือลองพูดคุยกับมุสลิมในห้องศาสนาดูก็ได้ครับ ทุกคนพร้อมช่วยเหลือและให้คำแนะนำครับ

ส่วนรูปมัสยิดฮะรอมหาได้ตามร้านขายหนังสือมุสลิมทั่วไปครับ แนะนำร้านหนังสือ ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย คลองตัน หรือ ร้านหนังสือ ส.วงศ์เสงี่ยม ตรงพระราม 9 ก็ได้ครับ

ขออัลลอฮฺทรงให้ทางนำครับ วัสลาม


โดย: GHANZI วันที่: 1 ธันวาคม 2550 เวลา:9:08:38 น.  

 
อัสสาลามูอาลัยกุม
หนูอยากจะบอกว่าชอบมากเลยค่ะ สวยงามและดูมีคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมั่ยดั่ยเลย ยิ่งได้ดูคลิปวีดีโอแล้วรู้สึกประทับจัยอย่างบอกมั่ยถูกเลยค่ะ.....


โดย: ฟาติม IP: 125.24.138.24 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:13:31:32 น.  

 
อัสสาลามูอาลัยกุม
ภาพสวยมากเลยค่ะ ถ่ายจากมุมไหนคะเนี่ย


โดย: ซาวียะห์ IP: 125.27.172.150 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:11:06:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

GHANZI
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add GHANZI's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.