|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
"ความทรงจำกลางฤดูใบไม้ร่วง ณ แดนอาทิตย์อุทัย" # 1
"ความทรงจำ กลางฤดูใบไม้ร่วง ณ แดนอาทิตย์อุทัย" / ตอนแรก " My name is Luka "
13 พฤษภาคม 1999 คืนนั้นอากาศย่านปิ่นเกล้าของกรุงเทพฯ ร้อนอบอ้าว ผมรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ เพราะมหาวิทยาลัยยังไม่เปิด เมื่อความรู้สึกเบื่อมากเข้า จึงตัดสินใจเดินไปร้านอินเตอร์เน็ตซึ่งอยู่ไกลจากบ้านถึงสองกิโลเมตร ตอนใกล้ห้าทุ่ม
Does homosexual love really exist ? คือคำบรรยายใต้นามแฝงแชทของตัวเองที่ผมตั้งขึ้น
ขณะคลิกเข้าไปในห้องแชท Thailand ของ gay.com ณ เวลานั้นผมไม่ได้มีอารมณ์อยากจะแชทแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่จะ คลิกดูโพรไฟล์ของหนุ่มรายอื่น ๆ อย่างเคย ทุกอย่างรอบกายดูไร้ชีวิตชีวา อาการนี้เรียกว่า ขาดรักหรือเปล่านะ ไม่รู้สิ แต่ถึงอย่างไรคำถามใต้นามแฝงของผมก็ไม่มีใครสนใจคลิกเข้ามาทักทาย หรือให้ความเห็น แม้เวลาจะผ่านไปร่วมชั่วโมงก็ตาม
เสียเวลาจริง ๆ เสียเงินอีกต่างหาก แถมต้องเดินกลับอีกตั้งสองกิโลเมตร ผมสบถกับตัวเองในใจ ขณะที่เตรียมจะเลิกเล่นอินเตอร์เน็ต แต่ก่อนที่ผมจะกดปิดหน้าเวบเพียงเสี้ยววินาที หน้าต่างของ private chat สีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจอของผม
My name is Luka คือนามแฝงแชทของคนที่เรียก private chat เข้ามา ผมคลิกตรงชื่อนั้น เพื่อจะอ่านโพรไฟล์ด้วยความเคยชิน หากแต่ข้อมูลตรงนั้นว่างเปล่า รูปก็ไม่มี ช่างเถอะ ผมเองก็ไม่ได้ใส่รูปไว้เหมือนกัน
"Can I chat with you ? I am bored to death. ขอผมแชทกับคุณได้ไหม ผมเบื่อจะตายแล้ว" คือประโยคทักทายแรกจากหนุ่มคนนั้น ทำไมผมถึงมั่นใจว่าเป็นหนุ่มล่ะ ก็เพราะคงไม่มีสาวคนไหนจะอุตริมาแชทในเวบเฉพาะกิจของชาวเกย์น่ะสิ
ํYes, sure. ได้สิครับ แน่นอน ผมตอบเค้าไป ใครจะรู้บ้างว่าผมนั่งเหี่ยวแห้งมาตลอดชั่วโมงจนแทบจะกลับบ้านแล้วนะ ขณะที่รอเค้าพิมพ์ข้อความกลับมา ผมก็ครุ่นคิดถึงนามแฝง My name is Luka ของเขา อืม เป็นคนอิตาเลียนหรือเปล่านะ ชื่อแบบนี้ ถ้าเป็นจริงก็ดี คนอิตาเลียนส่วนใหญ่หน้าตาหล่อเหลาจะตายไป และได้ยินว่าเป็นนักรักที่เยี่ยมยอดอีกด้วย
What is your name ? and what do you do in Bangkok ? หนุ่มคนนั้นถามชื่อ และอาชีพของผม
ผมชื่อ......เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ผมตอบไป และกลับเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตัวเองต่อ ถึงที่มาอันน่าจะเป็นไปได้ของ My name is Luka ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า เหตุไฉนชื่อนามแฝงนี้ถึงกระตุ้นความสนใจอย่างมาก ...เค้าอาจจะเป็นคาธอลิคนะ ผมนึกไปถึงชื่อพระคริสตธรรมคัมภีร์บทนักบุญลูกาที่เคยอ่าน My name is Kenji. I am a Japanese. Nice to meet you .What do you study ? อ้าวเป็นคนญีปุ่นหรอกเหรอ ผมแปลกใจ ที่การคาดคะเนของตนเองผิดพลาดหมด และปกติหนุ่มญี่ปุ่นก็แทบจะไม่เข้ามาในห้องแชทของไทยเลย
ผมตอบยินดีที่รู้จักกลับไปตามธรรมเนียมมารยาทอังกฤษ และบอกคณะที่ตัวเองเรียนอยู่ ซึ่งเมื่อเขาทราบ ก็ชมว่าคณะของผมน่าสนใจ และบอกว่าภาษาอังกฤษของผมจะต้องดีมาก ๆ เพราะคณะที่ผมเรียน ซึงผมก็ไม่ได้ปลื้มปีติ หรือยิ้มจนแก้มปริแต่อย่างใด เพราะการชมว่าคณะหรืออาชีพของคู่ สนทนาน่าสนใจนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะกลายเป็นธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งไปแล้วของการแชท
็How old are you ? May I ask ? I am 20 years old. เขาถามอายุผมอย่างสุภาพ และบอกอายุของตัวเองมาก่อน
I am 19 ผมตอบ และไม่รู้คิดยังไง ผมก็ถามอีเมล์ของเขากลับไปตอนนั้นด้วย
kenji4you@......... เขาตอบกลับมา
ชื่อ My name is Luka หมายถึงอะไรเหรอ เฮ้อ โล่งใจ ในที่สุดก็ถามคำถามนี้ออกไปจนได้ ผมคิด
It is the name of a song . Have you ever heard this song ? It is about an abused child. มันมาจากชื่อเพลงน่ะ คุณเคยฟังหรือเปล่า เป็นเพลงเกี่ยวกับเด็กที่ถูกล่วงละเมิด(ทางเพศ ??) อ่านคำอธิบายของนายเคนจิแล้ว ก็ให้ประหลาดใจรอบสอง ถึงที่มาของนามแฝงแสนยาวของเขา
My name is Luka I live on the second floor I live upstairs from you Yes I think you've seen me before
เคนจิเริ่มพิมพ์เนื้อร้องของเพลงนี้ให้ผมดู แต่ก่อนที่เราจะได้คุยกันต่อ สัญญาณอินเตอร์เน็ตของผมก็ตัดไป อะไรฟะ ผมหงุดหงิดมาก รีบวิ่งลงไปข้างล่าง เนื่องจากห้องที่ผมเล่นอินเตอร์เน็ตนั้นอยู่ชั้นสอง เห็นลุงเจ้าของร้านนั่งโงก ตาจะหลับแหล่มิหลับแหล่อยู่ตรงโต๊ะทำงาน ซึ่งมีสมุดบัญชีกองอยู่ปึกหนึ่ง ตาลุงได้ยินผมวิ่งพรวดพราดลงบันไดกึงกังลงมา ก็สะดุ้งตื่น
"เน็ทหลุดอีกแล้วอะลุง สัญญาณไม่ดีเลย " ผมบ่น "นี่ถ้ามีร้านอื่นในละแวกใกล้ ๆ ผมเลิกมาร้านนี้ไปนานแล้ว" ประโยคหลังนี้ ผมบอกกับตัวเองในใจ ลุงเจ้าของร้านซึ่งตาแดงก่ำเพราะอดหลับอดนอน ขอโทษขอโพยผม แล้วพยายามนั่งต่อสัญญาณภายใต้ความกดดัน ท่ามกลางเสียงสบลิ้นกับโคนฟันจิ๊จ๊ะ แสดงความไม่สบอารมณ์ของลูกค้าในร้าน ที่ความหรรษาในโลกไซเบอร์ของตนถูกขัดจังหวะ เพราะสัญญาณตัดขาด
22 นาทีผ่านไป ลุงถึงต่ออินเตอร์เน็ทติดอีกครั้ง ผมจำได้แม่นยำ เพราะมองดูนาฬิกาทุก ๆ 2-3 นาที ด้วยความร้อนใจและงุ่นง่าน ด้วยเกรงว่าเคนจิจะต้องรอนาน และอาจถอดใจออกจากห้องแชทไปเสียก่อน
พลันที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตต่อติด ผมก็วิ่งกลับไปชั้นบน ร้อนรนล็อคอินเข้าไปในห้องแชท หากแต่ไม่พบ My name is Luka อยู่ที่นั่นแล้ว ด้วยความผิดหวัง ผมไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่า ส่งอีเมล์ไปขอโทษเคนจิ และเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตเดินกลับบ้านอย่างเซ็ง ๆ ตอนใกล้ตีสอง
วันรุ่งขึ้น หลังจากตื่นนอนและทำธุระส่วนตัวแล้ว ผมกระวีกระวาดไปร้านอินเตอร์เน็ต รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าลุงจะเปิดร้านตอนสิบเอ็ดนาฬิกา เป็นลูกค้าคนแรกเลยแหละ เปิดหน้าจอคอมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็เข้าไปเช็คอีเมล์ทันที รอยยิ้มระบายทั่วใบหน้าเมื่อเห็นชื่อผู้ส่ง Kenji Uchiyama อยู่ตรงกล่องข้อความ ขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่าจดหมายธรรมดา ทำให้ผมตื่นเต้น เพราะมั่นใจว่าน่าจะมีรูปของเจ้าตัวแนบมาในอีเมล์ด้วย
เคนจิเขียนข้อความมายาวกว่า 2 หน้า บอกว่าประทับใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่เพิ่งแชทกัน และสัญญาณหลุดไปจะมีน้ำใจส่งอีเมล์มาขอโทษ เค้าบรรยายประวัติส่วนตัว และตรงท้ายของจดหมายอีเลคโทรนิคส์นั้น ก็เป็นรูปชายหนุ่มผิวขาวอมชมพู คิ้วเข้มหนา ดวงตาโตกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไป ริมฝีปากบางสีแดงจัดได้รูป น่ารักกกกกกกกกกกก !!!
เค้าส่งมาทั้งหมด 5 รูปในอิริยาบถแตกต่างกัน แต่รูปที่ทำให้ผมจ้องตาแทบไม่กระพริบก็คือ รูปเขาแผงอกเปลือยเปล่าใส่เพียงกางเกงขาสั้นตัวบาง นั่งอยู่บนเก้าอี้พับข้างลำธาร ซึ่งมีคันเบ็ดตกปลาวางอยู่ใกล้ ๆ ขาที่อ้ากว้างของเขานั้น ทำให้สายตาซุกซนของผมซอกซอนจินตนาการไปไกลเลยล่ะ
ผมรีบพิมพ์อีเมล์เพื่อจะตอบเขาอย่างรวดเร็ว และเล่าเกี่ยวกับตัวเองยาวยิ่งกว่า แต่กลับใช้เวลานานมากในการหารูปที่คิดว่าดูดีที่สุดของตัวเองแนบไปด้วย อืม รูปถ่ายผมนั่งอยู่หน้าสายน้ำตกตาดควันที่เชียงรายน่าจะเหมาะสุด ฉากหลังของผาน้ำตกฟองขาววาววับนั้น ส่งให้รูปหน้าของผมกระจ่างขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ยิ้มอย่างภูมิใจกับตัวเอง ก่อนจะกดปุ่มส่งอีเมล์แนบรูปนั้นไปให้เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักจากแดนอาทิตย์อุทัย
คืนนั้น เราก็ได้เจอกันอีกครั้งในห้องแชท gay.com และเปลี่ยนมาใช้ Icq เพราะไม่มีใครคลิกเข้ามารบกวน เราคุยกันอย่างเพลิดเพลินออกรสชาติ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้สนทนาไม่รู้จบสิ้น และไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ทุก ๆ คืนผมจึงต้องเดินไปกลับ 4 กิโลเมตร เพื่อคุยกับเคนจิ ผมไม่นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะราคา 14 บาทนั้น ผมเอาไปจ่ายค่าเล่นอินเตอร์เน็ตได้เกือบชั่วโมง
นอกจากแชทกันทุกคืน ๆ ละ 2 ชั่วโมงแล้ว เคนจิยังขอโทรมาคุยกับผม เราค้นพบว่าสามารถส่ง sms หากันได้ด้วย ทุกคืนหลังแชทกันเสร็จ และผมเดินกลับบ้าน เคนจิจะโทรมาคุยเป็นเพื่อนระหว่างทาง และทุกเช้าก่อนไปมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เค้าก็จะส่งอีเมล์มาอรุณสวัสดิ์กับผม ซึ่งผมมักจะส่ง sms กลับไป ค่าโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น จนคุณแม่บ่น เพราะท่านชำระบิลแทนผม อิอิ
หลังจากสองเดือนแห่งการแชทผ่านไป คืนหนึ่งเคนจิก็พูดขึ้นว่า มีอะไรอยากจะบอกผม
"But please give me a promise that you will not be angry." แต่สัญญาก่อนนะ ว่าคุณจะไม่โกรธผม
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมจะต้องโกรธเขาด้วย ผมสัมผัสว่าคืนนี้เคนจิ ดูกังวลใจมากจากถ้อยคำของเขา
แต่ถึงจะคิดหาเหตุผลร้อยแปด ผมก็ไม่คิดว่าจะมีสิ่งใดที่ทำให้ผมโกรธเคนจิได้ "Sure I will not get angry at you. Do not worry. Go on" ไม่หรอกผมจะโกรธคุณทำไมกันล่ะ อย่ากังวลไปเลย จะบอกอะไรก็ว่ามา เคนจิเงียบไปสามสี่นาที จนผมต้องพิมพ์ถามว่า "Are you Ok ?" เป็นอะไรรึเปล่า
" I LOVE YOU..... CAN YOU BE MY BOYFRIEND? .....DARLING" ประโยคตอบจากเคนจิ ที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่า โลกนี้เป็นของผมคนเดียว และผมกำลังลอยอยู่ในอากาศ ผมตอบเขาด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบโรมาจิ (romaji) คำเดียวสั้น ๆ ว่า "HAI"
เคนจิพิมพ์คำว่า YEAHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHH !! THANK YOU DARLINGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGG !!!
ยาวเต็มหน้าจอ ผมรู้สึกว่าเค้ากำลังกระโดดไปรอบ ๆ ห้องอย่างมีความสุข น่าเสียดายที่เราไม่เห็นหน้ากันตอนสารภาพรักครั้งแรก เพราะเคนจิใช้ I-book ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของร้านเป็น Pc ถึงแม้เราจะเปลี่ยนจาก Icq มาแชทกันใน Msn เราก็ไม่อาจจะใช้เวบแคมได้
นับจากคืนนั้นเป็นต้นมา เคนจิก็เปลี่ยนจากการเรียกชื่อผมเวลาแชทกัน เป็น Darling และผมเรียกเขาว่า My dear....... แต่บางครั้งเค้าก็แทนตัวเองว่า Otto และเรียกผมว่า Kanai ผมอายเกินกว่าจะบอกความหมายของสองคำนี้ ใครอยากทราบ ก็ไปถามจากคนรู้ภาษาญี่ปุ่นเองนะครับ
จากพฤษภา ถึงกันยายน ไม่มีคืนไหนเลยที่เราไม่ได้แชทกัน แม้แต่ช่วงที่ผมและเขามีสอบ อีเมล์จากเขาซึ่งผมไม่เคยลบทิ้งเลยนั้น เพิ่มพูนขึ้นนับร้อยฉบับ จนกระทั่งปลายเดือนกันยายน เคนจิถามผมว่า จะมาเยี่ยมและร่วมฉลองงานวันเกิดของเขา ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่ญี่ปุ่นจะได้ไหม
คำชวนของเขาสร้างความลำบากใจให้ผมไม่น้อย ถึงแม้ผมกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของไทย ซึ่งช่วยให้การขอวีซ่าง่ายขึ้น แต่สถานทูตญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความเข้มงวดกวดขันเรื่องการอนุมัติวีซ่าแก่คนสัญชาติไทย อีกอย่าง สภาพเศรษฐกิจอย่างครอบครัวผม อย่าว่าแต่ญี่ปุ่นเลย แค่สิงคโปร์จะมีปัญญาได้ไปหรือเปล่า คนจะขอวีซ่าได้ ต้องมีเงินโชว์ในบัญชี แล้วนิสิตปีสามไม่มีงานทำอย่างผมจะเอาเงินที่ไหน คุณแม่ก็ค้าขายในตลาดธรรมดา ไม่ได้จดทะเบียนการค้าพาณิชย์อะไรให้นำไปเป็นหลักฐานยืนยันความน่าเชื่อถือต่อสถานทูตได้
ผมไม่รู้จะตอบปฏิเสธเขาไปอย่างไร จึงเลี่ยงด้วยการโน้มน้าวให้เคนจิมาเที่ยวที่กรุงเทพฯแทน แต่เคนจิก็ยังยืนยันคำเดิมให้ผมไปหาที่ญี่ปุ่น ในที่สุดผมก็ตัดสินใจบอกความจริงว่า ไม่มีหลักฐานทางการเงินเพียงพอ พร้อมทั้งเสริมด้วยว่า เคนจิมาหาผมแทนจะง่ายกว่ามาก วีซ่าก็ไม่ต้องขอให้ยุ่งยาก เพราะถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่น ไปประเทศไหนก็ได้สบายอยู่แล้ว
เคนจิเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพิมพ์สัญลักษณ์หน้ายิ้มกลับมา แล้วถามผมว่า จะต้องใช้เงินเท่าไร ถึงจะพอไปโชว์สถานทูตได้ ผมเคยได้ยินมาว่าสามแสนสำหรับนักเรียน นักศึกษาก็น่าจะพอ จึงบอกเขาไปตามนั้น จากนั้นเคนจิก็ถามหมายเลขบัญชีธนาคารของผม
"อะไรน่ะ เคนจิ จะโอนเงินมาหรือไง อย่ามาเล่นตลกนะ เราไม่เคยเห็นหน้ากันนะ" ผมแย้งเขา "Just tell me your bank account, do not be so serious, darling." เขาตอบมาง่าย ๆ ผมถอนใจ แต่ก็ไม่คิดว่าหนุ่มเลือดบูชิโดจะกล้าโอนเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจริง ๆ จึงบอกหมายเลขบัญชีไป
หลังจากเหตุการณ์นั้น เราก็ยังคุยกันเป็นปกติ ผมหวงแหนเวลาแชทที่สงวนไว้สำหรับเราสองคนมาก ต่อให้เอาช้างมาลาก ผมก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น สามสี่วันต่อมา ขณะ แชทกัน เคนจิถามผมขึ้นว่า....
If I wont transfer you money, will you be angry ? ถ้าผมไม่โอนเงินให้ คุณจะโกรธผมไหม ผมหัวเราะลั่น ก่อนจะบอกเคนจิว่า You are silly , how can I be angry ? I always tell you not to send it. จะบ้าเหรอ ผมจะโกรธคุณได้ไง ผมเองเป็นฝ่ายบอกตลอดว่าอย่าโอนเงินมานะ เคนจิพิมพ์ตอบกลับมาว่า Thank you darling. I love you. จากนั้นผมก็ชวนเคนจิคุยเรื่องอื่น เพราะผมกลัวว่า เรื่องนี้จะทำให้คนที่ผมรักไม่สบายใจ
ผมบอกเค้าว่า เห็นไหม คุณมาหาผมง่ายกว่าตั้งเยอะ แล้วก็พิมพ์สัญลักษณ์ XOXOXOXOXO ไปยาวเหยียด ความหมายของอักษรดังกล่าว คือเรา make love กันทางภาษาครับ อิอิ เคนจิพิมพ์ตัวอีโมหัวกลมหน้าแดงกลับมา น่ารักซ้าาาาาาาาาาาาา วันรุ่งขึ้น ผมอยู่ที่มหาวิทยาลัย ขณะกำลังจะเดินไปตลาดนัดวันศุกร์เพื่อซื้อข้าวเหนียวหมูทอดของโปรด โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น.....
" สวัสดีค่ะ ดิฉันจากธนาคาร.....นะคะ ขอเรียนสายคุณ.....ค่ะ "ครับ ผมพูดอยู่ครับ" "มิสเตอร์เคนจิ อุชิยาม่า โอนเงินเข้ามาที่บัญชีของคุณ 1 ล้านเยนนะคะ หักค่าธรรมเนียมออกราว 500 บาทค่ะ เค้าแจ้งว่าโอนมาเพื่อเป็น living expenses ของคุณค่ะ "ค่ากินอยู่ 1 ล้านเยน เนี่ยนะ" ผมอุทานกับตัวเองในใจ ก่อนจะตอบพนักงานไปว่า "ขอบคุณครับ ที่โทรมาแจ้ง" และวางสายไป
เอาแล้วไง สุดที่รักตัวแสบของผม ปกติการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านทางธนาคารจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 วันนะฮะ นั่นแสดงว่า ตอนที่ยอดชายนายเคนจิถามผมว่า ถ้าเค้าไม่โอนเงินมาให้ ผมจะโกรธไหม จริง ๆ เขาโอนมาก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้ว
ผมนึกถึงหน้าตาเกลี้ยงเกลา ผิวขาวอมชมพู คิ้วหนาเข้ม และริมฝีปากบางได้รูปของเขา ขณะนั่งรถ ปอ. 7 กลับบ้านที่ปิ่นเกล้า ระหว่างที่รถติดสัญญาณไฟแดงอยู่ที่แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น ผมก็ส่ง sms บอกเคนจิว่า Thank you Papa, I will go to buy a lot of candies at the Japanese embassy on Monday. เขาส่งข้อความกลับมาแทบจะในทันทีว่า Good, my son !! 5 5 5 5
ด้วยเงินในบัญชีร่วมสามแสนห้าหมื่นบาทที่เคนจิส่งมา และใบรับรองสถานภาพนิสิตจากมหาวิทยาลัย ทำให้ผมได้รับวีซ่ามา 3 เดือนเต็มอย่างง่ายดาย แม่ของผมบอกเพื่อนบ้านรอบทิศว่าผมจะไปญี่ปุ่นช่วงปิดเทอมเดือนตุลา "มันได้รางวัลชิงโชคมา" แม่ว่างั้น
ย่ำรุ่งของ 12 ตุลาคม 1999 เครื่องบินสายการบินสัญชาติอาหรับประเทศหนึ่ง ก็บินลัดฟ้าพาผมจากบ้านเกิดเมืองนอน ไปยังดินแดนแห่งซากุระงามและลูกพลับแสนอร่อย ผมเลือกสายการบินนี้เพราะราคาถูกที่สุด ไม่ถึงเก้าพันบาท สำหรับตั๋วไปกลับ แต่สิ่งที่ตามมากับราคาถูกก็คือ ผมถึงที่หมายช้ากว่ากำหนดไป 4 ชั่วโมง บวกกับเวลาที่ต้องรอต่อแถวเช็คหนังสือเดินทางของตม.ญี่ปุ่นที่ท่าอากาศยานนาริตะแล้ว ก็ 5 ชั่วโมงพอดิบพอดี
ผ่านตม. มาได้ผมก็เหงื่อไหลซิบ ๆ รู้สึกเกรงใจเคนจิมาก ถึงมากที่สุด เพราะรู้อยู่ว่าชาวซามูไรรักษาเวลาขนาดไหน ถึงแม้จะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า ไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อย สายการบินต่างหากที่ไม่รักษาเวลา แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะขณะแชทกันก่อนผมจะเดินทางมาที่นี่ เคนจิโวยวายใหญ่เมื่อรู้ว่าผมเลือกสายการบินอาหรับ แทนที่จะเป็นเจแปนแอร์ไลน์
"It is the cheapest ticket I can find."........ ตั๋วเนี่ย ราคาถูกที่สุดเลยนะ ผมบอกอย่างภูมิใจ "In Japan we say, if you want to pay more, then buy the cheap thing. " ในญี่ปุ่น เรามีภาษิตว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย .......เคนจิพิมพ์กลับมา "อยากจะจ่ายเงินเพิ่ม ก็จงซื้อของถูกว่างั้นเถอะ"
ผมเพิ่งเข้าใจชัดเจนก็ตอนนี้เอง ว่าที่คนรักผมพูดน่ะ ถูกเผงเลย !!
ทันทีที่ลากกระเป๋าออกมาถึงบริเวณที่จัดไว้ให้คนมารอรับ สายตาของผมก็สามารถแยกแยะชายหนุ่มผิวขาวจัดคนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงินกุ๊นตรงคอและแขนสีขาว กางเกงยีนส์ทันสมัย ในมือถือป้ายโลหะสีเงินสะท้อนแสง เขียนชื่อผมเป็นภาษาอังกฤษ จากเหล่าฝูงชนคับคั่งที่มารอรับผู้เดินทางอย่างง่ายดาย เพราะอะไรน่ะเหรอ ไม่อยากจะคุยเลย แต่เอาสักหน่อยก็ได้ ก็เพราะว่า เคนจิหล่อกว่าใครทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะสิ
เราทักทายกันอย่างเป็นทางการมาก เพราะผมรู้ดีว่า สังคมญี่ปุ่นนั้น ยังไม่เปิดรับมากนักสำหรับอิสระเสรีในการแสดงออกซึ่งความรักของเพศที่สาม มีเพียงสายตาของเราสองคนเท่านั้น ที่จ้องมองซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ผมรู้สึกดีใจที่ตัวจริงของเคนจิน่ารักเหมือนในรูปถ่ายที่เขาส่งมาเปี๊ยบ (อิอิ) แต่ในขณะเดียวกันก็อดกังวลไม่ได้ว่า หน้าตาตัวเป็นๆ ของผมจะประทับใจเคนจิหรือเปล่าก็ไม่รู้
อย่างไรก็ตาม จุมพิตแรกที่เคนจิมอบให้ หลังจากเราเข้ามานั่งในรถของเขา ซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถของสนามบิน ก็ทำให้ผมมั่นใจว่า อืม เราก็เสน่ห์แรงใช่ย่อยนะ ถึงแม้สมัยอยู่เมืองไทย จะไม่เคยมีใครหลงผิดคิดมาจีบก็เถอะ............
หมายเหตุ / ตอนแรกของนวนิยายเีรื่องนี้ ได้รับค้ดเลือกให้เป็นหนึ่งในพ็อคเกตบุค รักรวมรส อะดีฟ (อะดัม+อีฟ) หัวใจรักดวงที่ 3 ส่วนตอนต่อ ๆ ไป เกย่ายังไม่มีเวลาปั่นฮ่ะ อิอิ
Create Date : 12 เมษายน 2549 |
|
62 comments |
Last Update : 12 เมษายน 2549 6:03:35 น. |
Counter : 527 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: next_gens IP: 67.86.244.212 12 เมษายน 2549 5:56:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: Migraine girl IP: 141.212.159.118 12 เมษายน 2549 7:19:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: ข้าวต้มมัด IP: 202.5.94.111 12 เมษายน 2549 7:50:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: sugar IP: 24.14.97.179 12 เมษายน 2549 8:49:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Ing IP: 58.9.60.164 12 เมษายน 2549 9:35:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: Cal-girl IP: 66.81.160.214 12 เมษายน 2549 10:33:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: Pygmy IP: 203.188.31.3 12 เมษายน 2549 11:05:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่บี IP: 203.113.80.12 12 เมษายน 2549 11:18:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: PddY IP: 162.83.161.9 12 เมษายน 2549 11:23:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: stew IP: 203.170.231.232 12 เมษายน 2549 11:28:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: kuroboo IP: 133.44.1.220 12 เมษายน 2549 12:21:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tai-Sarunya IP: 202.28.169.165 12 เมษายน 2549 12:37:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิ้งกี้ IP: 203.121.135.67 12 เมษายน 2549 12:56:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: นู๋โนริ IP: 218.110.255.44 12 เมษายน 2549 13:45:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Chinesepearls IP: 80.128.243.43 12 เมษายน 2549 14:11:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกย่า 12 เมษายน 2549 14:48:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกย่า 12 เมษายน 2549 14:52:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้อมเจ้าค่ะ IP: 69.181.250.102 12 เมษายน 2549 16:03:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: lichil69 IP: 202.12.74.5 12 เมษายน 2549 17:26:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: pink ka.. IP: 71.126.159.74 12 เมษายน 2549 20:01:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: P Jeed IP: 84.136.223.135 12 เมษายน 2549 20:07:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Vince IP: 202.156.6.52 12 เมษายน 2549 20:16:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: neaq 12 เมษายน 2549 23:16:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมูน้อย IP: 58.9.45.235 12 เมษายน 2549 23:36:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: ิแพท IP: 84.13.28.139 13 เมษายน 2549 0:48:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: OSaKet IP: 62.254.128.5 13 เมษายน 2549 6:25:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: aoiyuki IP: 219.15.238.1 13 เมษายน 2549 10:18:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: จีจี้จ๋า IP: 58.8.187.245 13 เมษายน 2549 13:29:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: girlly_girl IP: 58.9.4.254 13 เมษายน 2549 18:43:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องดอย IP: 202.28.245.34 14 เมษายน 2549 18:49:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: RUBIS IP: 219.115.195.106 14 เมษายน 2549 20:41:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: pa die IP: 80.228.193.26 14 เมษายน 2549 21:32:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: หลินค่ะ IP: 128.180.57.29 15 เมษายน 2549 4:56:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: นัตโต้ IP: 59.146.151.156 15 เมษายน 2549 19:52:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kanon IP: 128.62.120.242 16 เมษายน 2549 9:04:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่ผึ้งแห่งป่าดำ IP: 84.161.111.131 16 เมษายน 2549 16:12:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่แนท IP: 58.9.144.116 16 เมษายน 2549 18:04:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kung IP: 134.102.9.107 16 เมษายน 2549 18:21:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Panpan IP: 203.144.144.164 16 เมษายน 2549 22:35:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: P' Wee IP: 84.166.166.91 16 เมษายน 2549 22:58:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิดหน่อย IP: 125.25.9.238 18 เมษายน 2549 9:58:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: เกอเซอร์บรู๊ค IP: 84.104.9.208 19 เมษายน 2549 19:56:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: RiNNe IP: 58.147.38.217 22 เมษายน 2549 13:43:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ็มจ๊ะ IP: 58.9.84.224 24 เมษายน 2549 11:57:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: JEAB IP: 202.57.166.220 26 เมษายน 2549 16:38:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: T IP: 58.8.171.194 27 เมษายน 2549 23:32:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: T IP: 58.8.169.74 28 เมษายน 2549 22:52:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: JC IP: 124.120.182.241 29 เมษายน 2549 22:53:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: หยกครับ IP: 203.156.86.83 6 พฤษภาคม 2549 8:57:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าเต่า IP: 203.118.99.15 7 พฤษภาคม 2549 14:38:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: kt IP: 80.41.216.78 7 พฤษภาคม 2549 23:55:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิค IP: 61.47.104.183 11 พฤษภาคม 2549 2:12:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: จอย IP: 62.178.219.125 13 พฤษภาคม 2549 15:59:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: Winnie is not (Vinny) IP: 203.114.99.44 21 พฤษภาคม 2549 23:04:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: ญ IP: 203.113.56.74 23 พฤษภาคม 2549 21:46:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอน IP: 203.144.206.130 25 พฤษภาคม 2549 12:48:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: sweetybell IP: 62.163.177.40 16 มิถุนายน 2549 3:34:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: pk melbourne IP: 131.172.4.45 17 สิงหาคม 2549 19:27:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ผมชอบจัง เวลาอ่านเหมือนผมอยู่ในเหตการณ์ด้วย ผมมองเห้นภาพอะ ได้แต่อิจฉานะ อิจฉาคับ..เกย่า อิจฉาจิงๆ