เรียมมีได้เขียนแชร์เกี่ยวกับประสบการณ์การขอทุน DAAD แล้วก็ได้บอกว่า เดือนพฤษภาคม 2556
นี้เรียมได้สมัครทุนไปเพื่อไปอบรมและร่วมสัมนาของคณะทีเรียมเคยเรียนซึ่งทางหน่วยงานที่จัด
งานก็ได้ส่งหนังสือเชิญมาให้โดยในหนังสือเชิญที่ส่งมาก็จะเขียนอย่างชัดเจนว่า เชิญคนชื่อนี้
เลขที่หนังสือเดินทางเลขที่นี้และจะให้ทุนค่าอะไรบ้าง
ซึ่งเรียมก็ได้ทำเอกสารแล้วก็ไปขอวีซ่ามา จึงจะมาแชร์กันว่า ต้องทำไง บ้าง เพื่อเป็นแนวทาง
สำหรับคนที่จะไปขอวีซ่าไปเยอรมันบ้าง
เล่าให้ฟังก่อน คือหลังจากที่เรียนจบจากเยอรมันแล้วกลับมาทำงานที่เมืองไทย เรียมได้มีโอกาส
ได้ไปเยอรมันอีก 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละประมาณ 2-3 ปี โดยล่าสุดที่ไปก็ ปี 2553 โดยไปทำงานค่ะ
ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะให้ทางบริษัททัวร์ที่ที่ทำงานใช้บริการจัดการให้ทั้งหมด ก็จะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง
พอถึงเวลาก็เอาหนังสือเดินทางไปให้ทางบริษัททัวร์เสร็จแล้วก็ได้เล่มพร้อมวีซ่ากลับมา
คราวนี้คือทำเอง ติดต่อเองหมดเลยค่ะ แต่ว่าอาจจะเพราะมีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลของสถานฑูต
อยู่แล้ว ก็ได้วีซ่าไม่ยากมากค่ะ อีกอย่างเมื่อต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมาก็เพิ่งกลับจากทำงานที่
อิตาลี ซึ่งก็เป็นประเทศในกลุ่มเชงเก้นเช่นกัน
ขั้นแรก การเตรียมตัวและเตรียมเอกสาร
เรียมเริ่มแรกก็หาข้อมูลก่อนว่าขอวีซ่ายังไงก็ไปหาข้อมูลที่ เวปไซต์ของสถานฑูตเยอรมนี
ก่อน แล้วก็มาเตรียมเอกสาร
เอกสารที่ต้องเตรียม และการเรียงเอกสารสำหรับขอวีซ่าเยอรมนี ต้องเตรียม ไป 2ฉบับ ที่เป็นถ่าย
เอกสารนะคะ และก็มีฉบับจริงถือไปด้วย เพื่อให้เขาดู การเรียงลำดับเอกสารนี้ เรียมไปจดตรงโต๊ะที่
เขาตั้งไว้ให้คนที่มาขอวีซ่าเขียนเอกสารเพิ่มเติม ก็มีดังนี้
เอกสารที่ต้องเตรียม และลำดับการเรียงเอกสารสำหรับขอวีซ่าเยี่ยมเยียน Visit
1. สำเนาหนังสือเดินทาง + สำเนาวีซ่าเช็งเกน(ถ้ามี) บางกรณีต้องแสดงหนังสือเดินทางเล่มเก่า
ที่ท่านเคยมีมาแล้ว (Copy ofpassport + copy of schengen Visa)
ข้อแนะนำ ยื่นพร้อมกัน ทั้งหนังสือเดินทางฉบับจริงกับฉบับเก่าด้วย เขาจะเอาไป
ตรวจสอบเบื้องต้นตอนที่เรายื่นที่เคาเตอร์ แล้วเราก็รอ เขาจะคืนฉบับเก่าเองแล้วเอาแต่สำเนาไป
หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน
2. แบบฟอร์มคำร้องที่กรอกครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมติดรูปถ่ายแบบไบโอเมตริก (Application
form) และต้องให้รูปถ่ายเพิ่มเติมจากที่แปะในแบบฟอร์มด้วยอีก 2 รูปค่ะ
ดูรายละเอียดแบบฟอร์ม คลิกที่นี่
ตัวอย่างรูปถ่าย แบบไบโอเมตรก คลิกที่นี่
ข้อแนะนำ เวลากรอกเอกสารในแบบฟอร์มใน link ที่ให้ด้านบนเสร็จแล้ว ให้ปริ้นก่อน
แล้วค่อยsave นะคะ เพราะเรียม save ก่อนแล้วยังไม่ได้ปริ้นข้อมูลหายเกลี้ยงไม่รู้เพราะอะไร
ต้องมานั่งกรอกใหม่ อีกอย่าง เครื่องปริ้นให้ใช้แบบชัดๆนะคะเพราะเวลาปริ้นแบบฟอร์มคำร้อง
ออกมามันจะมีบาร์โคดออกมาด้วย แล้วถ้ามันไม่ชัด พอไปยื่นให้เจ้าหน้าที่เขาสแกนแล้วมัน
ไม่เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ เขาเลยต้องพิมพ์ใหม่เอง เขาจะอารมณ์ไม่ค่อยดีค่ะ
ส่วนรูปถ่ายถ้าถ่ายไปแล้ว ขนาดหน้าไม่ใหญ่พอเวลาสแกนแล้วมันไม่เข้าเครื่อง เจ้าหน้าที่เขาจะ
ให้ไปถ่ายใหม่ซึ่งในสถานฑูตก็มีบริการถ่ายให้ แต่แพงอ่ะ ศึกษารูปถ่ายแล้วถ่ายไปให้เหมือน
ที่เขากำหนด จะได้ไม่เสียตังค์ถ่ายใหม่ และไปต่อคิวที่โน่น บางวันคิวยาวมาก
3. หนังสือเชิญจากผู้เชิญในเยอรมันนีที่รับรองค่าใช้จ่ายอย่างเป็นทางการ(Formal Obligation
letter)(Verpflichtungserklaerung)
ข้อแนะนำ ถ้าคุยกับคนเชิญได้ในกรณีให้ทุนก็แจ้งเขาว่าให้ระบุชื่อและเลขที่ของ
หนังสือเดินทางเรา ในหนังสือเชิญด้วย ถ้าให้ทุนก็ระบุมาด้วยก็ดีมาก
4.หลักฐานทางการเงินสำหรับเดินทางและพำนัก(ได้แก่หนังสือรับรองการเงินจากธนาคารและ
สมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงว่าสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้ด้วยตัวเอง)
ข้อแนะนำ ให้ up date สมุดให้ล่าสุดสักหน่อยค่ะ ล่วงหน้าก่อนวันไปยื่นแค่ 1-5
วันเลยยิ่งดีค่ะ
5.หลักฐานการประกันสุขภาพและอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ตลอดเวลาที่ขอพำนักวงเงิน
ความคุ้มรองไม่ต่ำกว่า 30,000เหรียญยูโรและต้องรวมบริการนำตัวกลับประเทศในกรณี
เจ็บป่วยด้วย หนังสือรับรองการทำงาน ใบลางานหรือหนังสือจดทะเบียนบริษัท(Travel
Health Insurance)
ข้อแนะนำ บริษัทที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย เฉพาะบริษัทที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในเอกสาร
ฉบับนี้เท่านั้นจึงจะเป็นที่ยอมรับของสถานทูตฯ คลิก ที่นี่ วงเงินประกันต้องไม่ต่ำกว่า 30,000.
เหรียญยูโร หรือ 1.5 ล้านบาท
ตอนแรกเรียมไล่โทร.ถามแต่ละที่ แล้วก็เลยเลือกมาอันหนึ่ง คือมันใกล้เคียงกันทั้งราคาและ
ประโยชน์ ก็เลยเลือกเอาที่สะดวกที่สุด เรียมไปซื้อที่บริษัทบูพาค่ะ โทร.ไปก่อน แล้วบอกเขา
ว่าจะซื้อประกันสุขภาพสำหรับขอวีซ่าเยอรมัน เขาจะมีแบบ Package มาให้ 7 วัน 12 วัน หรือ
1 เดือน ซึ่งเขาจะส่งรายละเอียดมาทางอีเมล์ เราเลือกแล้วกรอกแบบฟอร์ม พอไปที่บริษัท
เขาก็ยื่นและรอประมาณ30 นาทีก็ได้มาเลยค่ะ ถ้าวีซ่าไม่ผ่านทำเรื่องขอคืนเงินได้ แต่ต้องมีใบ
ปฏิเสธจากทางสถานฑูต ซึ่งจะได้เงินคืนสัก 70-80 % ค่ะ แต่อย่าลืมถามเขานะคะว่า เคลมคืน
ได้หรือเปล่า 5555 อันนี้เรียมให้ลูกน้องไปทำให้ค่ะ เลยไม่รู้ว่าบรรยากาศเป็นไงบ้าง
6. หลักฐานอื่นๆที่แสดงถึงความพร้อมที่จะเดินทางกลับประเทศไทยและภาวะผูกพันหรือความ
สัมพันธ์ของท่านในประเทศไทย เช่น ใบสำคัญการสมรส ใบสูจิบัตรของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือรับรองการทำงานและการอนุญาตให้ลาพักร้อนจากนายจ้าง (ที่ระบุ
ตำแหน่ง จำนวนปีที่ทำงาน เงินเดือน)หนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท / หนังสือแสดงการเป็น
สมาชิกหอการค้า สมุดบัญชีเงินฝากที่แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 3 เดือน
สุดท้าย โฉนดที่ดินสัญญาเช่าบ้าน
ข้อแนะนำ เรียมมีหนังสือรับรองการทำงานเพิ่มไปด้วย เผื่อเหลือเผื่อขาดค่ะ ส่วนสมุดบัญชีไม่มี
มีแต่หลักฐานทางการเงินของที่ทำงาน
7. สำหรับผู้เดินทางสัญชาติไทยที่อายุต่ำกว่า18 ปีต้องแสดงหนังสือยินยอมให้เดินทางจากบิดา
มารดาหรือบุคคลผู้มีอำนาจปกครองตามกฏหมาย กรณีพ่อแม่เพียงฝ่ายเดียวทำหนังสือยินยอม
ต้องแสดงหลักฐานว่าด้วยบิดามารดาผู้นั้นมีอำนาจปกครองแต่ผู้เดียว
การเรียงเอกสารสำหรับขอวีซ่าท่องเที่ยว Tourist
1. สำเนาหนังสือเดินทาง + สำเนาวีซ่าเช็งเกน(ถ้ามี) (Copy of passport + copy of schengen
Visa)
2. แบบฟอร์มคำร้องที่กรอกครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมติดรูปถ่ายแบบไบโอเมตริก (Application form)
3.แผนการเดินทาง/ใบจองโรงแรมและ/หรือหนังสือเชิญจากเพื่อน (Travel Itinerary hotel
reservation and/or invition letter)
4. ใบจองเที่ยวบิน (Flight reservation)
5. ใบประกันสุขภาพเพื่อการเดินทาง (Travel Health Insurance)
6.หนังสือรับรองการทำงาน ใบลางานหรือหนังสือจดทะเบียนบริษัท หรือหนังสือรับรองสภาพ
นักเรียน นักศึกษา (Workcertificate with leave permission / Trade registeration (for the
owner)certificate of student)
7. สำเนาสมุดบัญชีเงินเดือนออมทรัพย์และหรือหนังสือรับรองสถานภาพทางการเงินจาก
ธนาคาร(Financial Document)
8. สำเนาทะเบียนสมรส ทะเบียนบ้าน (Copy ofmarriage certificate/house registration)
9. สำเนาอื่นๆ เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน (Otherdocument of example title deed for a piece
of land)
10. สูจิบัติและหนังสือยินยอมให้เดินทางต่างประเทศ(กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีถ้าเด็กเดินทาง
คนเดียวหรือพ้อมบิดามารดาเพียงคนเดียว Birth certificate and letter of consent from parents)
(ข้อมูลนี้ในเวปไซต์ไม่มีนะคะเรียมไปยืนจดเอาที่โต๊ะกรอกเอกสาร ในสถานฑูตเขาจะเขียนไว้ว่าเรา
ต้องเรียงเอกสารยังไง ถ้าเรียงไม่ถูก จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยกรอกแบบฟอร์ม + เรียงเอกสารให้ด้วยค่าใช้
จ่าย 150 บาทมั้ง แต่เรียมเตรียมไปเสร็จแล้วที่เหลือก็ไปเรียงเอกสารตามที่เขากำหนดเท่านั้นเอง)
ถ้าเตรียมเอกสารด้านบนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็โทรศัพท์ไปนัดหมายเวลา วัน-เวลาที่จะมายื่นคำร้อง
กับศูนย์บริการข้อมูลก่อนเท่านั้น ที่หมายเลข 1900222 343 วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา 09.00 น.
ถึง 17.00 น. ซึ่งหมายเลขดังกล่าวสามารถติดต่อได้เฉพาะเมื่อโทรในประเทศไทยเท่านั้น
เสร็จแล้วเขาจะให้ Code สำหรับยื่นขอวีซ่าและนัดหมายเวลาที่เราจะไปยื่นค่ะ
พื้นที่ Blog หมดแล้ว ไปอ่านต่อคลิกที่ ขั้นที่ 2 เมื่อไปถึงเวลานัดหมายแล้ว ต้องทำไงบ้าง
~*~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *~*~*~ *~*~*~*~ *~
" คุณเรียมค่ะ ปอร์ขอแชร์ อันนี้นิดนึงค่ะ คือปอร์ประกันสุขภาพไปตามเกณฑ์ที่สถานฑูตแนะนำค่ะ ปรากฏตอนวันที่ปอร์เดินทางไปถึงนั้นรถไฟ มาไม่ตรงเวลาไปหนึ่งชั่วโมงค่ะ
เขาเมลบอกทางอินเตอร์เนตแต่ปอร์ไม่มีโทรศัพท์ที่เปิดเนตได้ เลยไม่ทราบค่ะ ก็ไปถามที่อินฟอร์เมชั่น หลังจากนั้นลองเมลปรึกษาประกัน เขาโทรมาหาที่เยอรมันบอกว่ากรณีนี้ เคลมไม่ได้ ต้องสมัครอีกโปรแกรม
ปอร์เลยคิดว่าเป็นอีกประสบการณ์ คือ ท่าไปอีกครั้งจะสมัครประกันที่ครอบคลุมเรื่อง พวกนี้ด้วยค่ะ เผื่อ การคลาดเตลื่อนของเครื่องบิน รถไฟ และเรา ไปประชุมไม่ทัน ด้วยสาเหตุ ดังกล่าว เราก็สามารถเคลมจากประกันได้ค่ะ ^^- แชร์ประสบการณ์ ผ่าน ทางนี้ด้วยคนน่ะค่ะ "
แชร์ข้อมูลกันได้นะคะ คนที่มาอ่านจะได้ประโยชน์ร่วมกันค่ะ