: Paul Smith : Apache Off-White Dip Dye Lino
: Paul Smith : Apache Off-White Dip Dye Linoเมื่อวันก่อนเป็นเจ้าสีขาวนะครับ คราวนี้ก็มาสีชมพูบ้างก็แล้วกันนะครับ เป็นสองคู่ที่ซื้อมาพร้อมกันเมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ครับ แต่เพิ่งจะมีโอกาสมารีวิว เหอๆๆ ช้าไปนิดก็แล้วกันนะครับ สำหรับคู่นี้ก็เหมือนๆกับคู่ก่อนหน้าที่รีวิวนะครับ แต่กีมีเพิ่มเติมมานิดนึงคือ พลาสติกที่หุ้มรองเท้ามาครับที่มีมาสำหรับสีออฟไวท์ จริงๆน่าจะเป็น ออฟพิงค์มากกว่านะครับ แต่...... เจ้าพลาสติกที่ห่อมานี่ มันเหมือนจะดี แต่ดันทะลึ่งไม่มี ถุงกันฝุ่นมาเหมือนกับเจ้าคู่ผ้าใบขาวนั่นแหละครับ ตรงนี้แหละเซ็งเป็ด ทำเอาผมหัวเสียไปเหมือนกัน เพราะทาง Shop โทรมาตอนเกือบทุ่มนึง ตอนนั้นผมกำลังซื้อเจ้า คอนเวิร์สจากทางร้าน Genesis อยู่เลย ไอ้ผมก็กลัวว่ามันจะหมด ก็รีบไปจากมาบุญครอง หอบถุงรองเท้าคอนเวิร์ส 2 กล่องไปเอ็มโพเรี่ยม ดูมันกลับมาบ้าน เปิดดูไม่มีถุงกันฝุ่นซึ่งควรน่าจะมี ก็เลยมีการโทรไปสอบถามทางคนดูแลPaul Smith ของทาง Club 21 ก็ได้รับคำตอบ ได้ครับ เดี๋ยวยังไงสะดวกแวะไปรับได้เลยครับ อืมก็ค่อยเบาใจ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ หน้าเวปหลักมันเขียนไว้ว่ามี ก็สมควรต้องมี จริงไหมครับมาดูตอนนอกกล่องกันบ้างครับ สำหรับสีออฟไวท์ แต่น่าจะเป็น ออฟพิงค์ มากกว่าฮ่าๆๆ เชือกที่ให้มาเป็นสีขาวครีม แต่ เชือกที่เป็นสแปร์พาร์ท เป็นเขียวสะท้อน โอ๊วแม่เจ้าโว้ย ใช้ของเดิมไปก่อนดีกว่าฮ่าๆๆ ไม่กล้าเปลี่ยน ชมพูเขียว กลัวจริงๆครับ ยอมแพ้ อายุไม่ให้แล้วฮ่าๆๆสำหรับหุ่นก็เหมือนเดิมครับ แต่รู้สึกว่า ตัวหนังจะหนาขึ้นกว่ารุนก่อนที่เป็นหนังสีน้ำตาล ตัวนั้นรู้สึกหนังจะบางกว่าครับ ตัวนี้หนากว่านิดหน่อย และ นิ่มด้วย สำหรับเพื่อนๆที่ชอบ เป็นไปได้ ถ้ามีโอกาสเลือกก็ดีครับ เพราะสีฟอกนี่ การฟอกแต่ละคู่ จะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบฟอกมากๆหน่อย บางคนชอบฟอกน้อยหน่อย ถ้าจะฝากใครซื้อก็กำชับไปด้วยแล้วกันนะครับสำหรับพื้นรองเท้ารุ่นนี้สีจะแปลกกว่าเพื่อนหน่อยก็ตรงสีพื้นจะเป็นสีขาว เพื่อนๆหลายๆท่านอาจจะกลัวเลอะแต่หลังจากที่ผมใส่ไปได้ประมาณ 3 ครั้งแล้ว รู้สึกว่าเลอะจริง แต่เมื่อล้างน้ำออกก็ กลับมาใหม่ แต่อาจจะไม่ถึงกับใหม่เหมือนเดิมแต่ ไม่เลอะเทอะไปเลยจนน่าเกลียดครับ ทั้งที่ใส่เข้าไซท์งาน และ ลุยพอสมควรสำหรับ 3 ครั้งนี้ครับตัวหนังเมือดูไกล้ๆแล้วก็จะเห็นว่ามันดีเหมือนกันครับ แต่... เมื่อโดนน้ำก็จะเป็นจุดสีเข้มๆ แต่ไม่ต้องตกใจหรอกครับ ทิ้งไว้ซักพักก็จะแห้งไปตามธรรมชาติ สำหรับห่วงร้อยเชือกรองเท้า ก็จะมีสนิมขึ้นเล็กน้อยเพราะอย่างที่บอกไว้ในบล็อกคู่ก่อนหน้านี้ ถ้าเป็นหนังฟอก ตัวห่วงอาจจะถูกฟอกด้วยพร้อมกับหนัง เลยทำให้รูร้อยเชือกรองเท้านั้น เหมือนผ่านการใช้งานให้ดูเก่านิดนึง แต่อาจจะมีผลตามมาบ้างตรงเชือกรองเท้าเมื่อถอดออกมาจะมีสนิมติด ตรงนี้ก็ต้องทำใจหละครับ ทำไงได้สไตล์เขาทำมาแบบนี้ ถ้าชอบให้ใหม่ๆหน่อยผมแนะนำเป็นพวก Canvas ครับ เพราะรูร้อยเชือกจะใหม่ครับ ไม่ผ่านกรรมวิธีนี้ครับภายในก็ระบุไว้ว่าเป็นรุ่น ดิพ ดราย เช่นเคย กับ ส้นรองเท้ามาพร้อมกับกระต่ายน้อยสำหรับ PS รุ่นใหม่ๆแต่ความหมายยังไงผมจะลองไปค้นข้อมูลดูครับ ว่าเพราะเหตุใด ลุง Paul แกถึงชอบกระต่ายนัก เพราะก่อนหน้านี้ ก็มี Pinafore รุ่นผ้าใบเป็นสกรีนกระต่ายมาเลยครับ แต่สีเขียว ก็สวยดี แต่ผมซื้อไม่ทัน ได้มาแต่ตัวกำมะหยี่ในส่วนส้นรองเท้ามีวัสดุหุ้มมา กันหนังมันยืดเวลาเราใส่กับ ชู ฮอร์น พื้นรองเท้าก็จะเป็นสกรีนลายดอกไม้สีชมพู เข้ากับตัวรองเท้าดีครับ เก็บมันทุกรายละเอียดดี ส่วนพื้นรองเท้าด้านในก็เช่นเคยนะครับPaul ขวา Smith ซ้าย ส่วนด้านในก็เป็นหนังฟอกสีชมพูเช่นกันครับ แต่ผมไม่ชอบตรงส้นอย่างเดียวเพราะว่าด้านในของส้นจะเป็นหนึงชิ้นเดียว ที่ไม่ได้บุภายใน ทำให้เวลาขับรถแล้ว ขาขวามันต้องทำงานหนักบริเวณส้นจะยับได้ครับ ก็มีแค่นี้แหละครับสำหรับเจ้ารุ่นนี้วันนี้ก็หมดหน้าที่แล้ว หลังจะมาแปะภาพไว้ให้เพื่อนๆชมไปก่อนหน้า วันนี้หมดหน้าที่ขอลาไปก่อน แต่ไม่ได้ลาลับนะครับ แล้วจะกลับมา แต่จะมาพร้อมอะไร ไว้คราวหน้าครับ สวัสดีครับ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [
สวยมากเลยค่ะ เเต่ทำไมต้องมีลายกระต่ายนะ
โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:56:26 น.
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายครับ