ชีวิตอิสระสไตล์ doctor-u
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

ตอน วินาที....เฉียดตาย(1)

เขียนแนว drama มาแล้ว กลัวไม่ครบรสชาด วันนี้จะเขียนแนวบู๊ซะหน่อย อย่าเพิ่งจินตนาการว่าผมเป็น จา พนม มิใช่อย่างแรง มันไม่ได้บู๊ขนาดนั้น แต่เป็นอะไร ที่คิดถึงทีไหร่ เสียวสันหลังว๊าบทุกที

หลังจากอกหักรักคุดจากน้องแอ๊บได้สักพัก ฟังเพลงอัสนี-วสันต์อยู่ไม่กี่วัน ก็ทำใจได้ตามสไตล์เด็กเตพ มาคิดทบทวนว่าจะทำอะไรต่อดี

จังหวะนั้นพี่ชรัส แกจะไปเรียนต่อก็เลยหาคนมาเซ้งคลินิกแก จะมีใครอ่ะ ก็เหลือผมอยู่คนเดียว แกก็พยายามโน้มน้าวผม แต่คนอย่างผมซะอย่าง นอกจากจน แล้วยังหยิ่งอีกเชอะ ไม่มีทางซะหรอก แต่เอ๊ะ เงินตกเบิกมา 8 เดือน แล้วยังไม่ได้ซะที ไม่รู้ว่าตกท้องร่องไปก่อนรึเปล่า ตอนนี้ผมจะกินแกลบแล้วคร๊าบ เรื่องขอเงินที่บ้านไม่มีทางเพราะทำงานแล้วนี่

เอ้า เซ็ง เอ๊ย เซ้งก็เซ้ง แต่จะเอาเงินที่ไหนดีหละ คิดออกแล้ว ยืมเงินพี่เราดีก่า 50000 บาทถ้วน ออกเองอีก 10000 บาท เหลือ 5000 บาท อีกแล้วอ่ะ พี่เค้าคิดถูกๆอ่ะแค่ 60000 บาทถ้วน แต่พอดูคลินิก โห เหลือไม่กี่อย่างเองอ่ะ ยาก็นิดเดียว ตกลงถูกหรือแพงหว่า ต้องซื้อยาเพิ่มอีก ปรับปรุงคลินิกอีก หาเงินที่ไหนดี พี่ชรัสใจดีอ่ะ พาไปร้านยาที่หาดใหญ่ แนะนำตัวผมกับร้ายขายยา ได้เครดิตมา 1 เดือน คลินิกยังไม่ต้องปรับปรุงหรอกน้องคนไข้ที่นี่ไม่ไฮโซ มีหมอเปิดคลินิกก็ ok แล้ว

ได้คนไข้พี่ชรัสมาบางส่วน และคนไข้ส่วนใหญ่ก็รู้จักผมเพราะใช้ทุนมาครบ 1 ปี แล้วหละ เปิดคลินิกวันแรกคนไข้เพียบ(คลินิกพี่ชลิต ปิด แกไปประชุม) โห ตรวจซะมือหงิกเลย เงินเต็มลิ้นซักเลย (ให้ยา 2-3 อย่าง คิด 70 บาท ฉีดยาด้วย 110 บาท ถือว่าไม่แพงนัก คนไข้ชอบ) คนไข้เด็กจะประมาณ 40 % จนคนไข้คิดว่าผมเป็นหมอเด็ก ก็หน้ามันยังเด็กอ่ะ ได้เงินมาไม่นับเลยคร๊าบ หอบใส่กระเป๋ากลับบ้านพักเลย เราไม่ต้องกินแกลบอีกแล้ว เย้ เย้

คลินิกผมจะห่างจากโรงพัก 2 ห้อง หน้าคลินิก เป็นคิวรถอีกต่างหาก ทำเลดีสุดยอด ทำให้ลืมน้องแอ๊บไปเลย ทำมาหากินอย่างเมามัน(เปิดแค่เช้าเย็นน้า ไม่ได้กินเวลาหลวงเน้อ) ที่จอดรถหน้าคลินิกจะไม่ค่อยมี ต้องไปจอดหน้าโรงพัก หรือในโรงพักเลย เส้นใหญ่อ่ะ ผู้กอง(หน้าตาหล่อ สูงใหญ่ ผิวคล้ำ ตามแบบฉบับคนมุสลิม) อนุญาต

วันนี้ก็เช่นกันเลิกงานตอนเย็น 4 โมงครึ่ง ขับรถไปคลินิกทันที ไม่มีที่จอดรถแฮะเดี๋ยววนตลาดซัก 1 รอบ เห็นแว้ว ตรงหน้าโรงพักเลย แต่มันใกล้ที่เลี้ยวมากเลย ทับเส้นทึบแค่เล็กน้อย ก็น่าจะ ok น้า ถ้าขับออกจากโรงพัก ไม่ต้องตีวงมาก เลี้ยวได้พอดี เอาหละได้แล้ว คนไข้รอเยอะซะด้วย เดี๋ยวต้องรีบไปตรวจอ่ะ ตรวจคนไข้ถึง 6 โมงครึ่ง ได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยดังลั่น แถวนั้นมีไม่กี่คันหรอก ที่มีสัญญาณกันขโมย คนข้างบ้านเดินมาบอก หมอรถถูกชน ใครบังอาจมาชนรถเราหน้าโรงพัก ไม่รู้จักไผเป็นไผซะแล้ว เดินไปดูอ้าวนายสิบนี่เอง ขับเก๋ง civic มาเสยท้ายรถเราเลย ดูท่าเมาๆ เลยบอกผู้กองว่าเดี๋ยวอีก ครึ่งชั่วโมง ปิดคลินิก แล้วจะมาเคลียร์

ปิดคลินิกเดินมาโรงพัก นายสิบนั่งรออยู่ ยังไม่สร่างเมา พร้อมผู้กอง ซี้ผม และจ่าอีก 1 คน เปิดฉากเจรจา ภาษาใต้ แต่ผมพูดภาษากลาง (ผมฟังภาษาใต้ออก แต่พูดไม่ได้ เคยพูดแล้ว จนท. รพ. บอกว่าเหมือนคนสุพรรณ มากกว่า เลยพูดกลางเมี๊ยนเดิม)

อั๊ม “นายสิบจะว่า อย่างไรล่ะคร๊าบ”
นายสิบ “หมอจอดทับเส้นทึบ”
อั๊ม “เฮ้ย นิดเดียวเอง น้า ขับดีๆก็ไม่ชนหรอก”
นายสิบ “หมอหาว่าผมขับไม่ดีหรอ”
เอ๊ ผมพูดหาเรื่องตรงไหนหว่า สงสัยมีเรื่องแน่เลย
ผู้กอง “นายสิบ ใจเย็นๆ เรานะผิดมากกว่า หมอเค้าจอดเลยเส้นทึบมานิดเดียว”
นายสิบ ยังไม่ยอม
นายสิบ “แต่ผมขับดีแล้วนะ”
ขับดีตรงไหนหว่า ดีวงมาชนเลยนะเนี่ย
อั๊ม “แล้วนายสิบจะเอาอย่างไรเนี่ย เดี๋ยวผมเรียกประกันมาคุยดีกว่า”
นายสิบ “ผมไม่ผิด”
อั๊ม “ก็รู้แล้วว่าไม่ผิด คุยกับประกันผมละกัน พรุ่งนี้เช้านะ รอให้นายสิบหายเมาก่อน”

ผมคุยเบี่ยงเรื่องจะให้ประกันคุยเพราะท่าทางจะคุยกันไม่รู้เรื่องซะแล้ว

ผมเตรียมจะกลับ ซักพัก นายสิบก็พูดออกมาอีกว่า ผมไม่ผิด พร้อมกับเปิดเสื้อ ชักปืนขึ้นมา หลายคนอาจคิดว่าผมจะเข้าไปแท๊ก หักข้อมือ แล้วแย่งปืนตามวิธีป้องกัน แต่ไม่ใช่หรอก ผมแทบจะกระโดดขึ้นชั้น 2 โรงพักเลย ถ้าเป็นไปได้ แต่ในขณะนั้นคงหนีไม่ทันแล้วหละ ในขณะที่ผมตลึงอยู่นั้น ผู้กองกับจ่า แกก็ไวทายาด กระโดดแย่งปืนได้ทัน นายสิบสู้แรงไม่ไหวเพราะเมาอยู่ รีบกระโกนบอกผมว่า หมอรีบไปก่อนเดียวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ผมรีบเดินแทบจะวิ่ง ถ้าไม่กลัวขายหน้าคงวิ่ง 100 เมตรอ่ะ แหะ แหะ

ขับรถกลับบ้านหายหิวข้าวเลยเรา นึกทีไรเสียวสันหล้งว๊าบทุกที แค่รถชนกันเอาถึงตายเลยเหรอเนี่ย ไม่แปลกใจที่เห็นข่าวรถชนกัน แล้วยิงกันตาย อาจใช้อารมณ์มากไป หรือเมา อันหลังนี่สำคัญ

เช้าวันรุ่งขึ้น ไปโรงพักพร้อมพนักงานประกันภัยรถยนต์ เจอนายสิบเรานั่งสงบเสงี่ยมเลยครับ ยกมือไหว้ผม และขอโทษ พร้อมจ่ายเงิน 2000 บาท ให้ประกันไป ส่วนผมก็เอารถเข้าซ่อมตามระเบียบ

ที่จริงผมก็รู้จักนายสิบคนนี้มาเป็นปีแล้วคร๊าบ แกจะไปรับใบคดีที่รพ.บ่อยๆ ตอนไม่เมานี่นิสัยตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง คนเราถ้าอยากรู้นิสัยที่แท้จริงต้องดูตอนเมา เพราะพฤติกรรมที่ถูกกดไว้จะแสดงออกมา เรื่องนี้ก็จบโดยสวัสดิภาพคร๊าบ ทำให้มีชีวิตมาจนทุกวันนี้




 

Create Date : 27 เมษายน 2552
3 comments
Last Update : 27 เมษายน 2552 14:28:52 น.
Counter : 759 Pageviews.

 

ป้าแอด คุณหมอไว้เรียบร้อย.. (ไม่ขออนุญาตหรอก.. ) หุหุ

จะตามอ่านตอนต่อนะคะ..

 

โดย: ป้าแก่.. (elastigirl ) 27 เมษายน 2552 17:27:17 น.  

 

เสียวจริงๆด้วยค่ะ ...
ทีแรกนึกว่าใครจะมาปล้นเงินคุณหมอซะอีก
มีเรื่องกับตำรวจซะเองแบบนี้ ... หนาวเลย แหะๆ

 

โดย: calamine 25 พฤษภาคม 2552 14:58:13 น.  

 

นึกแล้วยังเสียวสันหลังแทน เนี่ยละน๊า เรื่องนิดเดียวแท้ๆ สามารถทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้

 

โดย: ตามอ่าน (นางพญา...ผู้สง่างาม ) 24 กรกฎาคม 2552 0:48:38 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


big head
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]








Friends' blogs
[Add big head's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.