Bloggang.com : Elementals : Portal

Portal

Portal เป็นอีกเกมหนึ่งที่ Valve Corp. ได้จงใจปล่อยพร้อมกับ Orange Box (ชุดรวมของเกมซีรี่ส์ Half Life 2)
โดยในโลกของ Half Life นั้น ที่ผู้เล่นเคยได้ผจญภัยกับบริษัทวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ Gordon นั้นคือ BlackMesa
แต่ยังรู้ไหมว่า BlackMesa มีคู่แข่งทางการตลาดมาตลอด นั้นก็คือ Aperture Science
ยังไม่มีใครรู้ว่า Aperture Science นั้นทำอะไรบ้าง ได้มีอะไรแปลกใหม่ๆบ้าง ครั้งนี้เอง Valve Corp.
เลยพาผู้เล่นไปยัง Lab ของ Aperture Science กัน

เมื่อคุณตืนขึ้นมา พบว่าไม่มีใครอยู่เลย มีแต่ระบบอัตโนมัติ(เสียงจากคอมพิวเตอร์)มาต้อนรับคุณ
การ Teleportation สำหรับมนุษย์นั้น อาจจะเป็นความฝันในปัจจุบัน แต่ใน Portal แล้วมันเป็นความจริงซะยิ่งกว่าจริง

เริ่มแรกผู้เล่นจะได้ยินเสียงคอมพิวเตอร์บอกและแนะนำต่างๆสิ่งที่ต้องทำในแต่ละฉาก เพื่อให้ผ่านฉากนั้นออกไปได้
เกมนี้เป็นเกมที่เน้นแก้ปริศนาและปัญหาโดยเฉพาะ ดังนั้นเกมจะไม่มีการเข้าไปต่อสู้กับศัตรูอื่นๆ

เมื่อถึงฉากหนึ่งๆของเกม คุณจะได้พบกับนวัฒกรรมใหม่ของ Aperture Science ที่ได้ทดลองกับตัวคุณ!!
นั้นคือ Portal Gun หรือ ปืนเปิดประตูมิติ ซึ่งปืนนี้สามารถยิงบนพื้นเรียบๆ ให้กลายเป็นประตูมิติ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่ได้
โดยที่ประตูมิติจะมี 2 สีให้สังเกต ระหว่าง น้ำเงิน กับ ส้ม ในฉากแรกๆนั้นผู้เล่นจะเปิดประตูมิติได้แค่ 1 บาน ส่วนอีกบานนั้น
ในฉากนั้นได้กำหนดทางออกไว้เองแล้ว ในฉากหลังๆผู้เล่นเองจะสามารถเปิดประตูมิติได้ทั้ง 2 บาน
ไม่ใช่ว่าจะสามารถเปิดประตูมิติเหล่านี้ที่ไหนก็ได้ เกมจำกัดไว้ให้แค่พื้นคอนกรีตเรียบๆเท่านั้น (พื้นเหล็กมันวาวและอื่นๆไม่สามารถ)

การเปิดประตูมิติเพื่อให้ข้ามจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งมันอาจจะง่ายเกินไปไม่ท้าทายอะไรเลย
แต่เนื่องจากที่เกมมี Physic Engine อยู่แล้ว ทำให้การเปิดประตูมิติมีอะไรมากกว่าแค่เดินเข้าไป

ในบางฉากคุณจะได้เรียนรู้การใช้โมเมนตัม ให้เป็นประโยชน์เพื่อให้ผ่านฉากนั้นไป
ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ ใช้ในฉากที่ยากๆเพื่อให้ผ่านพื้นที่สูงๆไปได้

ถึงแม้ว่าเกมจะไม่มีการต่อสู้ ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีศัตรู เพราะเนื่องจากเป็นห้องทดลอง
และมีคอมพิวเตอร์ควบคุมแล้ว ในบางฉากคุณจะพบกับหุ่นยนต์ทีติดปืนกลไว้ด้วย
ถ้าหากไม่ระวังแล้วไปอยู่ด้านหน้าของพวกมันก็อาจจะทำให้โดนยิงจนตายได้
การจัดการหุ่นเหล่านี้ทำได้ไม่ยาก ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่สามารถใช้ได้
วิธีง่ายๆ เช่น เข้าไปจับคว่ำด้านหลัง หรือแม้แต่เปิดประตูมิติใต้ขาตั้งของมันก็ได้

ไม่ใช่ว่าเกมจะมีแค่ความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ในการทำฉากและสร้างปัญหาให้ผ่านไป
แต่ยังแฝงไว้ด้วยเนื้อเรื่องภูมิหลังจาก Half Life มากมายหลายที่
ซึ่งผู้เล่นจะได้รับรู้ในหลายๆฉากที่พบเจอในเกม เหมือนกับว่า Lab แห่งนี้เคยมีคนได้มาทดลองมาก่อนแล้ว!!
จนถึงตอนจบที่ยังแฝงด้วยปริศนาทิ้งไว้ให้ Valve Corp. ได้สานต่อเนื้อเรื่องนี้ต่อไป
เพราะอาจจะเป็นไปได้ในเรื่องความเกี่ยวข้องของเรื่องเหล่านี้
และตอนจบสุดท้ายของเกมนั้นยังทิ้งท้ายไปด้วยเพลงที่ทำให้ได้รับความรู้สึกที่เข้ากันดีกับเกมอย่างยิ่ง

Graphic เกมใช้ Source Engine ล่าสุด แต่ฉากกลับไม่อลังการ เพราะผู้สร้างจงใจเน้นความเรียบของเกม
เพื่อให้มองเห็นการแก้ปัญหาปริศนาเป็นสำคัญมากกว่า

Sound เนื่องจากเกมเป็นเกมที่เน้นการแก้ปริศนาเป็นหลักจึง ไม่มีลูกเล่นทางเสียงมากมาย
แต่เกมทำให้ผู้เล่นได้อมยิ้มและมีความสุขจากเสียงของคอมพิวเตอร์ในบางฉาก รวมทั้งเพลงของฉากจบด้วย

สรุปโดยรวม มาลองดูกันบ้างดีกว่าว่า Aperture Science คู่แข่งสำคัญของ Black Mesa ได้ทำอะไรอยู่
ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นหนูทดลอง (คนทดลองนั้นแหละ) เกมแฝงไปด้วยการแก้ไขปริศนาเป็นหลัก
เกมนำเอากฏโมเมนตัมมาใช้ด้วย ประสาทการเล่นอาจจะต้องไวขึ้นกับการสร้างประตูมิติ
โดยที่แฝงไปด้วยเรื่องเบื้องหลังมากมาย และอาจจะเกี่ยวข้องกับภาคต่อของตระกูล Half Life

นู๋ให้คะแนนดังนี้
Graphic 3 / 5
Gameplay 5 / 5
Sound 4 / 5
Control 5 / 5
เฉลี่ย 4 / 5