Company of Heroes !!!


Company of Heroes ชื่อดูแล้วอาจจะเป็นแนว action fantasy หรือยอดมนุษย์ไม่ใช่เลย แต่เกมเป็นเรื่องของเหล่าวีรบุรุษของสงครามโลกนั้นเอง ซึ่งหลายคนที่เล่นกันแล้วอย่าว่ากัน เพราะนู๋คงพึ่งว่างมาเขียน Review ให้ชมกันนี่แหละสงครามโลกไม่เคยจบสิ้น เพราะนำมาทำเป็นเกมได้อีกหลายๆเกมจนถึงปัจจุบัน ปกติแล้วจะเป็นเกม FPS ที่เดินหน้ายิงจากเกมดังๆ เช่น Call of Duty, Medal of Honor และ อีกมากมาย และแล้วบริษัท Relic Entertainment ผู้ซึ่งได้ผลิตเกมแนว RTS มาก่อนซะส่วนใหญ่ เช่น Homeworld และแม้กระทู้ Dawn of war ที่คนไทยได้ฮิตกัน ก็เลยหันมาทำเกมแนวสงครามโลกนี้ให้เป็นในรูปแบบ RTS ซะเลย โดยที่นำเอา Essense Engine ซึ่งเป็น Engine เดิมของ Dawn of war นั้นมาปรุงแต่งกันยกใหญ่ เรียกว่าเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากเลย รวมทั้งยังนำเอาระบบ Graphic ที่ทันสมัยล่าสุด ผสมกับ ระบบ Physic Engine ของ Havok อีก ผลที่ได้นั้น ค่อนข้างน่าทึ่งมาก!!! เมื่อเข้าเกมแล้วเล่น Campaign จากที่เคย Preview กันแล้ว และฉากแรกของเกมเป็นฉากของวัน D-Day ซึ่งจะต้องยกพลขึ้นบกที่ชายหาด Omaha และฉากที่ 2 นั้นเกิดหลังจากวัน D-Day แล้ว และเกมจะให้เราตั้งฐานรับพวกเยอร์มัน เกมแบ่งออกเป็นแค่ 2 ฝ่ายเท่านั้น ซึ่งระหว่าง Allied (กลุ่มของพันธมิตร) และ Axis (กลุ่มของอักษะ ซึ่งหลักๆเป็น German) Campaign ของเกมจะมีทั้งหมด 15 ฉาก ซึ่งเป็นของฝ่าย Allied เท่านั้น และฉาก Tutorial (ฉากสอน) โดยที่จะต้องเล่นจบทีละฉากก่อนแล้วจึงจะสามารถเล่นต่อไปยังอีกฉากได้ เมื่อเริ่มต้นฉาก D-Day แล้ว เกมตัดเข้าฉากหนัง (Cinematic) ซึ่งคุณภาพค่อนข้างสูงในระดับ DVD บีบอัดด้วย DIVX (หลายคนที่ดูหนังบ่อยๆจะรู้จักกันดี) เกมจะตัดเข้าฉากหนัง จากนั้นก็มี In game Movie ตามมาซึ่งทำให้ อารมณ์การเล่นนั้น เหมือนกับว่าดูหนังอยู่และผู้เล่นก็ได้กลายเป็นผู้บันชาการทหารสูงสุด Campaign นั้นไม่ได้แค่ สั่งให้สร้างฐานแล้วยึด เสมอกันไป เพราะบางฉากนั้นจะมีทั้งการลุยโดนการไม่สร้างฐาน โดยที่จะต้อง ป้องกันเมือง และทำภาระกิจ สลับเปลี่ยนกันไป ฉากหนึ่งนั้นอาจจะมีได้หลายภาระกิจพร้อมๆกัน รวมทั้งภาระกิจเสริม Secondary Mission ที่มีเกือบทุกฉาก ถ้าผู้เล่นสามารถทำได้ ก็จะได้เรียนกล้าหาญเก็บไว้ที่หน้าของ Campaign เก็บไว้สะสม นอกจาก Campaign ที่เสนอแนวทางในเหมือนกับการดูภาพยนตร์แล้ว สิ่งที่ Company of Heroes แสดงให้เห็นว่าเกมนี้แตกต่างกับ RTS อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดก็คือระบบ Unit ส่วนที่ทำให้เราเห็นได้ชัดมากที่สุดก็คือ ทหารราบ และ Unit ที่เป็นคน นอกจาก Unit ประเภททหารราบแล้ว ก็ยังมี ประเภท Mobile อย่างปืนใหญ่ต่อสู้รถถังเคลือนที่ (AntiTank Gun) และแน่นอนว่าต้องมีรถถังด้วย นอกจากนี้ก็เครื่องบินโจมตี Unit แต่ละประเภทค่อนข้างที่จะมีจุดเด่นและจุดแข็งของตัวเอง เช่น ทหารราบที่เป็นคนนี้ค่อนข้างจะมีชีวิตเหมือนอยู่ในสนามรบกันจริงๆ เช่น การหลบตามที่กำบังต่างๆ และใช้ฉากให้เป็นประโยชน์ในขณะต่อสู้ ในที่ๆ ประจำตำแหน่งอยู่ โดยที่ไม่ต้องสั่งแยกให้วุ่นวาย Infantry ทหารราบนั้นจะแบ่งอาวุธประจำกายออกเป็นหลายประเภท ซึ่งขั้นพื้นฐานของเกม RTS สำหรับสร้างฐาน ซ่อมแซม เอนกประสงค์นั้นก็คือ Engineer (ส่วนฝ่าย Axis ใช้คำว่า Pioneer ตามภาษา German) Machine Gun (MG) พลปืนกล, Mortar Team ปินระเบิดระยะไกล (ปืนครก), Sniper พลซุ่มยิง แต่ละหน่วยทหารนั้นก็จะมีความสามารถ และคุณสมบัติพิเศษในการต่อสู้แตกต่างกันไปตามสถานการ อย่างเช่น MG นั้นก็จะเหมาะสำหรับการต่อสู้ทหาร หรือประจำการเพื่อป้องกันทหารและยังสามารถสู้กับรถเกราะขนาดเล็กได้ด้วย Mortar Team ถึงแม้ว่าจะไม่แม่นนัก แต่ถ้าโดนเต็มๆก็ถือว่าเสียหายไม่เบา และเหมาะสมกับการแอบยิงในระยะไกลด้วย Sniper เหมาะสมที่จะเป็นสายสืบและนักฆ่าทหารระยะไกลเช่นกัน เพราะมีคุณสมบัติ Camouflage (พรางตัว) Tank (รถถัง) ของเกม สำหรับฝ่านพันธมิตร ก็จะมีตั้งแต่ M4 Sherman, M10 Tank destroyer, M26 Pershing และรถขนาดย่อมเช่น Jeep, Halftruck (เฉพาะ Halftruck สามารถใช้ขนทหารได้ด้วย) ส่วนฝ่านอักษะนั้นก็จะมีตั้งแต่ StuH 42, StuG IV, Panzer IV, Panther, Tiger, Tiger Ace และรถขนาดย่อมก็จะเป็น Motorbike และ Halftruck เช่นกัน โดยที่แต่ละคันนั้นจะมีคุณสมบัติพิเศษของตัวเองโดยการอัพเกรดเพิ่มเติม เช่น เสริมปืนกลไว้ต่อสู้กับทหารราบ และมีความสามารถที่โดดเด่น ในการจำกัดศัตรูในแต่ละชนิดไปที่แพ้ทางกัน (ตามที่เกมกำหนดไว้) แต่ละส่วนของรถถังนั้น ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญหมด ถ้าถูกศัตรูโจมตีถูกบางที จะทำให้เกิดผลเสียหายและพังเร็วขึ้น เช่น จุดเบาะบางที่สุดมักจะอยู่ด้านหลังทำให้ได้รับความเสียหายได้ง่ายขึ้น, ถ้าโจมตีแล้วถูกเครื่องยนตร์ (Engine Damage) แล้วจะส่งผลให้ขับเคลื่อนที่ได้ช้าลงมาก หรือ ถ้าโจมตีโดนตัวปืน (Main Gun Damage) ก็อาจจะทำให้ยิงปืนไม่ได้ตามมา รถถังของแต่ละฝ่ายนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควร และได้เปรียบกันต่างกันไป ซึ่งสำหรับ allied นั้นค่อนข้างจะเน้นกลยุทธและ ทักษะพิเศษ เช่น การปล่อยควันของ Sherman ที่ทำให้ได้เปรียบในแบบที่ศัตรุไม่รู้ตัวเลย และ Axis ส่วนมาก จะมีรถถังอืด เพื่อบุกแบบตรงๆ มักจะพบเห็นว่าผู้ที่เล่น Axis มักจะพา Panther, Tiger, Tiger Ace ออกมารบด้วยเสมอ
ปืนต่อสู้รถถังเคลื่อนที่ Anti-Tank Gun (AT Gun) ก็ถือว่าขาดไม่ได้เช่นกันเมือมีรถถัง โดยที่สามารถจะลากไปไหนก็ได้ และมีทหารประจำการถึง 3 คน (อย่างต่ำ 2 จึงจะสามารถใช้งานได้) เนื่องจากเกมแยกทหารแต่ละคนนั้นมีหน้าที่ออกจากกัน ดังนั้นถ้าทหารคนใดถูกฆ่า เราจะได้เห็นทหารที่ยืนว่างอยู่สลับไปทำงานแทน นอกจาก AT Gun แล้ว ถึงแม้ทหารส่วนใหญ่ของเกมนั้นไม่ได้ติดอาวุธประเภท Anti Tank เช่น Bazooka ตลอดเวลา และเมือประสบกับรถถังก็คงจะต่อสู้ได้ค่อนข้างลำบากเช่นกัน แต่เกมก็ยังมีหน่วยทหารบางประเภทที่มีอาวุธต่อสู้รถถังมาด้วย เช่น Ranger Squad และ Granadier นอกจากนี้ยังมี Artillery (ปืนใหญ่) ที่มีความสามารถมากกว่า AT Gun แต่อาจจะเคลื่อนย้ายไม่ได้ เช่น Horwizer 105mm (Allied), Flak 88mm และ Nebelwerfer 150mm (Axis) ซึ่งสามารถจะใช้ความสามารถในการ Bombard หรือลงระเบิดแรงๆสักจุด นอกจากนี้ยังมี unit พิเศษเช่น เครื่องบิน (สามารถยิงตกได้ ถ้าเจอรถถังบางประเภท หรือ ปืน Anti-Aircraft) และ หน่วยพยาบาล (เก็บทหารที่บาดเจ็บเพื่อไปสร้างเป็น unit ใหม่ได้) Resource ในเกมนั้นจะมี 3 ชนิด เช่น Manpower(กำลังพล), Munition(อาวุธ), Fuel (เชื้อเพลิง) ซึ่งแต่ละอย่างนั้นจะใช้แตกต่างกันไป โดยที่ Manpower จะสำคัญที่สุดเพราะต้องใช้สร้างเกือบทุกอย่าง (จะขึ้นเร็วที่สุด) Munition ใช้เพื่อการอัพเกรด, พัฒนาอาวุธเพิ่มเติมให้กับรถถัง และ เรียกใช้คุณสมบัติพิเศษ และ Fuel เชื้อเพลิงที่ใช้เพื่อสร้างรถถัง และเช่นเดียวกันกับ Munition เพื่อที่จะให้ Resource ขึ้นเร็ว ก็จึงจำเป็นจะต้องยึดพื้นที่ ซึ่งจะมีรูปขึ้นแสดงอยู่ตามละแต่พื้นที่ ในเมือเกมมี แค่ 2 ฝ่าย ดังนั้นสิ่งที่ทำให้เกมมีความแตกต่าง และกลยุทธในการเล่นมากขึ้นก็คือ ระบบ Skill Tree ที่แตกต่างกันไปถึงฝ่ายละ 3 แบบ Allied: Infantry Company / Air borne Company / Armor Coimpany และ Axis: Defensive Doctrine / Blitzkreig Doctrine / Torror Doctrine ซึ่งจะสามารถเลือกได้แค่ตอนต้นเกมเท่านั้น และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ละกลยุทธนั้นจะมี ทักษะสนับสนุนแตกต่างกันไป โดยที่จะต้องเก็บค่าประสบการณ์ในแบบเกม RPG ผู้เล่นจะได้ค่าประสบการณ์จากการสร้างฐานต่างๆ พัฒนาฐาน หรือ ฆ่าศัตรู แล้วจะได้ค่า Command Point เพื่อที่จะนำไปเลือก ทักษะ ไว้ได้ใช้กันตาม Tree ที่กำหนด Intantry Company นั้นเน้นกลยุทธเกี่ยวกับทหารราบ เรียกกลุ่มทหารรถถังมาช่วย และการสนับสนุนของเหล่าทหารราบ เช่น การยิงปืนใหญ่ทำลายพื้นที่ Air borne Company เป็นเกี่ยวกับหน่วยสนับสนุนทางอากาศ เช่น การส่งพลร่มลงพื้นที่ การส่งอาวุธ และเรียกเครื่องบินโจมตี หรือทิ้งระเบิด Armor Company หน่วยรถหุ่มเกราะ นั้นจะการสนับสนุนให้เรียกรถหุ้มเกราะพิเศษในเกม เช่น M26 Purshing หรือ Shaman Calliope Defensive Doctrine นั้นเหมาะสมกับการป้องกัน และเพิ่มค่าป้องกันให้ unit ต่างๆ รวมทั้งป้องกันฐานด้วยปืนใหญ่ Blitzkreig Doctrine เน้นการรบอย่างรวดเร็ว สามารถเพิ่ม Resource กำลังคนได้ เพราะมีการเรียกหน่วยสนับสนุนจากทหารราบ และรถถังต่างๆ และ Torror Doctrine ที่ถือว่าค่อนข้างจะโหดร้ายเอามากๆ สามารถเรียกรถถังที่โหดสุดในเกมอย่าง Tiger Ace และ เรียกจรวด V1 เพื่อทำลายเป้าหมาย แต่ก็จะต้องเสีย Resource ค่อนข้างมาก และพัฒนาได้ช้า AI หรือ คู่ต่อสู้คอมพิวเตอร์นั้น ค่อนข้างจะฉลาด และมีการจัดสรรทรัพยากรได้ค่อยข้างดี และรู้จักหลบหลีกเมือ unit อยู่ในสภาวะอันตราย บ่อยครั้งที่ unit ใกล้ตายแล้วมักจะหนี เพื่อไปฟื้นฟูที่ฐาน ยิ่งสำหรับระดับ Expert แล้ว AI มักจะรักษา Resource เพื่อสร้าง Unit ที่เป็นประโยชน์ และป้องกันไม่ให้ unit ตายกันง่ายๆ แต่อย่างไรก็ตาม AI อาจจะค่อนข้างโหดเอาเรื่องสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่อาจจะยังเล่นไม่ชำนาญนัก การเล่นนั้น บน Campaign ถือว่าสนุกอย่างมาก และทำอิงประวัติศาสตร์สงครามโลก และสำหรับใน Skirmish Mode และ Multi player Mode จะมีรูปแบบการเล่น 2 แบบเท่านั้นระหว่าง Annihilate และ Victory Point Control ซึ่ง 2 แบบนี้แตกต่างกันค่อนข้างมาก สำหรับ Annihilate ก็คือ ทำลายฝ่ายตรงข้างทั้งหมด ไม่มีเงือนไขใดนอกจากนี้เลย แต่สำหรับ Victory Point Control นั้น จะต้องพึงการยึด Victory Point ซึ่งจะมีไม่กี่จุดในหนึ่งแผนที่ โดยที่ผู้เล่นจะต้องยึดไว้ให้ได้มากกว่าศัตรู เกมจึงนับถอยหลัง เพื่อจะเป็นฝ่ายที่ชนะ สำหรับ Skirmish Mode นี้มี Map มาถึง 15 แผนที่ให้เล่นกัน สำหรับ Multi player นั้นเลือกเล่นได้ระหว่าง LAN หรือ Internet Online (ที่มีการจัด Rank ด้วย) Graphic ทางด้านภาพนั้น ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียวจากเกมดั้งเดิม โดยที่ Engine ได้พัฒนาทั้งการแสดงภาพที่ใช้การแสดงผลของการ์ดใหม่ๆได้ครบ ทั้งใช้ Shader ในการแสดงพื้นผิว Bump Map น้ำ และหญ้า อย่างชัดเจน และนอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เกมมีความรู้สึกเหมือนจริงนั้นก็คือ Havok Physic Engine ที่ทำให้อาคารสถานที่ต่างๆ สามารถทำลายได้สมจริง ไม่ว่าปืนจะยิงไปโดนส่วนไหน ส่วนนั้นก็สามารถทำลายได้ คุณสามารถ Zoom ไปใกล้ Unit ได้ทุกตัว เพื้อดูรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ การทำงานของทหาร และป้อมปืนที่เหมือนมีชีวิตอยู่ตรงๆบนโลก ถึงแม้จะเป็นแค่เล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่า มันไม่ใช่แค่โมเดลมาวางๆ แล้วให้เราจับควบคุม Sound สำหรับฉาก RTS นั้นเป็นฉากกว้างๆ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ได้สนใจ แต่ ทีมงานผู้พัฒนาเขาสนใจกันจริงๆ ตั้งแต่เสียงบรรยายในขณะที่เล่น Campaign เหมือนว่ากำลังดูหนังสงคราม ได้รับเสียงจาก Unit ต่างๆ ผสมกับ สารคดีสงคราม ของเสียงคนบรรยายของเกม ว่ากำลังเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นอยู่ เสียงปืนครกที่ยิงขึ้นท้องฟ้าแต่ก็ดังไปทั่วสนามรบ และเสียเครื่องบินที่ได้ยินมาแต่ไกล และเช่นกันเมือ Zoom เข้าใกล้ๆ เราจะยังได้ยิงเสียงเล็กๆน้อยๆของ unit อีกด้วย สรุป สิ่งที่ชอบสำหรับเกมนี้ ที่อยากให้คงไว้ในตัวเต็ม - รูปแบบการเล่นที่มันส์ เร้าใจ ไม่ช้าเกินไปนัก เหมาะสมทั้งคนเล่น RTS ทั้ง Rush และ Build Defense
- เกมเหมือนรวมเกมแนว Sudden Strike + Blitzkreig + Dawn of War
- มีระบบประสบการณ์ และคุณสมบัติพิเศษรวม (คล้ายๆ BMFE)
- Tactical Map ที่ใช้ประโยชน์ได้มาก
- ระบบการเล่นกับ unit ที่ค่อนข้างละเอียด วางกลยุทธทิศทางยิงได้
- ภาพยนตร์มีทั้ง In game และ Video ผสมกัน
- ภาพดูดี และใช้ Volumetric Fog ที่ดูเหมือนจริง
- เสียงที่มี มิติ
- ระบบ Physic ที่ทำให้การทำลายล้างเหมือนจริง
- มีการเล่นหลายหลากกลยุทธ และ หลายหลาก Skill Tree
สิ่งที่หวังว่าเกมจะปรับปรุง และเพิ่มเติม ซึ่งยอมรับว่า Relic Entertainment ทำสำเร็จแล้ว - เกมใช้ระบบเครื่องค่อนข้างสูงพอสมควร (ถ้าเปิดการแสดงผลสูงๆ)
- ระบบ Skirmish ยังไม่หลายหลาก
โดยที่เกมไม่สามารถเลือกฝ่ายให้สู้กันเองได้ และแบ่งแค่ 2 ฝ่ายเท่านั้น - เกมมี Campaign เฉพาะฝ่าย Allied
(ซึ่งอาจจะต้องรอภาคเสริม หรือ ภาคต่อกันต่อไป) - เกมมีแค่ 2 ฝ่าย (คงต้องรอภาพเสริมเช่นกัน)
- ขาด Option บางอย่าง สำหรับเกม RTS เช่น Time Scale (ลดความเร็วเกม)
- ขาด Option เล็กๆน้อยๆ สำหรับ unit ซึ่งบางอย่างที่เป็นประโยชน์ เช่น
Auto Repair สำหรับ Engineer ที่ยังยืนบื่อเวลาโดยทำลายฐาน Auto Seize/Explore สำหรับให้ Unit เข้ายึดฐานใกล้ๆ อัตโนมัติ Unit Stance เพื่อกำหนดคุณสมบัติของ Unit ว่าจะให้ ยืนเฉยๆ/โจมตีตลอด/โจมตีในระยะ Portal Unit เพื่อให้ unit เดินป้องกันแนวเส้นทางที่กำหนด - Unit ยังมีปัญหา เช่น Sniper พรางตัวอยู่แต่ออกตัวไปยิงรถถัง
AT Gun ติด ไม่สามารถเคลื่อนที่ในบางครั้ง บาง Unit ก็สามารถทำลาย บาง Unit ได้ในทีเดียว - Map Editor และ Map เพิ่มเติม ต้องรอหลังจากเกมออกนานพอควร
โดยรวมแล้วแฟนๆเกม RTS ก็ไม่น่าจะผิดหวังเลย เพราะความสมจริงที่เกมให้ กลยุทธที่ใช้ได้หลากหลายวิธี และรูปแบบการเล่นที่หลายหลาก ถึงแม้ว่าเกมจะขาด Option เล็กๆน้อยๆที่ทำให้เกมเติมเต็ม แต่ความสนุกก็กลบความหงุดหงิดเหล่านั้นจนหมด และถ้ายิ่งเล่นบน Multiplayer Mode กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ แล้ว จะทำให้ได้การรบที่หลายหลากมากขึ้น นู๋ขอให้ความประทับใจสำหรับเหล่า Heroes ได้ไปเต็มที่เลย Highest (5 / 5)
ระบบขั้นต่ำสุดที่ต้องการ - Windows XP
- Processor: 2.0 GHz Intel Pentium 4 (or equivalent) or AMD Athlon XP (or equivalent)
- RAM: 512 MB
- Video Card: 64 MB video card with Pixel Shader 1.1
ระบบที่คาดว่าน่าจะเล่นได้ปกติ: Processor: 3.0 GHz Pentium 4 / AMDRAM: 1 GB RAM (1.5 - 2 GB ขึ้นไปจะดีกว่า) Video Card: Nvidia GeForce 6800 256 MB / Radeon x700 (G 7600 / R x1600 ขึ้นไปจะดีกว่า)






















ดูรูปอีก คลิกที่นี่ได้เลย ...



























Create Date : 05 ตุลาคม 2549 |
|
46 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2549 11:14:54 น. |
Counter : 4923 Pageviews. |
|
 |
|
ขอบคุณคับ
ทำรีวิวได้ละเอียดดีจิงๆ
เล่น blitkrieg 2 อยู่คับ ไม่รู้มีใครเล่นบ้างคับ
ยังไปไม่ถึงไหนเลย